บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 ไก่ แมว นางกำนัล

"ดูจินฝูสิ ตั้งแต่เช้าข้าเห็นนางวิ่งไม่หยุดเลย เดี๋ยวไก่จิกแมว เดี๋ยวแมวไล่ตีไก่ ตัวนางเองยังพลอยโดนแมวกับไก่ไล่ตีไปด้วย"

ฉินเซียงเอ่ยไปพลางมองดูจินฝูที่วิ่งไล่แมวไล่ไก่อยู่ในสวนด้วยสายตาเห็นใจ ซ่งเอ๋อร์เองก็พยักหน้าเห็นด้วย

"ได้ยินนางกำนัลคนอื่นบอกว่า ท่านอ๋องทรงไม่ถือสานางจึงทำโทษให้นางมาเลี้ยงไก่เลี้ยงแมว แต่ถ้าหากนางปราบพยศเจ้าสองตัวนั่นไม่ได้ นางอาจจะไร้หนทางรอด"

"เวรกรรมแท้ๆ"

ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์หันมาสบตากันคราหนึ่งพลางถอนหายใจออกมา ก่อนจะเดินตรงไปที่โรงครัวเพื่อจะไปเอาขนมอร่อยๆมาให้จินฝูกินเพิ่มพลังในการวิ่งไล่เจ้าแมวเจ้าไก่สองตัวนั่น

ยามนี้จินฝูกำลังนั่งหอบอยู่ที่ใต้ต้นไม้ มือหนึ่งอุ้มแมวไว้ อีกมือก็กอดไก่ ปากก็ด่าไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ยังคิดจะสู้กันไม่หยุด นางไม่คิดเลยว่าการเลี้ยงเจ้าสองตัวนี่จะยุ่งยากถึงเพียงนี้ ยามนี้นางเข้าใจแล้วว่าเหตุพ่อบ้านตู้จึงส่งสายตาเช่นนั้นมาให้นาง

"ให้ตายเถอะ พวกเจ้าเลิกตีกันเสียที ข้าเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว!"

จินฝูปรารถออกมาอย่างเหนื่อยใจเดิมทีนางคิดว่าจับพวกมันแยกกันเช่นนี้ได้ผลนัก แต่เพียงไม่นานเจ้าแมวก็ขู่เจ้าไก่ เจ้าไก่ก็จ้องพุ่งเข้าใส่เจ้าแมว เสียงร้องของแมวและไก่ทำเอานางรู้สึกเวียนหัว เห็นชัดๆว่าเจ้าแมวไม่ได้ตั้งใจกัดเจ้าไก่ให้ตาย แต่การที่พวกมันหยั่งเชิงกันไปมาเช่นนี้คนที่เหนื่อยที่สุดก็คือนาง

ท้ายที่สุดเจ้าแมวเจ้าไก่ก็หลุดจากการควบคุมของนาง พวกมันวิ่งไล่ตีกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

จินฝูวิ่งตามพวกมันไปจนขาพันกัน นางหายใจไม่ทั่วท้อง รู้สึกแข้งขาอ่อนแรงไปหมด จึงล้มตัวลงไปนอนหงายบนพื้นหญ้าพลางกรีดร้องออกมาสุดเสียง

ภายในเรือนใหญ่ยามนี้กู้เหยียนฉีกำลังนั่งจิบชาชั้นดีอย่างสบายอารมณ์ พร้อมกับนั่งดูนางรำร่ายรำไปด้วย ไม่นานเขาก็รู้สึกเบื่อจึงไล่พวกนางออกไปเสีย แล้วจึงหันมาเอ่ยถามพ่อบ้านตู้

“นางกำนัลผู้นั้นเป็นอย่างไรบ้าง?"

พ่อบ้านตู้เทชาร้อนเพิ่มให้เจ้านายพร้อมกับเอ่ยตอบอย่างนอบน้อม

"นางวิ่งไล่จับเจ้าแมวกับเจ้าไก่จนขาพันกันไปหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ ยามนี้กำลังนอนกรีดร้องเป็นบ้าเป็นหลังอยู่ในสวน"

"ดี ข้าชอบดูนางเป็นบ้า เจ้าแมวส้มกับเจ้าไก่ทองไม่ได้กำราบได้โดยง่าย ข้าเลี้ยงพวกมันมาตั้งนานรู้นิสัยพวกมันดีที่สุด เดิมทีข้าไม่อยากจะถือสาหาความกับความปากเสียของนาง แต่หากไม่ลงโทษคนอื่นๆจะว่าข้าลับหลังเอาได้"

“ท่านอ๋องทรงเมตตามากแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

พ่อบ้านตู้ทำได้เพียงเอ่ยชมเชยยกย่อง ไม่กล้าเอ่ยวาจาขัดใจเจ้านาย ทั้งที่ในใจลอบไว้อาลัยให้จินฝูไปหลายรอบแล้ว กู้เหยียนฉีปรายตามองพ่อบ้านตู้คราหนึ่ง พลางเอ่ยถาม

"ทำไม เจ้าเห็นใจนางหรือ?"

"มิกล้าพ่ะย่ะค่ะ"

"ดี พรุ่งนี้ให้นางพักหนึ่งวัน ส่วนเจ้า พรุ่งนี้ให้นางกำนัลทั้งหมดมาพบข้าที่นี่ ข้าจะเลือกพวกนางสักสองสามคนมารับใช้ในเรือนใหญ่ด้วยตนเอง"

"พ่ะย่ะค่ะ"

พ่อบ้านตู้เอ่ยรับคำ ก่อนจะออกไปจากเรือนไม่อยู่รบกวนความเงียบสงบของเจ้านายอีก ส่วนกู้เหยียนฉีก็ทะยานกายออกไปทางหน้าต่าง และไปหยุดยืนอยู่บนหลังคา ดวงตาคู่คมทอดมองไปยังจินฝูที่กำลังวิ่งไล่สัตว์เลี้ยงสองตัวของเขาพล่างก่นด่าพวกมันไปด้วย ไม่นานนางก็จับพวกมันได้และทิ้งกายลงไปนอนแผ่หราบนพื้นหญ้าพร้อมกับเจ้าแมวเจ้าไก่

ดูเหมือนว่าเจ้าแมวส้มและเจ้าไก่ทองจะหมดฤทธิ์เสียแล้ว มันไม่วิ่งไล่กันอีกและยังนอนซบจินฝูอย่างว่าง่าย

เป็นไปได้อย่างไรกัน เขาพยายามตั้งนานพวกมันยังไม่ยอมเลิกตีกัน แต่จินฝูกลับทำได้

ความสงสัยมากมายผุดขึ้นในใจของเขา สตรีนางนี้น่าสนใจดี แววตาที่นางมองเขาไม่ได้มีสิ่งใดแอบแฝงนอกจากความหวาดกลัว อีกทั้งยังไม่มีการยั่วยวนให้เห็นในดวงตาคู่งาม ช่างต่างจากนางกำนัลเหล่านั้นที่วันๆลอบหว่านเสน่ห์ให้เขาไม่หยุด พวกนางหมายใจจะให้เขาเด็ดบุปผาชมความงามให้ได้ ที่พวกนางทำเช่นนี้ส่วนหนึ่งอาจเพราะมีใจชอบพอในตัวเขาจริงๆ แต่อีกส่วนหนึ่งก็เพราะเจี่ยงฮองเฮาสั่งมา หากทำให้เขาหลงใหลสำเร็จ นอกจากอำนาจเงินทองที่พวกนางจะได้รับแล้ว ยังสามารถคาบความลับในจวนของเขาไปบอกกับเจี่ยงฮองเฮาได้อีกด้วย ทำเช่นนี้เท่ากับได้รางวัลสองต่อ ช่างโลภมากนัก!

เขาไม่อยากผูกพันกับสตรีนางใดทั้งสิ้น ตราบใดที่เขายังไม่อาจจัดการสะสางเรื่องเก่าหนหลังได้สำเร็จย่อมไม่อาจทำให้ความรักกลายเป็นจุดอ่อนในชีวิตของตนเองได้

ชายหนุ่มละสายตาจากจินฝู ก่อนจะกลับไปที่เรือนของตนและไม่สนใจนางอีก

ด้านจินฝูนั้นเพราะรบกับเจ้าแมวเจ้าไก่สองตัวจนเหนื่อย หลังกลับมาถึงเรือนนอนคืนนั้นก็หลับเป็นตาย กว่าจะรู้สึกตัวตื่นอีกคราก็เป็นเวลาสายของอีกวัน นางกำนัลคนอื่นๆตื่นกันหมดแล้ว ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์พยายามปลุกนางอยู่หลายรอบกว่านางจะยอมตื่น จินฝูกลัวว่าสหายทั้งสองจะเดือดร้อนไปด้วยจึงบอกให้พวกนางล่วงหน้าไปก่อนส่วนตนจะรีบตามไปทีหลัง ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์พยักหน้าอย่างจำใจ พร้อมกับเอ่ยย้ำให้จินฝูรีบตามไปโดยเร็ว จินฝูพยักหน้าและรีบจัดการตนเองทันที

เมื่อแต่งกายเรียบร้อยดีแล้วจินฝูจึงรีบเร่งฝีเท้าเพื่อจะได้ตามนางกำนัลคนอื่นๆไปได้เร็วๆ ระหว่างทางนางพบกับพ่อบ้านตู้เข้าพอดี พ่อบ้านตู้ที่เห็นว่าเมื่อวานนี้จินฝูได้รับความลำบากมาไม่น้อยจึงไม่อยากจะตำหนินางเรื่องตื่นสายอีก

"นางกำนัลจิน เจ้าตื่นสายหรือ ให้ตายเถอะ วันนี้ข้าจะละเว้นเจ้าสักวันก็แล้วกัน เจ้ารีบไปที่เรือนใหญ่เร็วเข้า วันนี้ท่านอ๋องเรียกพวกเจ้าไปพบ เพราะจะทรงคัดเลือกสาวงามเข้าไปปรนนิบัติในเรือนใหญ่ด้วยพระองค์เอง"

จินฝูเมื่อได้ยินก็ใจเต้นหวาดหวั่น ปรนนิบัติ? ปรนนิบัติที่แปลว่าต้องตกเป็นของเขาหรือ ให้ตายเถอะ!

พ่อบ้านตู้ที่เห็นว่าจินฝูเอาแต่เหม่อลอยจึงเอ่ยเรียกนางอีกหน

“นางกำนัลจิน เจ้าเหม่ออันใดอยู่กัน?”

จินฝูสะดุ้งแล้วจึงรีบเอ่ยถามพ่อบ้านตู้ทันที

“พ่อบ้านตู้ ท่านอ๋องจะทรงเลือกสตรีเข้าไปปรนนิบัติจริงหรือเจ้าคะ?”

"ถูกต้อง สตรีที่ได้รับเลือกนับว่ามีวาสนาดี หากได้รับความโปรดปรานแน่นอนว่าจะต้องสบายไปทั้งชีวิต เจ้าก็หน้าตางดงามใช้ได้อยู่นะ บางคราอาจจะถูกตาต้องใจท่านอ๋องเข้าก็ได้ แต่ขอบตาเจ้าคล้ำไปเสียหน่อย นี่สิคือปัญหา"

“ท่านอ๋องไม่ชอบสตรีตาคล้ำหรือเจ้าคะ?”

“ก็ใช่น่ะสิ ข้ายังไม่ชอบเลย”

จินฝูเมื่อได้ยินเช่นนั้นแววตาก็สว่างวาบขึ้นมาคราหนึ่ง

ที่แท้เขาชอบสตรีที่ดวงตาสว่างงดงามเหมือนดวงดาราหรอกหรือ!

"เจ้ายิ้มทำไมกัน นางกำนัลจิน เจ้าน่ะ หลงเสน่ห์ท่านอ๋องเข้าแล้วสินะ"

พ่อบ้านตู้เอ่ยอย่างภาคภูมิใจ จินฝูที่ได้ยินอย่างนั้นก็หันมายิ้มหวานให้พ่อบ้านตู้ ก่อนจะยกสองมือขึ้นต่อยเบ้าตาตนเองทันที

ทำเช่นนี้ก็เพียงพอแล้ว ตานางช้ำห้อเลือดขนาดนี้ เขาเลือกนางไปปรนนิบัติก็แปลกคนแล้ว!

พ่อบ้านตู้ที่เห็นอย่างนั้นก็สะดุ้งโหยงก่อนจะเอ่ยถามด้วยความตกใจ

"นางกำนัลจิน เจ้าทำอันใด!"

"บำรุงดวงตาให้เปล่งประกายเจ้าค่ะ"

เอ่ยจบนางก็รีบเดินจากไปทันที พ่อบ้านตู้ย่นหัวคิ้วพลางครุ่นคิด ช่วงนี้เขาเองก็ตาฝ้าฟางเช่นเดียวกันไม่สู้ลองใช้วิธีของนางดูเสียหน่อยดีกว่า

พ่อบ้านตู้หันมองซ้ายมองขวา แล้วจึงยกกำปั้นขึ้นมาต่อยตาตนเองเช่นเดียวกับที่จินฝูทำ ชายวัยกลางคนถึงกับตาลอยเห็นดวงดาวระยิบระยับตรงหน้าขึ้นมา

ไอหยา! มันบำรุงดวงตาหรือเร่งให้ตาบอดกันแน่นางกำนัลจิน!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel