บทที่6 เจ้าอยากแต่งงานกับข้ามั้ย
เช้าของอีกวัน หังเจอเยียนก็เอ่ยปากชวน3พี่น้องให้ไปในเมืองด้วยกัน "ข้าไม่เคยเข้าเมืองมาก่อนเลยอยากชวนพวกท่านไปด้วยกัน ข้าไปคนเดียวอาจหลงทางได้"
"เฟิ่งเอ๋ออยากไปเที่ยวในเมืองมั้ยเจ้า"
"ไปเจ้าคะ..เราจะไดพาหย่างเอ๋อเที่ยวด้วย"
"ปกติข้าก็พาพวกเจ้าเข้าเมืองบ่อยๆ "นางรู้ว่าน้องสาวอยากเข้าเมืองไปกับเจอเยียน
เจอเยียนจึงรับหน้าที่หัดบังคับรถม้า พอคล่องแล้วชายหนุ่มก็ให้3พี่น้องนั้งชมวีว ไป๋หย่างตื่นเต้นกับภาพข้างทางนางชอบนั้งรถม้า
จนมาถึงเมืองเจอเยียนก็นำรถม้าไปฝากที่ฝากม้าแล้วเข้าเมืองโดยไป๋เสวียนเป็นผู้จ่ายค่าผ่านเข้าเมือง
"ข้าจะไปร้านฝากเงิน พวกท่านจะไปด้วยกันมั้ย?"
"ไม่ดีกว่า เดี๋ยวข้าพาหย่างเอ๋อเดินดูรอบๆเมือง เจ้าพาเฟิ่งเอ๋อไปเถอะ"ไป๋เสวียนเปิดโอกาสให้หนุ่มสาวอยู่ด้วยกัน ส่วนนางขอพาน้องเล็กเดินดูร้านค้ารอบเมืองดีกว่า
เจอเยียนเลยพาไป๋เฟิ่งไปร้านฝากเงินด้วยกัน พอไปถึงหญิงสาวก็จะรอด้านนอก แต่เจอเยียนกลับให้นางเข้าไปข้างในด้วยกัน เขารู้สึกอยากให้นางรู้ทุกเรื่องของเขาเลยไม่คิดปิดบัง
"ท่านจะมาฝากหรือถอนขอรับ"คนในร้านฝากเงินเอ่ยถามทั้งคู่
"ข้าจะมาถอนเงินขอรับ"พูดพร้อมยื่นป้ายสัญญลักษณ์ของทางร้าน เมื่อคนในร้านรับป้านมาตรวจดูให้แนชัดว่าเป็นของจริงหรือไม่ ก่อนจะเชิญทั้งคู่นั้งรอ
"โปรดรอสักครู่นะขอรับ"พร้อมยกน้ำชาและของว่างมาตอนรับ
ตำลึงทั้งหมด2380ตำลึงเขาเบิกมาหมดแล้วทำท่าเก็บเข้ากระเป๋า แต่ที่จริงเก็บเข้าคอนโด พอออกมาจากร้านฝากเงิน
"เจ้าอยากได้อะไรมั้ย?"เมื่อทั้ง2ผ่านร้านเครื่องประดับชายหนุ่มเลยถามสาวน้อยที่เดินเคียงคู่ด้วย
"ไม่อยากได้เจ้าคะ ซื้อแล้วก็ไม่รู้จะใส่ไปไหน"
"ใส่ให้ข้ากับพี่สาวเจ้าดูยังไงละ ม่ะ..เข้าไปเลือกกัน"ชายหนุ่มจับแขนหญิงสาวเข้าไปในร้านเพื่อเลือกเครื่องประดับ
ทั้ง2มองเครื่องประดับที่วางให้เลือกมากมาย
"มีแต่สวยๆทั้งนั้น ข้าเลือกไม่ถูกเจ้าคะ"นางมองจนตาลายก็เลือกไม่ถูก
ชายหนุ่มมองไปก็เห็นกำไลหยกสีแดงสวยงาม เลยหยิบมาลองให้สาวน้อย
"ข้าว่าสีนี้เหมาะกับเจ้า ใส่แล้วต้องทำให้แขนเจ้าดูสว่างขึ้นแน"
"แต่ข้าทำงานบ้านมันอาจทำให้กำไลหักก็ได้นะเจ้าคะ"นางก็เห็นว่าสวยดีก็กลัวจะไม่ระวังจนทำมันแตกหัก
"หักก็แค่ซื้อใหม่"
"ไม่เอาเจ้าคะ ดูเป็นอย่างอื่นดีกว่า"ทางพนักงานในร้านเห็นดั่งนั้นจึงช่วยเลือก
"ถ้าแม่นางกลัวทำหักเช่นนั้นเปลี่ยนเป็นสร้อยลูกปะคำก็ดีนะขอรับ ไม่แตกหักง่ายแถมใส่แล้วยังเป็นศิริมงคลด้วยเพราะสลักรูปหยินหยางด้วยขอรับ"พูดแล้วก็หยิบสร้อยปะคำให้ลูกค้าได้เลือกที่มีทั้งสีแดงสีม่วงและสีเขียว
"เจ้าชอบเส้นไหนเลือกได้เลยข้าซื้อให้"
พอไป๋เฟิ่งได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มอย่างเขินอาย เจอเยียนจึงเลือกสร้อยปะคำสีต่างๆมาทาบแขน
"สีแดงเจ้าใส่ขึ้นสุด เอาสีนี้แล้วกันเถ้าแก่"
"มิได้ๆ..ข้าน้อยเป็นเพียงหลงจู้หาใช่เถ้าแก่ขอรับ"หลงจู้รีบเอ่ยปฏิเสธ เขาเห็นหนุ่มสาวที่ช่วยกันเลือกก็คิดว่าชายหนุ่มช่างเอาใจคนรักเสียจริง
เจอเยียนใส่สร้อยปะคำให้สาวน้อยแล้วยิ้ม
"เห็นมั้ย เจ้าใส่แล้วดูงามขึ้น"
"แค่ใส่สร้อยปะคำจะงามได้เช่นไรกันเจ้าคะ พี่เจอเยียนก็พูดไป"ถึงปากจะค้านคำพูดของชายหนุ่มแต่นางก็ดีใจจนยิ้มไม่หุบ เมื่อเดินทางมาสมทบพี่สาวและน้องสาวนางก็ยังยิ้มสดใสจนพี่สาวสังเกตุุได้
"เดินยิ้มมาแต่ไกลเชียว เจอเยียนตามใจอะไรเจ้าหรือ"พอรู้ว่าพี่สาวจับได้นางเลยก้มหน้าด้วยความเขินอาย
"พี่เจอเยียนซื้อสร้อยข้อมือให้ข้าเจ้าคะพี่ใหญ่..นี้ไงสวยมั้ยเจ้าคะ"นางยื่นแขนให้พี่สาวเห็นสร้อยขอมือที่ชายหนุ่มซื้อให้
"ให้เป็นของหมั้นหรือเปล่าละ?"
"พี่ใหญ่พูดอะไรเจ้าคะ "ไป๋เฟิ่งเขินจนหน้าแดงไปหมด ส่วนเจอเยียนก็ยิ้มแล้วเอ่ยถาม
"ถ้าหมั้นหมายไว้ก่อนจะได้มั้ยขอรับ รอให้เฟิ่งเอ๋อโตกว่านี้ค่อยแต่ง"
"ได้สิ..ถือว่าเจ้าหมั้นน้องสาวข้าแล้วนะ แต่เจ้าต้องแต่งเข้านะ ข้าไม่ให้น้องสาวข้าแต่งออกแนๆ กลัวนางโดนรังแก"นางพอใจที่ชายหนุ่มผู้นี้ชัดเจน
"ข้าสาบานว่าจะไม่มีวันทำร้ายนางแนนอน "
"ดีๆ..อยากแต่งเมื่อไรก็บอกข้า จะได้จัดงานแบบง่ายๆ ให้ฟ้าดินและท่านพ่อท่านแม่รับรู้"
ในขนาดที่พวกนางกำลังคุยกันอย่างมีความสุข หางตาไป๋เสวียงก็เห็นเหมือนคนรู้จัก พอหันไปมองก็เห็นว่าเป็นน้องชาย'ซื่อหลัวเทียน'เดินเข้ามาภายในร้าน นางเห็นก็รู้สึกบอกไม่ถูก จะว่าเสียใจก็ไม่ถึงขนาดนั้นแต่ก็ไม่ดีใจ ครอบครัวในอดีตตัดนางทิ้งอย่างไม่มีเยื้อใย แล้วทำไมนางยังต้องถวิลหาด้วย ตอนนี้นางมีครอบครัวตรงหน้าที่ต้องค่อยใส่ใจ แต่ไป๋หลัวเทียนกลับเดินทานั้งข้างหลังนาง แล้วยังได้ยินบทสนทนาอีกด้วย
"ท่านพ่อให้ตามหาสาวใช้ของพี่เยียหลิน นี้ข้าตามหานางตั้งหลายเมืองก็ไม่มีเบาะแส นางหนีไปอยู่ที่ไหนกันนะ"
"หรือนางอาจเจอสมบัติของคุณหนูแล้วไปเอามันแล้วก็ได้นะขอรับ"
"นางเป็นแค่สาวใช้ จะมีสมองคิดได้เช่นไรกัน ถ้านางเจอสมบัติจริงเราก็ต้องรู้ข่าวนางสิ"
"แล้วเราจะทำเช่นไรดีขอรับคุณชายรอง"
ไป๋เสวียนได้ยินคำพูดทั้งหมด ทำไมบิดานางถึงคิดตามหาชิงฉี จากที่ฟัง บ้านเดิมของนางรู้แล้วว่านางมีของวิเศษของท่านยาย แต่พวกเขาไม่รู้ว่าชิงฉีได้ตายตามนางไปแล้ว มิน่าท่านยายถึงบอกของที่ท่านให้ไว้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ฮึ ตอนนางอยู่ไม่คิดช่วยเหลือ พอมาตอนนี้กลับพยายามตามหาของดีของนาง ฝันไปเถอะที่นางคิดใส่ใจ
"หย่างเอ๋อกินบะหมี่อิ่มหรือยัง?"นางถามน้องสาวที่ตอนนี้นั้งตังนางแล้วมีไป๋เฟิ่งคอยป้อนบะหมี่คำน้อยๆให้
พอน้องสาวกินอิ่มพวกเขาก็ให้คิดเงินก่อนจะออกมาจากเหลาอาหาร
"ไหนๆก็มาแล้วเราก็ซื้อเสบียงกลับไปกันดีมั้ยเจ้าคะ"ไป๋เฟิ่งเสนอ นางกะจะซื้อผ้าเอาไปตัดชุดให้ไป๋หย่างด้วย
"ดีเหมือนกัน ไปซื้อกัน"
"ข้าอยากซื้อม้าหนุ่มขอรับ"
"บ้านเราก็มีม้าแล้วไง"
"นั้นเป็นม้าสาว ข้าอยากได้ม้าหนุ่มอีกตัวขอรับ เอาไว้ขี่ไปไหนมาไหนสะดวกกว่า"ไป๋เสวียนคิดตามเลยตกลง แต่พอจะควักตำลังชายหนุ่มกลับค้าน
"เดี๋ยวม้าข้าเป็นคนซื้อเองขอรับ พวกเจ้าไปซื้อเสบียงรอข้าดีมั้ยขอรับ"
"ได้..เช่นนั้นไปเจอกันที่ฝากม้าแล้วกันนะ เฟิ่งเอ๋อไปซื้อของกัน"
หวังเจอเยียนเมื่อแยกพวกนางก็เดินไปที่ตลาดค้าสัตว์ เขาเดินดูม้าไปเลื่อยๆก็ถูกใจม้าสีดำตัวหนึ่ง ดูรูปร่างสวยงามถูกใจเขา
"เถ้าแก่..ม้าตัวนี้ราคาเท่าไร?"
"ตัวนี้หรือขอรับ ข้าคิด150ตำลึงขอรับ "
"ข้าอยากให้ใส่อานให้ด้วยได้มั้ย?"
"ได้ขอรับ"
"เช่นนั้นตกลง"เมื่อตกลงราคากันได้เขาก็จ่ายเงินแล้วพามันเดินเรื่องขี่สบายมากเพราะชาติที่แล้วเขาเคยฝึกขี่ม้าเพื่อแข่งระดับทีมชาติมาแล้ว
เดินผ่านร้านขายสัตว์เล็กก็ซื้อไก่อีก6ตัวเพื่อให้พวกมันไข่
พอไปถึงที่ฝากรถม้าเขาก็เอาสุ่มไก่วางบนรถม้า
"เจ้าซื้อไก่ไข่หรือ?"
"ขอรับ หย่างเอ๋อกำลังโตนางต้องการอาหารไว้บำรุง"ไป๋เสวียงเลยพยักหน้ารับรู้ ส่วนไป๋ฟิ่งกำลังกล่อมไป๋หย่างให้หลับ
ขากลับไป๋เสวียนเลยเป็นผู้บังคับรถม้าโดยมีเจอเยียนขี่ม้าขนาบข้างตลอด
พอถึงบ้านไป๋หย่างก็ตื่นพอดี ไป๋เฟิ่งจึงวางน้องสาวให้นั้งแคร่หน้าบ้านแล้วช่วยเอาของลงจากรถม้า แล้วนำไก่ไปวางในคอกสัตว์
"เดี๋ยวข้าทำเล้าไก่ให้เอง เจ้าไปพักเถอะ เดินทางมาเหนื่อยๆ"
"เจ้าคะ..เดี๋ยวข้าไปดูหย่างเอ๋อก่อนนะเจ้าคะ"พูดจบนางก็เดินไปทางบ้าน ส่วนเจอเยียนก็ไปตัดลำไผ่มาทำเป็นเล้าไก่
"อ้าว...แล้วเจอเยียนละ?"ไป๋เสวียนเมื่อเห็นน้องสาวเดินเข้าบ้านมาคนเดียวไม่เห็นเจอเยียนก็ถามน้องสาว
"พี่เจอเยียนกำลังสร้างเล้าไก่อยู่เจ้าคะ ข้ามาช่วยพี่ใหญ่เก็บของเข้าที่แล้วเลี้ยงหย่างเอ๋อ"
เมื่ออยู่กันแค่พี่น้องเลยอดถามความรู้สึกของน้องสาวไม่ได้
"ที่เจอเยียนหมั้ยหมายให้เจ้านั้น เจ้าเต็มใจหรือไม่?"พอไป๋เฟิ่งได้ยินคำถามจากพี่สาวก็หน้าแดงเขินอ้าย
"หน้าแดงแบบนี้แปลว่าเต็มใจใช้มั้ย อิอิ"
"พี่ใหญ่ก็.."
"เจ้าเต็มใจพี่ก็หมดห่วง..พี่ไม่อยากเห็นเจ้ามีความทุกข์เพราะได้คู่ครองผิด"
"ขอบคุณท่านมากเจ้าคะ แต่พี่ใหญ่ก็เห็นพี่เจอเยียนว่าเขาเป็นคนเช่นไร ข้ามั่นใจว่าพี่ใหญ่เลือกคนไม่ผิดให้ข้าแนเจ้าคะ"นางรู้ว่าพี่สาวรักนางมาก ถ้าพี่เจอเยียนไม่ใช้คนดีพี่สาวนางคงไม่ตกลงให้นางหมั้นหมายแนนอน
"แต่ถ้าวันใดเขารังแกเจ้าให้มาบอกพี่สาวคนนี้ได้ พี่จะไปสั่งสอนเขาให้เจ้าเอง"
"เขาแต่งเข้ามาในบ้านเรา จะกล้ารังแกข้าหรือเจ้าคะ "
"ไม่รู้ละ ข้าบอกไว้ก่อน" แล้วน้องพี่น้องก็ช่วยกันเอามาฝ้ายมาตัดชุดรับหน้าร้อนให้ทุกคนในบ้าน โดยเฉพาะไป๋หย่างที่ไม่มีเสื้อผ้าเลยเพราะนางโตขึ้นมาก เสื้อผ้าที่มีเริ่มคับแล้ว
เมื่อเห็นเวลานานก็อดห่วงคนสร้างเล้าไก่ไม่ได้เลยตักน้ำเอาไปให้คู่หมั้นที่คอกสัตว์
"พี่เจอเยียนดื่มน้ำก่อนเจ้าคะ"
"ขอบใจเจ้ามาก"
"ใกล้เสร็จแล้วนี้เจ้าคะ แถมดูแล้วจะแข็งแรงอีกด้วย"
"ไหนๆสร้างแล้วก็สร้างให้แข็งแรงไปเลยนะ"ชายหนุ่มรับจอกน้ำจากคู่หมั้นสาวมาดื่มดับกระหาย
"เฟิ่งเอ๋อ...เจ้าเสียใจมั้ยที่หมั้ยให้ข้า?"
"ทำไมข้าต้องเสียใจด้วยเจ้าคะ?"
"ข้าไม่มีอะไรเลย แถมยังต้องมาอาศัยพวกเจ้าพี่น้องอีก เจ้าอาจจะอายก็ได้"
"ข้าไม่ได้มองเรื่องนั้นสะหน่อย "
"เช่นนั้นเจ้าเต็มใจแต่งกับข้าใช้มั้ย?"
"พี่เจอเยียนพูดอะไรก็ไม่รู้ ข้าไม่พูดกับท่านแล้ว "หญิงสาวอายจนหน้าแดงแล้วเดินหนีเข้าบ้าน ชายหนุ่มก็นึกขำ คนสมัยนี้จีบกันเรียบงายไปอีกแบบนะ ชายหนุ่มรู้สึกเมื่อมีไป๋เฟิ่งอยู่ด้วยทำให้เขาอยู่ภพนี้อย่างราบรื่นและอุ่นใจ
