บท
ตั้งค่า

น่าสนใจ

ในช่วงดึกของวันนั้นไอศูรย์มาส่งลูกชายเข้านอนเหมือนอย่างทุกวัน เขายื่นนมอุ่นให้ลูกชายดื่มและจอมทัพก็รับมาดื่มอย่างไม่อิดออดจนหมดแก้ว

“ตอนนี้คุณก็ชอบนมด้วยเหรอ” นมเป็นสิ่งที่ลูกชายของเขาไม่ชอบมากที่สุด กว่าจะให้ดื่มได้สักคำต้องใช้แผนการหลอกล่อมากมาย จู่ ๆ เห็นว่าลูกชายรับไปดื่มเองก็ตะลึงไม่น้อย

เด็กชายรีบส่ายหัว “ลูกไม่ชอบ”

“แล้วทำไมถึงดื่มล่ะ” ดูเหมือนลูกชายของเขาจะเปลี่ยนไปมากจริง ๆ

จอมทัพนึกสักพักก่อนเล่าเรื่องในวันนั้นขึ้นมา “ตอนนั้นแม่พาลูกไปซื้อของแต่ฝนดันตกหนักมาก พวกเราเลยต้องรีบวิ่งกลับมาที่เพนต์เฮาส์แต่ก็ช้าไปแล้ว พวกเราทั้งสองคนเลยเปียกกันหมด แม่เลยหันมาดุลูกว่าเป็นเพราะขาสั้น ๆ ของลูกทำให้พวกเราเปียกกันหมด”

คำพูดเมื่อครู่ของลูกชายทำให้เขาถึงกับต้องเผลอยิ้มออกมา ไม่คิดว่าจะมีคนพูดแบบนี้กับจอมทัพด้วย

ขาสั้น ๆ งั้นเหรอ?

“พ่อ! ลูกขาสั้นเหรอ!” เขายกขาน้อย ๆ ที่ขาวเหมือนก้อนแป้งขึ้นมาแล้วชี้ไปทางพ่อด้วยสายตาคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะเข้าข้าง แต่ไอศูรย์รู้ดีว่าลูกชายของเขาตัวเล็กกว่าเด็กทั่วไปจริง ๆ

ไอศูรย์จึงส่ายหน้าเบา ๆ “คุณไม่ได้ขาสั้นเพียงแต่ตัวเล็กกว่าคนอื่นเท่านั้น”

“ลูกตัวเล็กเหรอ…” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เบะปากเหมือนคนจะร้องไห้ในขณะที่น้ำตาเริ่มคลอเบ้า

เด็กชายที่อยู่แต่ยอดสูงสุดของพีระมิด เขาจึงทะนงตนว่าตัวเองสูงส่งกว่าคนอื่นมาโดยตลอด ทุกสายตาต่างก็ต้องแหงนคอขึ้นมามองเขากันทั้งนั้น ทว่าวันนี้ความภาคภูมิใจนั้นกลับสลายหายไปทันทีหลังจากที่ได้ยินคำตอบนั้น

ตัวเล็กก็แปลว่าต้องแหงนหน้ามองคนอื่นสิ จอมทัพรับไม่ได้เด็ดขาด!

“แม่บอกว่าลูกต้องดื่มนมเยอะ ๆ และเข้านอนเร็วด้วย” เขานึกย้อนไปถึงคำพูดของอริสาที่เคยพูดกับเด็กชายเมื่อวันก่อน แต่จอมทัพไม่แน่ใจเท่าไหร่นักจึงหันมาถามพ่ออีกครั้ง “พ่อ แม่พูดจริงหรือเปล่า”

“แม่ของคุณไม่ได้โกหก ถ้าคุณทานอาหารที่มีประโยชน์และดูแลตัวเองอย่างดี คุณก็จะสูงเท่าคนอื่น ๆ”

“ถ้าอย่างนั้นลูกจะเข้านอนเร็ว!” จอมทัพรีบม้วนตัวเข้าไปในผ้าห่มอย่างรวดเร็วแล้วหลับตาลง “พ่อ คุณกลับไปได้แล้ว ตอนนี้ลูกสามารถเข้านอนได้ด้วยตัวเอง”

ไอศูรย์เลิกคิ้วแปลกใจเล็กน้อย เพราะปกติไอศูรย์จะให้จอมทัพสามารถเล่นโทรศัพท์ได้วันละยี่สิบนาทีและจอมทัพก็มักจะขอต่อเวลาเสมอ ทว่าตอนนี้กลับไม่สนใจเลย

“คุณไม่อยากดูการ์ตูนปลากระเบนแล้วเหรอ”

จอมทัพพึ่งนึกได้จึงหันกลับมามองพ่อตาโต “ถ้านอนช้าไปยี่สิบนาทีลูกจะยังสูงขึ้นหรือเปล่า”

“ไม่ต้องกังวล คุณจะยังสูงขึ้นแน่นอน” เขาตอบพร้อมกับลูบหัวลูกชายไปด้วย

“งั้นลูกขอดูหน่อยแล้วกัน”

และในคืนนั้นทั้งสองคนก็ดูด้วยกัน แต่ไอศูรย์กลับเห็นลูกชายเลือกกดดูคลิปอีกช่องหนึ่งแทนและมีท่าทางตั้งใจดูเสียด้วย เขาจึงถามลูกชายเพราะรู้สึกคุ้นเคยอยู่เหมือนกัน

“นี่ลูกกำลังดูอะไรอยู่เหรอ พ่อเห็นมาตั้งนานแล้ว” ไอศูรย์เคลื่อนตัวมานอนข้างลูกชาย “ช่วงนี้นึกอยากจะทำอาหารขึ้นมางั้นเหรอ”

“ไม่ใช่สักหน่อย ลูกแค่ไม่มีอะไรจะดูต่างหาก” จอมทัพรีบปฏิเสธเสียงแข็ง

ไอศูรย์ไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงแค่ดูเป็นเพื่อนลูกชาย แต่เมื่อฟังไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มคุ้นเคยกับเสียงนั้นขึ้นมา “นี่ไม่ใช่เสียงของอริสาเหรอ”

“ใช่ พ่อหูไวดีจัง” จอมทัพชื่นชมพร้อมกับชูนิ้วโป้งขึ้นมา ก่อนจะหันไปสนใจคลิปนั้นต่อ

แม้จะรู้สึกแปลกกับคำพูดของลูกชายแต่นั่นก็ยังแปลกใจน้อยกว่าคลิปวิดีโอนั่นอยู่ดี ในคลิปนั้นไม่ได้มีอะไรมากมายนัก เป็นเพียงแค่การตื่นขึ้นมา รดน้ำต้นไม้ ทำอาหาร ทำความสะอาดบ้าน ไปซื้อของและบางครั้งก็มีเสียงพูดแทรกขึ้นมาก็เท่านั้น แต่ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

“แม่บอกว่านี่คืออาชีพของแม่ที่สามารถสร้างเงินให้กับเธอ” อยู่ ๆ จอมทัพก็พูดขึ้น

“งั้นเหรอ” ทั้งสองก็ไม่ได้พูดอะไรกันต่อเพียงแค่ดูคลิปนั้นไปเรื่อย ๆ ด้วยกันสองคนจนกระทั่งคลิปจบไป แล้วเมื่อกดเข้าไปที่ช่องของอริสาก็พบว่าทุกคลิปถูกดูหมดแล้วและยังไม่ได้มีคลิปมาใหม่ด้วย

“ทำไมแม่ยังไม่มีคลิปใหม่อีกล่ะ เธอควรทำงานให้หนักมากกว่านี้นะ” เขาบ่นอย่างลืมตัวก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าพ่อยังอยู่ตรงนี้ด้วยกัน “พ่อ คุณไปนอนได้แล้ว ลูกก็จะนอนเหมือนกัน”

“คุณง่วงแล้วเหรอ” ไอศูรย์ต้องแปลกใจอีกครั้ง เพราะปกติเขาต้องขอเล่นโทรศัพท์และพูดคุยกับพ่ออยู่นานจนง่วงนอนไปเอง

จอมทัพพยักหน้า แต่เมื่อมองไปที่สายตาของพ่อเขาก็อดสงสารไม่ได้ บางทีพ่ออาจจะอยากใช้เวลาร่วมกับเขามาก การเป็นพ่อม่ายที่งานยุ่งแบบนี้ช่างน่าสงสารจริง ๆ

“ถ้างั้นพ่อสามารถเล่านิทานให้ลูกฟังได้หนึ่งเรื่องแล้วลูกจะนอนเอง”

“ได้ แล้ววันนี้คุณอยากฟังเรื่องอะไร” ไอศูรย์ถาม

“คุณรู้จักนิทานเรื่องกระต่ายกับเต่าไหม ครั้งที่แล้วแม่เล่าให้ลูกฟังแต่ลูกคิดว่ามันแปลกมาก เพราะกระต่ายกับเต่าจะมาวิ่งแข่งกันได้อย่างไร! ทั้งสองไม่ได้พูดภาษาเดียวกันด้วยซ้ำ แล้วที่ยิ่งแปลกกว่านั้นคือเต่าวิ่งชนะกระต่ายด้วย! เรื่องนี้มันไม่สมเหตุสมผลเลย ตอนนั้นคนแต่งเขาคิดอะไรอยู่นะ” จอมทัพส่ายหน้าไม่เห็นด้วยอย่างแรงแล้วหันมาถามพ่อ “พ่อ คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้”

“พ่อไม่เคยได้ยินเรื่องที่คุณพูดมาก่อนเลย” ไอศูรย์กล่าวปฏิเสธไป ตั้งแต่ที่เกิดมาจนตอนนี้อายุเกือบจะสามสิบปีแล้ว เขายังไม่เคยได้ยินนิทานเรื่องนี้เลยสักครั้งเดียว

จอมทัพไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่พ่อพูดมาจะเป็นความจริง เขามองไอศูรย์ด้วยแววตาน่าสงสาร “เรื่องนี้สนุกมาก คุณควรลองไปอ่านดูนะ”

“แล้วคุณมีเรื่องอื่นไหม เผื่อพ่อจะรู้จัก”

“แล้วเรื่องปลาบู่ทองล่ะ”

“ไม่รู้”

“เรื่องนางสิบสองล่ะ”

“ไม่รู้”

“เรื่องไกรทองล่ะ”

“ไม่รู้”

“พ่อ คุณน่าสงสารจริง ๆ ด้วย” เด็กชายจึงแตะที่ไหล่ของพ่อเบา ๆ เพื่อให้กำลังใจอีกฝ่าย “คุณไม่รู้อะไรเลย ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวลูกเล่านิทานให้คุณฟังเอง”

แล้วจอมทัพก็ไม่รอช้า เขารีบดึงพ่อมานอนใกล้ ๆ แล้วเล่านิทานเรื่องกระต่ายกับเต่าให้เขาฟัง ไอศูรย์ฟังไปก็ขมวดคิ้วไปด้วยว่านี่มันนิทานอะไรกัน ไม่อยู่กับความเป็นจริงเลยสักนิดเดียว เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมลูกชายถึงชอบตั้งคำถามเหล่านี้ ถ้าหากเป็นเขาที่ได้ฟังก็คงจะตั้งคำถามแบบเดียวกัน

ในคืนนั้นก่อนที่เด็กชายจะผล็อยหลับไป เขาพูดพึมพำไปมาขณะที่ดวงตาปิดไปแล้ว “ถ้าแม่เล่าเรื่องต่อไปลูกจะมาบอกคุณ” แล้วก็หลับไป ไอศูรย์หลุดยิ้มก่อนจะจัดแจงผ้าห่มให้ลูกชายก่อนจะเดินออกมาจากห้อง

เขาเดินกลับมาที่ห้องนอนของตัวเองและได้เปิดอ่านข้อความที่อริสาได้ส่งมาให้ ไอศูรย์ยุ่งมากจนไม่มีเวลาเล่นโทรศัพท์เลยด้วยซ้ำ เขาจึงไม่ได้อ่านข้อความที่อดีตภรรยาส่งมาเลย และเมื่อกดเข้าไปอ่านก็ต้องเจอกับรูปภาพของลูกชายและข้อความกวนประสาทจากเธอ

หลังจากที่เขาไปทำงานที่ต่างประเทศมาหลายอาทิตย์ เมื่อกลับมาครั้งนี้ดูเหมือนว่าทั้งลูกชายและอดีตภรรยาจะเปลี่ยนไปมาก ฟังจากคำพูดของ ลูกชาย อริสาคงจะเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ ทั้งที่แต่ก่อนเธอแตกต่างจากตอนนี้มากจนไอศูรย์รู้สึกสนใจขึ้นมาจริง ๆ บางทีเขาคงต้องหาเวลาไปเยี่ยมอดีตภรรยาบ้างแล้ว

ในช่วงดึกคืนเดียวกัน อริสากำลังดูยอดผู้ติดตามของเธออยู่และพบว่ามีคนติดตามมากขึ้นเรื่อย ๆ สาเหตุคงจะเป็นเพราะอยู่เพนต์เฮาส์หรูหราใจกลางเมือง ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและทันสมัยทว่ากลับใช้ชีวิตเรียบง่าย ทำให้ผู้คนสนใจมากมายกับการใช้ชีวิตที่ขัดแย้งกันแบบนี้ แต่ตอนนี้ในใจก็รู้สึกกังวลไม่น้อยเพราะบริษัทของพระเอกนิยายไม่ติดต่อมาเสียที

ปัจจุบันบริษัทของพระเอกคล้ายกับต้นสังกัดวงการบันเทิงและเอเจนซีในเวลาเดียวกัน ทว่านักแสดงในค่ายไม่ใช่ดาราหรือนักร้องแต่เป็นเน็ตไอดอล คนดัง หรือคนที่มีชื่อเสียงในอินเทอร์เน็ตแทน และบริษัทก็จะรับทำหน้าที่เป็นนายหน้าโดยนำคลิปของคนในสังกัดไปเผยแพร่ ช่วยโฆษณา หรือแปลภาษาให้คนต่างประเทศฟัง

ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถขยายตลาดวงการอินเทอร์เน็ตได้ อีกทั้งยังมีเครือข่ายในต่างประเทศ หากถูกละเมิดลิขสิทธิ์บริษัทของหิรัญก็จะเป็นคนจัดการเรื่องนี้แทนโดยที่คนถูกละเมิดไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น หรือหากมีการจัดงานที่ต่างประเทศ บริษัทก็จะเป็นคนจัดการธุระและมีผู้ช่วยให้เช่นกัน

แต่แน่นอนว่าพวกเขาต้องมีการทำสัญญาแบ่งเงินเหล่านี้มาบริหารภายในบริษัทเช่นกัน ทว่าอริสาไม่รู้เรื่องนี้เพราะเธอยังไม่ได้รับการติดต่อมาจากทางนั้นเลย จึงทำได้เพียงรอคอยให้เขาเห็นการเติบโตของช่องเธอและยื่นข้อเสนอมา อริสาจึงจะสามารถเข้าใกล้หิรัญได้

ขณะที่กำลังตัดต่อคลิปวิดีโอการปลูกดอกไม้และการทำความสะอาดรังนกอยู่จู่ ๆ อริสาก็ได้รับอีเมลฉบับหนึ่งส่งเข้ามา เธอรีบเปิดดูอย่างรวดเร็วและทันทีที่เห็นชื่อก็ต้องยิ้มออกมาด้วยความดีใจ

“ในที่สุดก็จะได้เจอพระเอกสักที” อริสาพึมพำกับตัวเองก่อนจะรีบอ่านต่อ

ในอีเมลฉบับนั้นได้พูดถึงการเชิญชวนเธอให้มาเป็นสมาชิกสังกัดของบริษัทหิรัญ โดยทางบริษัทได้นัดวันเวลาให้เธอเข้ามาเพื่อดูสัญญาที่จะทำร่วมกัน และในอีเมลฉบับนั้นก็ได้พูดถึงสัญญาคร่าว ๆ ไว้ด้วย อริสาอ่านแล้วก็พบว่าค่อนข้างสมเหตุสมผล ไม่ได้เอาเปรียบเธอ

แม้จะถูกหักเปอร์เซ็นต์ไปเยอะแต่การที่มีบริษัทนายหน้าที่ทำงานในต่างประเทศช่วยให้งานเบาลงไปมาก อย่างน้อยก็ไม่ต้องปวดหัวกับการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ แม้จะต้องแลกกับเงินมากสักหน่อยแต่ก็ถือว่าคุ้มค่า

อีกอย่างคลิปวิดีโอของเธอก็ไม่ได้มีคำพูดมากนัก หากพูดก็ยังมีคำแปลภาษาอังกฤษไว้ให้คนต่างชาติอ่านด้วย อริสาคิดว่าโอกาสที่เธอจะสามารถขยายตลาดต่างชาติไม่ยากเย็นนัก หลังจากที่อ่านสัญญาฉบับคร่าว ๆ จบเธอก็รีบตอบกลับอีเมลนั้นทันทีและแทบจะอดทนรอไม่ไหวที่จะได้พบเจอพระเอกเสียที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel