บท
ตั้งค่า

คุณหนูตระกูลลู่

บทที่ 2 คุณหนูตระกูลลู่

เสี่ยวลี่เหมยหอบเอาหัวใจที่บอบช้ำเดินลงมายังหน้าดอนโด โชคชะตาดันเล่นตลกราวกับว่าซ้ำเติมเธอ ท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งบัดนี้กลับกลายเป็นท้องฟ้ามืดครึ้มลมพัดแรงฝุ่นคละคลุ้งพายุถล่มลงมาราวกับท้องฟ้าพิโรธ เสี่ยวลี่เหมยเงยหน้ามองบนท้องฟ้าพร้อมแสยะยิ้ม ขนาดท้องฟ้ายังสมน้ำหน้าเธอเลย น้ำตาของความเจ็บปวดไหลรินแข่งกับสายฝน เธอก้าวเท้าเดินตากฝนด้วยความเหม่อลอย แต่ว่าความโชคร้ายของเธอยังไม่จบลงเพียงเท่านี้ จู่ ๆ มีรถยนต์ขับขี่มาด้วยความเร็วแถมคนที่ควบคุมพวงมาลัยนั้นดื่มมาด้วยความมึนเมา ทำให้เสียการควบคุมพุ่งชนเสี่ยวลี่เหมยที่เดินอยู่ข้างถนนเข้าอย่างแรง

"เอี๊ยดด!!!! โครม!!!..." เพียงแค่เศษวินาทีที่เสี่ยวลี่เหมยหันหน้าไปมองไม่ทันได้ให้เธอตั้งตัว ร่างของเธอก็ลอยขึ้นบนท้องฟ้าตกกระทบลงถนนอย่างแรง ความเจ็บปวดเปลี่ยนแปลงเป็นชาไปทั้งร่างกาย ดวงตาเริ่มพร่ามัว

"ฉันคงเป็นคนมีกรรมมาสินะ ถึงได้ดวงซวยได้ขนาดนี้เอาสิพระเจ้า หากท่านอยากได้ชีวิตของฉันก็เอาไปเถอะ" เลือดเริ่มไหลออกมาจากร่างกายสติของเสี่ยวลี่เหมยเริ่มเลือนลางลงอย่างช้า ๆ ก่อนที่จะหมดสติเธอได้ตัดพ้ออย่างสิ้นหวัง ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์แตกตื่นเดินเข้ามาดูกันมากมาย พร้อมกดมือถือโทรหารถโรงพยาบาลส่วนรถที่ชนเธอตอนนี้ก็พุ่งไปชนเสาไฟฟ้าแน่นิ่ง เสี่ยวลี่เหมยลมหายใจโรยรินภาวนาในใจก่อนที่จะหมดลม หากเธอได้เกิดอีกครั้งเธอจะไม่ขอมีความรักอีกเลย....

เรือนตระกูลลู่

กรุ้งกริ่ง กรุ้งกริ่ง " เสียงกระพวนที่ห้อยตามระเบียงเมื่อถูกสายลมพัดผ่านทำให้เกิดเสียงที่ฟังแล้วรู้สึกสบายใจ เสียงนกเจี้ยวจ้าวขับร้องแข่งขันกันอย่างสนุกสนาน สาวใช้มากมายต่างพากันทำหน้าที่ของตน เช่นเดียวกันกับ ‘ไป๋เซ่อ’ ที่กำลังเช็ดถูห้องนอนข้าวของเครื่องใช้ของคุณหนูของนาง ‘ลี่อิน’ นางเองกำลังเช็ดตัวของกับคุณหนูของนางที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงไม่ฟื้นเป็นเวลาหลายวัน ทำให้พวกนางเฝ้าภาวนาให้คุณหนูฟื้นขึ้นมาเสียที

"ไป๋เซ่อ ข้าเฝ้ามองคุณหนูทอยู่ทุกวันเมื่อไหร่คุณหนูของพวกเราจะฟื้นขึ้นมาเสียทีนะ " ลี่อินวางแขนของคุณหนูลงข้างลำตัวพร้อมดึงผ้าห่มมาห่มกายให้เมื่อเช็ดตัวเสร็จสิ้น

"ข้าเองก็อยากให้คุณหนูฟื้นเช่นกัน ข้าคิดถึงรอยยิ้มเสียงหัวเราะของคุณหนูเหลือเกิน หากเป็นไปได้หากสวรรค์เมตตาขอให้คุณหนูฟื้นมาคราวนี้อย่าเจ็บไข้ได้ป่วยอีกเลย " ไป๋เซ่อถูโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมภาวนา ลี่อินนางลุกขึ้นเพื่อนำถังน้ำกับผ้าไปเก็บจู่ ๆ ก็ต้องดีใจตะโกนออกมาเสียงดังราวกับว่าคุณหนูของนางรับรู้ เพราะตอนนี้ีร่างของคุณหนูกำลังลืมตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้า

เสี่ยวลี่เหมยที่นอนอยู่อย่างสบายก็ต้องมาตื่นเพราะเสียงพูดคุยกันของผู้หญิงสองคน เธอลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ อากาศในห้องคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นยาสมุนไพรตีกันกับกลิ่นธูปหอม เหมือนกับหนังสมัยโบราณที่เธอเคยดูบ่อย ๆ

"ไป๋เซ่อ ไป๋เซ่อ คุณหนูฟื้นแล้ว" น้ำเสียงกระดี๊กระด๊าตะโกนบอกอีกคนอย่างดีใจ ไป๋เซ่อเองก็รีบวิ่งมาดูคุณหนูของตนเช่นกัน

"จริงหรือ คำอ้อนวอนของข้าเป็นผลจริง ๆ ด้วย ขอบคุณสวรรค์ ขอบคุณสวรรค์" ไป๋เซ่อยกมือขึ้นขอบคุณสวรรค์อย่างดีอกดีใจ ส่วนเสี่ยวลี่เหมยเธอกรอกตามองซ้ายมองขวากับสถานที่ไม่คุ้นเคยแถมผู้หญิงทั้งสองเธอเองก็ไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ เธอลุกขึ้นพรวดเมื่อนึกได้ว่าตนเองถูกรถชนเข้าน่าจะตายไปแล้ว หรือนี่คือโรงพยาบาลแต่ทำไมผู้หญิงสองคนนี้แต่งตัวราวกับว่าไม่ใช่นางพยาบาลเลยล่ะ

"ที่นี่ที่ไหน คุณเป็นพยาบาลเหรอคะ? ไม่ใช่ว่าฉันตายไปแล้วเหรอ" เสี่ยวลี่เหมยถามทั้งสองคนทำให้พวกนางมองหน้ากันอย่างแปลกใจ

"คุณหนูจำพวกเรามิได้หรือเจ้าคะ หรือว่าคุณหนูนอนนานเกินไปไม่ได้การแล้ว ลี่อินข้าจะไปตามท่านหมอเจ้ารีบไปตามท่านใต้เท้าแจ้งเรื่องที่คุณหนูฟื้นเร็วเข้า " ไป๋เซ่อแตกตื่นที่เห็นคุณหนูจำนางไม่ได้จึงรีบไปตามท่านหมอ

"ได้! คุณหนูอย่าพึ่งลุกจากเตียงนะเจ้าคะ ข้าจะรีบกลับมาอยู่กับท่าน" ทั้งสองไม่ตอบเสี่ยวลี่เหมยแถมยังรีบออกจากห้องกันอย่างเร่งรีบ ทำเอาเสี่ยวลี่เหมยต้องงงงวยไปด้วย ในตอนนี้ทุกคนออกไปจนหมดเธอมองดูร่างกายของตัวเองจำได้ว่าถูกรถชนจนขาหักไปแล้วแต่เมื่อเธอดึงผ้าห่มออกถลกชุดขึ้นกลับพบว่านี่ไม่ใช่ร่างกายของเธอ นิ้วมืออวบอ้วนขาที่ใหญ่แถมร่างกายของเธอตอนนี้อ้อมล้อมไปด้วยไขมัน เสี่ยวลี่เหมยรีบลุกขึ้นมองหากระจกเมื่อเห็นว่ามีกระจกอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งเธอรีบเดินเข้ามาดูก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบว่าตอนนี้เธอได้มาอยู่ในร่างของหญิงสาวที่อวบอ้วนไปทั้งตัว

"นี่มันเรื่องอะไรกัน!!! ฉันมาอยู่ที่ไหนแล้วนี่ร่างของใคร โอ๊ย! ทำไมถึงปวดหัวขนาดนี้นะ" เสี่ยวลี่เหมยทรุดตัวลงกับพื้นใช้มือกุมขมับภาพความทรงจำของร่างเก่าก็โผล่ขึ้นมาให้เธอได้เห็นเกี่ยวกับเจ้าของร่างนี้

นางคือ ‘คุณหนูลู่เพ่ย’ บุตรสาวของใต้เท้าลู่ไป๋เหวิน กำพร้ามารดามาตั้งแต่กำเนิด ท่านพ่อเฝ้าเลี้ยงดูอย่างตามใจทำให้ร่างกายของลู่เพ่ยอวบอ้วน ไม่ว่านางอยากกินอะไรใต้เท้าลู่ก็ไม่ขัดจัดให้ตลอด ที่ตามใจบุตรสาวของตนเช่นนี้เพราะชีวิตของนางน่าสงสารกำพร้ามารดาแถมยังมีโรคประจำตัวมาตั้งแต่เด็ก ร่างกายของนางจึงไม่ค่อยแข็งแรงเสี่ยวลี่เหมยจึงพอเข้าใจเมื่อฟื้นขึ้นมาได้กลิ่นยาคละคลุ้ง เจ้าของร่างเดิมจับไข้เมื่อออกไปตากน้ำหมอกยามค่ำคืนทำให้ไม่สบายนอนอยู่บนเตียงอยู่หลายวัน จนร่างกายไม่สู้ดีนอนราวกับผัก จู่ ๆ วิญญาณของเสี่ยวลี่เหมยได้เข้ามาอยู่ในร่างกายนี้ เมื่อเสี่ยวลี่เหมยได้รับรู้เธอก็ต้องแสดงเป็นเจ้าของร่างให้ได้ ไม่รู้ว่านี่คือสิ่งที่สววรค์เมตตาให้เธอมาเกิดใหม่หรือไม่? หรือไม่ว่าอะไรก็ช่าง ในเมื่อเธอได้มาเกิดใหม่ต่อจากนี้เธอจะไม่ขอมีความรักอย่างที่เคยพูดไว้ก่อนตายเป็นแน่

"ลู่เพ่ย ลู่เพ่ยของข้าเจ้าฟื้นแล้วอย่างนั้นหรือ โธ่ ๆ ลู่เพ่ยที่น่าสงสารของข้า" ชายชราวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหาบุตรสาวของตน เสี่ยวลี่เหมยเข้าใจทันทีว่านี่คือท่านพ่อของลู่เพ่ยเพราะความทรงจำของร่างนี้ยังอยู่ ทำให้นางปรับตัวและเข้าใจทุกอย่างอย่างง่ายดาย

"ท่านพ่อ..."น้ำเสียงเล็กนุ่มอ่อนหวานเอ่ยทักทายชายชราผู้เป็นพ่อ

"เจ้าไปนั่งทำอะไรอยู่ตรงนั้น เจ้าพึ่งฟื้นอย่าพึ่งขยับเลยให้ท่านหมอมาตรวจร่างกายของเจ้าเสียก่อน ลี่อินเจ้ารีบพยุงคุณหนูไปนั่งที่เตียงรอท่านหมอเถิด และต่อจากนี้เจ้าต้องอยู่กับคุณหนูตลอดเวลาห้ามคลาดสายตาเด็ดขาด" ใต้เท้าลู่ไป๋เหวินหันไปสั่งสาวใช้ด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน นางเองก็รีบมาพยุงลู่เพ่ยไปที่เตียงนอนทันที

"คุณหนูมีแรงมั้ยเจ้าคะ? "

"อืม ข้าไหว " เสี่ยวลี่เหมยเดินไปที่เตียงกับลี่อินไม่นานไป๋เซ่อเดินมาพร้อมท่านหมอ ตรวจร่างกายของนางอย่างละเอียดถ้วนที จัดยาบำรุงร่างกายพร้อมแจ้งอาการให้ทุกคนได้รับรู้

"อาการไข้ของคุณหนูลู่ไม่มีแล้ว แต่ร่างกายของคุณหนูยังอ่อนแออยู่ข้าจัดเตรียมไม้ยาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว อีกไม่นานร่างกายจะดีขึ้น "

"ขอบคุณท่านหมอมาก ข้าจะตบรางวัลให้เป็นอย่างดีหากท่านรักษาบุตรสาวของข้าให้หายได้" ใต้เท้าลู่ดีใจที่เห็นว่าลู่เพ่ยปลอดภัยแล้ว

"แต่ว่าใต้เท้าท่านคงรู้อยู่แก่ใจใช่หรือไม่ขอรับ? ว่าร่างกายของคุณหนูไม่เหมือนสตรีนางอื่น " ใบหน้าของใต้เท้าลู่สลดอีกครั้ง

"ข้ารู้ ขอแค่นางไม่เจ็บไข้้ได้ป่วยรุนแรงเหมือนครั้งนี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับข้า"

"ขอรับท่านใต้เท้า " เสี่ยวลี่เหมยได้ยินและรับรู้ถึงร่างกายที่ไม่แข็งแรงนี้ก็ทำให้นางเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

หลังจากที่ท่านหมอกลับใต้เท้าให้บุตรสาวนอนพักผ่อน พร้อมให้สาวใช้ไปต้มไม้ยามาให้ดื่มบำรุงร่างกาย ระหว่างนอนอยู่นั้นเสี่ยวลี่เหมยก็พยายามครุ่นคิดเรื่องราวต่อจากนี้ ในเมื่อตนเองต้องมาอยู่ในร่างนี้ นางจะต้องทำอะไรสักอย่างเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ มิเช่นนั้นร่างกายนี้จะต้องเจ็บไข้ได้ป่วยอีกเป็นแน่ สิ่งแรกที่นางต้องทำคือลดน้ำหนัก ควบคุมอาหารหากมีร่างกายที่ไม่อ้วนอาจจะทำให้ไม่เหนื่อยง่าย เมื่อนางคิดได้ดั่งนั้นก็รีบลุกขึ้นจากเตียงนอนจนสาวใช้ตกใจ

"อุ้ย! คุณหนูเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับท่านอีกหรือเจ้าคะ ไม่สบายส่วนไหนข้าจะรีบไปตามท่านหมอมาตรวจท่านโดยเร็ว" สาวใช้มีสีหน้ากังวลรีบถามอาการพรางลุกขึ้นแต่ก็ต้องถูกเสี่ยวลี่เหมยดึงแขนเอาไว้เสียก่อน

"ไม่ต้อง! ข้าไม่ได้เป็นอะไรเพียงแต่ข้าว่าข้านอนมากพอแล้วอยากออกไปเดินเล่นด้านนอกเจ้าพาข้าไปได้หรือไม่"

"ได้เจ้าค่ะ ข้าร้อนใจคิดว่าคุณหนูไม่สบายเสียอีก มาเถอะเจ้าค่ะข้าจะพยุงท่านเอง นี่ไป๋เซ่อเจ้าไปหยิบคันร่มมากางให้คุณหนูที"

"ได้ ๆ คุณหนูรอสักครู่นะเจ้าคะ" ไป๋เซ่อที่ยืนอยู่ไม่ไกลรีบไปทำตามลี่อินบอกทันที เสี่ยวลี่เหมยเผยยิ้มมุมปากเล็กน้อย ในความทรงจำของร่างนี้ยังจำได้ว่าทั้งสองเป็นสาวใช้ที่คอยติดตามดูแลมาอย่างดีโดยตลอด ทำให้เสี่ยวลี่เหมยเองก็สบายใจไปด้วย เพราะนางไม่รู้เลยว่าจะมีผู้คิดร้ายกับตนหรือไม่ระหว่างอยู่ในร่างนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel