บทที่ 6 โดนปั่นหัว
หนึ่งเดือนต่อมา
"มีเงินเยอะขนาดนี้เลยหรอ"
มาริสาพึมพำกับตัวเองหลังจากเห็นยอดเงินในบัญชี ตอนนี้ความทรงจำของมาริสาถูกจัดเข้าระเบียบจนเธอรับรู้เรื่องราวในอดีตได้ทั้งหมดแล้ว ทำให้เธอสามารถเข้าถึงรหัสโทรศัพท์และตู้เซฟของมาริสาได้
"เป็นอะไร"
ธันย์ที่นั่งทำงานสังเกตว่ามาริสาเงียบผิดปกติจึงเอ่ยถามออกไป ดวงตาจ้องมองมาริสานั่งอยู่บนโซฟาเป็นภาพที่เขาคุ้นชินมาตลอดหนึ่งเดือน
น่าแปลกที่หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นมาริสาก็เปลี่ยนไป เธอมักวนเวียนอยู่รอบตัวเขาทำให้บรรยากาศรอบตัวของเขาที่เคยอึมครึมดูสดใส
"เปล่าค่ะ"
มาริสาพูดออกไปเสียงเรียบก่อนจะก้มหน้าลงสนใจโทรศัพท์ที่อยู่ในมือ นิ้วเรียวเลื่อนดูคลิปวิดีโอที่ถูกผู้คนอัปโหลดขึ้นบนอินเทอร์เน็ต ริมฝีปากบางยกยิ้มออกมาเมื่อเห็นคลิปแมวสีขาวตัวอ้วนที่กำลังกินขนมอยู่
"มาริสา" ธันย์เอ่ยเรียกชื่อคนตรงหน้าเสียงเย็น
"คะ?"
มาริสาเงยหน้าจากหน้าจอโทรศัพท์หันไปสนใจธันย์ที่กำลังแสดงสีหน้าไม่พอใจอยู่ บรรยากาศภายในห้องดูอึดอัดขึ้นมาทันที มาริสาแสร้งฝืนยิ้มออกมาเพราะไม่รู้ว่าเธอทำอะไรให้ธันย์ไม่พอใจ
"พี่ธันย์ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ"
"......."
"พี่ธันย์"
ความรู้สึกในใจของธันย์ตอนนี้กำลังตีกันวุ่นวาย เขารู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองกำลังถูกมาริสาปั่นหัวจนจะกลายเป็นคนบ้า เขาควบคุมตัวเองไม่ได้เพียงแค่เห็นว่าคนตรงหน้ากำลังเมินเขาไปสนใจอย่างอื่น
ธันย์รับรู้ได้ว่าถ้ามาริสายังวนเวียนอยู่ใกล้ตัว เขาจะต้องตกลงไปในหลุมที่เธอขุดไว้ในสักวัน..
"มาริสา ต่อไปอย่ามาที่นี่อีก"
"คะ"?
"ไอ้ธารณ์กลับมาแล้ว พ่อฉันอยากขอโทษที่ไอ้ธารณ์หนีไปเลยจองโต๊ะดินเนอร์ไว้ให้เย็นนี้"
มาริสาได้ฟังคนตรงหน้าเอ่ยถึงคู่หมั้นของตัวเองรอยยิ้มที่มีบนใบหน้าก็เลือนหายไปทันที มือบางกำเข้าหากันแน่น เธอมาอยู่ในร่างของมาริสาได้หนึ่งเดือนแล้วแต่ไม่เคยได้พบธารณ์ที่เป็นคู่หมั้นเลย ไม่คิดว่าจะได้เจอหน้ากันเร็วแบบนี้
"ฉันจะให้จอมทัพไปส่งเธอ"
"พี่ธันย์ไม่ไปด้วยกันหรอคะ"
"จอมทัพเข้ามา"
ธันย์กดโทรศัพท์ตรงหน้าเรียกจอมทัพที่อยู่หน้าห้องให้เดินเข้ามา เขาจ้องมองมาริสาในตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลไม่หลงเหลือรอยยิ้มเช่นทุกที
"ครับคุณธันย์"
"พามาริสากลับไปที่คอนโด แล้วถ้าถึงเวลาก็พาไปส่งที่ร้านอาหาร"
"ครับ คุณมาริสาเชิญครับ"
บรรยากาศกลับมาอึมครึมชวนอึดอัดหลังจากที่มาริสาเดินออกไปจากห้อง ธันย์เอนกายลงบนเก้าอี้ด้วยความเหนื่อยล้า เขาบอกตัวเองว่ากำลังทำในสิ่งที่ควรทำแล้ว เขาควรหยุดทุกอย่างก่อนที่จะสายเกินไป
มาริสาไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาควรจะเข้าไปยุ่ง เขาจะไม่โง่เป็นหมากในแผนที่เธอวางไว้เด็ดขาด
ร้านอาหาร
มาริสาในชุดเดรสสีเรียบนั่งอยู่ในร้านอาหารสุดหรูบนตึกสูงใจกลางเมือง ดวงตาคู่สวยมองท้องฟ้าที่อึมครึมบ่งบอกว่าฝนกำลังจะตกผ่านกระจกใสที่อยู่ด้านข้าง
ตึก ตึก ตึก
นิ้วเรียวเคาะลงบนโต๊ะอย่างเคยชิน พลางมองเก้าอี้ว่างเปล่าที่นั่งของธารณ์คู่หมั้น เวลาล่วงเลยไปเกือบหนึ่งชั่วโมงแต่เขาก็ยังไม่ปรากฏตัว ริมฝีปากบางแค่นหัวเราะในลำคอ นึกถึงมาริสาในอดีตที่อดทนรอธารณ์แบบนี้จนเป็นเรื่องปกติ
แต่เธอไม่ใช่มาริสา หนึ่งชั่วโมงถือว่าเกินพอแล้ว...
"พอกันที"
เมื่อครบหนึ่งชั่วโมงตามขีดจำกัดของมาริสา ร่างบางก็ยืนขึ้นหมุนตัวเตรียมเดินออกไปจากร้านอาหาร แต่ก็ต้องชะงักฝีเท้า เมื่อเห็นว่าผู้ชายที่เธอกำลังนั่งรออยู่กำลังก้าวเท้าเดินเข้ามาในร้าน
ริมฝีปากบางยกยิ้มสมเพชเมื่อเห็นว่าธารณ์ไม่ได้มาคนเดียว ดวงตาคู่สวยมองไปที่ผู้หญิงรูปร่างบอบบางแววตาเต็มไปด้วยความเศร้าเดินอยู่ข้างกายคู่หมั้นเธอ
ม่านฟ้า นางเอกของเรื่องนี้หญิงสาวที่ถูกครอบครัวตัวเองขายให้มาเฟียเพื่อชดใช้หนี้ ตามเส้นเรื่องนิยายเพราะความหยิ่งทะนงของม่านฟ้ายอมทำงานหนักดีกว่าไปใช้ร่างกายขายตัว ทำให้ธารณ์เกิดความสนใจในตัวเธอ ด้วยความที่ธารณ์ต้องการถอนหมั้นจากมาริสานางร้ายของเรื่อง เลยทำสัญญากับม่านฟ้าให้เธอมาเป็นคู่รักปลอม ๆ สุดท้ายเพราะความใกล้ชิดทำให้ทั้งสองได้รักกัน
"มาริสาเธอไม่ว่าอะไรใช่ไหมที่ฉันพาม่านฟ้ามาร่วมโต๊ะด้วย"
"ค่ะ"
ธารณ์ที่ได้รับคำตอบชะงักเล็กน้อย เดิมทีเขาคิดว่าทันทีที่มาริสาเห็นหน้าม่านฟ้าจะอาละวาดออกมาเหมือนที่เคยทำเสียอีก ทั้งที่คิดว่าพอเธอก่อเรื่องแล้วเขาจะหาทางออกไปจากที่นี่
"สวัสดีค่ะ คุณม่านฟ้า"
"สะ...สวัสดีค่ะ คุณมาริสา"
ม่านฟ้าพูดออกมาเสียงสั่น เมื่อได้เผชิญหน้ากับคนที่ทำร้ายเธอมาตลอดหลายเดือน หากไม่ใช่เพราะตลอดมาเธอทำสัญญากับธารณ์เธอก็ไม่คิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนพวกนี้เป็นแน่
สำหรับม่านฟ้า มาริสาเปรียบเสมือนนรกเลยก็ว่าได้..
"ถ้างั้นฉันขอตัวก่อนนะ กินข้าวให้อร่อยนะคะคุณม่านฟ้า"
มาริสาพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม แต่การกระทำของเธอทำให้ม่านฟ้าที่ตื่นกลัวอยู่มีสีหน้ากังวลมากกว่าเดิม ความจริงมาริสาไม่ได้มีเจตนาจะข่มขู่ม่านฟ้าแต่อย่างใด เพราะเธอรู้ดีว่าที่ผ่านมาม่านฟ้าก็ผ่านความลำบากมามากมายเหมือนกัน
เธอไม่ใช่มาริสาที่จะหึงหวงธารณ์ เลยไม่คิดจะตั้งป้อมทำร้ายม่านฟ้าเหมือนนางร้าย ถึงอย่างไรก็ตั้งใจแล้วว่าจะไม่เข้าไปยุ่งกับความรักของทั้งสอง ในเมื่อวันนี้ทั้งสองมาด้วยกัน เธอก็เพียงหลีกทางให้พวกเขาได้ดินเนอร์ในบรรยากาศโรแมนติกแบบนี้
"เดี๋ยวเธอจะไปไหน"
"กลับคอนโดไง เชิญนายดินเนอร์กับคุณม่านฟ้าตามสบายเลยฉันขอตัว"
มาริสาพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะก้าวเท้าเดินออกมาจากร้านอาหารไม่คิดหันกลับไปมองธารณ์อีก หากถึงเวลาที่เหมาะสมเธอจะเอ่ยปากถอนหมั้นกับธารณ์อย่างที่ตั้งใจ แต่ที่ยังไม่ทำนั่นก็เพราะ
การหมั้นของเธอเป็นเหมือนสัญญาสงบศึกของเขตเหนือและเขตใต้ ถ้าไม่มีการหมั้นในครั้งนี้สงครามมาเฟียแย่งพื้นที่ปกครองคงได้เกิดขึ้นเหมือนในอดีต ถ้าเป็นแบบนั้นธันย์และเธอก็จะกลายเป็นศัตรูกัน
"ยังถอนหมั้นตอนนี้ไม่ได้ถ้ายังไม่มีวิธีแก้ปัญหาเรื่องนี้"
มาริสาเดินทางกลับมาที่คอนโด โดยมีจอมทัพเป็นคนมาส่งตามคำสั่งของธันย์ วันนี้เป็นวันที่หนักหนาสำหรับเธอจริง ๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงถูกธันย์สั่งห้ามไม่ให้ไปหาที่ห้องทำงาน ตอนนั้นเธอทำอะไรผิดกันแน่
"กลับมาแล้วหรอ"
ร่างบางชะงักฝีเท้าเมื่อได้ยินเสียงที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี ดวงตาคู่สวยมองติณห์ที่กำลังนั่งดื่มไวน์อยู่ที่โซฟากลางห้อง แววตาที่จ้องมองมาที่มาริสาเต็มไปด้วยความสงสัย
"พี่ติณห์ มาหาสาตอนนี้มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าคะ" มาริสาแสร้งฝืนยิ้มออกมา เธอสัมผัสได้ว่าคนตรงหน้ากำลังสงสัยในตัวตนของเธอ
ติณห์ที่เห็นสีหน้ากังวลของมาริสาก็ยกยิ้มมุมปาก เขาวางแก้วไวน์ในมือลงบนโต๊ะก่อนจะหยิบซองเอกสารที่เป็นรายงานการตรวจลายนิ้วมือและDNAของคนตรงหน้าออกมา
"มาริสา พี่ว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน"
