เจ้ารัตติกาลล่าคาวสวาท

36.0K · จบแล้ว
ไอริส
27
บท
45.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

‘วูฟร์’ บุรุษหนุ่มผู้มีเลือดผสม เขาเกิดมาพร้อมกับพันธุกรรมสวาทของมนุษย์หมาป่า แต่เขาไม่ต้องการพันธุกรรมบ้าๆ นี้ เพราะเขาต้องเริงรักกับผู้หญิงทุกค่ำคืน เพื่อไม่ให้มัจจุราชคร่าชีวิตของเขาไป.มีเพียงสิ่งเดียวที่จะรักษาชีวิตของวูฟร์ได้ คือเพลิงสวาทจากผู้หญิงที่รักเขาเท่านั้น!!!

นิยายรักโรแมนติกแวมไพร์โรแมนติก

บทที่ 1

เทือกเขาทรานซิลวาเนีย แอลป์ ประเทศโรมาเนีย เป็นผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นับล้านต้นๆ รวมทั้งสัตว์ป่าอีกนับร้อยชนิด อีกนับล้านตัวที่อาศัยอยู่ภายในผืนป่าของเทือกเขาแห่งนี้

และภายในผืนป่าเขียวขจี มีปราสาทหลังใหญ่กินพื้นที่นับสิบๆ ไร่ ซุกซ่อนตัวอยู่ภายในเทือกเขาทรานซิลวาเนีย

‘ปราสาทเดเนี่ยล’ เป็นปราสาทของคนในตระกูลเดเนี่ยล ซึ่งเป็นเผ่า

พันธุ์ของมนุษย์ที่เป็นครึ่งคน ครึ่งหมาป่า และด้วยเหตุนี้ บรรพบุรุษของตระกูลเดเนี่ยลจึงต้องหลบมาสร้างคฤหาสน์อยู่ภายในผืนป่าห่างไกลจากผู้คน

และตอนนี้คนที่ครอบครองปราสาทหลังใหญ่คือ ‘วูฟร์ เดเนี่ยล ที่เก้า’ บุรุษหนุ่มนัยน์ตาสีเขียวคมกริบ ดั่งดวงตาของหมาป่า สมกับที่ถูกบิดาตั้งชื่อให้ว่า ‘วูฟร์ (Wolf)’

การมาอาศัยอยู่กลางป่า ไร้บ้านเรือนอาศัยอยู่รอบข้าง หาได้ทำให้วูฟร์เดือดร้อนไม่ เพราะภายในปราสาทเดเนี่ยล มีทุกอย่างพร้อมสำหรับการอำ

นวยความสะดวก และสร้างความบันเทิงให้กับผู้เป็นเจ้าของปราสาท อีกทั้งวูฟร์ไม่จำเป็นต้องออกไปทำงานที่ไหนด้วย เพราะมีทรัพย์สมบัติตกทอดจากบรรพบุรุษ ซึ่งมีจำนวนมหาศาลหลายหมื่นล้านให้วูฟร์ใช้จ่ายอีกสิบชาติก็ไม่มีวันหมด

แม้จะมีทุกอย่างเพียบพร้อม แต่! วูฟร์ ก็สบกับปัญหาใหญ่ นั่นคือการได้รับมรดกทางพันธุ์กรรมสวาทของการเป็นมนุษย์หมาป่า ซึ่งเป็นมรดกที่เขาไม่ต้องการแม้แต่นิดเดียว เพราะเขาต้องระเริงรักกับผู้หญิงทุกคืน เพื่อรักษาชีวิตของตนเองไว้ และเพื่อไล่มัจจุราชที่เตรียมคร่าชีวิตของเขากลับลงนรกไปด้วย

โครม!

เพล้ง!

“บัดซบ! ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย”

ร่างใหญ่กำยำของผู้เป็นเจ้าของปราสาท อาละวาดเพราะอารมณ์โกรธจัด ทุกอย่างที่อยู่ขวางหน้า ถูกทำลายเรียบไม่ต่างจากถูกพายุทอร์นาโดลูกใหญ่พัดผ่าน

“นายท่าน หยุดเถอะครับ”

กาเบียล คนรับใช้ซึ่งอยู่ดูแลวูฟร์ตั้งแต่เล็ก รีบเข้าไปห้ามเจ้านายหนุ่ม ซึ่งยังอาละวาดไม่เลิก

“ทำไม กาเบียล ทำไมต้องให้ข้ารับมรดกบ้าๆ นี้ด้วย ข้าไม่ต้องการมัน ได้ยินไหม”

เพล้ง!

อีกครั้งที่เครื่องตกแต่งปราสาทซึ่งอยู่ใกล้มือใหญ่ ถูกวูฟร์จับทุ่มลงกับพื้นตามอารมณ์โกรธของเขา

“นายท่าน หยุดได้แล้วครับ นายท่านมีเลือดออกแล้วนะครับ”

กาเบียลตะโกนบอก เมื่อเห็นเลือดสดๆ แดงฉานไหลออกมาจากจมูกและปากของเจ้านายหนุ่ม

“ช่างมัน ปล่อยให้เลือดออกมาให้หมด ข้าจะได้ตายสักที”

วูฟร์ไม่สนใจเช็ดเลือดออก ยังคงปล่อยให้เลือดไหลอยู่เช่นนั้น อีกทั้งยังไม่สนใจอาการอ่อนแรงของตนเอง ซึ่งเริ่มลดน้อยถอยลง จนกระทั่งร่างใหญ่กำยำ ค่อยๆ ทรุดลงไปนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น

“นายท่าน!”

กาเบียลตะโกนเสียงดังเข้าไปประคองร่างใหญ่กำยำ เพราะอาการเสียเลือด และเพราะพิษจากพันธุกรรมสวาท ที่ได้รับจากบรรพบุรุษเริ่มเล่นงานแผ่ซ่านไปทั่วทุกเส้นเลือดแล้ว

“ใครที่อยู่ข้างนอก เข้ามาช่วยประคองนายท่านเดี๋ยวนี้”

กาเบียลตะโกนเรียกเด็กรับใช้เสียงร้อนรน หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดคราบเลือดให้เจ้านายไปด้วย

“กาเบียล...ปล่อย...ปล่อยข้าไว้ที่นี่...”

วูฟร์ขอร้องเสียงแผ่วเบาแทบไม่พ้นลำคอ ยันมือทั้งสองกับพื้นหินอ่อน ขบกรามเข้าหากันแน่น ใบหน้าหล่อเหลาขาวซีด ทว่ากลับบูดเบี้ยว เพราะกำลังต่อสู้กับดำฤษณา ที่ก่อตัวเป็นลูกใหญ่อยู่ภายในร่างกาย

“ไม่ได้ครับนายท่าน ผมปล่อยให้นายท่านเป็นแบบนี้ไม่ได้”

กาเบียลค้านเสียงแข็ง พอเหลือบสายตาเห็นเด็กรับใช้สองคน ซึ่งล้วนเป็นผู้ชายทั้งสิ้นวิ่งตรงมาหา ก็ออกคำสั่งรัวเร็ว

“รีบประคองนายท่านไปที่ห้องนอนเดี๋ยวนี้”

“ครับๆ คุณกาเบียล”

“ไม่ต้อง!”

วูฟร์พยายามตะโกนสั่ง ยกมือปัดเด็กรับใช้ให้ถอยห่าง แต่เพราะถูกคลื่นเปลวไฟสวาทแล่นงานทั่วเรือนกาย ต้องการการปลดปล่อยด้วยการไคลแมกซ์อยู่ในเนินเนื้อสาว จนกายแทบระเบิด ชายหนุ่มจึงไม่มีแรงต่อต้านเด็กรับใช้ ที่เข้ามาหิ้วปีกเขาคนละข้าง แล้วพาตรงไปยังห้องนอนใหญ่

“เอาผ้าขนหนูชุบน้ำมาข้า”

กาเบียลสั่งเด็กรับใช้ หลังจากช่วยกันประคองเจ้านายหนุ่มมานอนแผ่หลาอยู่บนเตียงใหญ่ได้แล้ว พอเด็กรับใช้คนแรกทำตามคำสั่งแล้ว กาเบียลก็หันไปสั่งเด็กรับใช้อีกคน

“พาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาหานายท่านเดี๋ยวนี้”