ตอนที่ 5 คำว่าเพื่อนเลือนลบจบแค่นี้
มะนาวถอนหายใจมองหน้าระรื่นของธันวา ดูเหมือนเขาจะไม่สลดสักนิดที่ข้ามเส้นระหว่างเพื่อนมาเป็นคนที่มีความสัมพันธ์ข้ามคืนแบบนี้
เธอเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องเข้ามาด้านในจนเกือบร้อน อากาศเย็นตอนเช้าเริ่มมีอุณหภูมิสูงขึ้นเมื่อตะวันสายโด่ง เมื่อเหลือบไปเห็นนาฬิกาเหนือประตูทางเข้าก็พบว่ามัน 10 โมงกว่าแล้ว
ความเจ็บปวดที่เกิดจากความเร่าร้อนเมื่อคืนยังคงหลงเหลืออยู่ มันเจ็บจนเหมือนถูกรถสิบล้อทับยังไงยังงั้น ต่างกับธันวาที่ยังคงยิ้มหน้าระรื่นราวกับรอคอยคำตอบของมะนาวราวกับหมาต้องการคำชมจากเจ้าของ
“ฉันอยากอาบน้ำ” เธอพูดพร้อมกับจ้องหน้าธันวานิ่ง
“ก็ไปอาบสิ อาบด้วยกันมั้ย” เขาถามและตั้งท่าจะลุกขึ้น
“แกใส่เสื้อผ้าหรือเปล่า” มะนาวถามอย่างหวาดระแวง เมื่อรับรู้ถึงผิวกายที่ร้อนผ่าวของเขาอย่างชัดเจน
“เมื่อคืนเอากันทั้งคืนจะใส่ตอนไหนล่ะ” เขาตอบพาซื่อพร้อมกับมองเธอตาใส
“...” เอาล่ะเธอไม่น่าถามเขาเลย ใบหน้าของมะนาวขึ้นสีเรื่อเมื่อเขาพูดถึงเรื่องเอากันอย่างเป็นธรรมชาติ หญิงสาวข่มความกระอักกระอ่วนในหัวใจแล้วพูดกับเขาเสียงเบาว่า “งั้นฉันจะลุกก่อน”
“แต่ฉันจะโป๊” ธันวาพูด มือจับเอวเธอแน่น
“ยังไงมันก็โป๊ ให้แกโป๊ไปก่อนสาบานว่าจะไม่มอง” มะนาวรีบพูดและกระตุกผ้าห่ม
“หืม...นาว ทำแบบนี้เธออยากเห็นธันเดอร์ของฉันหรือเปล่า” ธันวารีบคว้าผ้าห่มมาปิดเจ้าธันเดอร์ของเขาอย่างรวดเร็ว ใบหูแดงก่ำเพราะเห็นว่ามะนาวเอาจริง
“เขินอะไร เมื่อก่อนตอนไปเล่นน้ำไม่เห็นจะเขินอะไรเลย”
“...” ธันวาพูดไม่ออก เมื่อก่อนมันไม่เขิน แต่พอคิดว่าตอนนี้เขาไม่ได้มองเธอในฐานะเพื่อนแล้ว บางอย่างมันก็อดเขินไม่ได้นี่นา
“หุบปากเลยเสื้อผ้าของแกหายไปไหนหมด”
เสื้อผ้า...แน่นอนว่าของเธอหายไปตอนไหนไม่รู้
ธันวาเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ เขากระเถิบไปข้างเตียง เสื้อผ้าของเขาและเธอกระจายปะปนกันไม่เป็นชุด หยิบสุ่มขึ้นมาก่อนจะโยนให้มะนาว “ใส่ไปก่อน มันหนาว”
มะนาวเลิกคิ้ว “นี่เสื้อแก”
“ใส่ๆ ไปเถอะน่า แดดออกแต่มันก็ยังเย็นอยู่ไม่ใช่หรือไง ตัวก็เล็กนิดเดียวใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นขนาดนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายเอาหรอก”
“รู้จักคิดเนอะ” มะนาวประชด แต่ก็พยายามจะสวมเสื้อของเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อคืนนอนเปลือยทั้งคืนไม่เห็นว่าเขาจะเป็นห่วงอะไร
“ไม่ต้องมาประชด ตอนเอากันมันก็ร้อนดีไม่ใช่เหรอ แถมได้นอนกอดฉันทั้งคืนอีก เฮ้อ...ดูสิว่าฉันเสียสละขนาดไหน” เขาบ่นงึมงำ
“เสียสละอะไรของแก” เธอขมวดคิ้ว หลังจากใส่เสื้อของธันวาเสร็จแล้วก็พบว่าเสื้อของเขาตัวใหญ่มากจนยาวถึงขาเธอได้เลย ด้วยความสูงที่ต่างกันเกือบยี่สิบเซ็นต์ทำให้ตอนนี้มะนาวเหมือนเด็กที่สวมเสื้อผ้าผู้ใหญ่
เขาสูงตั้งร้อยแปดสิบกว่า ในขณะที่เธอสูงแค่ร้อยหกสิบปลายๆ เองนะ
“เสียสละร่างกายอันเร่าร้อนเพื่อปรนนิบัติแกไง”
“หลงตัวเองฉิบหายเลย” มะนาวบ่นอุบ ถอนตัวออกจากผ้าห่ม ตั้งใจจะเดินไปเก็บเสื้อผ้าบนพื้น แต่ความเจ็บปวดจากความหฤหรรษ์เมื่อคืนทำให้มะนาวต้องนิ่วหน้า งอตัวและทรุดนั่งลงกับพื้น “โอย...”
“เป็นไรอะนาว” ธันวารีบขยับไปหาโดยลืมไปแล้วว่าไม่ได้สวมใส่อะไรเลย มองใบหน้าที่เริ่มซีดของมะนาวด้วยความตกใจเมื่อเห็นหญิงสาวกุมท้องและนั่งแหมะราวกับเด็กเล็กๆ ข้างเตียง
“เจ็บ...” มะนาวพูดไม่ออก ทุกครั้งที่ขยับมันจะเจ็บมากจนเหมือนร่างจะแหลกเป็นชิ้นๆ ให้ตายเถอะใครบอกมีเซ็กส์แล้วจะฟิน มันเจ็บเป็นบ้า เจ็บจนไม่อยากทำอะไรเลย ยิ่งขยับก็ยิ่งเจ็บ ปวดทั้งตรงนั้น แถมขาก็ไม่มีแรงอีกด้วย
ธันวาช่วยพยุงมะนาวลุกขึ้น สีหน้ามีความรู้สึกผิดจางๆ “ขอโทษนะ เมื่อคืนตื่นเต้นไปหน่อย”
“รู้ตัว” หญิงสาวขึ้นเสียงเล็กน้อยก่อนที่ทั้งตัวจะถูกธันวาอุ้มขึ้นมานั่งที่เตียงดังเดิม การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งมันสะเทือนไปถึงจุดนั้นจนอยากจะสำออยจริงๆ
“จะอาบน้ำอยู่ไหม” เขาถาม
“อาบยังไงล่ะ ก็บอกอยู่ว่าเจ็บ” มะนาวไม่สนใจเขาและซุกตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มเหมือนเดิม ใบหน้ายับย่นที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจนั้นทำให้ธันวาทำอะไรไม่ถูก
“อาบให้ก็ได้” เขาว่าเสียงจ๋อยเมื่อเห็นว่ามะนาวเริ่มอารมณ์เสีย
“ไม่เอา หนาว”
“โอเค” เขาว่า อาศัยจังหวะที่มะนาวไม่ได้สนใจเดินหากางเกงบ็อกเซอร์และสวมกางเกงยีนก่อนจะหยิบเสื้อผ้าและชุดชั้นในของมะนาวขึ้นมา รูปร่างของธันวาซึ่งเกิดจากการว่ายน้ำเป็นประจำเต็มไปด้วยมัดกล้ามที่มีขนาดพอดีรับกับเอวสอบ เขาสวมกางเกงอย่างรวดเร็วในขณะที่เหลือแต่ท่อนบนเปลือยเปล่า หากมีคนสังเกตจะต้องเห็นร่องรอยขีดข่วนสีแดงซึ่งเกิดจากเล็บคมของคนบางคนอย่างแน่นอน
“งั้นแต่งตัวก่อนนะนาว” ธันวานั่งลงข้างๆ คนที่ซุกตัวใต้ผ้าห่ม “เนี่ย เสื้อใน กางเกงใน ครบ”
มะนาวลุกพรวดเมื่อได้ยินสิ่งที่ธันวาพูด ใบหน้าสวยแดงก่ำรีบคว้าสิ่งที่เขาพูดอย่างรวดเร็วก่อนจะข่มความเจ็บปวดและวิ่งไปเข้าห้องน้ำ อาการสำออยหายเป็นปลิดทิ้งเพราะความอับอายที่มีมากกว่า
ให้ตายเถอะตอนแรกกะว่าจะแกล้งนอนต่อแล้วค่อยย่องหนี ไอ้บ้านี่กล้าหยิบชุดชั้นในของเธอขึ้นมาจริงๆ
ธันวามองตามด้วยความขบขันพร้อมกับตะโกนถามว่า “ไม่เจ็บแล้วเหรอหนูนาว”
“หุบปากไปเลยไอ้ธัน” เสียงแหลมตะโกนออกมาจากห้องน้ำ มะนาวรีบแต่งตัวอย่างรวดเร็วก่อนจะเดินออกมาด้วยท่าทางแปลกๆ
เมื่อเห็นดังนั้นธันวาก็กลืนความขบขันลงท้องและเปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย แต่เนื่องจากมะนาวซึ่งตอนแรกไม่ทันได้สังเกตสภาพของเพื่อนรัก เมื่อเห็นท่อนบนที่เปลือยเปล่าของธันวาซึ่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามและรอยขีดข่วนสีแดง ใบหน้าของเธอก็แดงก่ำราวกับมะเขือเทศสุกและแผ่ลามไปจนถึงใบหูอย่างรวดเร็ว
เธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่กับภาพที่เห็นตรงหน้า
เมื่อคืนมะนาวไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำอะไรลงไปบ้าง แต่ความสนุกที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นทำให้เธอลืมความเจ็บปวดทั้งหมดที่เกิดขึ้นในตอนแรกและเต็มไปด้วยการตอบสนองต่อผู้ชายคนนั้นอย่างกระตือรือร้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเหนื่อยจนหลับไปตอนไหน
และเมื่อตื่นมาความเจ็บปวดบางอย่างยังคงอยู่ แต่เมื่อเทียบกับปวดท้องเมนส์แล้วมันยังเทียบไม่ได้
ให้ตายสิหุ่นไอ้หมอนี่แซ่บเป็นบ้า
“มองนานขนาดนี้อยากกินฉันอีกหรือยังไง” ใบหน้าหล่อเหลาของธันวาเต็มไปด้วยการล้อเลียน ปกติหมอนี่ก็หล่ออยู่แล้ว แต่เมื่อนั่งเปลือยท่อนบนและมองเธอด้วยสายตาน่ากิน...สายตายั่วเย้า มันทำให้สติของมะนาวกำลังจะแตกอีกครั้ง
นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เธอตกหลุมรักเขาโดยไม่รู้ตัว
ผู้ชายปากดีคนนี้คือคนเดียวกับที่อยู่ในหัวใจของเธอมาตั้งแต่ม.ปลาย
ตอนแรกมะนาวไม่ได้คิดว่าเธอจะรู้สึกเกินเพื่อนกับเขา
จนกระทั่งเขามีแฟนคนแรกและเดินมาถามเธอว่า
“นาว...เขาขอเกียร์ทองกูอะ”
มะนาวพูดไม่ออกในตอนนั้น ได้แต่บอกเขาไปว่า “ถ้ามึงรักเขาและอยากมีอนาคตร่วมกับเขา ก็ให้เขาไปสิ”
และหลังจากนั้น ในวันต่อมาธันวาก็เดินมาหาเธอพร้อมกับทำหน้าจ๋อยว่า “กูเลิกกับเขาแล้วว่ะ”
มะนาวไม่ได้ถามถึงสาเหตุที่เขาเลิกกับผู้หญิงคนนั้น เธอจะพูดอะไรได้นอกจากตอบรับอย่างเย็นชาว่า “อืม”
ในหัวใจของเธอมีความรู้สึกมากมายที่ยากจะพูด แต่ในฐานะเพื่อนเราจะทำอะไรได้นอกจากรับรู้กับสิ่งที่เขากำลังเจอและคอยให้กำลังใจ ทำเป็นไม่ใส่ใจเขาทั้งๆ ที่หัวใจมันฟังทุกคำพูดของคนคนนั้น เจ็บปวดทุกครั้งที่เขามีคนสำคัญคนอื่นเข้ามาในชีวิต แต่ทำอะไรไม่ได้
เพราะคำว่าเพื่อนสนิท...
ธันวามองท่าทางทำอะไรไม่ถูกของมะนาวและหยิบเสื้อที่เธอถือออกมาจากห้องน้ำสวมมันลงไปอย่างลวกๆ กลิ่นตัวของมะนาวที่ติดกับเสื้อผ้าทำให้มุมปากของเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้ม เขาเหลือบมองมะนาวที่นั่งเหม่อพลางใช้ความคิด เพียงแค่อ่านสีหน้าก็เข้าใจแล้วว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
“ฉันจะบอกเพื่อนทุกคนว่าฉันชอบแก” ธันวาพูดออกมาด้วยท่าทางปกติ ราวกับพูดคุยเรื่องสภาพลมฟ้าอากาศ
มะนาวเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่ชอบใจ “ยังไม่ต้องได้มั้ย แกเพิ่งเลิกกับน้ำอิงมา”
“แล้วเมื่อไรฉันจะได้เปิดเผยความรู้สึกต่อแกให้คนอื่นรู้ล่ะ มะนาว ฉันไม่เคยอยากชัดเจนขนาดนี้มาก่อนแกเข้าใจไหม”
“ถ้างั้น...”
“ฉันให้เวลาหนึ่งเดือน ระหว่างนี้เราลองทำตัวเหมือนปกติ ถ้าโอเคก็สานต่อได้ไหม”
“แล้วถ้ามันไม่โอเคล่ะ” มะนาวถาม
“ฉันก็จะสานต่อ”
“...” มะนาวจนคำพูด ไอ้หมอนี่พูดไม่ค่อยรู้เรื่องแถมยังเอาแต่ใจอย่างถึงที่สุดด้วย “เผด็จการฉิบ”
“ไม่รู้ล่ะ ยังไงมึงก็ยังเป็นเมียกูแล้วนะนาว”
“อย่าทำเหมือนกูเป็นฝ่ายเปิดซิงมึงเลยธัน” มะนาวพูดเสียงฉุน ปรายตามองเขาอย่างไม่ชอบใจ
“...” ธันวาอึ้ง ปากอ้าพะงาบคล้ายจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็เงียบไป
แน่นอนว่าเขาจะยอมรับได้ยังไงว่าเขาเองก็ถูกเธอเปิดซิงน่ะ เสียศักดิ์ศรีตายเลย “ไม่รู้ล่ะ กูอัปเกรดให้มึงจากเพื่อนเลื่อนเป็นเมียเลยไง” เขาพูดตีขลุม
“ประสาท” มะนาวว่า เอื้อมมือดึงผ้าปูที่นอนมาพับอย่างเคยชิน แต่เมื่อเห็นคราบสีแดงบนที่นอนสีขาว ใบหน้าของเธอก็กลายเป็นสีแดงอีกครั้งเมื่อคิดถึงภาพเมื่อคืนนี้
มันเรียกว่าสมรภูมิเดือดชัดๆ ให้ตายเถอะ
ธันวาเหลือบเห็นคราบเลือดที่เลอะบนที่นอน มุมปากก็โค้งขึ้นเล็กน้อยและพูดกับมะนาวว่า “ฉันเก็บเองเดี๋ยวค่อยไปเคลียร์เงินกับเจ้าของรีสอร์ต”
“อืม...งั้นไปเก็บของก่อน” ห้องของมะนาวอยู่ถัดไป หากเมื่อคืนเขาไม่รั้งเธอไว้และเธอไม่ใจอ่อน เช้านี้ตื่นขึ้นมาก็คงอยู่ห้องใครห้องมันอย่างที่เคยเป็น
แต่เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เปลี่ยนไปตลอดกาล
แอบรักเพื่อนสนิทก็ไม่ต่างอะไรกับรอข้ามทาง ในขั้นตอนที่ตัดสินใจข้ามทางรถไฟแทนที่จะเดินทางในถนนเส้นปกติมันก็เหลือเพียงสองทางให้เลือก เพราะมันไม่สามารถถอยหลังได้อีกต่อไปแล้ว
หนึ่งคือข้ามไปอย่างปลอดภัยไม้กั้นเปิดให้
สองคือฝ่าไม้กั้นเข้าไปเลยแล้วก็เสี่ยงเอาว่าจะรอดหรือจะร่วง
เส้นทางสายนี้มีคนตายมานักต่อนักแล้ว แต่ในเคสของมะนาวถือว่าโชคดีที่ใจตรงกัน
“นาว” ก่อนที่มะนาวจะเดินออกไปธันวาก็พูดขึ้น
“มีอะไร”
“เมื่อคืนขอโทษที่เอาแต่ใจนะ ต่อไปถ้ามันเกิดขึ้นอีกฉันจะใช้ถุงยางเอา”
“...”
“แกชอบปวดท้องเมนส์ ฉันไม่อยากให้อนาคตมีลูกลำบาก”
“ประสาท ใครจะมีลูกกับแก” มะนาวพ่นคำด่าเสร็จก็รีบเดินออกจากห้องไปพร้อมกับปิดประตูเสียงดัง หากแต่ยังได้ยินเสียงหัวเราะดังไล่หลังพร้อมกับคำพูดกลั้วหัวเราะของธันวาดังขึ้นมา
“โอ๊ย ถ้าหลงฉันหัวปักหัวปำขึ้นมาคร้านจะเรียกผัวคะผัวขา...”
