บท
ตั้งค่า

ตอนที่สอง ช่างน่ารำคาญ

ตอนที่สอง

ช่างน่ารำคาญ

องค์หญิงจ้าวเฟยเฟิ่งนอนพักกินยาสุดขมของหมอหลวงอยู่เพียงสองวันก็ต้องลุกขึ้นเพื่อทำหน้าที่ส่งพระศพฮ่องเต้เข้าสู่สุสานหลวง หลังจากนั้นจึงเป็นการเปิดประชุมเหล่าขุนนางในท้องพระโรงซึ่งแน่นอนว่า พวกเขาต่างกดดันนางอย่างที่สุด

“องค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ บ้านเมืองจะขาดผู้ปกครองไม่ได้ ขอองค์หญิงทรงพิจารณาเลือกชายหนุ่มที่ดี เพื่ออภิเษกสมรสและแต่งตั้งเขาขึ้นเป็นฮ่องเต้ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

“เสนาบดีกรมคลัง ท่านคงคิดอยากเสนอบุตรชายตนเองสิท่า จึงรีบทูลเสนอออกมาเช่นนี้”

“ในอดีตก็เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาแล้ว อดีตฮองเฮาจ้าวเฟิงสี่ทรงอภิเษกกับอดีตฮ่องเต้แล้วแต่งเขาเข้าสกุลจ้าว ทั้งสองร่วมมือกันปกครองบ้านเมืองอย่างผาสุกตราบสิ้นรัชกาล ยามนี้บ้านเมืองไร้รัชทายาท องค์หญิงทรงเป็นทายาทองค์เดียวที่เหลืออยู่ ย่อมต้องแต่งชายหนุ่มเข้าสกุลและตั้งเป็นฮ่องเต้จึงจะสามารถสืบราชบัลลังก์สกุลจ้าวไปตราบนานเท่านาน”

“เรื่องอภิเษกสมรสย่อมต้องรีบ แต่ชายหนุ่มที่จะมาเป็นฮ่องเต้ก็ต้องพิจารณาให้ดีเช่นกัน ขอองค์หญิงโปรดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

“ท่านราชครู ท่านก็มีบุตรชายซึ่งมักพาเข้าวังเพื่อร่วมเรียนเป็นเพื่อนองค์หญิง คงไม่ได้กำลังพยายามยัดเยียดบุตรชายตนเองอยู่กระมัง”

“ท่านเสนาบดีกรมพิธีการอย่าได้กล่าวเช่นนั้น เรื่องการตัดสินใจล้วนต้องให้องค์หญิงคิดให้ถี่ถ้วน พวกเรามาถกเถียงกดดันองค์หญิงอยู่เช่นนี้ จะดีได้อย่างไร”

เสียงขุนนางใหญ่น้อยถกเถียงกันวุ่นวายราวอยู่ในตลาดมิใช่ท้องพระโรง ส่งให้จ้าวเฟยเฟิ่งปวดเศียรเวียนเกล้ายิ่งนัก

ฟากฟ้าในร่างองค์หญิงน้อยเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมองค์หญิงจึงต้องรีบตัดสินใจ เพราะขืนชักช้าตาแก่พวกนี้คงเอาแต่พูดมากทั้งวันจนน่ารำคาญ

“เสนาบดีกรมพิธีการเองก็มีบุตรชายวัยกำลังพอดี จึงต้องรีบขัดขวางท่านอย่างไรเล่า ท่านราชครู”

“เจ้าเองก็มีบุตรชายวัยกำลังเหมาะเช่นกัน เสียแต่ความประพฤติฉาวโฉ่ที่ร่ำลือกันคงไม่อาจเสนอชื่อได้กระมัง”

“อ้าวๆๆๆ ไยเอ่ยเช่นนั้นเล่าท่านเสนาบดีกลาโหม บุตรชายข้าฉาวโฉ่อันใด เขาทั้งขยันขันแข็ง เก่งกล้าสามารถ ท่านไม่รู้เรื่องจริงอย่าได้เอาแต่ฟังเสียงเล่าลืออันไม่มีมูล”

“บุตรชายของท่านเองก็ได้ข่าวว่าเก่งกาจไม่น้อยนี่ ท่านเสนาบดีกลาโหม”

“ไม่อาจสู้บุตรชายของท่านอัครเสนาบดีแน่ขอรับ”

เสียงโต้เถียงจากเดิมกลายเป็นเสียงยกยอบุตรชายตนเองและทับถมบุตรชายผู้อื่นจนจ้าวเฟยเฟิ่งเบื่อหน่ายเต็มทน หากเป็นองค์หญิงผู้เพิ่งผ่านพ้นวัยเด็กน้อยคงได้แต่ตื่นกลัวและไม่กล้าเอ่ยคำใด ปล่อยให้พวกเขากดดันไปมาอยู่อย่างนั้น

แต่เธอไม่ใช่องค์หญิงจ้าวเฟยเฟิ่งตามบทเดิม ดังนั้น

“ทุกคนหยุดเดี๋ยวนี้” เสียงตวาดดังก้องอย่างที่ไม่เคยมีผู้ใดเห็นอาการเช่นนี้จากองค์หญิงผู้น่ารักมาก่อน

“เสด็จพ่อเพิ่งจากไปศพยังไม่ทันเย็น พวกท่านก็เอาแต่ถกเถียงเรื่องจะบังคับให้ข้าแต่งงาน หากเสด็จพ่อได้รับรู้ว่าขุนนางซึ่งทรงไว้วางพระทัยเอาแต่รังแกข่มเหงพระธิดาองค์เดียว พระองค์คงอยากจะลุกขึ้นมาจากสุสานหลวงเพื่อบีบคอพวกเจ้าพาไปอยู่เป็นเพื่อนแล้ว”

ขุนนางทั้งหลายได้ยินคำต่อว่าต่อขานจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาคล้ายมีท่าทีละอายใจ

“พวกเรามิได้รังแกองค์หญิงนะพ่ะย่ะค่ะ ขอองค์หญิงอย่าได้เอ่ยเช่นนั้น” ขุนนางอาวุโสคนหนึ่งรีบกล่าวแก้ตัว

“พวกท่านทั้งกดดันทั้งบีบบังคับข้าถึงเพียงนี้ยังจะบอกว่าไม่ได้รังแกอีกหรือ” องค์หญิงจ้าวเฟยเฟิ่งยังคงต่อว่า

“จริงอยู่ที่บ้านเมืองมิอาจขาดผู้ปกครอง แต่หากได้คนไร้ความสามารถ อาจย่ำแย่กว่าก็เป็นได้ เรื่องนี้ต้องให้เวลาข้าคิดพิจารณาให้ละเอียด เอาเป็นว่านับจากนี้ เรื่องน้อยใหญ่ให้ส่งเข้ามาให้ข้าดูก่อน หลังจากนั้นหากข้าตัดสินใจอภิเษกหรือเลือกชายหนุ่มได้เมื่อใด จึงค่อยเปลี่ยนแปลงอีกที เอาตามนี้แหละ เข้าใจหรือไม่” องค์หญิงจ้าวเฟยเฟิ่งเอ่ยสรุปแล้วมองหน้าทีละคนเพื่อกดดันขุนนางทั้งหลายให้ตอบรับ

“แต่องค์หญิงมิเคยทรงงาน จะพิจารณาฎีกาต่างๆด้วยตนเองได้หรือพ่ะย่ะค่ะ” เสนาบดีปกครองรีบเอ่ยค้าน

“ของเช่นนี้ย่อมฝึกหัดได้ ข้าไม่เคยแล้วชายหนุ่มที่พวกท่านอยากแต่งตั้งเป็นฮ่องเต้เคยหรืออย่างไร ไม่ว่าผู้ใดก็ล้วนเป็นมือใหม่หัดปกครองบ้านเมืองทั้งสิ้น ดังนั้น นี่คือคำสั่งของข้า ผู้เป็นองค์หญิง หากผู้ใดต้องการคัดค้านก็ถวายฎีกาขึ้นมา” องค์หญิงจ้าวเฟยเฟิ่งก้าวเดินออกจากท้องพระโรงทันทีอย่างไม่แยแส

เสียงขุนนางถกเถียงกันตามหลังมาให้ได้ยินแว่วๆ แต่ฟากฟ้าในร่างของจ้าวเฟยเฟิ่งย่อมไม่ใส่ใจ

อยากให้นางแต่งงานแล้วตั้งหุ่นเชิดมาตัวหนึ่งงั้นหรือ

ไม่มีวัน ในเมื่อนางต่างหากคือทายาทตัวจริง

นางจะปกครองบ้านเมืองนี้เอง เป็นผู้หญิงแล้วอย่างไร

ในอดีตก็เคยมีฮ่องเต้หญิงซึ่งลุกขึ้นมาปกครองเอง หรือฮองเฮาหญิงซึ่งนั่งปกครองหลังม่านมาแล้วตั้งหลายคน เพิ่มนางอีกคนจะเป็นไรไป

อีกอย่างจะบังคับให้นางแต่งงานเพื่อแต่งตั้งฮ่องเต้ ตั้งมาทำไม ฮ่องเต้ที่วันวันเอาแต่แต่งสนมสาวๆมากหน้าหลายตาเข้ามาร่วมรักเสพสมโดยทิ้งขว้างนางผู้เป็นฮองเฮาให้นอนเหงาแห้งเหี่ยว

ฟากฟ้ายังจำได้ว่าจ้าวเฟยเฟิ่งในเรื่องได้ร่วมรักกับฮ่องเต้แค่ไม่กี่ครั้ง เขาออดอ้อนอ่อนหวานแสดงความรักหวานชื่นเพียงไม่กี่เดือน หลังจากนั้นก็เอาแต่พลิกป้ายไปตามตำหนักต่างๆ ทิ้งให้หญิงสาวอ่อนเยาว์ต้องเหี่ยวเฉาไร้ความชุ่มฉ่ำ

เรื่องทายาทยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง เขาไม่มาส่งน้ำเชื้อปลุกปั้นก้อนแป้งน้อย แล้วจ้าวเฟยเฟิ่งจะตั้งครรภ์มังกรได้อย่างไร จ้าวฮองเฮาจึงต้องรับโอรสบุญธรรมเข้ามาถึงสามคนเพื่อสร้างทางเลือกให้กับตนเอง และนั่นจึงเป็นชายหนุ่มซึ่งหวังกุ้ยเฟยใช้เป็นเชลยรักในนิยายเรื่องเดิม

ชิ ‘หวงฮุ่ยจือ’ เขาเป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่แต่งเข้ามาจนมีอำนาจวาสนา มีสิทธิอะไรมาใช้ผู้หญิงเปลืองและปล่อยให้นางพวกนั้นมาทะเลาะเบาะแว้งตบตีกับฮองเฮาซึ่งเป็นทายาทตัวจริง สุดท้ายยังปล่อยให้มายึดอำนาจที่บรรพบุรุษของนางสร้างมา

นางต่างหากคือฮองเฮาผู้มีอำนาจวาสนา ดังนั้นนางจะเป็นผู้ปกครองบ้านเมืองนี้เอง ชายหนุ่มพวกนั้นน่ะหรือ พวกเขาเป็นได้เพียงเชลยรักของนางเท่านั้น

นางจะใช้พวกเขาทำงานให้ จะให้พวกเขาจงรักภักดีต่อนาง และจะสร้างฐานอำนาจจากชายเหล่านี้ แต่พวกเขาเป็นได้แค่ขุนนางคนหนึ่งของนางเท่านั้น

บัลลังก์ทองนี้จะมีนางเป็นฮองเฮาแต่เพียงผู้เดียว จะไม่มีฮ่องเต้ให้ต้องมาสร้างปัญหา และสุดท้ายจะมีเพียงทายาทสกุลจ้าวของนางเท่านั้นที่ได้สืบทอดอำนาจต่อไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel