เจ้าสาวฝึกหัด...ฟารินดา

406.0K · ยังไม่จบ
จาวฉายจิ้นเป่า
200
บท
109.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ฟารินดาแต่งงานแล้ว แต่เจ้าบ่าวกลับไม่เคยปรากฏตัวให้เห็นเลยสักครั้ง ภายใต้ความโกรธ เมื่อถึงคืนเข้าหอวันแต่งงาน เธอปล่อยตัวไปมีอะไรกับชายแปลกหน้า มอบครั้งแรกให้กับเขา ต่อมาผู้ชายคนนี้ก็เข้ามาพัวพันในชีวิตของเธออย่างไม่มีที่สิ้นสุด......

นิยายรักโรแมนติกแต่งงานก่อนรักประธานหมอ

บทที่ 1 ทำเรื่องที่ทรยศที่สุด

ฟารินดาแต่งงานแล้ว เจ้าบ่าวตั้งแต่แรกเริ่มจนจบไม่แม้แต่จะปรากฏตัว

ชุดเตียงนอนสีแดง ตัวอักษรซังฮี้มงคลที่อยู่บนกำแพง สีสะดุดตาราวกับว่าฟาดลงบนใบหน้าของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า

อัปยศอดสู!ไม่สบายใจ!?

แต่แล้วจะทำอย่างไรได้ล่ะ?

ตั้งแต่เกิดมา ชีวิตของเธอต่างก็ถูกกุมอยู่ในมือคนอื่น รวมถึงการแต่งงาน

แต่งเข้าตระกูลจุฑาเทววงษ์ ก็เป็นเพียงเพราะความโลภมากของบิดาของเธอ

คุณปู่ของเธอเคยเป็นคนขับรถของท่านพฤกษ์ ครั้งหนึ่งเกิดอุบัติเหตุขึ้น เพื่อช่วยชีวิตท่านพฤกษ์จึงเสียชีวิตแล้ว

ในตระกูลเปิดบริษัทเล็กๆ แบกภาระหนี้สินอันมหาศาล กำลังเผชิญหน้ากับการล้มละลาย พ่อที่ฉลาดหลักแหลมทราบว่าเมื่อเอ่ยปากต้องการเงินกับตระกูลจุฑาเทววงษ์ บุญคุณนี้ก็จะใช้หมดแล้ว จากนั้นเขาจึงคิดหาวิธีการการเอาเปรียบผู้อื่นแล้วตัวเองได้ผลประโยชน์อย่างหนึ่งออกมา ยื่นข้อเสนอขอให้นคินทร์หลานชายของท่านพฤกษ์แต่งงานกับเธอ

ด้วยความร่ำรวยของตระกูลจุฑาเทววงษ์เช่นนี้ สามารถให้สินสอดก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งได้อย่างแน่นอน

ทั้งยังสามารถเกี่ยวดองกับตระกูลจุฑาเทววงษ์ได้

ตระกูลจุฑาเทววงษ์เนื่องจากความมีหน้ามีตา ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้

การแต่งงานครั้งนี้ทำได้นคินทร์ไม่พอใจอย่างขีดสุด ดังนั้นในการแต่งงานของสองตระกูล ต่างไม่ปรากฏตัว พร้อมทั้งยื่นข้อเสนอออกมา ไม่ยินยอมให้เธอแสดงสถานะความเป็นภรรยาของเขาเมื่ออยู่ต่อหน้าคนข้างนอก

เรื่องราวทั้งหมด ไม่มีคนถามเธอว่ายินยอมหรือไม่ยินยอม

เธอทำได้เพียงเบิกดวงตาอันเป็นประกาย ขนตาอันงอลงามที่สั่นไหวเบาๆ แอบซ่อนความน้อยเนื้อต่ำใจเอาไว้

ในขณะที่เธอไม่รู้ว่าจะผ่านค่ำคืนการแต่งงานใหม่ในคืนแรกไปอย่างไร ได้รับข้อความจากเพื่อนร่วมงานแล้ว

ขอความช่วยเหลือให้เธอเข้าเวรแทน

เธอเรียกรถมาถึงโรงพยาบาล

ชุดแต่งงานสีแดง เปลี่ยนเป็นชุดเสื้อกาวน์สีขาวแล้ว

เสียงดังปังดังออกมา ประตูห้องประจำเวรถูกผลักออกอย่างแรงในทันใด

เธอพึ่งจะเงยหน้าขึ้นมา ได้ยินเพียงเสียงกริ๊ก ไฟในห้องก็ดับลงแล้ว

ฟารินดาตกใจเสียจนเหงื่อตกขนลุกขึ้นมา

“ใครกัน……”

คำพูดของเธอยังไม่ทันได้พูดออกมา ก็ถูกกดลงบนโต๊ะแล้ว เสียงดังเค้งค้างสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะต่างร่วงลงมา มีดอันเฉียบคมด้ามหนึ่งจ่ออยู่ที่คอของเธอแล้ว ข่มขู่ออกมาว่า “อย่าส่งเสียง!”

ภายใต้ความมืดสลัวเธอมองเห็นเพียงใบหน้าของผู้ชายคนนี้เต็มไปด้วยเลือดกับแววตาอันเย็นชาคู่หนึ่ง

ปลายจมูกได้กลิ่นคาวเลือดอันเข้มข้น เธอทราบผู้ชายคนนี้ได้รับบาดเจ็บแล้ว

เป็นไปได้ว่าเกี่ยวกับการงานอาชีพ ถูกฝึกมาเมื่อพบเจอปัญหาให้ใจเย็น

เธองอขาขึ้นเบาๆ ลองโจมตีจุดอ่อนของผู้ชาย ทว่าหลังจากนั้นเธอพึ่งจะขยับตัวผู้ชายก็รู้ตัว ออกแรงหนีบขาทั้งสองข้างที่อยู่ไม่นิ่งของเธอ

“ผมมองเห็นอย่างชัดเจนว่าเขาวิ่งมาทางนี้แล้ว”

เสียงก้าวเท้าเดินใกล้เข้ามาที่หน้าประตู

ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของพวกเขาก็จะเปิดประตูออกในเร็วๆนี้

ภายใต้สภาวะฉุกเฉิน ผู้ชายก้มลงจูบไปบนริมฝีปากของเธอ

ฟารินดาขัดขืน ผลักผู้ชายออกอย่างง่ายดาย เขาไม่ได้ใช้อาวุธที่อยู่ในมือทำร้ายตัวเธอ

เธอตะลึงงันไปแล้ว

แกร๊ก!

เวลานี้ลูกบิดถูกบิด

ฟารินดาหวั่นใจ เงยหน้าขึ้นมา เธอโอบลำคอของผู้ชายมาจูบ

น้ำเสียงของเธอสั่นเทา กลับแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง “ฉันสามารถช่วยคุณได้”

ลูกกระเดือกของผู้ชายเคลื่อนไหว วินาทีต่อมากลับกลายเป็นผู้ถูกกระทำเสีย ลมหายใจร้อนรดลงข้างใบหูของเธอ แหบพร่าทว่าเซ็กซี่ “ผมจะรับผิดชอบคุณอย่างแน่นอน”

ไม่ เขาเข้าใจผิดแล้ว เธอเพียงแค่แสร้งทำการแสดง

ในวินาทีที่ประตูถูกผลักออกนั้น

เธอเรียนรู้จากละครทีวีส่งเสียงครางออกมา ในเสียงนั้นของลมหายใจหอบแอบแฝงไปด้วยความออดอ้อนความมีเสน่ห์ ทำให้ชายหนุ่มเกิดความหลงใหลแล้ว

ยิ่งทำให้คนที่หน้าประตู ฟังเสียจนใจสั่นไหวขึ้นมา

“โอ้ว้าวกำลังเปิดศึก แอบมีความสัมพันธ์กันในโรงพยาบาล ช่างน่าหวาดเสียวเสียจริง”

ประตูห้องถูกเปิดออก แถบแสงขนาดกว้างส่องเข้ามา แสงไฟจากทางเดินส่องเข้ามาหนึ่งแถบ ส่องลงบนร่างกายของฟารินดา ร่างของชายหนุ่มกดอยู่บนร่างของเธอ ปิดกั้นการสอดแนมของผู้ชายที่หน้าประตูเอาไว้ ภายใต้แสงอันมืดสลัว มองเห็นเพียงร่างที่สอดประสานกันทำให้คนเลือดสูบฉีด

“ไม่มีทางเป็นนคินทร์อย่างแน่นอน เขาบาดเจ็บขนาดนั้น มอบสาวงามให้เขาก็ไม่ทางเพลิดเพลินได้”

“แม่สาวคนนี้ช่างครางเสียงดังเสียจริง”

“แม่งเอ๊ยรีบไป ไปหาคน ไม่อย่างนั้นพวกเราต่างต้องตาย!”

เสียงการเสียดสีเบาๆ เสียงการเดินค่อยๆไกลออกไป

ผู้ชายทราบคนกลุ่มนั้นไปแล้ว แต่เขาพบว่าตัวเองควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว ถูกผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้ทำให้หิวกระหายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เป็นไปได้ว่าบรรยากาศได้แล้ว หรือเป็นไปได้ว่าลักษณะท่าทางของทั้งสองอบอุ่นเกินไป ความทรยศที่อยู่ภายในใจของฟารินดาที่ไม่กล้าเผยออกมาในวินาทีนั้นระเบิดออกมาในทันใด

ถูกชีวิตซ้ายขวา ทำให้เธอใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความมืดมิด

เธอใช้วิธีการปล่อยตามใจไปขัดขืน!

ฟารินดาก็ไม่ได้ขัดขวางขืนมากเกินไป ปล่อยไปตามชายหนุ่ม ท่ามกลางความเจ็บปวดส่งมอบครั้งแรกของตัวเอง

……

เรื่องราวหลังจากนั้นชายหนุ่มจูบลงบนหน้าผากของเธอเบาๆ เสียงทุ้มที่เต็มไปด้วยความแหบพร่า “ผมจะมาหาคุณ” พูดจบก็ออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว

ฟารินดาเป็นเวลานานไม่ลุกขึ้น บริเวณเอวเสียดสีกับขอบโต๊ะ เจ็บปวดแสบร้อน

เวลานี้ถูกผลักมายังขอบโต๊ะ โทรศัพท์ที่ยังไม่หล่นลงไปดังขึ้นมา

เธอยื่นมือไปหยิบขึ้นมา เสียงอันรีบร้อนอย่างมากดังมาจากทางด้านโน้น “หมอนิสาแผนกฉุกเฉินทางด้านนี้มีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ บาดเจ็บอย่างสาหัสต้องการการช่วยชีวิต คุณรีบมา”

ฟารินดาปรับน้ำเสียง ตอบกลับไปอย่างสุขุม “ค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

วางโทรศัพท์ลง สติของเธอนิ่งไปสองสามวินาที เมื่อสักครู่……

เสื้อผ้าที่กระจัดกระจาย ร่างกายด้านล่างที่เหนียวเหนอะหนะ ต่างบอกกับเธอ เมื่อสักครู่ไม่ได้ฝันไป ทุกอย่างต่างเกิดขึ้นจริงแล้ว เธอในคืนวันแต่งงานใหม่กับผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่ง……

เธอที่เป็นภรรยาคนนี้ ทำเรื่องที่ทรยศที่สุดเรื่องหนึ่ง!

แต่ว่าไม่ใช่เวลาที่จะคิดเรื่องนี้ เธอรีบสวมเสื้อผ้าไปที่แผนกฉุกเฉิน

งานยุ่งอยู่ทั้งคืน

กลับมายังห้องประจำเวร ยังเป็นห้องที่เละเทะกระจัดกระจาย

เธอราวกับว่าเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน สองมือกำแน่นเล็กน้อย

“หมอฟาขอบคุณมากนะคะที่เข้าเวรแทนฉัน”นิสายิ้มแย้มเดินเข้ามา

ฟารินดาฝืนยิ้มออกมา “ไม่เป็นไรค่ะ”

“ธุระของฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ”นิสามองเห็นในห้องระเกะระกะไปหมด เลิกคิ้ว “นี่ทำไมถึงได้?”

ฟารินดาหันหน้ามา ปกปิดสายตาอันกระวนกระวายอันนั้นเอาไว้ “ฉันไม่ทันระวังจึงชนเข้า คุณมาแล้ว งั้นฉันกลับก่อนนะ”

นิสารู้สึกว่าเธอแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก เข้าห้องไปจัดเก็บสิ่งของที่หล่นอยู่บนพื้น

ทว่าหลังจากนั้นในเวลานี้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้พาครามผู้ช่วยของนคินทร์มาปรากฏตัวที่หน้าประตู