บท
ตั้งค่า

บทที่ 21 ขี่ม้าด้วยกัน

เสี่ยวลิ่งมองแผ่นหลังองครักษ์จงด้วยความทึ่ง นางมิเคยใกล้ชิดบุรุษรุ่นราวคราวเดียวกันเพราะนับตั้งแต่ติดตามฮูหยินมาอยู่ที่อำเภอเฉินแห่งนี้ก็นานมาแล้วตั้งแต่คุณหนูยังเป็นเด็กอายุไม่กี่ขวบ นางคุ้นกับเหล่าลู่บ่าวรับใช้ประจำจวนสกุลชิงยิ่งกว่าบุรุษอื่น ในขณะที่เหล่าลู่กลับดูเป็นคนเก็บตัวและเงียบขรึม นางรู้ว่าเหล่าลู่ไว้ใจได้ ในยามอยู่ด้วยรู้สึกราวกับตนเองมีพี่ชายคอยคุ้มครองดูแล ไม่ว่างานหนักใดในเรือนอย่างผ่าฟืนหรือหาบน้ำ เหล่าลู่เคยปล่อยให้นางทำสักครั้งเขาอ้างว่านางเป็นเพียงสตรีรูปร่างบอบบางไม่สมควรทำงานหนัก

จงเหยียนผู้นี้ทั้งรูปลักษณ์สูงสง่า แต่งกายภูมิฐาน อีกทั้งยังมีวรยุทธ์เลิศล้ำ ยากจะหาบุรุษละแวกนี้เทียบเคียงได้ แม้เสี่ยวลิ่งจะเลยวัยแต่งงานแต่นางก็มักจะแอบมองบุรุษรูปร่างหน้าตาดีอยู่บ่อยครั้ง หากแต่เป็นการมองแค่ชื่นชมเพราะมิได้คาดหวังว่าตนเองจะได้ออกเรือนเพราะคนรุ่นเดียวกันแต่งไปตั้งแต่อายุสิบห้า ป่านนี้ลูกๆ ของคนรุ่นนางก็ล้วนโตจนฝึกเขียนอ่านกันได้คล่องหมดแล้ว บุรุษอายุรุ่นนางยากนักที่จะยังครองตัวโสด หากฐานะดีหน่อยอาจจะยังมีแต่ยังไม่แต่งฮูหยินเอกแต่สาวใช้อุ่นเตียงหรืออนุภรรยาก็คงมีไว้ติดบ้านแล้ว ด้วยฐานะของนางที่เป็นเพียงสาวใช้จวนนอกที่ต่ำต้อยคงไร้วาสนาจะผูกด้ายแดงกับบุรุษดีๆ สักคน แต่หากจะให้ไปเป็นอนุภรรยานางก็ไม่ต้องการเช่นกัน

จังฮูหยินพร่ำบอกนางเสมอ “ขอเพียงเจ้ามิได้เป็นอนุภรรยาผู้ใดข้าก็ยินดีแล้ว! เจ้าดูชีวิตของข้าเพราะความไว้ใจสามีแท้ๆ ยินยอมเป็นอนุภรรยาแต่กลับมิได้แม้แต่กราบไหว้ฟ้าดิน ยามนี้ก็กลายเป็นเพียงภรรยาที่มิใช่ภรรยา ข้ามิกล้าบากหน้ากลับไปหาครอบครัวก็เพราะตัดสินใจผิดเพียงครั้งเดียวนี่ล่ะ”

องครักษ์จงเดินนำหน้าเสี่ยวลิ่งพร้อมลากโจรป่ามาถึงหน้าที่ว่าการอำเภอเฉินก็ร้องเรียกให้มือปราบออกมารับตัวโจรไปคุมขัง หัวหน้ามือปราบหลิว

“เจ้าแอบมองข้าตั้งแต่เดินจนจะถึงที่ว่าการอำเภอแล้วนะ” เสียงดุๆ ขององครักษ์หนุ่มเอ่ยขึ้น “อย่าได้คิดร้ายกับข้าเทียว”

“ข้าคิดร้ายอะไรกัน? ก็แค่มองเพราะกลัวว่าจะเดินชนท่านเฉยๆ ม้าของท่านตัวใหญ่ขนาดนี้ หากข้าเดินไม่ระวังมันก็จะเดินไปชนท่านน่ะสิ!”

ใบหน้าเรียวยาวของจงเหยียนหันกลับมามองสาวใช้หน้าคมแวบหนึ่ง

“คราวหน้าเจ้าไม่ควรจะเสี่ยงชีวิตเช่นนี้ หากว่าโจรผู้นี้เชือดคอเจ้าก็คงไม่มีโอกาสได้มาต่อล้อต่อเถียงกับผู้ใดอีก?” จงเหยียนที่นั่งอยู่บนหลังม้าในตอนที่ เสี่ยวลิ่งกลิ้งอยู่พื้นพอจะลำดับเหตุการณ์ได้ “เจ้ากล้าถีบโจรตอนที่มีเตรียมบั่นคอ นับว่าบ้าบิ่นเกินคนทั่วไปนัก!”

“หากข้าไม่ทำเช่นนั้นเกิดเจ้าโจรผู้นี้เชือดคอฮูหยินกับคุณหนูเล่า? จะมิสูญเสียไปหลายชีวิตหรอกหรือ? ในเมื่อสู้แล้วอาจจะมีทางรอด ข้าจะยอมก้มหน้ารับชะตาไปทำไม?”

จงเหยียนได้ยินวาจากล้าหาญจากสตรีบ้าบิ่นต่อหน้าก็มองทรงผมและการแต่งกายของนาง “เจ้าอายุก็คงไม่น้อยแล้วแต่ยังไม่แต่งงาน มิน่าจึงไม่ได้ห่วงคนข้างหลัง”

เสี่ยวลิ่งได้ยินองครักษ์หนุ่มเอ่ยจี้ใจดำก็พลันหน้าตึงในทันที “ทำไมหรือ? หากข้าแต่งงานแล้วจำต้องกลายเป็นคนรักตัวกลัวตายหรือไร?”

“หากเจ้ามีลูกมีสามีก็คงจะคิดระวังมากกว่านี้ คราวหน้าอย่าเสี่ยงอีกเลย อย่าเกรงว่าเจ้าจะไม่โชคดีเช่นนี้”

องครักษ์หนุ่มสีหน้ามิเปลี่ยนขณะคิดจะอบรมสาวใช้ตรงหน้าเสียหน่อย นางน่าจะอายุเกินยี่สิบปีแล้ว เห็นติดสอยห้อยตามคุณหนูชิงมาวัดอยู่บ่อยๆ นางก็นับเป็นคนคุ้นหน้าผู้หนึ่ง หากนางต้องตายเพราะถูกโจรฆ่าเขาเสียก็ย่อมจะเสียใจไม่น้อยที่ไปช่วยนางไม่ทัน คราวแรกที่นางตามคุณหนูมาวัด เขาเห็นนางนั่งรอพร้อมด้วยปิ่นโตอาหารอยู่ศาลาใกล้ๆ ต่อมานางจึงเข้าไปวนเวียนช่วยคุณหนูล้างพู่กัน เตรียมกระดาษ ฝนหมึกและผสมสี นับว่านางเป็นสาวใช้ที่มิเคยนิ่งดูดาย รับใช้คุณหนูยิ่งกว่าหน้าที่ของตนนัก

“ข้าจะรับปากได้อย่างไร? ข้าไม่รู้นี่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องเสี่ยงเช่นนี้อีกหรือไม่?”

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จงเหยียนได้ยืนประจันหน้ากับนางในระยะกระชั้นชิด เขาจึงได้พิจารณาใบหน้าของนางเต็มตา ดวงตาของเสี่ยวลิ่งยาวรี คิ้วโค้งบาง ใบหน้าเล็ก จมูกปลายโด่งรั้น โดยรวมแล้วนับว่าเป็นสตรีหน้าตาน่าดูผู้หนึ่งแต่เพราะนางแต่งกายซอมซ่อไปกระมังจึงทำให้ถูกบุรุษมากมายมองข้าม? แม้ยามทำหน้าบึ้งใบหน้าของนางก็ยังดูเข้าที

“กลับไปส่งข้าเถอะ ข้าอยากกลับจวนแล้ว ออกมานานข้าเป็นห่วงฮูหยินเหลือเกิน”

จงเหยียนยืนนิ่งมองหน้านางจนเสี่ยวลิ่งรู้สึกผิดสังเกต

“องครักษ์จง! องครักษ์จง!”

ชายหนุ่มยังคงยืนนิ่งอยู่ในภวังค์ เสี่ยวลิ่งจึงโบกไม้โบกมือขึ้นต่อหน้าเขาไปมา จงเหยียนได้สติ ร้อง ‘อ๊ะ!’ ออกมาคำหนึ่ง

“เจ้าว่าอย่างไรนะ?”

“ข้าอยากกลับจวน! ท่านไปส่งข้าเถิดเจ้าค่ะ” เสี่ยวลิ่งแปลกใจที่ท่าทางขององครักษ์หนุ่มคล้ายไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

“ไปสิ!” นางนึกว่าเขาจะเดินจูงม้ากลับไปส่งเหมือนขามา แต่เขากลับก้มหน้าเล็กน้อยก่อนจะยกเอวนางขึ้นจนตัวลอยขึ้นบนหลังม้า "เราขี่ม้ากลับกันเถอะ!”

ชายหนุ่มขึ้นประคองนางไว้สองแขนของเขาสอดใต้รักแร้นางคอยควบคุมม้า เสี่ยวลิ่งใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นระเรื่อในทันที

“ท่านจะไปแบบนี้หรือ?”

“ก็แบบนี้สิ...เจ้าจะได้ถึงจวนเร็วๆ เลยเวลากินข้าวแล้วนี่?” ชายหนุ่มตอบเสียงราบเรียบ แผ่นหลังของเสี่ยวลิ่งแนบอยู่กับแผ่นอกหนาแกร่งของชายหนุ่ม แม้นางจะพยายามขยับออกห่างแต่เพราะพื้นที่หลังม้าทำให้ทั้งสองจำต้องแนบชิดกัน

การนั่งบนหลังม้าเช่นนี้ เดิมทีก็มีเพียงสามีภรรยาเท่านั้นที่สามารถทำเช่นนี้ได้โดยไม่ผิดธรรมเนียม หากมีผู้อื่นเห็นเขานางคงถูกนินทาไปทั่วอำเภอว่าเป็นสตรีขององครักษ์จงไปแล้ว! นี่องครักษ์จงไม่รู้หรือไร?แม้เสี่ยวลิ่งจะพยายามเกร็งร่างเอาไว้ตลอดทางแต่แรงโยกบนหลังก็ไม่อาจทำให้นางรักษากริยาเอาไว้ได้

“อุ๊ย!” เสี่ยวลิ่งอุทานเสียงดังเมื่อจู่ๆ เขาก็กระตุกบังเหียนม้าจนม้ายกขาหน้าขึ้นเล็กน้อยร่างนางจึงแนบไปกับช่วงหน้าของร่างกายเขาสองมือที่กำขนแผงม้าไว้หลวมๆ ยกขึ้นกอดแขนแข็งแรงของชายหนุ่มไว้แน่น ใบหน้าของนางซบอยู่ต่ำกว่าซอกคอเขาเล็กน้อย เมื่อม้ายืนเป็นปกติ จงเหยียนจึงก้มหน้าลงเล็กน้อย

“เจ้าตกใจมากหรือ?”

“เจ้าค่ะ” เสี่ยวลิ่งไม่กล้าเงยหน้า เมื่อนั่งอยู่ในท่านี้ก็เท่ากับว่านางตกอยู่ในอ้อมแขนขององครักษ์หนุ่ม...นางถูกบุรุษกอดเสียแล้ว! หวังว่าจะไม่มีผู้ใดเห็นเข้าดอกนะ?

มันช่างน่าแปลกนัก...เรื่องที่ไม่อยากให้มีคนรู้คนเห็น กลับเหมือนถูกสาปแช่ง ยามนี้ควรจะเป็นเวลาที่ทุกคนต้องเก็บตัวอยู่ในเรือนตามประกาศของทางการ ตะ แต่...ข้างหน้ากลับมีคนกลุ่มหนึ่งพรวดพราดออกมาจากตรอก

“พวกท่านเหตุใดจึงไม่รีบกลับเรือนกันเล่า?” บุรุษที่ยืนถือโคมไฟอยู่ข้างหน้าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย

“พวกท่านคือ....?”

“พวกเราคือผู้ดูแลชุมชนช่วยทางการน่ะสิ! เพราะต้องคอยระวังโจรที่เหล่ามือปราบกำลังตามล่าเลยต้องออกมาค้นหาโจรร้ายช่วยหัวหน้ามือปราบหลิว”

“อ้าว! เจ้าคือเสี่ยวลิ่งสาวใช้จวนสกุลชิงนี่?” บุรุษหนึ่งในกลุ่มเอ่ยทักขึ้น พลันดวงตาของคนทั้งหมดคล้ายมีคำถามว่าบุรุษที่ขี่ม้าอยู่กับนางเป็นผู้ใด?

องครักษ์จงกวาดสายตามองคนที่ยืนออกันอยู่ข้างหน้า “ข้าเป็นองครักษ์ขององค์ชายสิบห้า เพิ่งจับโจรไปส่งที่ที่ว่าการอำเภอเมื่อครู่ พวกท่านรีบไปดูเถิด”

“ไอหยา! ท่านองครักษ์นี่เอง...ท่านช่างยอดเยี่ยมนักจับโจรได้แล้วหรือ?”

“ใช่! พวกมือปราบเอาไปขังไว้แล้ว ดาบของกลางข้าก็ส่งให้เจ้าหน้าที่เอาไปเก็บแล้วด้วย”

เมื่อได้ยินข่าวดีคนทั้งหมดก็ละความสนใจในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ แล้วรีบชักชวนกันไปที่ว่าการอำเภอเพื่อดูโจรร้ายที่ถูกจับได้ทันที!

*********************

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel