บทที่ 2
จวนตระกูลเฉิน
ห้องนอนฮูหยินใหญ่เฉิน
"ขอองค์หญิงอย่าได้ลืมสิ่งที่องค์รัชทายาทรับสั่ง"
"......"
"หากไม่ได้ยาถอนพิษท่านจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงสามปี จงอย่าลืมว่าต้องทำสิ่งใดเพื่อแลกชีวิตของท่าน"
"ท่านออกไปเถอะ"
"นี่ท่าน!!!"
"สามีของข้าจะเข้าห้องมาแล้ว หรือแม่นมต้องการสั่งสอนเรื่องท่าทางบนเตียงของข้าด้วยเล่า"
เฉินหย่งเล่อพูดออกมาเสียงเรียบทำให้แม่นมเดินออกจากห้องไปด้วยความไม่พอใจ เฉินหย่งเล่อที่ได้ยินเสียงปิดประตูก็ถอนหายใจออกมา ที่จริงนางโกหกเฉินเทียนอี้ไม่ได้กำลังมาเพราะนางรู้ดีว่าเฉินเทียนอี้จะไม่มีทางย่างกายเข้ามาที่นี่ ตามนิยายเฉินเทียนอี้ไม่ร่วมเตียงกับเฉินหย่งเล่อแม้แต่ครั้งเดียว แต่ที่เฉินหย่งเล่อท้องและให้กำเนิดนางร้ายได้เป็นเพราะนางจงใจวางยาปลุกกำหนัดหวังว่าหากเฉินเทียนอี้ร่วมเตียงกับนางแล้วจะเกิดความหลงใหลและอาจช่วยนางหายาถอนพิษได้ ซึ่งผลของมันตรงกันข้ามเฉินเทียนอี้กลับย้ายนางออกไปอยู่หลังจวน
"ข้าในตอนนี้ควรทำเช่นไรดี"
เฉินหย่งเล่อเอนหลังลงนอบราบกับที่นอนมองเพดานด้านบนราวกับคนไร้จุดหมาย นางไม่รู้ว่าในตอนนี้ควรจะทำเช่นไรดีเพราะไม่ว่าเลือกทางไหนนางก็ตายอยู่ดี เหมือนกับตอนนี้นางแค่เลือกว่าจะตายด้วยน้ำมือองค์รัชทายาทหรือตายด้วยน้ำมือตัวร้ายอย่างเฉินเทียนอี้ แต่หากนางเลือกช่วยองค์รัชทายาทหลังจากนางได้รับยาถอนพิษก็จะถูกแต่งตั้งเป็นชายารองแบบนี้ไม่เท่ากับว่านางต้องตายทั้งเป็นหรือ หากเป็นเช่นนี้สู้นางใช้ชีวิตต่อเพียงสามปีแล้วตายลงไปอย่างมีศักดิ์ศรีดีกว่า ไม่แน่ว่าหลังจากนางตายแล้ววิญญาณอาจจะถูกส่งกลับไปในโลกปัจจุบันที่นางเคยอยู่ก็ได้
"ทุกทรมานเช่นเจ้าและไม่ตายดี เช่นนั้นหรือ"
หย่งเล่อพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ทุกทรมานเช่นเจ้าข้ารู้แล้วว่าเป็นเช่นไร คงเหลือเพียงไม่ตายดีสินะ
"อีกสามปี ทุกอย่างก็จะจบแล้ว"
สามปี อีกเพียงสามปีตามนิยายหลังจากเฉินหย่งเล่อตาย ก็จะเข้าสู่เนื้อเรื่องหลักบุตรสาวของนางจะกลายเป็นนางร้ายที่ผู้คนต่างเกรงกลัว ส่วนเฉินเทียนอี้จะเป็นตัวร้ายที่กระหายอำนาจ เขาก่อกบฏจนสำเร็จแต่สุดท้ายก็ถูกสังหารโดยพระเอกและพระรองที่เป็นศิษย์รักของตน ข้าคิดอะไรอยู่กันนะถึงได้แต่งนิยายเช่นนี้ขึ้นมา....
"หากตามนิยาย ข้าต้องวางยาปลุกกำหนัดเฉินเทียนอี้เพื่อมีบุตรสาวที่เป็นนางร้ายสินะ"
"ช่างมีความคิดหยาบช้าเสียจริง คิดว่าข้าจะยินยอมหลงกลร่วมรักกับเจ้าเป็นครั้งที่สองหรือ"
น้ำเสียงไม่พอใจดังขึ้นทำลายความเงียบ ทำให้เฉินหย่งเล่อที่นอนอยู่รีบลุกขึ้นนั่งทันทีนางมองไปทางต้นเสียงอย่างร้อนรน ก่อนเบิกตากว้างมองบุรุษสวมชุดสีดำยืนอยู่กลางห้อง เขายืนมองนางด้วยใบหน้าเรียบเฉยทันทีที่เห็นหน้าเฉินหย่งเล่อรู้ทันทีว่าเขาเป็นใคร
เฉินเทียนอี้ตัวร้ายในนิยายสามีของนาง ตัวร้ายที่ถูกบรรยายว่าใบหน้าคมบุรุษที่มีเพียงหน้าเดียวเท่านั้น ด้วยสีหน้าเรียบเฉยจนดูน่ากลัวของเขาทำให้เหมาะจะเป็นตัวร้าย ตามนิยายเฉินเทียนอี้ไม่เคยยิ้ม เขาจะยิ้มก็ต่อเมื่อสังหารผู้อื่นหรือผู้อื่นตกอยู่ในกำมือเขาเท่านั้น แต่พอได้มาเห็นใบหน้าตัวร้ายแบบนี้ก็อดคิดไม่ได้ว่า ใบหน้าของเขามันการันตีว่าเป็นคนชั่วจริง ๆ แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่าตามนิยายเฉินเทียนอี้ไม่ควรปรากฏตัวในห้องนอนของนางสิ
"ข้าพึ่งได้ยินเรื่องสนุกมาเจ้าอยากฟังหรือไม่"
"......"
"ผู้คนพูดว่าฮูหยินข้าหลายเดือนที่เจ้าอยู่ในวังเจ้าก็แอบมีความสัมพันธ์ลับลับกับองค์รัชทายาท"
"......"
"เป็นเช่นนี้เององค์รัชทายาทถึงได้ประทานหมวกเขียวล้อมหยกให้ข้าอยู่หลายใบ บุรุษที่สวมหมวกเขียวหย่งเล่อรู้ความหมายหรือไม่"
[สวมหมวกเขียว มีความหมายแฝงเป็นนัยว่า ภรรยาของเขาลอบคบชู้ โดยที่สามีไม่ระแคะระคาย]
"......"
"แต่ไม่ต้องห่วงข้าไม่ได้สนใจเรื่องไร้ประโยชน์เช่นนั้น ข้าสนใจเพียงเหตุผลที่ชายชู้ของเจ้าให้เจ้ามาทำอะไรในจวนของข้า"
"ข้าไม่ได้...."
เสียงของเฉินหย่งเล่อหายไปในนำคอทันทีที่เฉินเทียนอี้เดินเข้ามาประชิดตัวนาง ดวงตาของเขาดูน่ากลัวจนหย่งเล่อพูดไม่ออกมา มือของเขาสัมผัสที่ลำคอของนาง มือเย็นเฉียบของเขาทำให้นางรู้สึกขนลุก
"หากคิดจะสืบเรื่องราวในจวนข้าไปให้ชายชู้ของเจ้า จงหยุดซะ"
"อะไร ข้าไม่ดะ.."
"หากยังไม่หยุด เกรงว่าแม้จะเป็นองค์รัชทายาทก็คงรักษาชีวิตของเจ้าไว้ไม่ได้"
เสียงของเฉินเทียนอี้และดวงตาของเขาเรียบเฉย ราวกับต้องการบอกว่าจะทำเช่นนั้นจริง ๆ เฉินหย่งเล่อในตอนนี้เป็นเพียงลูกไก่ในกำมือของเขาเท่านั้น
"เจ้าที่รู้เช่นนี้แล้วยังจะดื้อดึงสืบข้อมูลในจวนของข้าต่อไป เกรงว่าอีกไม่กี่วันข้าอาจจะให้คนหามเจ้าที่นอนในโลงออกไปจากจวน"
"......."
"จงจำสิ่งที่ข้าเตือนให้ดี..."
เฉินหย่งเล่อรู้สึกได้ถึงแรงบีบที่ลำคอของนาง นางพยายามแกะมือของเฉินเทียนอี้ออกอย่างร้อนรน เฉินเทียนอี้เห็นเช่นนี้ก็ปล่อยมือจากลำคอผลทำให้นางทรุดตัวลงนั่งกับพื้นทันที
"อยากรักษาชีวิต ก็จงอยู่เงียบ ๆ ในที่ของเจ้าไป"
"ข้าไม่ได้"
"แล้วอย่าได้สำคัญตัวผิดคิดว่าเจ้าได้เป็นฮูหยินจวนเฉิน เพราะเจ้าในตอนนี้เป็นเพียงเบี้ยบนกระดานที่ยังมีประโยชน์ต่อข้าอยู่เท่านั้น"
พูดจบเฉินเทียนอี้ก็เดินออกจากห้องไป เฉินหย่งเล่อหอบหายใจพยายามโกยอากาศเข้าไปในปอดมือบางลูบที่ลำคออย่างแผ่วเบา พลางนึกถึงใบหน้าของเฉินเทียนอี้ในตอนที่บีบคอนาง เขาไม่แสดงสีหน้าอะไรเลยสักนิด เฉินเทียนอี้ผู้นี้น่ากลัวจริง ๆ เห็นทีชีวิตสามปีที่เรียบง่ายของนางอาจจะจบเร็วขึ้นหากอยู่กับคนเช่นนี้
"หย่า ข้าต้องหย่ากับบุรุษบ้าผู้นี้"
