บท
ตั้งค่า

บทที่ 25 ข้าไม่นั่งรถม้า

องค์ชายสิบห้าเสด็จตรวจตราการวาดภาพของจิตรกรทั้งเก้าชั้นของวิหารโดยทอดพระเนตรจากชั้นบนลงมาชั้นล่าง สุดท้ายทรงหยุดพระบาทที่ด้านหลังร่างผอมเล็กที่ตั้งใจตวัดพู่กันโดยมิได้หันมาทักทายพระองค์เช่นจิตรกรผู้อื่น

‘ช่างเป็นเด็กที่ดื้อรั้นเสียจริง!’ แม้จะทรงหงุดหงิดพระทัยที่นางเหมือนจะมิได้ใส่ใจพระองค์เช่นเดียวกับผู้อื่น หากแต่ก็รู้ว่านางมิได้เสแสร้ง ฝีเท้าของพระองค์หากตั้งใจจะทำให้เบาเสียงก็ทำได้เบายิ่งอย่างที่ผู้ฝึกวรยุทธ์สามารถทำได้ ยามนี้ดูเหมือนนางจะจดจ่อที่อยากจะทำงานนี้ให้เสร็จโดยไว

เมื่อองค์ชายเห็นว่านางเริ่มลดพู่กันลงจึงเอ่ยทักทาย “ช่วงนี้เจ้ามิต้องกลับไปนอนพักกลางวันแล้วหรือ?”

เผยมู่ซีได้ยินเสียงคุ้นเคยอยู่เหนือศีรษะก็เงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าของหมิงเฉิงอวี่ก้มลงมาพอดี ดวงตาของนางอยู่ตรงตำแหน่งเดียวกับพระเนตรขององค์ชาย ทั้งสองสบตากันในลักษณะกลับหัวกลับหาง เผยมู่ซีวางพู่กันลงแล้วหันมาคารวะองค์ชายพอเป็นพิธี

“ร่างกายหม่อมฉันดีขึ้นมากแล้ว ขอบพระทัยที่ทรงห่วงใย”

น้ำเสียงและใบหน้าของเด็กหญิงตรงหน้ามิได้ดูซาบซึ้งอย่างคำกล่าว นางเพียงพูดพอเป็นพิธี หมิงเฉิงอวี่บอกไม่ถูกว่าเหตุใดจึงรู้สึกอยากให้นางแสดงท่าทีเป็นมิตรกับตนอย่างที่นางทำกับจิตรกรผู้อื่นบ้าง?

เผยมู่ซีก้มหน้าลงเล็กน้อย นางไม่อยากแสดงสีหน้าเกลียดชังให้องค์ชายได้เห็น ยามนี้นางนึกกังขาว่าผู้ใดกันที่ลงมือฆ่านางเมื่อชาติที่แล้ว แม้ความร้อนอกร้อนใจจะสุมข้างในจนเดือดปุดแต่นางก็รู้ตัวว่ายามนี้ยังลงมือทำสิ่งใดไม่ได้ แต่นางก็ตัดสินใจแล้วว่าตนเองจะต้องกลับเข้าไปในเมืองหลวงอีกครั้งเพื่อสืบเสาะหาผู้บงการตัวจริงให้จงได้!

“เจ้าทำงานให้ข้ามานานวันแล้ว ยังมิได้ไปเยือนเรือนของเจ้าสักครา เห็นทีวันพรุ่งนี้ข้าคงต้องไปเยือนจวนสกุลชิงเสียหน่อย”

เผยมู่ซีเผลอเงยหน้าขึ้นมององค์ชายอย่างเสียมารยาท “ไปจวนหม่อมฉัน! ไปทำไมกันเพคะ?”

หมิงเฉิงอวี่เห็นคนร่างเล็กทำหน้าตะลึงก็รู้สึกพอใจ ใครใช้ให้นางเอาแต่ก้มหน้าในยามพบเจอเขาเล่า? คราวนี้เขาจะทำให้เด็กน้อยได้รู้ว่าการทำตัวโอหังต้องได้รับผลเช่นใด?

“ข้าก็แค่อยากไป เจ้าจะมีปัญหาทำไมกัน? หรือว่าข้าควรจะไปเย็นนี้เลย?”

“ยะ อย่าเลยเพคะ วันพรุ่งนี้ดีกว่า ไปวันนี้ท่านแม่หม่อมฉันเตรียมตัวไม่ทันก็อาจจะไม่สบายใจที่ต้อนรับองค์ชายได้ไม่เต็มที่”

“ดี! เช่นนั้นเท่ากับเจ้ารับปากข้าแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะไปกินข้าวมื้อเย็นที่จวนของเจ้า บอกจังฮูหยินให้เตรียมตัวต้อนรับข้าด้วยก็แล้วกัน”

เผยมู่ซีโกรธจนแทบจะหน้ามืด คนผู้นี้กล้าดีอย่างไรถึงได้สั่งถึงแม่นางให้รอต้อนรับ ช่าง...ช่างหน้าหนาหน้าทนเสียจริง!

องค์ชายสิบห้าเห็นอาการกำหมัดตัวสั่นน้อยๆ ของชิงหลานแล้วรู้สึกพอพระทัย ในที่สุดพระองค์ก็ได้เห็นยามที่เด็กหญิงผู้นี้โกรธเกรี้ยวขึ้นมาแล้ว ดูท่านางคงจะเกลียดพระองค์มากเทียว หากเป็นผู้อื่นได้ยินเช่นนี้คงยินดีอย่างยิ่งที่องค์ชายจะไปเยือนถึงเรือนแต่กับนาง...สาวน้อยสกุลชิงผู้นี้ช่างแปลกนัก!

เผยมู่ซีในร่างชิงหลานกำลังคิดจะหาวิธีกราบทูลเบี่ยงเบนความสนใจมิให้องค์ชายคิดอยากไปเรือนตนแต่พอคิดหาข้ออ้างได้แล้วกลับพบว่าองค์ชายสิบห้าเสด็จลับไปในอาคารด้านข้างเสียแล้ว นางไม่กล้าตามเสด็จไปเพราะเห็นว่ามีขุนนางหลายคนกำลังตามเข้าไปปรึกษาหารือข้อราชการ

“เสี่ยวลิ่ง เจ้าได้ยินหรือไม่? องค์ชายคิดจะเสด็จจวนของพวกเราวันพรุ่งนี้”

“ได้ยินเจ้าค่ะ! น่าตกใจจริงนะเจ้าคะ แล้วนี่พวกเราต้องทำอาหารชนิดใดให้พระองค์เสวยเล่า?”

“กลับจวนแล้วค่อยปรึกษาท่านแม่เถอะ ว่าแต่ข้าหมดอารมณ์จะวาดภาพแล้ว เจ้าเก็บของที พวกเราไปแวะซื้อไก่ไปนึ่งกินแก้โมโหสักตัวก่อนก็แล้วกัน”

จังฮูหยินเห็นเสี่ยวลิ่งที่สะพายกล่องไม้ใส่อุปกรณ์วาดภาพของบุตรสาวและหิ้วไก่ที่ชำแหละแล้วตัวหนึ่งเข้ามาถึงหน้าเรือนก็ร้องทัก

“ไหนเจ้าบอกแม่ว่าจะกลับเย็นสักหน่อยอย่างไรเล่า?”

เผยมู่ซีสีหน้าบูดบึ้งเดินเข้าไปนั่งข้างมารดาแล้วเล่าสิ่งที่องค์ชายรับสั่งกับตนอย่างร้อนใจ จังฮูหยินฟังจบก็หน้าเสีย จวนของนางทั้งเก่าทั้งซ่อมซ่อแถมยังมีหลายเรือนที่พังแล้วยังไม่มีปัญญาจะซ่อมแซมอีก ที่ผ่านมานางเอาแต่ปิดจวนมิยอมให้ผู้ใดเข้ามาข้างในเพราะเกรงว่าผู้อื่นจะเก็บเอาไปนินทาถึงความยากลำบากของตนให้เป็นที่เวทนา แม้สวนยังคงงดงามด้วยการดูแลของเหล่าลู่ ทว่าเรือนที่เคยถูกพายุซัดจนพังแล้วยังมิได้ซ่อมพวกนั้นก็ทำให้ดูแล้วที่นี่คล้ายบ้านร้างอยู่ส่วนหนึ่ง

“ท่านแม่ดูสิ! องค์ชายสิบห้าผู้นี้ไม่รู้จะอยากมาเสวยอาหารที่เรือนเราด้วย เหตุใด? ช่างสร้างความยากลำบากให้พวกเรานัก” เผยมู่ซีรู้ว่าจังฮูหยินคิดกังวลยิ่งกว่าตัวนางเองเสียอีกเพราะสายตาที่มองไปยังฝั่งเรือนร้างดูมีความหนักใจไม่น้อย

“เอาเถอะ จะทอดพระเนตรเห็นสิ่งใดก็เห็นไป ถึงอย่างไรพวกเราก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ได้ เอาเป็นว่าแม่จะแสดงฝีมือทำอาหารให้องค์ชายเสวยอย่างสุดฝีมือก็แล้วกัน”

เผยมู่ซีกลับไม่คิดเห็นนั้น นางรู้สึกว่าองค์ชายสิบห้าอยากจะกลั่นแกล้งนางเสียมากกว่า ยิ่งรู้ว่านางไม่อยากให้มาเข้าใกล้เขาก็ยิ่งพยายามจะหาทางให้นางรู้สึก อึดอัด

“ท่านแม่ข้ารู้แล้วว่าทำอย่างไรองค์ชายจะไม่อยากมาเยือนจวนเราอีก?”

“ทำอย่างไรเล่า?”

สาวน้อยชะโงกหน้าป้องปากกระซิบกระซาบกับมารดา

“จะทำเช่นนั้นจริงหรือ? เจ้าไม่กลัวองค์ชายจะกริ้วหรือไร?”

ชิงหลานเชิดหน้าน้อยๆ “จะกล้ากริ้วพวกเราได้อย่างไร? ในเมื่อพระองค์ดึงดันอยากจะมาเสวยพระกระยาหารที่จวนของพวกเราเองนี่เจ้าคะ”

บ่ายวันต่อมาองค์ชายสิบห้าเสด็จมาทรงรอใกล้ยามที่ชิงหลานจะเลิกงานเพราะเกรงว่านางจะบิดพริ้ว ทรงมิได้ขี่ม้ามาเช่นทุกวันหากแต่ให้องครักษ์กังนำเอารถม้าออกมา เผยมู่ซีที่เห็นองค์ชายในชุดสีฟ้างามสง่ายืนอยู่หน้ารถม้าใกล้ประตูวัดก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย

ชาติก่อนแม้แต่ภาพวาดขององค์ชายนางก็มิเคยได้เห็น นับตั้งแต่หมั้นหมายจนถึงวันที่รถม้าตกหน้าผานางไม่เคยรู้เลยว่าใบหน้าของว่าที่พระสวามีของตนเป็นเช่นใด? แต่ชาตินี้ที่หมดสิ้นวาสนาต่อกันแล้วเหตุใดจึงต้องมาเผชิญหน้ากันหลายครั้งหลายหนจนกลายเป็นระยะกระชั้นชิดเช่นนี้

“หม่อมฉันเดินกลับได้เพคะ องค์ชายทรงนั่งรถม้าไปเถิด”

เผยมู่ซีไม่อยากจะนั่งรถม้านัก ตอนที่นางนั่งกลับจากเมืองหลวงเมื่อครั้งไปรักษาตัวนั้นก็อาศัยดื่มยาแล้วนอนหลับตลอดเส้นทาง ความทรงจำที่ต้องตายในรถม้ายังคงหลอกหลอนนางอยู่ นางไม่ชอบความคับแคบในรถม้ามันทำให้นางรู้สึกราวกับหายใจไม่ออก ครั้งนั้นถ้าท่านหมอเกามิได้ให้ยาที่ทำให้นางนอนหลับสนิทก่อนเดินทาง นางก็คงไม่อาจนอนในรถม้ากลับมาอำเภอเฉินได้ ความลับข้อนี้มีเพียงคนมารดาและเสี่ยวลิ่งเท่านั้นที่ล่วงรู้แต่คนทั้งสองก็หาสาเหตุมิได้!

“ข้ามิทำอันตรายเจ้าดอก? เหตุใดจึงไม่ยอมขึ้นรถม้าแต่โดยดี?” องค์ชายเริ่มหน้าพระพักตร์ตึง ด้วยฐานะของพระองค์แล้วยากที่จะยอมให้ผู้ใดปฏิเสธ

“องค์ชายเพคะ หม่อมฉันไม่อยากนั่งรถม้าจริงๆ เพคะ ขอให้หม่อมฉันเดินกลับจวนเถิด”

หมิงเฉิงอวี่ได้ยินสาวน้อยปฏิเสธอีกคราก็หงุดหงิดจึงประชิดเข้ามาแล้วก้มลงอุ้มนางเดินขึ้นบันไดรถม้าในทันที ร่างเล็กบางลอยขึ้นอยู่ในอ้อมแขนพระองค์อย่างง่ายดาย เผยมู่ซีหลับตาปี๋เมื่อรู้ว่าตนเองกำลังถูกอุ้มขึ้นบันไดรถม้าคันใหญ่ สองมือนางกำหมัดแน่นจนเหงื่อชื้น เปลือกตาสั่นระริกๆ ในหัวนางคล้ายกับหลุดเข้าไปในเวิ้งความมืดมนที่หาที่สุดมิได้

องค์ชายทรงวางร่างนางลงที่นั่งด้านข้างแต่นางยังคงหลับตาและกำหมัดนิ่งจนดูคล้าย....จะเกร็งร่างมากขึ้น

“ชิงหลาน เจ้าเป็นอันใด?”

*******************

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel