10
…เสียงทำนองดนตรีดังสะท้องก้องกังวาลไปทั่วอาณาบริเวณร้านอาหารปิด ที่เรียกว่าปิดนั้นก็เพราะว่าคืนนี้เป็นค่ำคืนสำคัญ คนที่จะเข้ามาได้ต้องเป็นสมาชิกเท่านั้น ในรอบสองเดือนจะมีวันแบบนี้หนึ่งครั้ง ที่เรียกว่าวันประมูลเนื้อสะอาด
ขวัญก้มมองตัวเองที่เลื่อนตำแหน่งจากเด็กเสิร์ฟมาเป็นเด็กสาวเวอร์จิ้น เธอคือลำดับที่สิบสาม สำหรับค่ำคืนนี้มีหญิงสาวเวอร์จิ้นทั้งสิ้นยี่สิบคน ขวัญกวาดสายตามองหญิงสาวคนอื่นๆ คือแบบว่าเธอไม่อยากจะเชื่อว่าหญิงสาวที่มีตัวเลขติดที่หน้าอกพวกเธอจะเป็นสาวเวอร์จิ้นจริงๆ ไม่เชื่อแม้กระทั่งว่าพวกเธออายุสิบแปดสิบเก้าหรือยี่สิบด้วยซ้ำ เพราะกริยาท่าทางของพวกเธอดูตรงข้ามกับคำว่าเวอร์จิ้นหรืออ่อนต่อโลกเสียจริงๆ แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ไม่ใช่เรื่องของเธอเลย
เสียงโฆษกประจำเริ่มประกาศเวลาการประมูลว่าได้เริ่มขึ้นแล้ว พิธีรีตองไม่มากไม่มาย เสียงเคาะราคาครั้งแล้วครั้งเล่าดังต่อเนื่อง แปลกจริงๆที่เรื่องแบบนี้กลับไม่ถูกกวาดล้าง เส้นคงใหญ่จริงๆ เสียงประกาศราคาสกุลเงินดอลลาร์ดังเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง ก็แค่หลักแสนบ้างบางคน
“ต่อไปนัมเบอร์สิบสาม” ขวัญลุกจากที่นั่ง เธอได้รับการฝึกซ้อมมาแล้วเมื่อวานนี้และช่วงบ่ายของวันนี้อีกรอบ เสียงดนตรีและท่วงทำนองดังขึ้น ร่างบางขยับเคลื่อนไหวไปตามจังหวะเพลงที่ได้ฝึกมา
ความน่ารักสดใสสะกดผู้คนไม่เว้นแต่คนร่างสูงในเงามืดที่แม้ต้องอดทนทำใจกว้างแบ่งปันความน่ารักที่ควรมีแต่เขาเท่านั้นที่ได้เห็นสู่สายตาทุกคู่ในที่นี่ และแล้วเมื่อสิ้นเสียงดนตรีจังหวะสุดท้าย การประมูลก็เริ่มขึ้น
“ห้าแสน!”
“เจ็ดแสน!” เสียงประมูลราคาจากคนด้านล่างเวทีดังแข่งกัน “หนึ่งล้าน” การประมูลยังคงดำเนินกันต่อไปเรื่อยๆ ยอดตัวเลขพุ่งสูงขึ้นจนเหล่าสาวๆต่างมองหน้ากันเองและแสดงสีหน้าไม่พอใจสาดส่งมาให้หญิงสาวบนเวทีที่ไม่ได้สนใจตัวประกอบเหล่านั้น ขวัญทำเพียงเพ่งสายตากวาดหาคนที่ลงทุนลงแรงมายืนอยู่จุดนี้
ขวัญชนกสาวน้อยวัยใสวัยย่างสิบเก้ายังสอดส่ายสายตามองไปยังกลุ่มคนด้านหน้า “หนึ่งล้านสองแสน”
เอาสิ! ถ้าเขาไม่มาเธอก็...ขวัญชนกยิ้มหวานหว่านเสน่ห์ กระตุ้นราคาประมูลจนสูงลิ่วถึงสองล้าน ในที่สุด
“สองล้านครั้งที่หนึ่ง...”
ในมุมมืดชายร่างสูงยกยิ้มมุมปากอีกครั้ง เมื่อเห็นดวงตากลมโตแสดงความหวาดหวั่นในที่สุด ณ วินาทีสุดท้าย “ห้าล้าน!” ก่อนที่ราคาสองล้านจะถูกเคาะครั้งที่สาม เสียงบอกราคาใหม่สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนในงาน แต่กลับสร้างรอยยิ้มให้กับหญิงสาวบนเวทีโดยทันที
เธอไม่เคยลืมเสียงของเขา “ชนะแล้ว” ขวัญคิดในใจ
“ห้าล้านครั้งที่สาม...ขาย!” ขวัญชนกถอนสายบัวบนเวที และส่งจูบอย่างยั่วยวนก่อนที่จะบ้ายบายและเดินเข้าหลังเวทีไป
ม่านถูกเลื่อนปิด แต่เสียงผู้คนยังคงกระซิบกระซาบและพยายามมองหันไปมองชายในมุมมืดที่ให้ราคาหญิงบริการคืนเดียวสูงลิบลิ่ว
ขวัญถูกส่งตัวไปในห้องหรูของโรงแรมหกดาวที่ถูกจัดเตรียมไว้ในทันที “เป็นอะไรไป”
“คุณฟง...จะทำอะไรคะ” ขวัญตัวสั่นและค่อยๆ ถอยรักษาระยะห่างจากเขา เพราะคุณฟงในวันนี้ช่างแตกต่างเหลือเกิน
“โตแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมเรื่องแค่นี้ถึงไม่รู้” ขวัญกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก สายตามองคนตัวสูงตรงหน้าไม่ยอมกระพริบตาเลย ไม่รู้ว่ากลัวเขาจะหายไป หรือกลัวว่าเขาจะเข้ามาถึงตัวเธอโดยที่เธอจะหนีไม่พ้นเงื้อมมือเขาไม่ได้กันแน่ ทั้งๆที่เรื่องนี้เธอเตรียมตัวเตรียมใจมาเพื่อเขาตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อนแล้วแท้ๆ
“เกมส์นี้ขวัญชนะ”
“เกมส์อะไร ฉันไม่เข้าใจ” กึกึกึ ขวัญถอยหลังให้ห่างคุณฟงมากขึ้นเรื่อยๆ “ฉันรู้เพียงว่า คืนนี้ฉันซื้อหญิงบริการมาเท่านั้น”
“คุณฟง นี่ขวัญนะคะ” เมื่อได้ยินคำว่า ‘หญิงบริการ’ จากปากเขา เธอยอมรับว่าไม่ชอบเลยสักนิด
“ขวัญไหน หรือเธอจะบอกว่าเธอชื่อขวัญอย่างงั้นเหรอ” หน๋อย!!! แสร้งทำเป็นไก๋ ไม่เจอกันแค่ครึ่งเดือนสมองเขาเสื่อมไปแล้วอย่างงั้นเหรอ
“ยังไม่แก่เท่าไหร่เลยนะคะ” ดีแลนยิ้ม แต่ยิ้มครั้งนี้ของเขาขวัญไม่เคยเห็นมาก่อน
“หมดเวลาเวอร์จิ้นแล้ว”
!!!
“ภรรยาจอมซน” ดีแลนเดินประกบจนแผ่นหลังคนตัวเล็กกว่านาบกับผนังห้อง “ล้ำเส้นเกินไปแล้วนะขวัญ”
“ค่ะ ขวัญทราบดีว่าสถานที่อโคจรแบบนั้นมันไม่ดีต่อขวัญ การลักพาตัวกักขังหน่วงเหนี่ยวมันผิดกฎหมายนะคะ” ดีแลนหลี่ตามองเข้าไปในดวงตากลมโตที่จดจ้องเขา
“ที่ทำไปทั้งหมดนี้เพราะเป็นห่วงเพื่อนชายของตัวเองอย่างงั้นเหรอ” ขวัญเงียบไปทันที
“ที่คุณฟงหลบหน้าไปเพราะหึงขวัญอย่างงั้นสินะคะ” ความเงียบปกคลุมพื้นที่และค่อยๆขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ สายตายังคงจับจ้องกันและกัน คำถามของทั้งสองต่างก็ไม่ให้คำตอบอีกฝ่าย เมื่อเขาถามได้ เธอก็ต้องถามได้เช่นกัน เมื่อเขาไม่ตอบเธอก็ไม่ตอบเช่นกัน
“เงินห้าล้านดอลล่าห์ไม่น้อยเลยรู้มั้ย” ขวัญเลิกคิ้วทันที และดึงสติตัวเองกลับมา
“คุณฟงเสียแค่สิบห้าเปอร์เซ็นต์เท่านั้นค่ะ เพราะตามเงื่อนไขถ้าประมูลได้เกินหนึ่งแสนเหรียญ จากหักไว้ห้าสิบเป็นสิบห้าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น”
“ทำการบ้านมาอย่างดีแล้วสินะ แต่ฉันก็ต้องจ่ายไม่น้อย”
“ไม่เจอแค่เนี่ยกลายเป็นคนขี้งกไปแล้วเหรอค่ะ”
“นั่นสินะ เงินแค่นี้จะเสียดายทำไมกัน เงินค่าเลี้ยงดูสามปีที่ผ่านมาเยอะกว่านี้ตั้งหลายเท่า...”
“อ้า!!! คิดจะทวงบุญคุณกันเหรอคะ”
“แล้วได้มั้ยละ”
“ต้องสัญญาก่อนว่า ถ้าขวัญทำอะไรผิดหรือไม่เป็นที่โปรดปรานของคุณฟง เราจะคุยกันไม่ใช่หนีหน้ากัน แล้วขวัญจะ...เออ อย่างเต็มใจ” ดีแลนยกยิ้มมุมปากทันที
“ขวัญแคร์ฉันด้วยเหรอ” ขวัญหน้าแดงหน้าร้อน ระบบการหายใจติดขัด รู้สึกว่าไออุ่นจากร่างสูงโอบล้อมบีบอัดเธอจน... “หืม?” เป็นอีกครั้งที่เธอได้เห็นแววตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่มของคุณฟงยามที่เขามองมาที่เธอ
“คุณฟง ขวัญเพลียมาก อยากจะนอนสักหน่อย จะได้มั้ยคะ” ความเปรมปรีด์ที่เกิดขึ้นหายไปทันที ดีแลนหน้ามุ่น “พาขวัญกลับห้องนะคะ” เพิ่มความไม่เข้าใจให้กับดีแลนมากขึ้นเข้าไปอีก
“ตั้งแต่คุณฟงหายหน้าไป ไม่เคยมีคืนไหนที่ขวัญจะนอนเต็มอิ่มเลย น้ำหนักขวัญลดไปตั้งสองกิโลแล้วนะคะ” เหตุผลที่เอ่ยออกมาทำให้คนตัวสูงค่อยๆเบิกบานใจขึ้น ดั่งกับคลื่นลูกใหม่ที่สดใสกลบคลื่นลูกเก่าที่หม่นหมองในหัวใจจนหมดสิ้น
“งั้นนอนเถอะ เดี๋ยวฉันอุ้มไปเอง”
“ได้เหรอคะ” อื้ม ดีแลนขานรับในคอ และช้อนร่างบางเข้าสู่อ้อมแขนทันที พรึ่บ!
“กลับถึงห้องแล้ว ช่วยถอดชุดนี้เอาไปเผาทิ้งทันที และอย่าได้แต่งตัวแบบนี้อีกรู้มั้ย”
“ครับผม!” ขวัญรับปากเสียงหนักแน่นและแนบแก้มกับแผ่นอก ไม่ถึงนาทีลมหายใจก็ปรับเข้าสู่โหมดสม่ำเสมอ
Grrrr Grrrr เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของดีแลนดังขึ้น “อืม” เสียงตอบรับเบาๆอย่างละมัดระวัง เมื่อมีร่างบางนอนหนุนตักอยู่ที่เบาะหลังรถ ดีแลนฟังเสียงปลายสายพร้อมกระชับเสื้อคลุมปกคลุมร่างบางให้กระชับมากขึ้น
“เจอน้องสะใภ้แล้วใช่มั้ย”
“อืม”
“ได้กลับมาแล้ว คราวนี้ก็จัดการรวบหัวรวบหัวสักที และถ้าท้องเร็วๆได้พี่จะขอบคุณน้องบังเกิดเกล้ามาก”
“แค่นี้นะ...” ดีแลนพูดจบตัดสายทิ้งทันที เมื่อเขารู้สึกรำคาญพี่ชายฝาแฝดเอามากๆ
ฟืดดดดด... ขวัญผ่อนลมหายใจเมื่อรู้สึกตัวตื่น ดวงตากลมโตค่อยๆเปิดกว้างอย่างช้าๆ แต่....ความว่างเปล่าของเตียง พรึ่บ!!!! ขวัญลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว ควับ! สองขาก้าวลงจากเตียงทันที เธอก้มมองตัวเองในชุดนอนของตัวเอง สายตามองกลับไปที่เตียงอีกด้าน มันว่างเปล่า...
