บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 บทนำ 1

หญิงสาววัย 22 ปีเดินฮัมเพลงโปรดเข้ามาภายในที่ทำงานของเธอด้วยความสบายใจ วันนี้ไม่ใช่วันแรกที่เธอมาทำงานที่นี่ แต่เป็นวันแรกที่หญิงสาวได้บรรจุเป็นพนักงานประจำ หลังจากที่ทำงานเป็นพนักงานฝึกหัดระหว่างกำลังศึกษาอยู่ระดับปริญญาตรี พอจบญาดาได้เลื่อนตำแหน่งมาเป็นพนักงานทดลองงาน หนึ่งปีที่เธอพยายามทำงานอย่างเต็มที่ ขยันขันแข็ง ไม่เคยขาดลามาสาย ทำให้ญาดาได้รับการพิจารณาเป็นพนักงานประจำตามความตั้งใจ

“เปิ้ล...วันนี้มาเร็วจังเลยนะ” ชาสิรีเพื่อนร่วมงานนิสัยดีเอ่ยถามขณะทั้งสองกำลังแต่งตัวไปเป็นเครื่องแต่งกายที่ทางโรงแรมจัดให้

“เป็นพนักงานประจำวันแรกนี่ ก็ต้องขยันหน่อย เดี๋ยวเจ้าของโรงแรมเขาจะไล่ออก” เธอพูดอย่างอารมณ์ดี ใบหน้าสาวเคลือบด้วยรอยยิ้ม

“ดีใจด้วยนะที่ได้บรรจุซะทีหลังจากรอเวลานี้มานาน” เพื่อนสาวพูดและยิ้มอย่างมีไมตรีจิต

“ขอบใจ เงินเดือนออกเดี๋ยวพาไปเลี้ยง”

“ได้เลย บอกล่วงหน้าก็แล้วกันรีจะได้ล้างท้องรอ”

“ท้องแค่นี้จะกินได้เท่าไหร่กัน ข้าวจานเดียวก็อิ่มแล้ว เปิ้ลคิดไม่ผิดหรอกที่พารีไปเลี้ยงข้าว เพราะกินน้อยไม่เปลืองเงินดี”

“รู้ทันอีกแล้ว...ไปกันเถอะ เดี๋ยวพี่ไพจะดุเอา” สองสาวออกจากห้องแต่งตัวของพนักงาน เพราะหากเข้าแผนกช้าแม้วินาทีเดียวรับรองได้เลยว่า ประไพผู้จัดการแผนกจะต้องบ่นเกี่ยวกับการรักษาเวลาในการทำงานยาวแน่นอน ทางที่ดีไปก่อนเวลาสักสิบนาทีน่าจะดีกว่า

ห้องอาหารนานาชาติคือส่วนที่ญาดาต้องรับผิดชอบ หน้าที่บริการเป็นหน้าที่ที่เธอรัก รอยยิ้มที่สวยงาม ดวงหน้าหวานสวยยิ่งมองยิ่งเพลิดเพลิน ริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูสด ถูกเคลือบด้วยลิปใสส่งผลให้ดวงหน้าของเธอสวยงามราวกับเทพธิดาน้อย ดึงดูดบุรุษเพศให้เหลียวมองได้ไม่ยาก

“เปิ้ล...เอาอาหารชุดนี้ไปส่งที่ห้องสวีตด้วยนะ” ประไพชี้ไปที่รถเข็นอาหารของทางโรงแรม

“ไหนคะอาหาร เปิ้ลเห็นแต่ขวดเหล้า” ญาดาเอ่ยถามเมื่อมองไปที่รถเข็น ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองไม่เห็นอาหารเลยสักจาน นอกจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ราคานับหมื่นบาทอยู่หนึ่งขวดเท่านั้น

“นี่แหละคืออาหารของลูกค้าที่พักอยู่ที่ห้องสวีต” ประไพจำได้ดี 4 ปีมาแล้วที่ชายหนุ่มรูปงามคนนี้มาเป็นแขกวีไอพีที่นี่ เขาจะมาที่โรงแรมแห่งนี้ทุกปี เพื่อเตือนความจำและความหลังครั้งเก่าก่อนระหว่างหญิงคนรักที่ตายจากไปและทุกครั้งอาหารที่เขารับประทานตลอดช่วงระยะเวลาที่อยู่ที่นี่คือ สุรา

“มีด้วยเหรอพี่ไพกินเหล้าแทนข้าว พิลึกจัง”

“มีสิก็คุณคาร์ลนี่แหละ คนรักของเขาชื่อวรัญชิญาไง ที่เป็นนางแบบดาวรุ่ง แต่น่าเสียดายต้องมาตายจากไปตั้งแต่อายุยังน้อย บังเอิญจังเลยชื่อเล่นของคนรักคุณคาร์ลชื่อว่าเปิ้ลเหมือนกับเรานี่แหละ คุณคาร์ลจะมาที่นี่ทุกปี ในวันครบรอบที่คุณเปิ้ลเขาเสียชีวิต นี่ก็สี่ปีมาแล้ว จะหมกตัวอยู่แต่ในห้อง ไม่ออกไปไหนจะอยู่จนครบหนึ่งอาทิตย์แล้วจึงกลับไปอิตาลี พนักงานที่นี่เขาชินกันหมดแล้ว เปิ้ลอาจจะยังไม่รู้เพราะไม่เคยขึ้นไปเป็นรูมเซอร์วิส เขาน่าสงสารมากนะเปิ้ล รักเดียวใจเดียว แม้ว่าคนที่เขารักจะจากไปแล้ว” ประไพไม่รู้สึกสมเพช ตรงกันข้ามเธอรู้สึกทึ่งกับความรักที่มั่นคงของเขาและสงสารกับความรักที่ไม่สมหวังของคาลิเอโป ยึดมั่นถือมั่นจนกระทั่งถึงปัจจุบัน

“สงสัยคุณคาร์ลเขาคงรักคุณเปิ้ลมากนะคะ สี่ปีมาแล้วยังฝังใจอยู่เลย น่าสงสารนะคะ” ญาดารู้สึกสะท้อนใจกับความรักที่มั่นคงของคาลิเอโป จะมีผู้ชายแบบนี้จริงหรือที่ยึดมั่นกับความรักที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ผู้หญิงคนนั้นช่างโชคดีจริงๆ

“รีบไปเถอะ เดี๋ยวคุณคาร์ลเขาจะโมโหเอา” รูมเซอร์วิสส่วนมากจะเป็นผู้ชาย หากแต่วันนี้มีลูกค้าที่มาพักสั่งอาหารให้ไปรับประทานอาหารที่ห้องมากกว่าวันอื่นๆ ประไพจำเป็นที่ต้องให้ญาดานำอาหารขึ้นไปให้ลูกค้ารายนี้

“ค่ะ พี่ไพ” หญิงสาวยิ้มให้ประไพอีกครั้ง ก่อนที่จะเข็นรถที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำแข็งและมิกเซอร์ ตรงไปที่ลิฟต์ในส่วนของพนักงาน ขึ้นไปที่ห้องสวีตชั้นบนสุดของโรงแรม

“ออกไป...บอกให้ออกไปไง ไสหัวออกไปให้หมด” เสียงอ้อแอ้ของคาลิเอโปตวาด บรรดาลูกน้องที่พยายามพาร่างของเจ้านายหนุ่มเข้าไปพักผ่อนภายในห้องนอน หลังจากที่คาลิเอโปดื่มแอลกอฮอล์มาราธอนสามวันสามคืน มีเพียงขนมปังสองแผ่นกับกาแฟร้อนๆ เท่านั้นที่ตกถึงท้องเมื่อเช้านี้เพียงมื้อเดียว

“เข้าไปนอนเถอะครับคุณคาร์ล...ไปนอนเถอะครับ” สเตฟี่พยายามขอร้องคนที่ไม่มีสติที่จะรับฟังอะไรทั้งสิ้นอย่างเหนื่อยหน่ายใจ มาที่โรงแรมนี้ทุกครั้งเมื่อใด เจ้านายของเขาเปลี่ยนเป็นคนละคน เมามายไม่ได้สติ คร่ำครวญหาแต่วรัญชิญา ไม่ว่าจะกี่ปีหัวใจของเจ้านายหนุ่มมีแต่วรัญชิญาคนเดียว

“ไม่ไปโว้ย!!...อย่ามายุ่งบอกให้ออกไปไม่เรียกไม่ต้องเข้ามา ไป ออกไป...แล้วเมื่อไหร่เหล้าที่สั่งจะมาสักทีวะ...ช้าจริงโว้ย” เขาสบถออกมาดังลั่น หากแต่สเตฟี่ไม่ลดละที่จะพาร่างของคาลิเอโปเข้าไปในห้องนอนอย่างทุลักทุเล โดนศอกกลับบ้าง โดนชกบ้าง โดนถีบบ้างก็ตาม เพราะว่าอยากให้เจ้านายได้พักผ่อนแล้วกลับมาเป็นคนเก่าให้เร็วที่สุด

“เหนื่อยฉิบ...เลยพี่สเตฟี่ มาที่นี่ทีไรคุณคาร์ลเป็นอย่างนี้ทุกที” คารอสลูกน้องอีกคนอดบ่นไม่ได้ ก่อนที่จะมาที่นี่ เจ้านายของเขาเป็นผู้เป็นคนมากกว่านี้ เคร่งขรึม เอาการเอางาน ไม่ดื่มสุรา แม้จะไม่มีรอยยิ้มก็ตาม ดีกว่าตอนนี้มากมายนัก

“ออกไป บอกให้ออกไปไง...รำคาญจริงๆ เลย ออกไป...เหล้ามาหรือยังวะ...ไอ้สเตฟี่บอกให้ออกไปไง ถ้าไม่ออกไปกูจะยิงมึงทิ้งนะ” คนไม่ได้สติไม่เพียงแต่พูด ผลักร่างลูกน้องทั้งสองลงไปนั่งอยู่ที่พื้น หยิบปืนที่อยู่โต๊ะหัวเตียงออกมา ทำท่าจะยิงส่งผลให้ทั้งสองวิ่งออกจากห้องแทบไม่ทัน

“ขนาดเมายังดุขนาดนี้ ถ้าไม่เมามีหวังเราสองคนลงไปนอนที่โลงแน่เลยพี่” คารอสบ่นอุบหลังจากที่วิ่งหนีออกมาจากห้อง

“อย่าบ่นเลยน่า...ตอนไม่เมาไม่เป็นอย่างนี้หรอก กลับไปอิตาลีคุณคาร์ลเขาก็เหมือนเดิมแล้ว”

“ผมไม่เข้าใจเลย รู้ว่ามาที่นี่แล้วต้องเจ็บจะมาทำไม ตอกย้ำความเจ็บปวดเปล่าๆ” คารอสพูดอย่างไม่เข้าใจ

“เพราะรักไง...คุณคาร์ลรักคุณเปิ้ลมากถึงมากที่สุด คุณคาร์ลเขาทำใจไม่ได้และไม่มีวันทำใจได้ เจ้านายมาที่นี่เพื่อมาหาคุณเปิ้ล เพราะเจ้านายมีความคิดหนึ่งว่า สักวันหนึ่งเจ้านายจะได้เจอกับคุณเปิ้ลอีกครั้ง” สเตฟี่เข้าใจความรู้สึกของเจ้านายดี คาลิเอโปเคยบอกกับเขาว่า วรัญชิญามาเข้าฝันเขาบอกว่าให้เดินทางมาหาเธอจะได้พบกันอีกครั้งและครั้งนี้จะไม่มีวันแยกจากกัน จนกว่าจะหมดลมหายใจของชีวิต

“จะเจอยังไงคนตายกับคนเป็น ถ้าเจอก็คงเป็นผี...บรื๋อ...สยอง ผมไม่เอาด้วยหรอก ถ้าเจอผมวิ่งป่าราบแน่” คำบอกเล่าของสเตฟี่ทำให้คารอสขนหัวลุกขึ้นมาทันที

“ไม่ว่าจะเป็นผีหรือว่าเป็นคน เจ้านายของเราไม่กลัวหรอก ขอให้เจอเท่านั้น ไปเถอะไปพักผ่อน พรุ่งนี้จะต้องมาดูแลเจ้านายแต่เช้า” สองหนุ่มถอนหายใจก่อนจะเดินออกไปจากห้องสวีตเพื่อไปห้องพักของทั้งสอง ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

“รูมเซอร์วิสค่ะ” นิ้วเรียวยาวดุจลำเทียนของญาดากดไปที่ปุ่มสัญญาณ กริ่งหน้าห้องสวีต พร้อมกับบอกสถานะของผู้มาเยือน

“......” เงียบไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับมาหรือว่ามีใครมาเปิดประตูให้ ญาดาจึงกดกริ่งอีกครั้ง และอีกครั้ง

“ประตูเปิดอยู่นี่” ญาดาพูดกับตัวเอง เมื่อนัยน์ตาของเธอมองเห็นประตูห้องสวีตปิดไม่สนิท เธอจึงผลักประตูและเข็นรถเข้าไปภายในห้องนั้น ก้าวแรกที่เธอย่างกรายเข้ามากลิ่นสุราคละคลุ้งไปทั่ว เหม็นจนเธออยากจะอาเจียนออกมา แสดงว่าคาลิเอโปคงดื่มแต่สุราต่างอาหารตามที่ประไพพูดจริงๆ

“เหม็นเป็นบ้าเลย” หญิงสาวบ่น วางแก้วทรงสวย น้ำแข็ง มิกเซอร์และขวดสุราที่โต๊ะเคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ มุมห้อง กำลังจะเดินออกไปหลังจากหมดหน้าที่

“ตุ้บ!!” เสียงบางอย่างดังออกมาจากห้องนอน ทำให้ญาดาหันไปมองที่ประตูห้องนั้นอย่างสงสัย

“เสียงอะไร หรือว่าเมาจนหัวทิ่มกับพื้น ตายหรือเปล่าเนี่ย” ญาดาอดเป็นห่วงคนที่อยู่ภายในห้องนอนไม่ได้ คำพูดของประไพที่บอกว่าคาลิเอโปเอาแต่ดื่มสุรา พานคิดไปว่าเสียงที่เธอได้ยินอาจเป็นเสียงของคาลิเอโปที่ลื่นล้มหัวโหม่งพื้น อาจจะมีเลือดนองเต็มพื้น ด้วยความเป็นห่วง ญาดาจึงเดินเข้าไปในห้องนอนทันทีอย่างไม่ลังเล

“ว้าย ตายแล้ว!!” เธออุทานเสียงดัง เมื่อเห็นร่างของคาลิเอโปนอน คว่ำหน้าอยู่ที่พื้นพรมข้างๆ เตียงขนาดคิงส์ไซซ์

“คุณคาร์ลคะ คุณคาร์ล” ญาดาร้องเรียก พยายามใช้แรงอันน้อยนิดพลิกร่างใหญ่โตให้นอนหงาย เพื่อตรวจดูอาการ

“โอ๊ย!! หนักชะมัด” เธอบ่นหลังจากพยายามสุดความสามารถที่จะพลิกร่างของชายหนุ่มขี้เมาให้หงายขึ้น

“ใครวะ บอกให้ออกไปไง...เหล้ามาหรือยัง...เหล้า ฉันอยากกินเหล้า”

“โอ๊ย!!...จะตายแล้วยังจะห่วงเหล้าอีก จะช่วยดีไหมเนี่ย” ปากบ่นแต่มือและเรี่ยวแรงยังคงทำงานตามเดิม พยายามพลิกร่างของชายหนุ่มให้นอนหงาย สุดท้ายความพยายามของเธอก็เป็นผลสำเร็จ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ หาผ้าขนหนูชุบน้ำสักผืนมาเช็ดใบหน้าของคาลิเอโป ที่เธอทำเป็นเพราะสงสาร ไม่มีเจตนาอย่างอื่น

ทันทีที่ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นๆ ซับไปตามใบหน้าคมสัน ทำให้เปลือกตาที่หนักอึ้งค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างช้าๆ หญิงสาวแปลกหน้าคนหนึ่งอยู่ตรงหน้า เธอกำลังใช้ผ้าขนหนูซับใบหน้าของเขา คาลิเอโปอยากจะปัดผ้าผืนนั้นออก แต่เขาทำไม่ได้เพราะเสียงนี้ต่างหาก

“คุณคาร์ลคะ ทำไมถึงเมาไม่ได้สติแบบนี้ เปิ้ลเช็ดหน้าให้คุณคาร์ลแล้วนะคะ เดี๋ยวเปิ้ลจะสั่งข้าวต้มร้อนๆ มาให้คุณคาร์ลทานนะคะ”

“...แอปเปิล...แอปเปิล กลับมาหาฉันแล้วใช่ไหม...ฉันคิดถึงเธอที่สุดเลย” เขาคว้ากอดร่างของญาดาไว้แน่น นึกว่าเสียงที่ได้ยินคือเสียงของวรัญชิญา หญิงสาวคนเดียวที่เขารัก ลำแขนแข็งแรงรัดร่างญาดาจนเธอไม่สามารถหนีออกจากพันธนาการที่รัดแน่นได้ มือนุ่มๆ พยายามดันบ่าแข็งแกร่งของบุคคลที่เมาไม่ได้สติให้ออกห่าง ดูเหมือนว่าคาลิเอโปไม่สนใจแรงที่กระหน่ำทุบเขาไม่หยุด กอดร่างบางแน่นขึ้นกว่าเดิม หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความดีใจที่เธอกลับมาหาเขา

“ปล่อยค่ะคุณคาร์ล...เปิ้ลไม่ใช่คนรักของคุณ” น้ำเสียงสั่นๆ หวาดกลัวแบบนี้ทำไมจะไม่ใช่แอปเปิลของเขา ต้องใช่แน่ๆ

“ไม่จริง เธอคือแอปเปิล...แอปเปิลของฉัน” เขาไม่พูดเปล่าระดมจูบไปทั่วทั้งดวงหน้างามด้วยความคิดถึง ถวิลหา คนถูกล่วงเกินถึงกับตัวแข็งทื่อ เพราะนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่อยู่ใกล้ชิดผู้ชาย เป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่เธอถูกผู้ชายจูบ ไม่ใช่แฟน ไม่ใช่คู่ชีวิต แต่เป็นคนแปลกหน้า หัวใจของหญิงสาวเต้นระส่ำ ตื่นเต้น น่าแปลกที่ไม่มีอาการขยะแขยงเลยแม้แต่น้อย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel