เจ้าเด็กโอหัง:ห้ามรังแกหม่ามี๊ของหนู

455.0K · จบแล้ว
กู้เสี่ยวม่าน
161
บท
281.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ได้ยินว่ายีนของคุณหลินดีมาก ถ้าสามารถมีลูกกับเขา จะต้องน่ารักแน่นอน แต่คุณหนูฉินไม่เชื่อคำพูดนี้ แล้วแอบไปนอนกับเขา หกปีผ่านไป คุณหลินมองเด็กน่ารักสองคนที่อยู่ข้างหลังเธอ ยิ้มแล้วพูดว่า“คุณฉิน เด็กนี่? ” คุณหนูฉินโบกมือ แล้วพูดอย่างจริงใจว่า“คุณหลิน บอกไปแล้วคุณอาจจะไม่เชื่อ แต่นี่ไม่ใช่ลูกของคุณจริงๆค่ะ!”

นิยายปัจจุบันนิยายรักประธานรักหวานๆโรแมนติก

บทที่1 อ่อยผู้

บทที่1 อ่อยผู้

ขณะนี้เครื่องบินจากลอนดอนมุ่งหน้าสู่เมืองBของประเทศจีนกำลังทะยานอยู่บนน่านฟ้าอันแจ่มใส ถึงแม้จะอยู่ห่างจากพื้นดินนับหมื่นฟุต แต่ว่าเครื่องก็บินได้อย่างราบรื่น

หลายปีมานี้มาตรฐานการครองชีพไม่หยุดที่จะยกระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง เครื่องบินจึงไม่ใช่วิธีการเดินทางเฉพาะของคนมีเงินอีกต่อไป ดังนั้นมันจึงส่งผลกระทบไปถึงสภาพแวดล้อมอันไม่น่ารื่นรมย์ของห้องโดยสาร ในส่วนผู้โดยสารชั้นประหยัดนั้นจึงมักจะได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของสตรีวัยกลางคนอยู่เป็นประจำ ทำให้คนไม่สามารถอยู่อย่างสงบได้

ฉินเฟยนั้นตั้งแต่เด็กครอบครัวเธอทรงอิทธิพล พ่อของเธอประคบประหงมเธอดั่งไข่มุกบนฝ่ามือ ช่างทำร้ายจิตวิญญาณลูกไปถึงแก่น ก่อนสิบขวบเท้าของเธอไม่เคยแตะถึงพื้นเลย มีแต่พ่อและทั้งหลายพากันหาอุ้มจนโตมาได้ขนาดนั้น พ่อทำตัวเหมือนกับเป็นสหายของเธอ ตามใจลูกสาวจนไม่มีขอบเขตกฎเกณฑ์ใด ลืมตำแหน่งฐานะอะไรไปจนหมดสิ้น

นึกถึงตัวเองเมื่อก่อน ฉินเฟยก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ใจเหมือนกับถูกหินก้อนใหญ่กดทับไว้ อึดอัดจนหายใจแทบไม่ออก

เธอไม่ได้นั่งเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสมานานมากแล้ว แน่นอนว่าหลายปีมานี้เธอไม่ได้ไปที่ไหนไกลที่จำเป็นจะต้องนั่งเครื่องบิน

ถ้าไม่ใช่เพราะคนคนนั้นโทรมา ถ้าไม่ใช่เพราะว่าอยู่ดีๆบัญชีก็มีเงินเข้ามามหาศาลก้อนหนึ่ง เธอก็คงจะไม่อวดหรูด้วยการนั่งเฟิร์สคลาสหรอก

กลับประเทศไม่ใช่ความตั้งใจเดิมของฉินเฟย ก่อนหน้านี้ใจเธอปฏิเสธลอนดอนแต่สุภาพบุรุษท่านนี้กลับนำพาเมืองอันน่ากลัวและหนาวเหน็บนี้มาให้กับเธอ แต่เมื่อใช้เวลาอยู่ในเมืองนี้ตัวคนเดียวอยู่หลายปี กลืนความเหงาและความโศกเศร้าทั้งหมดลงไป แผลเดิมก็ค่อยๆบรรเทาจางหายไป

ตอนนี้สำหรับเธอแล้วเมืองBต่างหากที่เป็นสถานที่แห่งความเจ็บปวด มีคนที่เธอเกลียดเข้าไส้อยู่ และมีคนที่เธอทั้งรักทั้งเกลียดอยู่ด้วย ใบหน้าอันคุ้นเคยเหล่านั้นสามารถเปิดสะเก็ดที่ปากแผลออกได้อย่างง่ายดาย ทำให้ปากแผลนั้นเปิดขึ้นมากอีกครั้งอย่างโหดร้าย

แต่คนคนนั้นก็ยังจะต้องให้เธอกลับไป…

เครื่องบินได้ทะยานออกจากลอนดอนแล้วหลายชั่วโมง ใจของฉินเฟยยังเปี่ยมไปด้วยความโกรธเกลียดไม่พอใจ

ทั่วทั้งห้องผู้โดยสาร นอกจากผู้ชายข้างๆที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์ทางการเงินและแอร์โฮสเตสซึ่งหลงใหลชายคนนั้นและกำลังแอบอยู่ไม่ไกล คนอื่นๆก็ดูเหมือนว่าจะหลับกันอย่างเงียบสงบกันหมดแล้ว

ทุกคนย่อมมีใจรักสิ่งของสวยๆงามๆ ฉินเฟยซึ่งกำลังคิดเรื่องกลับประเทศจนจิตใจไม่สงบ ขณะที่เธอมองผ่านชายที่นั่งถัดไปนั้น สายตาก็ต้องหยุดชะงัก

เธอเป็นผู้หญิงซึ่งก่อนนี้เคยเดินอยู่ท่ามกลางผู้หญิงที่เป็นดารานักการเมืองที่มีชื่อเสียง เจอคนหล่อหน้าตาดีมานับไม่ถ้วน แต่ก็ยังประหลาดใจกับรายละเอียดด้านข้างของบุคคลคนนี้ ความสุขุมแผ่เล็ดลอดออกมาจนทำให้คนเกิดความเลื่อมใส

ฉินเฟยเดาว่าถ้าหากว่าเขาหันหน้ามา จะต้องเป็นลูกพลัมสีแดงในฤดูหนาวเป็นแน่แท้ กลิ่นหอมนั่นช่างชวนหลงใหล จะต้องเป็นหิมะขาวบนยอดเขาภูเขาชัง ด้วยสีอันสะอาดผุดผ่องมันช่างเปล่งประกายความบริสุทธิ์

แต่ในความเป็นจริงแล้ว…

ชายคนนี้เยือกเย็นไม่สนใจใคร ตั้งแต่ขึ้นเครื่องบินมา ก็เอาแต่ก้มหน้าจ้องหนังสือพิมพ์ นิ้วเรียวยาวกางหนังสือพิมพ์เอาไว้ สายตาดูผ่อนคลายแต่ล้ำลึก

ก็ไม่น่าแปลกใจในความกระตือรือร้นของแอร์สาวที่เหมือนเตาหลอมท่ามกลางอากาศในฤดูร้อนของเมืองB หล่อนยิ้มหน้าบานจนจะเท่าไข่เจียวอยู่แล้ว

ฉินเฟยสนุกกับการมองแอร์สาวซึ่งค่อนข้างคุกคามความส่วนตัวของชายคนนั้นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะรู้สึกเบื่อ จนคิดอยากจะงีบหลับ

เธอคิดว่าตัวเองจะสามารถนอนหลับได้อย่างเป็นสุขเหมือนกับผู้โดยสารคนอื่นๆ แต่ก็ลืมไปว่าตัวเองนั้นเป็นคนหลับตื้น อะไรขยับลมพัดนิดหน่อยก็ทำเอาเธอตื่นจากการหลับลึกได้ ไม่ต้องพูดถึงเลยเมื่อมีแหล่งกำเนิดเสียงอยู่ใกล้ๆเธอ จะให้เธอหลับต่อไปนั้นเป็นเรื่องในจินตนาการเท่านั้น

แต่แอร์โฮสเตสที่รบกวนคนนั้นก็ดูเหมือนว่าจะนิสัยไม่ค่อยดี ผู้หญิงทำไมทำร้ายผู้หญิงด้วยกันล่ะ

ดังนั้นฉินเฟยก็จึงหลับตาลงอีกครั้ง เธอคิดว่าจะพยายามทำให้ตัวเองหลับให้ได้

เธอจะได้ไม่สร้างความลำบากให้แอร์สาว แต่แอร์สาวก็ยังไม่รับความรักจากเธอ เสียงอันอ่อนโยนนั้นยิ่งนานไปยิ่งดังกึกก้อง

“ผู้โดยสารท่านนี้ หากต้องการอ่านหนังสือพิมพ์ต้องการให้ฉันช่วยดึงโต๊ะออกให้มั๊ยคะ”

ฉินเฟยแอบพูดเหน็บหล่อนในใจ เขาไม่มีมือหรือยังไง โต๊ะเล็กแค่นี้ถึงได้ดึงออกเองไม่ได้

“ไม่ต้อง ผมอ่านแบบนี้สะดวกดีแล้ว”

พนักงานต้อนรับอยู่รบกวนเขามาเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว เขาก็ยังนิ่งเงียบไม่ส่งเสียงใดตลอด เหมือนดั่งภูเขาอันสงบนิ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาตอบออกมา เป็นเหมือนระเบิดที่ปาลงไปกลางทะเลสาบหัวใจที่น้ำกำลังจะเอ่อล้นของพนักงานเสิร์ฟสาว ดังนั้นนั่นทำให้แอร์สาวได้มีแรงใจ ยิ่งเอาเข้าไปใหญ่โดยไม่สนใจกฎเกณ์ใดๆ

ฉินเฟยต้องยอมรับว่าเสียงของชายคนนั้นเป็นเหมือนเสียงของผู้จัดรายการวิทยุกลางดึก เปี่ยมไปด้วยพลังตามธรรมชาติ ทั้งอ่อนนุ่มและทุ้มต่ำเหมือนกับลมโชยในฤดูหนาว

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะสามารถทนกับผู้หญิงที่คอยตอแยจนสุดติ่งคนนี้ได้ หล่อนหวังซะเหลือเกินที่จะเอาหน้าอกตัวเองไปซบกับชายหนุ่มคนนั้นให้ได้

ชายคนนั้นก็เหลือเกิน ไม่ชอบก็ไม่รู้จักปฏิเสธไปซะให้สิ้นเรื่อง ยิ่งทำพฤติกรรมเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้ดูเย่อหยิ่ง อาจจะเป็นเพราะว่าฮอร์โมนที่ส่งกลิ่นออกมาก็ได้ที่ทำให้ผู้หญิงคนนั้นไม่สามารถปฏิเสธได้

“คุณคะ กาแฟคุณหมดแล้ว ต้องการรับเพิ่มอีกมั๊ยคะ”

ขอร้องล่ะ เขาดื่มไปทั้งหมดสามแก้วแล้วมั๊ง ถ้าดื่มอีกคงจะได้ตาค้างตลอดการเดินทางแล้วล่ะ ฉินเฟยดึงผ้าห่มบนตัวขึ้น เหม่อมองออกไปที่ท้องฟ้า

“ไม่ต้องแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นคุณต้องการอะไรอีกมั๊ยคะ”

“ผมไม่ต้องการอะไรอีกแล้วครับ”

เสียงของชายหนุ่มแข็งกร้าวขึ้นเล็กน้อย แม้แต่ฉินเฟยเองก็ยังสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เย็นเยือกขึ้นรอบตัวเขาในทันที พวกผู้หญิงเหล่านั้นพากันเงียบกริบ ราวกับว่ารู้ตัวแล้ว แต่ก็ไม่อยากจะยอมแพ้กับก้อนเนื้อชิ้นงามก้อนนั้น

ฉินเฟยว่ามันเป็นประโยคที่เบามากนะ จะว่าไปแล้ว แอร์สาวพวกนี้น่าจะทำงานกันให้เป็นมืออาชีพหน่อย เครื่องบินทั้งลำมีแค่ผู้ชายคนนี้เพียงคนเดียวหรือยังไง พวกเขาเอาแต่คอยเฝ้าบริการชายคนนี้ ก็ต้องควรดูแลผู้โดยสารที่เหลืออีกทั้งลำให้ดีด้วยสิ

ฉินเฟยยกศีรษะขึ้น ถึงแม้ว่าผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่เหลือจะหลับกันไปหมดแล้ว ไม่มีใครสนใจตรงนี้ แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็ยังนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้โอเคมั๊ย

“คุณคะ ตอนนี้สายการบินเราเพิ่งจะเปิดตัวเมนูใหม่ชุดข้าวหน้าปลาไหล รสชาติดีถูกปากมาก ไม่ทราบว่าจะรับซักชุดมั้ยคะ”

ผู้หญิงพวกนี้จะไม่จบจริงๆใช่มั้ย!

ฉินเฟยขมวดคิ้ว มันสุดจะทนแล้วนะ

เธอเปิดผ้าห่มที่ห่มอยู่บนตัวออก และขยับนั่งตัวตรง จับจ้องไปยังนางผีร้ายนั่นอย่างพินิจพิจารณา ที่จริงก็สูงยาวเข่าดี หน้าตาก็สะสวย ผิวก็มีน้ำมีนวล ดูรวมๆแล้วใครเห็นก็ต้องหลงรัก ริมฝีปากสีชมพูดั่งดอกในฤดูใบไม้ผลิที่คนอยากจะเด็ดดม เย้ายวนมีเสน่ห์ น่าดึงดูดใจเป็นอย่างยิ่ง

ฉินเฟยคิดอยู่ในใจเงียบๆ ช่างงามนัก แม้แต่ผู้หญิงเองก็ยังอดใจไม่ได้ที่จะจ้องมองหล่อน ไม่ต้องพูดถึงผู้ชายเลย นั่นแสดงว่าสมาธิของชายคนนี้แน่วแน่มาก

ฉินเฟยไม่รอให้ชายคนนั้นเอ่ยปากพูด เธอเอนหัวลงซบบนไหล่ของชายคนนั้น มือก็สอดบุกรุกเข้าไปคล้องแขนของเขา เสียงเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและเสน่ห์หา “ที่รัก ฉันรู้ว่าคุณชอบทานปลา แต่ว่าหมอว่าช่วงนี้คุณห้ามทานก่อน อดใจไว้หน่อยนะคะ รอให้อาการบาดเจ็บของคุณหายก่อน ฉันลงมือเข้าครัวทำให้คุณทานเองนะ”

นอกจากเด็กนั่นที่แอบซ่อนอยู่ในใจแล้ว เธอไม่เคยทำตัวใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ชายคนไหนมาก่อน ใกล้กันระยะประชิดเขาย่อมรู้สิ่งที่เธอคิดการณ์เอาไว้ ใบหน้าอันหล่อเหลา คนตาโค้งยาว เป็นเหมือนร่มคันน้อยๆ เห็นเป็นเงาทอดลึกบนเปลือกตา โครงหน้าด้านข้างของเขาแสดงให้เห็นถึงส่วนโค้งอันมั่นคง เหมือนกับรูปแกะสลักโบราณของกรีก ริมฝีปากบางเป็นเส้นตรง ส่อให้เห็นถึงอารมณ์ของความหรูหราและความภาคภูมิใจอย่างชัดเจน

ทันใดนั้นปลายจมูกก็ได้กลิ่นมิ้นต์บางๆ ช่วยทำให้อารมณ์ของคนสงบลงได้

ฉินเฟยสูดหายใจเข้าลึกๆอย่างหื่นกระหาย รับความเย็นจากกลิ่นนั้นเข้าสู่ในใจ

ฉินเฟยหลงใหลกับกลิ่นนี้ราวกับเป็นผีเสื้อในดงดอกไม้ ความคิดเกิดขึ้นชั่วขณะ แต่ไหนแต่ไรมาเธอเป็นคนตรงไปตรงมา คิดเช่นไรก็ทำเช่นนั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชายคนนั้นจะร่วมมือกับเธอด้วยหรือไม่

เมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้ เธอจ้องมองเขาอย่างประหม่า ไม่แน่ใจว่าเขาจะโต้ตอบกลับมาอย่างไร

จะผลักเธอออกไป พูดคำที่น่าอับอายกับเธอ หรือว่าจะร่วมมือกับเธอแล้วแสดงฉากนี้ให้สมจริง

แน่นอนว่าไม่ต้องแสดงให้ดีอะไรมาก ฉินเฟยรู้สึกว่าตัวเองช่างไร้เดียงสา เธอก็แค่บอกกับแอร์โฮสเตสตรงๆว่าพวกหล่อนรบกวนการพักผ่อนของเธอแค่นี้ก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่หรือไง เมื่อไหร่ฉลาดเหมือนเธอ สมองก็จะสั่งให้ทำอะไรเพี้ยนๆหน่อย

ความหล่อเป็นเหตุแท้ๆ! ความหล่อเป็นเหตุ

แอร์สาวทั้งตกตะลึงและผิดหวังกันไปตามๆกัน พวกหล่อนไม่รู้หรอกในใจฉินเฟยกำลังกรีดร้องอยู่

“คุณเป็นแฟนเขา…” แอร์สาวยังคงทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ ในขณะที่สีหน้าก็กระอักกระอ่วนเป็นสีน้ำเงินเข้ม

หลังจากจบจากมหาวิทยาลัยเธอก็เลือกที่จะทำงานที่สายการบินก็เพื่อที่จะได้มีโอกาสพบปะกับสุภาพบุรุษจากสังคมชั้นสูง เธอจ้องผู้ชายคนนี้มาอยู่นานแล้ว แค่เดือนนี้ก็ปาเข้าไปเจ็ดแปดครั้งแล้วที่เขากลับมาเดินทางด้วยสายการบินนี้ นี่แสดงให้เห็นว่าชายผู้นี้อยู่ในสังคมชั้นสูง อีกอย่างรูปร่างหน้าตาก็หล่อไม่เบา เธอคุยโวโอ้อวดไว้ในหมู่เพื่อนฝูงแล้วว่าเธอจะต้องสอยผู้ชายคนนี้ให้ได้

แต่ว่าตอนนี้แฟนตัวจริงของเขาอยู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ เธอไม่อยากจะเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง แต่ว่ามันก็เป็นความจริง ผู้หญิงข้างๆเขาฟันสะอาดแววตาสดใส ใบหน้าเหมือนดอกเหมยที่คนชอบวาดกัน มีเพียงผู้หญิงเช่นนี้เท่านั้นที่คู่ควรกับผู้ชายในอุดมคติเช่นเขา

ชายคนนั้นหรี่ตาลงต้องมองอย่างอันตราย เขาหันหน้าไปจ้องฉินเฟย สายตาดุดันต้องกระพริบขึ้นเมื่อหันไปเห็นใบหน้าอันงดงามของเธอ

อย่างไม่ต้องสงสัย ผู้หญิงคนนี้ช่างสวดหมดจด

ข้างกายหลินโยว่หลินมีผู้หญิงมากมาย แต่เขาก็ไม่เคยเห็นว่าสวยเลยสักนิด แค่รู้สึกว่าพอใช้ได้ ก็แค่นั้นแหละ แน่นอนว่าที่ผ่านมาคุณชายหลินนั้นจัดได้ว่าเป็นเสื้อผู้หญิง หลายพันปีจะได้เจอหญิงงามสักครั้ง เหมือนกับสุดยอดนายแบบMACO ดาราภาพยนตร์หลินหยุ่นเฟย ที่ได้รับการยกย่องจากทุกผู้ทุกคนว่าเป็นความงามอันโดดเด่น ก็ยังไม่มีใครทำให้เขาพึงพอใจ

ดังนั้น ผู้หญิงที่จะสามารถทำให้หลินโยว่หลินรู้สึกว่าสวยได้นั้นต้องมีคุณลักษณะเช่นใดกัน

ฉินเฟยถูกหลินโยว่หลินจับจ้อง แรกๆเธอก็มองเขาอย่างไม่ค่อยเต็มใจ แต่สายตาเธอก็ค่อยๆสั่นไหว สายตาอันแหลมคนเหมือนเหยี่ยวของเขาเหมือนตะขอที่ล็อคความเจ็บปวดบนร่างกายเอาไว้อย่างแน่นหนา ทำให้เธอรู้สึกถึงแรงกดดันอันไม่อาจจะต้านทานได้

แต่เมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้ว เขาก็จ้องมองเธอโดยไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว แม้แต่คำพูดคำเดียวก็ไม่พูดออกมา

นี่มันอะไรกันเนี่ย!