บท
ตั้งค่า

9 ติวเตอร์ส่วนตัว

หมอคีรินทร์ออกจากบ้านไปตั้งแต่บ่ายวันเสาร์และกลับเข้ามาที่บ้านอีกครั้งในช่วงบ่ายของวันอาทิตย์เขาค่อนข้างแปลกใจมากเมื่อเปิดประตูบ้านเข้ามาแล้วเจ้านุ่มนิ่มแมวสีส้มตัวอ้วนกลมของเขาไม่ออกมาต้อนรับเหมือนกับทุกครั้ง

เขาเดินตามหาไปทั่วบ้านก่อนจะเจอว่าตอนนี้แมวของเขากำลังนอนหลับอยู่กับแม่บ้านคนใหม่บนเสื่อใต้ต้นไม้หลังบ้าน ดูท่าทางแล้วทั้งคนทั้งแมวน่าจะหลับอย่างมีความสุข

คุณหมออดยิ้มไม่ได้กับภาพตรงหน้าดูเหมือนว่าตอนนี้เจ้านุ่มนิ่มจะตามติดขวัญนภัสมากกว่าตัวเขามากเลยทีเดียวตั้งแต่เธอมาทำงานหนึ่งสัปดาห์เจ้านุ่มนิ่มก็เดินตามเธอต้อยๆ เพราะแบบนี้เลยทำให้คุณหมอรู้สึกวางใจเป็นอย่างมากถ้าหากตนเองจะต้องไปเรียนต่อและฝากแมวตัวนี้ให้ขวัญนภัสดูแล เดิมทีคีรินทร์วางแผนเอาไว้ว่าตอนที่ตัวเองไม่อยู่บ้านจะปิดตายบ้านหลังนี้และให้แมวของตนเองไปอยู่ที่บ้านของปริณดา

แต่เมื่อเห็นแบบนี้แล้วก็คิดว่าจะให้ขวัญนภัสอยู่ที่นี่ระหว่างที่ตนเองไปเรียนให้เธอช่วยดูแลบ้านดูแลแมวและจ่ายเงินเดือนให้กับเธออย่างเดิม

คีรินทร์ปิดประตูหลังบ้านก่อนจะกลับขึ้นไปบนห้องของตนเองและเมื่อลงมาจากด้านบนอีกครั้งในเวลาค่ำก็เห็นว่าตอนนี้บนโต๊ะอาหารมีอาหารวางอยู่เรียบร้อยแล้ว

“หนูไม่รู้ว่าหมอจะกินข้าวที่บ้านหรือเปล่า แต่หนูทำอาหารไว้ให้แล้วค่ะ” ขวัญนภัสรีบบอก

“ขอบใจนะเฟิร์น อันที่จริงเย็นวันอาทิตย์เธอไม่ต้องทำก็ได้วันนี้เป็นวันหยุดของเธอนะ”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะหมอ หนูเห็นว่าหมออยู่บ้านแล้วหนูก็หยุดมาทั้งวันแล้ว”

“ฉันเห็นเมื่อกี้เธอนอนหลับอยู่หลังบ้านกับเจ้านุ่มนิ่ม”

“หนูตั้งใจจะเอาหนังสือออกไปอ่านแต่ด้านหลังบ้านบรรยากาศมันดีมากก็เลยเผลอหลับ”

“วันนี้ฉันพอมีเวลาว่างสองชั่วโมงเธออยากให้ฉันติววิชาไหนเป็นพิเศษบ้างหรือเปล่าล่ะ” เขาถามอย่างใจดีเพราะรู้ว่าขวัญนภัสไม่ได้ไปเรียนพิเศษที่ไหนเลยกังวลว่าเธออาจจะทำคะแนนได้ไม่ดี

“คุณหมอจะติวให้หนูได้เหรอคะ” เธอถามอย่างไม่แน่ใจ

“ทำไมถามแบบนั้นล่ะ เหมือนเธอกำลังดูถูกกันเลยนะ”

“เปล่าค่ะหนูก็แค่คิดว่า หมอเรียนจบมานานแล้ว”

“ถึงฉันจะเรียนจบมานานแต่ฉันก็ไม่ได้คืนวิชาความรู้ครูไปหมดหรอกนะ” คีรินทร์หัวเราะอย่างอารมณ์ดี

“แล้วหมอถนัดวิชาไหนมากที่สุดคะ”

“วิชาที่ฉันถนัดเหรอ” เขาทำท่านึกก่อนจะตอบเธอออกไปอย่างมั่นใจ

“ฉันถนัดวิชาชีวะน่ะ เธอต้องใช้วิชานี้สอบด้วยไม่ใช่เหรอ ฉันคิดว่าพอจะช่วยเธอได้นะ”

“ใช่ค่ะ วิชานี้เนื้อหาเยอะมาก บางอย่างก็เข้าใจยากมาก” บางหัวข้อขวัญนภัสอ่านหลายรอบก็ยังไม่เข้าใจ

“เลือกหัวข้อที่ไม่เข้าใจมานะ วันนี้ฉันจะอธิบายให้ฟัง”

“จริงเหรอคะคุณหมอ”

“จริงสิฉันเองก็อยากทบทวนไปในตัวด้วย”

“เดี๋ยวหนูขอไปดูก่อนนะคะว่ามีบทไหนบ้างที่หนูยังไม่ค่อยเข้าใจ” เธอตอบอย่างกระตือรือร้นก่อนจะรีบลุกจากเก้าอี้

“แล้วจะรีบไปไหนไม่กินข้าวก่อนเหรอ”

“ขอโทษนะคะคุณหมอ หนูกินข้าวก่อนคุณหมอไปแล้วค่ะเพราะตอนกลางวันหนูไม่ได้กินข้าว” เธอพูดพร้อมยิ้มแหยๆ อย่างรู้สึกผิดที่กินข้าวก่อนเจ้านาย

“ไม่ต้องขอโทษหรอก ฉันขอเวลากินข้าวก่อนนะอีกครึ่งชั่วโมงเจอกันที่ห้องทำงานของฉันตกลงไหมเอาหนังสือไปด้วยนะ ฉันอยากรู้ว่าเนื้อหาที่จะเรียนมันต่างจากตอนที่ฉันเรียนหรือเปล่า”

“ได้ค่ะคุณหมอ”

เมื่อถึงเวลานัดขวัญนภัสก็ถือหนังสือของตนเองเดินไปยังห้องทำงานของหมอคีรินทร์

การอธิบายของคุณหมอคีรินทร์ทำให้ขวัญนภัสเข้าใจเนื้อหามากขึ้นระยะเวลาสองชั่วโมงเป็นเวลาทองที่เธอเก็บเกี่ยวความรู้ได้อย่างเต็มที่

“ขอบคุณนะคะหมอ หนูเข้าใจขึ้นมากเลย หนูงงอยู่ตั้งนาน”

“มีเรื่องไหนไม่เข้าใจอีกก็เตรียมเนื้อหาไว้ก็แล้วกันนะถ้าวันไหนฉันเลิกงานไม่ดึกมากฉันจะช่วยสอนให้” คีรินทร์เห็นถึงความตั้งใจของเด็กสาวก็เลยอยากจะช่วยติวให้มากขึ้น

“หมอคีรินทร์คะ มันมีวิชาเคมีบางบทที่หนูไม่เข้าใจเหมือนกันหมอจะช่วยอธิบายให้หนูฟังได้ไหมล่ะ” เธอถามอย่างเกรงใจ

“ส่งเนื้อหามาให้ฉันก่อนนะจะลองอ่านดูจะได้อธิบายให้เธอฟังเข้าใจง่ายๆ”

“หมอคะหนูรบกวนหมอมากเกินไปหรือเปล่า หนูมาสมัครเป็นแม่บ้านนะคะ แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าคุณหมอเป็นติวเตอร์ให้หนูแล้ว” เธอยิ้มอย่างอายๆ ที่บังอาจใช้เจ้านายมาเป็นติวเตอร์ให้

“ไม่หรอกฉันเองก็ต้องทบทวนวิชาความรู้อยู่เหมือนกันมีแค่เคมีกับชีวะใช่ไหมที่อยากให้ฉันสอน”

“ค่ะ วิชาอื่นหนูพอเข้าใจ”

“แบบนี้ก็ดีแล้วอีกไม่กี่เดือนก็จะต้องสอบแล้วใช่ไหมล่ะ”

“ใช่ค่ะ”

“มาทำงานที่นี่ทำให้เธอมีเวลาอ่านหนังสือน้อยลงหรือเปล่าเฟิร์น” หมอคีรินทร์รู้สึกเป็นห่วงมากเพราะช่วงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อและเด็กทุกคนก็ควรมีเวลาอ่านหนังสืออย่างเต็มที่บางคนถึงขั้นไปจ้างติวเตอร์กวดวิชาตัวต่อตัวกันเลยทีเดียว

“ไม่เลยค่ะ หนูอยู่ที่นี่หนูได้อ่านหนังสือเยอะขึ้น” เธอตอบไปตามความจริงเพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ก็มีเวลาอ่านหนังสือและทบทวนบทเรียนได้เยอะกว่าเดิมมาก

“แต่เธอต้องทำงานบ้านด้วยนะมันจะได้อ่านเยอะขึ้นตรงไหนล่ะ” คุณหมอหนุ่มขมวดคิ้วถามด้วยความไม่เข้าใจ

“ก็หนูตื่นเช้าและมีสมาธิอ่านหนังสือ เพราะที่บ้านคุณหมอเงียบค่ะ พอตอนเย็นหนูทำความสะอาดบ้านทำกับข้าวเสร็จแล้วก่อนนอนหนูก็ยังมีเวลาทบทวนอีก”

“แล้วอยู่ที่บ้านไม่ค่อยได้อ่านเหรอ ขอโทษนะที่ฉันต้องถาม”

“บ้านเราหลังเล็กค่ะ ใครพูดคุยอะไรบางครั้งมันก็ได้ยินหมดหนูก็เลยไม่ค่อยมีสมาธิอ่านเท่าไหร่”

“อันที่จริงเธอไม่ต้องทำความสะอาดบ้านทุกวันก็ได้นะ บ้านฉันมันก็ไม่ได้สกปรกอะไร ทำวันเว้นวันก็ได้จะได้เอาเวลานั้นไปอ่านหนังสือ”

“ไม่ได้หรอกค่ะถ้าเราทำความสะอาดทุกวันบ้านมันก็ไม่สกปรกมากใช้เวลาทำความสะอาดไม่นานแต่ถ้าทิ้งไว้มันจะทำใช้เวลานานกว่าค่ะ หมอไม่ต้องห่วงหรอกนะคะหนูแบ่งเวลาได้อย่างแน่นอน”

“คิดหรือเปล่าว่าถ้าหากไม่ได้คณะที่ตัวเองเลือกจะเรียนอะไร”

“ถ้าหนูไม่ได้คณะที่ตัวเองเลือกหนูก็คงจะเรียนพยาบาลหรือไม่ก็พวกเทคนิคการแพทย์ค่ะ”

“ทำไมถึงเลือกเรียนสายสุขภาพล่ะ”

“หนูคิดว่าสายนี้ไม่น่าจะตกงานมั้งคะ แล้วคุณหมอคิดคิดว่ายังไงบ้าง” ขวัญนภัสอยากฟังมุมมองของคนที่ทำงานในสายสุขภาพบ้าง

“มันก็จริงอย่างที่เธอพูด ตอนนี้ประเทศของเราขาดบุคลากรทางด้านนี้เยอะมากแต่การทำงานก็เหนื่อยมากด้วย ทำไมเธอไม่สนใจคิดจะเรียนหมอมั่งล่ะเฟิร์น”

“เรียนหมอมันใช้เวลานานค่ะ ตอนแรกหนูก็อยากเป็นหมอ อยากเป็นเภสัชแต่มันต้องเรียนตั้งหกปี เรียนจบแล้วก็ยังจะต้องเรียนต่ออีกหนูเลยคิดว่าเรียนการทำเครื่องสำอางดีกว่าเพราะคนเราสนใจความสวยความงามกันเยอะขึ้นค่ะ”

“มันก็เป็นความคิดที่ดีเหมือนกันนะ ขนาดฉันที่เป็นผู้ชายบางครั้งก็ยังต้องใช้เครื่องสำอาง นับว่าเธอเป็นคนที่มองการณ์ไกล ดูเหมือนความคิดของเธอจะโตกว่าอายุมากเลยนะ ฉันขอให้เธอประสบความสำเร็จในสิ่งที่หวังนะ”

“ขอบคุณค่ะหมอ”

“คืนนี้ฉันขอไปพักก่อนเธอก็รีบเข้านอนล่ะ ไม่ใช่อ่านหนังสือจนดึกแล้วเช้ามาก็ต้องรีบตื่นแต่เช้าเวลาไปเรียนไม่สดชื่นสมองจะรับความรู้ได้ไม่เต็มที่นะ” เขาเตือนด้วยความหวังดีก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้อง

หญิงสาวมองตามแผ่นหลังของคุณหมอหนุ่มไปด้วยความชื่นชมตั้งแต่มาทำงานที่นี่นอกจากเธอจะสบายใจขึ้นมากแล้วยังรู้สึกดีมากๆ ที่ได้เขาเป็นเจ้านายอีกด้วย คุณหมอคีรินทร์ไม่เคยถือตัวเลยว่าตัวเองเป็นเจ้านายเขาปฏิบัติกับเธอเหมือนเธอเป็นน้องสาวเธอรู้สึกอบอุ่นกับการอยู่ที่นี่มากๆ
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel