#ปูน้อยของทุกคน EP.1 I Love You 3000 (2) จบตอน
หนูเดินเป็นวิ่งออกมาจากห้องๆ นั้น ห้องที่มีแต่เรื่องที่ไม่คุ้นเคย
ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยรู้จักคำว่า ‘สวิงกิ้ง’ มาก่อน ไหนจะผู้ชายท่าทางติสท์ๆ ที่เปลือยกายอยู่ในห้อง รวมถึงผู้หญิงอกสะบึมที่เปลือยทั้งตัวเช่นกัน
สวิงกิ้งเนี่ย... คงจะเป็นไปในทางเซ็กซ์สินะคะ
“แย่เลย... ปูน้อย เกือบไปแล้ว” หนูถอนหายใจออกมาตอนที่มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าป้ายรถเมล์ หายใจหอบแฮ่กอย่างเหนื่อยอ่อน หัวใจยังเต้นแรงเมื่อรู้สึกได้ว่าเมื่อกี้ตัวเองกำลังจะโดนคุกคามอย่างชัดเจน
ผู้ชายที่ชื่อสมิงเป็นผู้ชายที่อันตรายจริงๆ นั่นล่ะ
ตอนนั้นรู้สึกกลัวมากที่เหมือนจะเจอคู่ต่อสู้ที่เป็นเพศชายเป็นครั้งแรก จากการประเมินส่วนสูงและสัดส่วนร่างกายภายนอก สมิงคงไม่ใช่เล่นๆ เรื่องพละกำลังและการต่อสู้เลยล่ะ ก็เลยคิดว่าการพูดตรงๆ คงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด จนสมิงที่ดูจะหน้าแตกไล่หนูออกมา
กะ... เกือบเผลอแย๊บหน้าเขาไปแล้ว
เอ่อ ทุกคนอาจจะรู้สึกแปลกใจใช่มั้ยคะ ว่าทำไมปูน้อยที่ท่าทางเรียบร้อยใสซื่อ กำลังบอกว่าจะแย๊บ (เป็นเทคนิกมวยอย่างหนึ่ง) กับคนที่อันตรายที่สุดในมหาวิทยาลัย แถมยังใช้คำว่า ‘คู่ต่อสู้’ กับอีกฝ่ายอีกต่างหาก
แหะๆ จริงๆ แล้วบ้านหนูทำกิจการค่ายมวยหญิงอยู่น่ะค่ะ
คนที่เริ่มกิจการก็คือคุณแม่ที่เป็นนักมวยปล้ำหญิงเก่า พันธุกรรมของบ้านเราตัวเล็กกันทุกคน ส่วนสูงไม่เคยเกินจาก 159 เลย ส่วนหนูเป็นน้องเล็กที่ตัวเล็กที่สุดในบรรดาพี่ๆ หนูสูงแค่ 156 เอง
และเพราะโดนรังแกตั้งแต่เด็ก แม่เลยให้หนูเข้าคอร์สสอนมวยไทย และก็ฝึกฝนกำลังเพื่อที่จะเอาไปป้องกันตัวได้ในระดับหนึ่ง
หนูก็ไม่ได้เก่งมาก... แค่ได้แชมป์ระดับจังหวัดบ้างเป็นครั้งคราวเองค่ะ
เนื่องจากเหล่าพี่ๆ เป็นผู้ชายกันทุกคน และแต่ละคนก็สนใจกิจกรรมการต่อสู้ที่แตกต่างออกไป คุณแม่ที่คิดจะเอาผู้หญิงมาสืบทอดกิจการค่ายมวยหญิง ถึงได้เลือกหนูที่ไม่ชอบการต่อสู้เลยเข้ามาร่ำเรียนคอร์สนี้
พูดมาถึงตรงนี้ ทุกคนคงจะสงสัยว่าทำไมตอนที่โดนลากมาตบตีในตอนแรกทำไมหนูถึงไม่ป้องกันตัว
... นั่นก็เพราะหนูไม่อยากทำน่ะสิคะ
คุณแม่น่ะเป็นผู้หญิงที่แกร่งและโหดสุดๆ เลี้ยงลูกด้วยตัวคนเดียวตั้งแต่ที่คุณพ่อนอกใจไปมีแฟนใหม่ คุณแม่เล่าว่าท่านชกพ่อจนเข้าโรงพยาบาลด้วยวิชาที่เรียนมา แล้วหอบลูกออกจากบ้านหลังนั้นที่อยู่ด้วยกันตอนอายุสิบแปด
แต่ลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างหนู ดันเกิดมาเป็นเด็กผู้หญิงที่ค่อนข้างจะขี้ใจอ่อนเป็นอย่างมาก แถมยังเป็นคนหัวอ่อนไม่ชอบใช้ความรุนแรง ถึงจะมีวิชามวยติดตัวไปก็เท่านั้น... เพราะสุดท้ายพอย้ายมาเรียนมหาลัยที่สอบติดได้ที่กรุงเทพ หนูก็เลือกที่จะปกปิดเรื่องที่บ้านเป็นค่ายมวยอยู่ดี
นั่นเพราะหนูไม่อยากเป็นผู้หญิงแข็งแกร่ง
นั่นก็เพราะหนู... มีคนที่ชอบอยู่ด้วย
‘อคิน’ เพื่อนสมัยเรียนมัธยมด้วยกันที่สอบติดที่เดียวกันที่นี่ เป็นเพื่อนที่ทั้งสมาร์ทและใจดี หนูแอบชอบอคินข้างเดียวมาตลอด และรู้ว่าสเป็คของเขาคือผู้หญิงที่อ่อนแอ เพราะเขาชอบเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนผู้หญิงที่โดนรังแกและดูแลอย่างดีเสมอ
เรียกได้ว่า เขาคือเทวดาที่อยู่บนดินเลย
หนูพยายามอย่างมากที่จะไม่แสดงออกว่าหนูมีกำลังและชกมวยได้ และก็ปล่อยให้ตัวเองโดนรังแกมาตลอดจนอคินเข้ามาสนิทด้วย
แต่วันนี้ หนูกลับโดนผู้ชายแบบที่ไม่ใช่สเป็คอย่างที่สุด ลากทึ้งมาเพื่อที่จะนอนด้วย
แล้วเขาก็รู้ด้วย... ว่าหนูไม่เคยเรื่องอย่างว่า
น่ากลัว หนูน่ะไม่เคยชกกับผู้ชายจริงๆ มาก่อนเลยนะ คู่ซ้อมส่วนมากก็จะเป็นผู้หญิง รวมถึงคู่ชกที่มาท้าชิงด้วย พอโดนผู้ชายคุกคามขนาดนั้นก็จะเผลอหน้ามืดสวนไปทุกที แต่ก็ใช่ว่าจะชนะกลับมาทุกครั้ง
นั่นทำให้หนูกลัวผู้ชายที่ดูท่าทางจะเป็นอันธพาลมากที่สุด ในบรรดาประเภทของผู้ชายทั้งหมดบนโลก
จะต้องไม่เข้าไปยุ่งกับเขาอีก รวมถึงผู้ชายท่าทางเนือยๆ ที่ก็ดูอันตรายพอดูคนนั้นด้วย
หนูทำท่าจะโบกรถเมล์เพื่อกลับไปที่มหาวิทยาลัย อย่างน้อยๆ ก็ต้องกลับไปเรียนคลาสตอนบ่าย เพราะวันนี้มีเรียนอยู่สองคาบ
แต่ทว่า
“ไอ้เวรหมิงมันโคตรสารชั่วเลยว่ะ กูอยากจะกระทืบแม่งให้เละคาส้นตีนจริงๆ” หนูที่หูผึ่งเพราะได้ยินชื่อของคนบางคนที่คุ้นเคย หมิงนี่คือชื่อเรียกสั้นๆ เวลาคนที่สนิทกับสมิงเรียกเขา แต่ส่วนมากก็จะดูเป็นพวกเดียวกันกับเขานั่นแหละ
หนูไปแอบอยู่หลังป้ายรถเมล์ที่เป็นป้ายโฆษณาเมื่อมีกลุ่มนักเลงผ่านมาทางนี้ แล้วก็เห็นว่าเป็นผู้ชายท่าทางหน้าตาดุดันคนหนึ่ง มีรอยสักเต็มตัวแถมตัวสูงปราดเปรียว มีแผลที่ริมฝีปากและตามตัว กำลังเดินสูบบุหรี่มากับฝูงลูกน้องที่ตามเขาต้อยๆ (เพราะเขาดูโดดเด่นที่สุดในนั้น)
ผะ... ผู้ชายคนนี้ดูน่ากลัวสุดๆ ไปเลย
“พี่หยาดครับ ผมว่าอย่าไปหาเรื่องสมิงเลยดีกว่า” ผู้ชายหัวโล้นอีกคนพูดขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ “พ่อมันเป็นถึงผู้บริหารมหาลัยชื่อดัง แถมยังเป็น สส. ผู้ว่าอีกนะครับ”
สะ... สส. ผู้ว่า?
“ช่างหัวบิดาแม่งดิ กูจะเอาเลือดชั่วออกจากกบาลมันให้ได้!” ผู้ชายที่ชื่อหยาดบี้บุหรี่ที่กำลังติดไฟจนแหลกคามือเปล่า “มาปล่อยให้กูต่อยไอ้พวกเหี้ยนั้นคนเดียว โชคดีที่พวกมันมีแค่สิบห้าคน เลยสอยร่วงไปได้ง่ายๆ”
“...”
“มันอยู่ที่ห้องไอ้บุหรี่ไม่มีผิดแน่ จีพีเอสที่กูแอบติดที่มือถือแม่งไว้บอกว่ามันอยู่จุดนี้” ร่างสูงโปร่งพูดพร้อมปล่อยซากบุหรี่ในมือร่วงผล็อยลงพื้น “กูจะเลาะฟันมันซะ ให้มันแดกข้าวไม่ได้สักเดือนสองเดือน”
หนูตัวสั่นพอได้ยินว่าเขาคิดจะจัดการสมิงด้วยการเลาะฟัน นั่นเป็นวิธีการของพวกสตรีทไฟต์เตอร์ คือพวกที่ต่อสู้กันตามท้องถนน จะใช้ท่าสกปรกยังไงกับคู่ต่อสู้ก็ได้
สำหรับมวยไทยที่มีกฎกติกาเป็นของตัวเอง เรื่องนี้รับไม่ได้เลยจริงๆ นะ
“ขะ... ขอโทษนะคะ!” หนูกลั้นใจโพล่งออกมาพร้อมกับเอาตัวที่มีส่วนสูงแค่เพียง 156 เซนติเมตรไปต่อหน้าผู้ชายตรงหน้ารวมทั้งพรรคพวก ซึ่งดูจะสูง 180 ขึ้นไปกันทุกคนเลย “ถ้าจะใช้วิธีแบบสตรีทไฟต์เตอร์ ก็ขอให้มีกติกาที่ตายตัวในการต่อสู้หน่อยเถอะนะคะ!”
พะ พูดออกไปแล้ว
“มึงเป็นใคร?” ผู้ชายตรงหน้าหยุดชะงักพร้อมกับเอียงคอถามด้วยสรรพนามสุดหยาบคายเป็นคำถามแรก หนูที่เพิ่งรู้สึกตัวถึงได้นิ่งอึ้งไป
นี่หนูกำลังทำอะไร หนูกำลังปกป้องคนอันตรายในมหาวิทยาลัยอย่างสมิง คนที่เพิ่งลักพาตัวหนูไปเพราะชอบแล้วก็ตั้งใจจะมีอะไรกับหนูอย่างข้ามขั้นตอนอย่างงั้นเหรอ!
“... เอ่อ”
“ทำไมมึงถึงรู้จักคำว่าสตรีทไฟต์เตอร์?” หยาดพูดออกมาพร้อมกับมองหนูตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ก่อนที่จะแค่นหัวเราะ “ผู้หญิงตัวเท่าหมาอย่างมึงรู้จักศัพท์ของวงการต่อสู้ได้ไงวะ แถมยังกล้าเข้ามาขวางทางกูได้อย่างหน้าไม่อายซะด้วย”
“คะ... คือ” ตะ... ตัวเท่าหมาเหรอ พูดไม่ออกเลย
“อ้อ หรือว่า”
“...”
“มึงจะเป็นคู่ขาของไอ้เหี้ยหมิง?”
