#ปูน้อยของทุกคน EP.2 Young Master (2) จบตอน
หนูเหลือบไปมองผู้ชายข้างๆ สมิงที่จ้องหน้าหนูแน่วแน่ว่าจะจูบด้วยอย่างไม่วางตา สายตาหนูโฟกัสไปที่คนที่ชื่อว่าบุหรี่ เขาสบตาหนู ก่อนที่จะมองไม่ยอมละสายตาด้วยแววตาเหมือนกำลังหลงใหลในอะไรบางอย่าง
หนูจ้องตาเขากลับไป เขาอาจจะช่วยหนูได้ แม้ว่าเขาจะดูเข้าถึงยากกว่าพี่หยาดและสมิงก็ตาม แต่ดูแล้วเขาน่าจะเป็นผู้เป็นคนที่สุด
“ช่วย-น้อง-ด้วย-ค่ะ”
หนูพูดไม่มีเสียงทีละคำอย่างชัดถ้อยชัดคำ บุหรี่เบิกตากว้าง ก่อนที่เขาจะแค่นยิ้ม
“ไอ้สมิง” เขาเรียกชื่อเพื่อนของเขาที่กำลังจ้องหน้าหนูอย่างจริงจัง สมิงชักสีหน้าอย่างหงุดหงิด ตวัดหางตาไปมองอย่างไม่สบอารมณ์
“ไร”
“ผู้หญิงเขาไม่ชอบให้จู่โจมเร็วหรอก” บุหรี่พูดออกมาเพียงแค่คำสั้นๆ แล้วสมิงก็เลิกคิ้วอย่างฉงน “ไว้จะสอนให้”
“ว่าไงนะ” ร่างสูงโปรงของสมิงหรี่ตาลง แต่บุหรี่ยังคงคีบบุหรี่ที่เหลือแค่ก้นสูบอย่างไม่ยี่หระ
“อย่าลืมว่ามึงควรสืบเรื่องเธอก่อน... ที่จะจู่โจม” บุหรี่พูดออกมาแค่นั้น หนูเองก็นั่งกำกระโปรงจนยับยู่ยี่ไปหมดแล้วเพราะไม่รู้ว่าการที่บุหรี่เหมือนจะช่วยนี่คือช่วยแบบไหน พอเงยหน้าไปสบตาพี่หยาด ก็เห็นว่าเขาเหลือบมามองแล้วแค่นหัวเราะเหมือนสองคนนี้กำลังพูดเรื่องที่บ้ามากๆ อยู่ “วันนี้กูจะไปส่งเธอที่มหาลัย... แล้วค่อยว่ากันใหม่”
“กูไปส่งเองไม่ดีกว่าเหรอไง” แต่พอบุหรี่พูดออกมาแบบนั้น เหมือนสมิงที่ดูจะบ้าคลั่งในตัวหนูจะสงบลงอย่างน่าประหลาด เขาเอนตัวไปพาดแขนไว้ที่ไหล่กำยำที่เต็มไปด้วยรอยสักของบุหรี่ แล้วใช้นิ้วดีดก้นบุหรี่ที่กำลังจะไหม้นิ้วของบุหรี่ที่คีบอยู่ออกไปไกลๆ “ยังไงยัยนี่ก็ต้องเป็นของกูอยู่แล้ว”
“วันนี้ขอไปส่ง” ร่างสูงที่มีสีหน้าตายสนิทเป็นอัตลักษณ์พูดเรียบๆ “โอเคใช่มั้ย”
“อืม” สมิงยอมอย่างง่ายๆ พร้อมกับตอบส่งๆ เขาแหงนหลังพิงกับพนักโซฟาอย่างเบื่อหน่าย “มึงนี่ชักจะเหมือนกูเกินไปแล้ว แม้แต่สเป็คผู้หญิง”
“เพราะว่า” บุหรี่กระตุกยิ้ม ก่อนที่จะผุดลุกขึ้นยืน
“...”
“ชีวิตมึงตกอยู่ในกำมือกูน่ะสิ”
หลังจากพูดอะไรไม่รู้เรื่องกันจบแล้ว น่าจะประมาณชิงดีชิงเด่นกันมากกว่าน่ะค่ะ บุหรี่ก็จูงแขนหนูเดินลงไปที่ลานจอดรถของหอพักข้างล่าง
หนูเผลอกวาดสายตาไปรอบๆ ก็ว่าในห้องของเขาดูสวยแถมดูหรูหรามากๆ แล้ว ลงไปข้างล่างยังมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างดีเยี่ยมอีก แถมยามที่นี่ก็หน้าตาดี พนักงานประชาสัมพันธ์ข้างล่างที่ทักเขาแถมยังเรียกว่า ‘คุณบุหรี่’ ก็หน้าตาดี แถมประตูยังเป็นบานใสใหญ่ๆ แถมเปิดอัตโนมัติ แถมลานจอดรถยังกว้างสุดๆ
นะ นี่เป็นอิทธิพลของคนรวยสินะคะ... ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนเลย
ร่างสูงใหญ่ของบุหรี่จูงมือหนูมาจนถึงรถบิ๊กไบค์คันหนึ่ง หนูเหลียวมอง เป็นรถที่ท่าจะขึ้นนั่งยากสุดๆ เลย อาจจะเป็นเพราะหนูตัวเล็กมากด้วย
“อะ เอ่อ” หนูพยายามชวนคุย แต่เขาก็มัวแต่กวาดขาขึ้นคร่อมรถไม่ยอมมองหน้าหนูเลย “เอ่อ... คือ”
บรืน!
“ขึ้นสิ” เขาพูดออกมาสั้นๆ ตอนที่บิดรถเสียงดังบรืนจนหนูสะดุ้ง ก่อนที่จะอึกๆ อักๆ ตอนที่จะยกเท้าเล็กๆ เหยียบที่วางเท้าขึ้นไป แต่ขาหนูสั้นก็เลยกวาดขาขึ้นไม่ได้จนบุหรี่ต้องถอนหายใจ
“ขะ ขอโทษนะคะ พอดีว่าน้องตัวเตี้ยก็เลย... อะ!” แต่ยังไม่ทันได้พูดจนจบ บุหรี่ที่ยังคงนั่งอยู่บนรถบิ๊กไบค์คันโตก็ใช้มือทั้งสองข้างอุ้มหนูขึ้นไปนั่งบนรถได้ ก่อนที่หนูจะหน้าร้อนเห่อ เขาก็บิดคันเร่ง แล้วบึ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
“ชื่ออะไร?”
นานอยู่พอดูระหว่างที่ขับปาดคันนู้นคันนี้ไปเรื่อยจนหนูต้องใช้มืออันทรงพลังของตัวเองยึดฐานจับข้างหลังไว้แน่นเพราะกลัวตก (เพราะไม่อยากกอดผู้ชายที่ไม่ได้ชอบด้วย) บุหรี่ก็ถามขึ้นมาสั้นๆ
แบบสั้นมากจริงๆ ค่ะ
“ชื่อปูน้อยค่ะ”
“อืม” เขาครางรับสั้นๆ ก่อนที่จะโพล่งคำต่อไป “ชอบ”
อะ... อะไรนะคะ!
“พะ พูดอีกทีได้มั้ยคะ คือน้องได้ยินที่บุหรี่พูดไม่ถนัด” ไม่ได้กวนประสาทนะคะ แต่ไม่เคยเจอผู้ชายที่เจอหน้ากันไม่ถึงครึ่งวันมาบอกว่าชอบ ขนาดอคินที่หนูอยู่มาด้วยตลอดตั้งแต่ ม.ปลาย ยังไม่เคยหลุดพูดคำนี้ออกมาเลย
“เรียกว่าพี่บุหรี่สิ” แต่เขากลับตอบไม่ตรงคำถาม
“คะ?”
“เรียกว่าพี่บุหรี่... จะชอบมากกว่านะ”
“อ๋อ ค่ะ... พี่บุหรี่ แบบนี้เหรอคะ?” พอเรียกเขาไปซื่อๆ แบบนั้น พี่บุหรี่ก็หันเสี้ยวหน้ามาฉีกยิ้มกริ่มให้หนึ่งที
รถบิ๊กไบค์คันงามพุ่งตรงเข้ามหาวิทยาลัยอย่างรวดเร็ว และเพราะพี่บุหรี่มีใบหน้าหล่อเหลา พร้อมกับรอยสักสวยๆ ที่เด่นสะดุดตาใครต่อใคร ก็เลยกลายเป็นว่าทุกคนต่างให้ความสนใจในตัวเขาอย่างมากมาย ผู้หญิงน่ารักๆ ในมหาลัยต่างหันมามองเขาที่มาส่งหนูเป็นตาเดียว
ระ... เริ่มรู้สึกถึงอันตรายที่จะคืบคลานเข้ามาแล้วล่ะค่ะ
เพราะเวลาอยู่ที่นี่ ไม่รู้ทำไมจะชอบมีแต่ผู้ชายที่มีแฟนแล้วเข้ามาจีบ เลยกลายเป็นว่าหนูเข้าไปเป็นมือที่สามโดยไม่ได้ตั้งใจ และท้ายที่สุดถ้าทำตัวเด่นมากเกินไปอาจจะถูกหมั่นไส้เอาก็ได้
“ขะ... ขอบคุณที่มาส่งนะคะพี่ชาย!” หนูจึงเลือกที่จะตะเบ็งเสียงออกไปพร้อมกับพนมมือไหว้ ให้ทุกคนเข้าใจว่าพี่บุหรี่เป็นพี่ชายของหนู
หนูฉลาดมั้ยล่ะ
แต่ดูเหมือนว่าพี่บุหรี่จะไม่ค่อยพอใจ เขาถอดหมวกกันน็อคออกมาแล้วตีหน้านิ่งที่ดูจะมีรังสีอำมหิตแผ่ออกมา หนูสะอึกไปนิดหน่อย ก่อนที่จะรู้สึกตัวอีกที
หมับ
“จะมารับมาส่งทุกวัน” เขากระซิบชิดข้างหูหนูด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ พอผละใบหน้าออกมาก็เห็นว่าเขากำลังจ้องหน้าหนูนิ่งแบบไม่วางตาเลย ท่ามกลางนักศึกษาที่ต่างให้ความสนใจมาที่เรา แต่นั่นก็เพราะพี่บุหรี่หน้าตาดีล่ะนะ
ละ... แล้ว นี่หน้าใกล้เกินไปแล้วนะคะ!
หนูหน้าแดงก่ำตอนที่สบสายตาสีฟ้าครามที่ดูลึกลับของเขา แล้วก็เห็นว่าพี่บุหรี่กระตุกยิ้ม เขาใช้ปลายนิ้วเรียวยาวปลดหนังยางมัดผมหนูลงโดยไม่รู้ตัว (เพราะหนูมัดผมหางม้าอยู่) จนมันระไปกับต้นคอ มารู้สึกตัวอีกทีเขาก็
หอมแก้มหนูหนักๆ หนึ่งฟอด
“...!!”
“ถ้าอยากให้เป็นพี่ชาย จะเป็นให้ก็ได้” เขากระซิบแบบที่ได้ยินกันแค่สองคน หนูได้ยินเสียงฮือฮาจากทุกคนรอบตัว ก่อนที่เขาจะผละออกไปแล้วสวมหมวกกันน็อคอย่างสมาร์ทสุดๆ “บาย ปูน้อย”
บรืน
แล้วบึ่งรถออกไปทันที ทิ้งหนูให้ยืนเอ๋ออยู่ตรงนั้น
หนูยังยืนอยู่ที่เดิม ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ของนักศึกษา เอื้อมมือเล็กๆ มาแตะแก้มตัวเองอย่างเหม่อลอย
นะ... นี่มันจุ้บแรกของหนูเลยนะคะ
ตุบ!
“นั่นแหละปูน้อย ดีมาก!”
หมัดตรงของหนูถูกสวนตรงไปยังที่กันตัวที่แม่ถือบังหน้าท้องที่แข็งแกร่งและเต็มไปด้วยมวลกล้ามเนื้อไว้อย่างพอเหมาะพอเจาะ เสียงของเด็กวัยรุ่นที่กำลังฝึกฝนทักษะมวยตอนนี้ดังเซ็งแซ่อยู่รอบตัว ส่วนหนูก็อยู่บนเวทีมวยแล้วฝึกแรงหมัดกับแม่
ปึก!!
“นั่นแหละลูกสาวคนแกร่งของแม่ ต้องหมัดหนักๆ แบบนี้!”
หนูตีสีหน้าเบื่อหน่ายเมื่อทันทีที่สวนไปทุกหมัด แม่จะเอ่ยปากชมอยู่ตลอด นั่นก็เพราะหนูเป็นลูกสาวคนเดียว และเป็นความหวังในการสืบทอดค่ายมวยหญิงนี่ล่ะนะคะ ก็เลยต้องเอาใจหนูมากๆ หน่อย
เอาใจจนบางทีเหล่าพี่ชายก็เริ่มพากันน้อยใจแล้ว
“แฮ่ก เหนื่อยจังเลย”
หนูล้มตัวลงนั่งบนเบาะที่ไว้ใช้สำหรับซิทอัพ ทุกวันหนูจะต้องออกกำลังกายแขนเพื่อให้ออกแรงได้ต่อเนื่อง รวมทั้งออกกำลังหน้าท้องให้มันแข็งและหนา แม่บอกว่าพอมีกล้ามเนื้อมากๆ เวลาต่อยมันจะไม่ค่อยเจ็บมาก แต่จะให้ดีเวลาโดนต่อยต้องเอาหัวรับจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะมันจะไม่เจ็บ
ส่วนเวลาชก ถ้าจะให้เจ็บต้องงอนิ้วกลางขึ้นมาหน่อย เพราะตรงนั้นคือกระดูกแข็งๆ
พอไปส่องกระจก ร่างกายของหนูน่ะดูผอมบางตัวเล็ก แต่จริงๆ พอเปิดหน้าท้องออกมา จะมีกล้ามหน้าท้องจนดูไม่สวยเลยล่ะ แบบนี้น่ะ ถ้าเกิดอคินมาเห็นเข้าล่ะก็อาจจะคิดว่าหนูไม่ได้อ่อนแออย่างที่คิดไว้ก็ได้ แต่ถ้าไม่ซิทอัพก็จะโดนแม่ดุอยู่ดี
หนูเลือกอะไรไม่ได้เลยใช่มั้ย... ทั้งๆ ที่คนที่ชอบเค้าดันชอบคนอ่อนแอแท้ๆ
ครืด ครืด
แต่ระหว่างที่นั่งท้อใจกับความแข็งแกร่งของครอบครัวตัวเองอยู่นั้น โทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างตัวก็สั่นอย่างรุนแรง หนูรู้สึกแปลกใจก็เลยกดดูชื่อปลายสาย แล้วก็ต้องตกใจแทบทำโทรศัพท์หล่นเมื่อเห็นว่าเป็นอคิน
อะ... อคินโทรมา!
นี่หนูสวยรึยังนะ น่ารักแล้วใช่มั้ย แต่... โธ่ อคินเขาไม่ได้วีดีโอคอลมาสักหน่อย แล้วจะตื่นเต้นทำไมนะเรา
หนูเดินเป็นวิ่งออกไปให้ไกลจากเสียงฝึกภายในค่ายมวยมากที่สุด ถึงจะโดนแม่บ่นไล่หลังมาก็ไม่สน อคินอ่ะคือความรักเลยนะคะ
ติ๊ด
“ฮะ... ฮัลโหลคิน” จนวิ่งมาได้ไกลพอหนูก็กดรับสาย แล้วกรอกเสียงตัวเองลงไปแบบสั่นๆ เพราะตื่นเต้นบวกกับเหนื่อยนิดๆ
[ปูน้อย เราได้ข่าวว่าเธอโดนรุ่นพี่ปี 4 รังแก เธอเป็นยังไงบ้าง]
หนูเผลอถอนหายใจ ที่แท้ก็เป็นห่วงหนูนี่เอง
“เราไม่เป็นไรจ้ะ เราโอเคมากๆ แต่ก็แอบแสบๆ หน้านิดหน่อย แหะๆ”
[ว่าไงนะ แปลว่าโดนตบมาด้วยเหรอ!]
“กะ... ก็เปล่า”
[บ้านเธออยู่ไหน เราจะเข้าไปดูเธอเดี๋ยวนี้เลย] หนูหน้าร้อนทันทีที่อคินพูดแบบนั้น นี่แปลว่าเขาห่วงหนูมากเลยนะเนี่ย แต่จะให้มาได้ยังไงล่ะ จะให้รู้ไม่ได้ว่าบ้านหนูเป็นค่ายมวยหญิง
“มะ ไม่เป็นไรๆๆ เราโอเคมากๆ แม่เราประคบยาให้แล้วล่ะ” หนูพูดไปแล้วก็แตะแก้มตัวเองที่แสบๆ นิดหน่อย ซะที่ไหนล่ะ มันก็แค่ปวดแสบนิดเดียวเองอ่ะ
[จริงๆ นะ ไม่เป็นไรจริงๆ ใช่มั้ย?]
“อื้อ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ปูน้อยโอเคมากๆ”
[เฮ้อ เธอนี่จริงๆ เลย ชอบทำให้เป็นห่วง] หนูใจเต้นใจจนจะขาดใจตายอยู่แล้ว อคินนน พอแล้ว เราไม่อยากรับความเป็นห่วงของเธอไปมากกว่านี้แล้ว เราใจเต้นอ่ะ [เอาเป็นว่าพรุ่งนี้จะคอยอยู่ด้วยตลอดนะ เราจะปกป้องเธอเอง]
ตึกตัก
“อะ... อื้ม ขอบคุณนะ”
“คุยกับผัวอยู่เหรอ”
แต่ยังไม่ทันที่จะกดวางสายของอคิน เสียงทุ้มพราวเสน่ห์ของใครบางคนที่ดูคุ้นหูซะเหลือเกินก็ดังขึ้นที่ข้างใบหู
ซึ่งพอหันกลับไปดูแล้ว
“กะ กรี๊ด!” หนูเผลอร้องกรี๊ดออกมาเสียงดังลั่นตอนที่ฟาดโทรศัพท์เข้าหน้าของบุคคลๆ นั้นไปเต็มรัก
“ไอ้เหี้ย!”
ตุบ
