เจ้าบ่าวกรรมกร ชุด เจ้าบ่าวที่รัก

108.0K · จบแล้ว
เนื้อนวล/baiboau
56
บท
47.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เขาคือ CEO หนุ่มผู้เพียบพร้อม ผู้แบกความหวังของบิดาเอาไว้เต็มบ่า เธอคือสาวห้าวแห่งเนินมะปรางที่ไม่มีใครกล้าแหยม ราเชนทร์ จำต้องสวมบทเป็นกรรมกรไร่ส้มเพื่อมาดูตัวว่าที่เจ้าสาว แต่ผู้หญิงคนแรกที่เขาพบบนแผ่นดินเนินมะปรางดันเป็นแม่สไบนางม้าพยศผู้มีศักดิ์เป็นว่าที่พี่สะใภ้ สงครามน้ำลายจึงปะทุขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ สไบนาง สาวห้าวบัณฑิตจากรั้วจามจุรีที่ผันตัวเองมาสานต่อความฝันของผู้เป็นตาด้วยการสวมบทบาทสาวไร่ส้มแบบเต็มตัว ทั้งแผ่นดินเนินมะปรางต่างรู้กิตติศัพท์ของหล่อนดีว่าห้าวมะพร้าวเผาแค่ไหน แต่ให้ตายเถอะ จู่ๆ นรกก็ส่งให้กรรมกรหน้าตุ๊ดขาวปากแดงมาปะฉะดะด้วย แล้วคิดเหรอว่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งเนินมะปรางจะยอมง่ายๆ หล่อนพาสมุนบุกหาถึงที่ คิดว่าจะชนะเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา แต่กลับพลาดท่าถูกปล้นจูบเสียจนปากบวมเจ่อ ต้องร้องไห้หนีกลับบ้านแทบไม่ทัน “ไม่ต้องมาเป็นห่วง ฉันสบายดี ขอบใจที่ทำให้ฉันรู้ว่าผู้ชายอย่างนายมันก็มีดีแค่ใช้กำลังกับผู้หญิงเท่านั้นแหละ” แทนที่ราเชนทร์จะสะทกสะท้านเขากลับหัวเราะร่วน “แต่จากประสบการณ์เมื่อครู่นี้ ผมไม่ได้ใช้กำลังเลยนะครับ ที่ใช้ก็มีแค่ปากตอนดูดยอดอกของคุณ และก็ลิ้นตอนตวัดเลียเท่านั้นเอง” “ไอ้บ้า!” “แต่คุณก็ชอบนี่ครับ เห็นทึ้งหัวผมใหญ่เลย ให้ดูดแรงๆ” “ไอ้คนลามก! ไอ้...” หญิงสาวทั้งโกรธทั้งอายจนขาดสติ ปรี่จะเข้าไปทุบตีอีกครั้ง แต่ราเชนทร์ขู่เอาไว้เสียก่อน “ถ้าแตะผมอีก ผมจะเอาไอ้นี่...” มือใหญ่ลดลงไปกุมที่เป้ากางเกง “ใส่เข้าไปในตัวของคุณ และผมทำแน่ถ้าคุณยังไม่หยุดบ้า” คนถูกขู่ชะงักกึกเบิกตาค้าง ก่อนจะรีบถอยหลังหนีด้วยความตกใจ “ไอ้คนบ้า นาย... นายมันคนโรคจิต!!!”

ประธานพันล้านนิยายปัจจุบันดราม่าประธานพันล้านหนีแต่งงานรักแรกพบเศรษฐีโรแมนติก

ตอนที่ 1

อำเภอเล็กๆ ในจังหวัดพิษณุโลกเป็นแหล่งปลูกส้มเขียวหวานขนาดใหญ่ของประเทศ แถมพื้นที่ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดก็เป็นที่ราบเชิงเขาทำให้เหมาะแก่การเพาะปลูกผลไม้ยืนต้นหลากหลายชนิดอีกด้วย แต่ที่ผู้ใหญ่สุนทรแห่งเนินมะปรางเลือกที่จะลงทุนด้วยน้ำพักน้ำแรงและน้ำเงินก็คือส้มเขียวหวานนั่นเอง

ผู้ใหญ่สุนทร ปรีชาโชคใช้เนื้อที่กว่า 10 ไร่ในการทำอาชีพเกษตรกรมาตลอดทั้งชีวิตตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายจนสืบทอดมาถึงตัวเอง วันนี้แม้เศรษฐกิจจะไม่ดีนัก น้ำท่าก็แห้งแล้งมากกว่าทุกปี แต่ผู้ใหญ่สุนทรก็พร้อมที่จะฝ่าฝันอุปสรรคมากมายนี้ไปอย่างทระนง โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงดั่งคำสอนของพ่อหลวงไทย

“ผู้ใหญ่ เกิดเรื่องแล้ว”

เสียงเรียกตะโกนดังลั่นของลูกน้องที่ชื่อไอ้เข้มทำให้ร่างบึกบึนในชุดเสื้อแขนยาวกางเกงพร้อมลุยงานในสวนส้มต้องสะดุ้ง และหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้าด้วยความแคลงใจ

“มีอะไรวะไอ้เข้ม”

คนที่วิ่งกระหืดกระหอบมาย่อตัวลง เอามือจับที่ต้นขา แสดงอาการลิ้นห้อยด้วยความเหนื่อย และนั่นก็ทำให้ผู้ใหญ่สุนทรต้องถามซ้ำด้วยเสียงตะคอกที่ดังกว่าเดิม

“มีอะไรวะ”

“ภูษา...”

“ภู... นังภูษาทำไม” ชื่อของลูกสาวแฝดพี่ทำให้ผู้ใหญ่สุนทรถึงกับตกใจจนหน้าซีด “บอกมาไอ้เข้ม นังภูษามันก่อเรื่องอะไรอีก”

“ภูษาหนีตามผู้ชายไปแล้วครับผู้ใหญ่”

“ว่าไงนะ?!”

“ภูษาหนีตามไอ้หนุ่มเมืองกรุงไปแล้วครับ” ไอ้เข้มย้ำอีกครั้งอย่างชัดถ้อยชัดคำ

ผู้เป็นพ่อแทบล้มทั้งยืน ความตกใจมีมากพอๆ กับความอับอายขายหน้า ผู้ใหญ่สุนทรโกรธหน้าดำหน้าแดง มือกำเป็นหมัดด้วยความคลั่งแค้น

“นังลูกไม่รักดี”

“ผู้ใหญ่จะให้พวกเราออกไปตามไหมครับ”

“ไม่ต้อง!” ผู้ใหญ่สุนทรตาแดงก่ำด้วยโทสะ “ถ้ามันไม่รักดี มันคิดว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นดีกว่าพ่อดีกว่าแม่ก็ปล่อยมันไป”

“แต่...”

“และต่อจากนี้ไป ข้าไม่มีลูกที่ชื่อนังภูษาอีก จำเอาไว้!”

พูดจบผู้ใหญ่สุนทรก็ย่ำเท้าตรงไปยังรถและรีบขับกลับบ้านไปอย่างรวดเร็ว

“ผู้ใหญ่... รอเข้มด้วยสิครับ ผู้ใหญ่”

ไอ้เข้มร้องเรียกแต่รถกระบะสี่ประตูของผู้ใหญ่สุนทรขับผ่านไปเสียแล้ว มันก็ได้แค่เกาศีรษะแล้วรีบวิ่งกลับไปด้วยเท้าของตัวเองอย่างไม่มีทางเลือก

ไม่ถึง 5 นาทีผู้ใหญ่สุนทรก็มาถึงบ้านของตัวเอง เขารีบกระโดดลงจากรถตรงเข้าไปภายในตัวบ้าน สุดาผู้เป็นภรรยาที่กำลังร้องไห้น้ำตาท่วมหน้าวิ่งเข้ามาหา ก่อนที่วัตถาลูกสาวแฝดน้องที่ร้องไห้อยู่เช่นกันจะตามเข้ามาสมทบ

“พี่สุน ภูษามันหนีไปแล้ว”

แม้จะเจ็บปวดแต่ผู้ใหญ่สุนทรก็ต้องใจแข็ง

“ช่างมัน อย่าไปสนใจมัน ต่อจากนี้ไปข้าไม่มีลูกสาวที่ชื่อภูษาอีก”

“แต่พี่สุน...” สุดาสะอึกสะอื้นวิงวอน สุนทรตวัดสายตาแดงก่ำมามอง “ห้ามใครในบ้านนี้เอ่ยชื่อนังลูกไม่รักดีให้ข้าได้ยินอีก ไม่อย่างนั้นข้าจะไม่เลี้ยงให้เสียข้าวสุกอีก จำเอาไว้!”

วัตถาเดินเข้ามากอดมารดาที่เอาแต่ร่ำไห้ หล่อนไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าแฝดพี่อย่างภูษาจะคิดสั้นๆ ทำเรื่องแบบนี้

“เลิกร้องไห้ได้แล้วแม่สุดา ในเมื่อมันเลือกผู้ชาย ก็ให้มันไปเสวยสุขกันให้พอ พวกเราไม่มีมันก็อยู่กันได้ เลิกร้องไห้ ได้ยินไหม เลิกร้องไห้ได้แล้ว”

คนตวาดตะเบ็งเสียงดังกึกก้อง ก่อนจะรีบเดินขึ้นบันไดหนีไป แต่ใครจะรู้ล่ะว่าเบื้องหลังใบหน้าของผู้ใหญ่สุนทรที่ไม่มีคนเห็นนั้นฉ่ำไปด้วยคราบน้ำตา

“แม่จ๋า พ่อโกรธพี่ภูษามากเลย แล้วเราจะทำยังไงกันดีจ๊ะ”

“แม่... แม่...”

สุดาส่ายหน้าน้ำตาอาบแก้ม ร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ ไม่ช้าหัวอกคนเป็นแม่ก็ทานทนต่อความสูญเสียไม่ได้อีก ร่างของสุดาจึงล้มพับไร้สติลงไปในที่สุด

“แม่... แม่เป็นล้ม พ่อจ๋า ช่วยแม่ด้วยจ้ะ พ่อ...”

แล้วร่างของแม่ก็ถูกนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาล โชคดีที่ท่านไม่ได้เป็นอะไรมากนัก ไม่นานก็สามารถกลับมารักษาตัวต่อที่บ้านได้ แต่หัวใจที่ถูกเชือดด้วยความสูญเสียนี่สิ ต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่กันถึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม