เจ้าบ่าวลงทัณฑ์ ชุด เจ้าบ่าวที่รัก

119.0K · จบแล้ว
เนื้อนวล/baiboau
58
บท
31.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เมื่อโชคชะตาเล่นตลก เธอจึงหล่นตุบลงในอุ้งมือของเขา เขา... อภิมหาเศรษฐีสุดเซ็กซี่ ผู้ที่ซ่อนไฟแค้นเอาไว้ในกายอย่างมหาศาล เธอ... สาวสู้ชีวิตที่ต้องปากกัดตีนถีบทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดของตัวเองและมารดา พันเนตร แบนเดอราส ต้องยกมือกุมขยับเมื่อจู่ๆ หลานสาวเพียงคนเดียวที่เข้าใจว่าประพฤติตัวดีมาตลอดเกิดตั้งท้องขึ้นมาในวัยเรียน เขาจำเป็นต้องหาวิธีแก้ไขอย่างเร่งด่วน และตามล่าหาตัวต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดมาลงโทษให้จงได้ แต่พอได้พบหน้าสาวใจแตกที่หลานสาวชี้นิ้วบอกว่านี่แหละคือตัวการ เขาก็ถึงกับพูดไม่ออกเพราะผู้หญิงคนนี้คือคนเดียวกันกับแม่ไก่หลงในค่ำคืนนั้น แพรไหม ปรีชาโชค เพราะถูกบีบจนไม่เหลือทางออก แม้แต่ผู้หญิงที่รักศักดิ์ศรีเช่นหล่อนก็จำต้องก้มหน้ายอมแพ้ ตอบรับข้อเสนอที่แสนเอาเปรียบจากเพื่อนร้ายรวมห้อง โกหกรับสมอ้างในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ จนชีวิตที่ยับเยินอยู่แล้วต้องพังพินาศมากยิ่งขึ้น ในอุ้งมือมาร...

นิยายรักนิยายปัจจุบันรักหวานๆดราม่ารักแรกพบเศรษฐีโรงแรม/มหาลัยโรแมนติก

ตอนที่ 1

สภาพทางเท้าที่เต็มไปด้วยร้านค้าแผงลอยคึกคักไม่น้อยในยามเย็นย่ำแบบนี้ พนักงานออฟฟิศ รวมไปถึงผู้ใช้แรงงานที่หาเช้ากินค่ำต่างมุ่งหน้าพากันมาจับจ่ายซื้อหาสิ่งที่ตัวเองต้องการกันแน่นถนัด อาจจะเป็นเพราะราคาสินค้าที่ค่อนข้างจะถูกกว่าที่อื่นก็เป็นได้

“ลูกชิ้นได้แล้วค่ะ”

แพรไหมที่ยังคงอยู่ในชุดนักศึกษาส่งถุงลูกชิ้นที่ราดน้ำจิ้มแล้วพร้อมกับถุงใส่ผักที่ประกอบไปด้วยแตงกวาและกะหล่ำปลีหั่นให้กับลูกค้า

“ขอบคุณมากค่ะ อย่าลืมมาอุดหนุนอีกนะคะ”

หญิงสาวรับเงินจากลูกค้ามาใส่ตะกร้าไม้ไผ่ใบเก่าๆ บนรถเข็น ก่อนจะหันไปสนใจลูกค้าอีกสองสามคนซึ่งกำลังเลือกลูกชิ้นที่เสียบไม้เอาไว้แล้วในตู้กระจกตรงหน้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส หล่อนไม่เคยบ่น ไม่เคยรังเกียจกับภาระหน้าที่นี้เลย ตรงกันข้าม หล่อนกลับดีใจเสียอีกเพราะได้ช่วยเหลือแม่แบบนี้

“ไม้นั้นสิบบาทค่ะ อร่อยมากเลยนะคะ กินแล้วจะติดใจ”

ลูกค้าสาวร่างท้วมยิ้มกว้างมองแพรไหมอย่างถูกชะตา พลางหันไปคุยกับแม่ของหล่อนที่ยืนทอดลูกชิ้นอยู่ใกล้ๆ ด้วยความชื่นชม

“น้าโชคดีจังเลยมีลูกสาวขยันขันแข็ง แถมยังสวยอีกด้วย”

ภูษา ปรีชาโชค รีบหันมายิ้มกับลูกค้าที่ชวนคุย พลางเหลือบมองหน้าบุตรสาวด้วยความภาคภูมิใจเป็นที่สุด

“ขอบคุณจ้ะ ก็ได้ไหมมันนี่แหละ ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้จะมีเงินพอจ่ายค่าเช่าบ้านในแต่ละเดือนหรือเปล่า”

ลูกค้าสาวหันไปมองแพรไหมพลางเอ่ยปากชวน

“หน้าตาสะสวยแบบนี้ อยากทำงานในวงการหรือเปล่า พี่รู้จักโมเดลลิ่งอยู่บ้าง เอาไว้ถ้าเขามีงานพี่จะแวะมาบอกนะ”

แพรไหมยิ้มกว้างด้วยความดีใจ รีบยกมือขึ้นไหว้

“ขอบคุณมากค่ะพี่คนสวย ไหมทำได้ทุกอย่างนะคะ ขอแค่ให้ได้เงินก็พอ”

“ขยันๆ แบบนี้ ชีวิตไม่มีลำบากหรอกเชื่อพี่สิ”

แพรไหมยังคงมีรอยยิ้มเกลื่อนใบหน้า ในใจลิงโลดด้วยความยินดีเมื่อได้ยินว่าอาจจะมีคนหยิบยื่นงานมาให้อีก หล่อนต้องทำงาน ทำงานให้มากกว่านี้ เพื่อที่แม่จะได้มีความสุข แม่ของหล่อนจะได้มีรอยยิ้มเหมือนกับคนอื่นเสียที

“เสร็จแล้วค่ะ สี่สิบบาทค่ะ”

ถุงลูกชิ้นพร้อมกับผักแกล้มถูกส่งไปให้กับลูกค้าตรงหน้า ก่อนจะรับธนบัตรใบละหนึ่งร้อยบาทมา แพรไหมกำลังจะหยิบเงินทอนแต่ได้รับคำปฏิเสธเสียก่อน

“ถือว่าพี่ให้ก็แล้วกัน”

“ไม่ได้หรอกค่ะพี่คนสวย ไหมค้าขาย ไม่อยากเอาเปรียบลูกค้าน่ะค่ะ”

แล้วแพรไหมก็หยิบเงินทอนส่งให้ลูกค้าจนได้ ลูกค้าคนนั้นยิ้มให้หล่อนอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป แพรไหมระบายยิ้มบางๆ ให้กับตัวเอง ก่อนจะให้บริการลูกค้าท่านอื่นต่อไป จนลูกค้าซาแล้วนั่นแหละหล่อนถึงได้หันมาพูดคุยกับแม่ถึงเรื่องโมเดลลิ่ง

“แม่จ๋า แม่คิดว่าพี่คนนั้นเขาพูดจริงหรือเปล่าจ๊ะ”

ภูษาที่กำลังเสียบลูกชิ้นใส่ไม้เพิ่มเพราะในตู้กระจกร่อยหรอใกล้หมดแล้ว ซึ่งมันก็เป็นแบบนี้ประจำนั้นแหละ หากวันไหนมีแพรไหมมาช่วยขาย ลูกสาวของหล่อนยิ้มเก่ง ขยัน และรู้จักวิธีการขายเป็นอย่างดี แถมหน้าตาก็น่ารักน่าเอ็นดู ลูกค้าส่วนใหญ่ถึงได้แวะเวียนมาซื้อซ้ำเสมอ

“แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่รู้ๆ คือแม่ไม่อยากให้ไหมไปน่ะ แม่ว่ามันอันตราย”

“อันตราย?”

แพรไหมมองหน้ามารดาอย่างแคลงใจ

“แม่เคยได้ยินมาว่าพวกนี้มันต้มตุ๋นกันบ่อย แม่ไม่อยากให้ไหมถูกหลอก และที่สำคัญแค่นี้ไหมก็มีงานล้นมืออยู่แล้วไม่ใช่เหรอ แม่ไม่อยากให้ไหมเหนื่อยเกินไป”

แพรไหมยิ้มกว้าง ขยับเข้ามาใกล้แม่ มองท่านด้วยความรัก

“ไหมไม่เหนื่อยหรอกนะแม่ ไหมยินดีทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงิน...”

สาวสวยผิวขาวสะอาดที่สองแก้มมีลักยิ้มชวนมองคว้ามือแห้งกร้านของบุพการีขึ้นมากุมเอาไว้ พลางบีบแผ่วเบา

“แม่จ๋า... ไหมอยากเห็นแม่สบายนะจ๊ะ”

ดวงตาของภูษารื้นไปด้วยหยาดน้ำตา แต่ก็พยายามไม่หลั่งรินมันออกมา

“แค่นี้แม่ก็สบายมากแล้วล่ะไหม แม่อยากให้ไหมได้พักผ่อนบ้าง อยากให้ไหมได้มีโอกาสใช้ชีวิตเหมือนเพื่อนๆ ในมหา’ลัยบ้าง”

“ถ้าไหมเหนื่อย ถ้าไหมไม่ไหว ไหมจะพักนะจ๊ะ”

“สัญญากับแม่นะ”

“จ้ะ”

แพรไหมยิ้มทั้งน้ำตา มองมารดาด้วยความรักเทิดทูน ตั้งแต่จำความได้ก็มีแต่สองมือของผู้หญิงคนนี้นี่แหละที่คอยอุ้มชูฟูมฟักหล่อนให้เติบใหญ่ขึ้นมา คำว่าพ่อไม่เคยมีอยู่ในหัวของหล่อนแม้แต่วินาทีเดียว ถึงแม้ว่าบางครั้งจะสงสัยว่าพ่อเป็นใคร แต่หยาดน้ำตาของแม่ยามที่ถูกหล่อนถามถึงพ่อก็ทำให้หล่อนไม่ต้องการจะรับรู้ถึงผู้ชายใจร้ายคนนั้นอีก ผู้ชายคนนั้นจะเป็นใครก็ช่าง ขอแค่ในชีวิตนี้มีแม่อยู่ข้างๆ ก็เพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ

“ไหมรักแม่มากนะ”

“แม่ก็รักไหม” ภูษาก้มหน้าเสียบลูกชิ้นใส่ไม้ต่อ หยาดน้ำตาไหลพรากอาบแก้ม นี่ถ้าหล่อนไม่ใจง่าย และเชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดามารดา แพรไหมก็คงจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ไม่ต้องมาลำบาก รับจ้างทำงานทุกอย่าง เหนื่อยสายตัวแทบขาดเช่นนี้

หล่อนมันเลวเหลือเกิน...

“ซื้อลูกชิ้นค่ะ”

ลูกค้าเดินเข้ามาอีกแล้ว และนั่นก็ทำให้แพรไหมต้องรีบหันไปต้อนรับแทน ภูษาเองก็รีบป้ายน้ำตาทิ้ง เตรียมพร้อมกับลูกชิ้นที่ลูกค้าเลือกมาใส่หม้อทอด

“พี่ไม่ลองฮอทดอกรมควันเหรอคะ อร่อยนะคะ ไหมกินแล้วยังติดใจเลย ต้องแอบหยิบมากินบ่อยๆ”

“จริงเหรอ งั้นพี่ลองดูสักไม้ก็ได้”

“จริงค่ะ ไหมไม่โกหกหรอกค่ะ”

ลูกค้ารีบหยิบฮอทดอกรมควันที่แพรไหมแนะนำมาใส่จาน ก่อนจะส่งให้กับภูษาเพื่อลงทอดในหม้อร้อนๆ ที่ติดไฟรออยู่ก่อนหน้าแล้ว

“ไหมเห็นพี่เดินผ่านทุกวันเลย ดีใจที่วันนี้แวะเข้ามาซื้อค่ะ”

“พี่กำลังควบคุมน้ำหนักน่ะ แต่วันนี้หิวมากอดใจไม่ไหว ก็เลยตบะแตก”

แพรไหมคุยกับลูกค้าอย่างเป็นกันเอง จนลูกค้าหิ้วถุงลูกชิ้นเดินจากไปแล้วนั่นแหละถึงหันกลับมาหามารดาอีกครั้ง

“แม่เหนื่อยหรือยังจ๊ะ กลับไปก่อนได้นะ เดี๋ยวไหมเก็บร้านแล้วจะรีบตามกลับไปจ้ะ”

“แม่ยังไม่เหนื่อยหรอก เดี๋ยวรอกลับพร้อมไหมนั่นแหละ”

“แต่แม่ทำงานมาทั้งวันแล้วนะจ๊ะ ไหมเป็นห่วง”

ภูษามองลูกสาวอย่างซึ้งใจ

“แล้วไหมล่ะ ไม่เหนื่อยหรือไงลูก ตีสี่ก็ตื่นไปซื้อของให้แม่ เช้าก็รีบไปเรียน แถมเย็นๆ ยังต้องมาช่วยแม่ขายลูกชิ้นอีก”

“ไหมไม่เหนื่อยหรอกแม่ แค่ได้ทำเพื่อแม่ไหมก็ดีใจแล้ว”

สองแม่ลูกมองหน้ากันด้วยความรักความอาทรที่มีให้กัน ภูษาน้ำตาไหลออกมา ก่อนจะรีบยกหลังมือขึ้นป้ายหยาดน้ำตาทิ้ง

“งั้นวันนี้เราเก็บร้านกันเถอะ ขายเกือบหมดแล้วนี่”

“แต่ไหมว่ารออีกนิดก็ได้นะจ๊ะ พึ่งสามทุ่มครึ่งเอง”

นาฬิกาเรือนเล็กๆ บนข้อมือกลมกลึงถูกยกขึ้นมาจ้อง

“พรุ่งนี้ไหมมีเรียนแต่เช้า แม่ไม่อยากให้ไหมไปหลับในห้องเรียน”

“ถึงกลับไปไหมก็ยังนอนไม่ได้อยู่ดีจ๊ะ ไหมต้องทำรายงานให้เพื่อนด้วย”

ภูษาผ่อนลมหายใจออกมาจากริมฝีปากแผ่วเบา มองบุตรสาวอย่างสงสารจับหัวใจ ตั้งแต่แพรไหมเกิดมาไม่มีวินาทีไหนเลยที่ลูกสาวของหล่อนจะอยู่นิ่งเฉย งานทุกอย่างที่ทำแล้วได้เงินแพรไหมรับหมด ต่อให้เหนื่อยแค่ไหนแพรไหมก็ทำ จนบางครั้งหล่อนต้องแอบร้องไห้เพราะสงสารลูกสาว

“เพื่อนคนเดิมอีกล่ะสิ ทำไมไหมไม่บอกให้เค้าทำเองล่ะ”

แพรไหมอมยิ้มพลางอธิบาย

“เค้าเป็นคนรวยน่ะแม่ เค้าแค่มาเรียนตามคำสั่งของที่บ้าน ไม่ได้อยากจะเรียนเหมือนไหมหรอก ดังนั้นเค้าก็เลยใช้เงินที่มีมาจ้างให้ไหมทำรายงานให้ แต่มันก็ดีนะแม่ ไหมได้ทั้งเงินค่าจ้างแถมยังได้ทบทวนบทเรียนไปในตัวอีกด้วย”

แพรไหมพูดถึง พรวดี แบนเดอราส นักศึกษาสาวไฮโซที่อยู่ห้องเดียวกับตัวเอง

“แต่ไหมจะเหนื่อยเกินไปนะลูก”

“ก็บอกแล้วไงคะแม่ ถ้าไหมเหนื่อย ไหมจะบอกแม่”

หญิงสาวยิ้มกว้างพลางชะเง้อมองหาลูกค้า ก่อนจะพบว่าผู้คนเริ่มบางตาลงแล้ว ดังนั้นจึงทำตามที่มารดาบอกดีกว่า

“งั้นเก็บร้านเลยนะจ๊ะแม่ ลูกค้าไม่น่าจะมีแล้ว”

“แม่ก็บอกแล้วนี่”

สองแม่ลูกช่วยกันจัดการงานตรงหน้าด้วยความเคยชิน ใช้เวลาไม่นานนักก็สามารถเข็นรถเข็นคู่กายมุ่งหน้ากลับห้องเช่าได้สำเร็จ

“แม่จ๊ะ พรุ่งนี้ตอนเย็น ไหมคงไม่ได้มาช่วยแม่ขายลูกชิ้นนะจ๊ะ”

แพรไหมบอกมารดาระหว่างทางเดินกลับห้องเช่า

“ไปทำงานอีกล่ะสิ อย่ากลับมืดค่ำนักนะไหม”

คนฟังอมยิ้มพลางแกล้งหยอกมารดา

“ไหมเคยกลับก่อนสี่ทุ่มที่ไหนกันคะแม่”

“ดูพูดเข้าสิไหม”

“ไหมล้อเล่นน่ะค่ะ เอาเป็นว่างานเสร็จเมื่อไหร่ ไหมจะรีบกลับทันทีเลยนะคะ แต่ถ้าเลิกเร็วก่อนที่แม่จะกลับห้อง ไหมจะแวะไปหาแม่ที่ตลาดก่อนดีไหมจ๊ะ”

“ตามใจไหมเถอะ แต่ต้องสัญญากับแม่นะว่าจะระวังตัว”

“ไหมสัญญาจ๊ะ”

ภูษาลอบถอนใจออกมา และก็อดที่จะแอบมองลูกสาวด้วยความสงสารไม่ได้ แพรไหมลำบากเหลือเกิน ลำบากเพราะมีแม่อย่างหล่อน