Typhoon 6 แค่เห็นหน้าก็มีความสุ
ไลลาริณนอนกระสับกระส่ายรู้สึกหงุดหงิด พยายามจะข่มตาให้หลับแต่ต้องลุกขึ้นมานั่ง แค่เห็นภาพของเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่นทำไมเธอถึงไม่ชอบนัก
“มันเป็นสิทธิ์ของเขาไลลา”
ตอนนี้เขายังโสดก็มีสิทธิ์ที่จะจีบใครก็ได้ คนแบบเขาคงไม่จีบเธอแค่คนเดียวหรอก เลิกหวังอะไรลมๆ แล้งๆ เสียที แค่ลมปากผู้ชายตอนอยากได้อะไรก็พูดดีไปหมด
ติ้ง ติ้ง ติ้ง
Typhoon : พี่อยู่ด้านล่างมองลงมาสิ
Typhoon : รับสายพี่หน่อยนะครับ
เธอตกใจและรีบกระโดดลงจากเตียงค่อยๆ ใช้มือเปิดผ้าม่าน และเห็นรถหรูของไต้ฝุ่นจริงๆ ไม่ใช่แค่รถแต่เป็นตัวเขาที่ออกมายืนพิงอยู่หน้ารถและโบกมือทักทายเธอ
Typhoon : ถ้าไม่ลงมาก็รับสายพี่ อย่าให้พี่ต้องขึ้นไปหา
เมื่อเห็นว่ามีสายจากไต้ฝุ่นไลลาริณจึงรีบกดรับสายเพราะกลัวว่าเขาจะขึ้นมาจริงๆ
“ถ้าพี่เมาก็กลับไปดีกว่าค่ะ”
“พี่จะกลับไปได้ยังไงในเมื่อมีคนเข้าใจพี่ผิด” น้ำเสียงของเขาเหมือนไม่สบายใจเป็นอย่างมาก แค่นี้ก็ทำให้เธอใจอ่อนได้แล้ว
“รูปที่น้องเห็น พี่กับพิมพ์เราเป็นเพื่อนกันในห้องนั้นก็มีเพื่อนๆ อยู่กันตั้งหลายคน”
ไลลาริณถึงกับนิ่งเพราะตอนนี้ไต้ฝุ่นมองขึ้นมาสบตากับเธอพอดี เขาไม่จำเป็นต้องมาอธิบายอะไรเลย เพราะเธอเข้าใจ
“อย่าหลบหน้าพี่สิ แค่เห็นหน้าสวยๆ พี่ก็มีความสุขแล้ว”
“พี่ไต้ฝุ่นกลับไปก่อนดีกว่าค่ะตอนนี้ดึกมากแล้ว” เธอเป็นห่วงความปลอดภัยของเขา แถมเขายังดื่มมาอีกขับรถกลับอันตรายมาก
“เป็นห่วงพี่ทำไมไม่ให้พี่ขึ้นไปนอนสักงีบละ”
“...”
ไต้ฝุ่นคิดอะไรออกพอดี เมื่อเห็นว่าปลายสายเงียบเขาจึงลุกหนักขึ้นกว่าเดิม มัวแต่โทรคุยกันเมื่อไรความสัมพันธ์จะพัฒนา
“พี่ขอขึ้นไปพักได้ไหมเช้าพี่กลับ สัญญาจะไม่ทำอะไร” หากเธอไม่ขัดขืนก็ไม่แน่
“มันไม่ดีค่ะหากใครมาเห็นเข้าจะคิดยังไง”
“คนรักกันเขาก็ต้องไปมาหาสู่กันเป็นเรื่องธรรมดา ปล่อยให้พี่กลับทั้งที่พี่เมาเกิดพี่ขับรถชนเสาไฟจะทำยังไง คนสวยเห็นใจพี่เถอะนะ”
อะไรที่ไม่เคยทำก็ต้องงัดมันออกมาทำ คำพูดขัดกับบุคลิกมาก เสือร้ายแบบเขาต้องมาขอร้องอ้อนวอนขอความรักจากรุ่นน้อง
“ตะ...แต่ว่า”
“พี่นอนพื้นก็ได้ตอนนี้พี่ง่วงแล้วก็เมาด้วย ถ้าน้องใจร้ายเดี๋ยวพี่นอนบนรถเอา”
“ข่าวออกเยอะแยะว่าหลับบนรถแล้วตาย” พูดขนาดนี้ถ้าไม่ยอมให้ขึ้นไปนอนด้วยก็ใจร้ายมาก
“ไม่ค่ะ!” ไลลาริณปฏิเสธเสียงแข็งเธอไม่ไว้ใจเขา
“เห้อ...นั้นพี่นอนบนรถก็ได้”
ไต้ฝุ่นกดตัดสายทิ้งทันทีและรีบขึ้นไปนั่งบนรถ ทำไมเขาต้องมายืนให้ยุ่งกัดด้วย คิดหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้ไลลาริณไว้ใจตัวเอง เขาคิดอะไรเพลินไปหน่อยจะได้ยินเสียงเคาะกระจกรถจึงสะดุ้ง
“พี่ไต้ฝุ่นไหวไหมคะ?”
“อืม ง่วงมากเลย” ต้องงัดความตอแหลออกมา
“ขึ้นไปนอนบนห้องก็ได้ค่ะ ในรถคงจะเมื่อย”
เขารีบเปิดเปลือกตาขึ้นมาและดีดตัวลุกขึ้นรีบลงจากรถและปิดประตูเสร็จสรรพ เขาเดินตามหญิงสาวเข้ามาในหอพัก ซึ่งพอพักนั้นโทรมมากเลยทีเดียวแต่ทุกอย่างเป็นระเบียบ
“พี่ไปนอนบนเตียงก็ได้ค่ะ หนูจะนอนพื้นเอง”
“ว้าย! พี่ไต้ฝุ่นปล่อย” เธอตกใจที่เขาคว้าตัวไว้และลากให้ไปนอนบนที่ด้วยกัน
“อืม นอนเถอะพี่ง่วง”
ไลลาริณเงียบไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวไปไหนเพราะกลัวว่าจะทำให้ไต้ฝุ่นตื่น ความเงียบปกคลุมไปทั้งห้องทำให้ได้ยินเสียงเต้นของหัวใจดังออกมา
ไต้ฝุ่นหลับตาลงตาเขายังไม่หลับ กลิ่นหอมลอยออกเตะจมูกเขาทำให้ส่วนตรงนั้นโตขึ้น จนเขาปวดหนึบไปทั้งตัว
“วันหลังถ้าลงไปไหนใส่เสื้อในด้วย”
“พะ..พี่รู้”
“พี่ไม่ใช่เด็กแล้วฝันดีนะ” ไต้ฝุ่นใช้จังหวะนี้จุมพิตที่หน้าผากของเธอ และทิ้งตัวลงนอนไม่นานเขาก็หลับ ทิ้งให้ไลลาริณคิดฟุ้งซ่านอยู่ฝ่ายเดียว
เสียงนกที่ร้องตอนเช้าตรู่บวกกับน้ำหอมปรับอากาศในห้อง ทำให้ไต้ฝุ่นเปิดเปลือกตาขึ้นมา ถึงแม้ห้องของรุ่นน้องจะไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกอะไรเลย แต่ทำให้เขาหลับสบายกว่าที่ผ่านมา
“อุ๊ยย”
“ทำอะไรแต่เช้า”
เขามองถ้วยในมือของรุ่นน้อง ข้าวต้มที่หน้าตาแสนจะธรรมดาแต่ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั้งห้อง เขาจึงหลีกทางให้เธอเอาถ้วยข้าวต้มไปวางบนโต๊ะ
“พี่กินเสร็จแล้วกลับได้เลยนะคะหนูมีทำกิจกรรมตอนเช้า”
“นั่งกินด้วยกันสิ”
“แต่หนูว่า...”
“จะมานั่งกินดีๆ หรือจะให้พี่ป้อน”
พูดจบแค่นั้นเธอต้องรีบนั่งข้างๆ เขาทันทีทั้งสองคนสลับกันป้อนข้าวต้มกันไปมา เรียกได้ว่าหวานจนมดขึ้นไต้ฝุ่นเมื่อช่วยล้างจานเสร็จเขาจึงขอตัวกลับ
เพียงแค่ก้าวขาออกมาจากหอพักของไลลาริณ ก็เป็นข่าวดังทั้งมหาลัยในชั่วพริบตา
ไลลาริณกำลังซ้อมเดินแบบเพราะเธอถูกเลือกให้เป็นตัวแทนของสาขาเพื่อเขาประกวดดาวเดือนของคณะวิศวกรรม
“ตายแล้ว! ข่าวด่วนมีคนตาดีเห็นรุ่นพี่ปี 4 ออกมาจากหอพักแห่งหนึ่ง”
“ใครอ่ะ สภาพหอพักก็ไม่ได้เลิศหรูทำไมพี่เขาถึงยอมอ่ะ”
“หรือรักจริง”
ไลลาริณได้ยินรุ่นพี่พูดคุยกันไม่เข้าใจว่าพวกเขาหมายถึงใคร จึงเดินเข้าไปถามเพราะอยากรู้เช่นกัน แต่พูดถึงรุ่นพี่ปี 4 ทำไมเธอถึงหวั่นใจ
“น้องไลลาเห็นข่าวไหม พี่ไต้ฝุ่นของพี่ไปค้างคืนที่ห้องสาวคนอื่น”
“เอ่อ...มะ..ไม่เห็นเลยค่ะ” เธอหน้าซีดเผือดเพราะเป็นรูปที่ไต้ฝุ่นกำลังออกมาจากห้องของเธอ
“คนหล่อๆ ทำไมต้องเจ้าชู้ด้วยนะ”
“พี่ไต้ฝุ่นเขาเจ้าชู้ที่ไหน เขาเรียกว่ามั่ว!”
“ไม่มั่วแต่ทั่วถึง” สาวๆ ต่างพากันหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ สมัยตอนที่ไต้ฝุ่นอยู่ปีหนึ่ง มีรุ่นพี่เล่าให้ฟังว่ามีสาวสวยตบตีแย่งรุ่นพี่อยู่หน้าคณะ
ปึก!
เสียงของหล่นกระแทกพื้นทำให้ทั้งหมดต้องหันไปมองคนที่มาใหม่ พิมพ์พลอยเดินเข้ามาด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร หญิงสาวเดินตรงเข้ามาหาไลลาริณ
“เธอใช่ไหม? ที่ชื่อไลลา”
“ใช่ค่ะ”
“เลิกยุ่งกับไต้ฝุ่นซะ! เขาจีบเธอเล่นๆ แค่นั้นแหละ”
“บอกผิดคนหรือเปล่าคะ” เธอไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับเขาเลย มีแต่รุ่นพี่ที่เขามาวุ่นวายกับชีวิตของเธอเอง
“พูดแบบนี้จะแย่ง? จะเอาให้ได้เลย” พิมพ์พลอยคิดผิดมาก แค่ขู่เด็กนี่ก็ไม่กลัวแถมยังท้าทายเธออีก
“เข้าใจผิดอะไรกันหรือเปล่าคะ” แป้งหอมเข้ามาห้ามกลัวว่าจะมีเรื่องทะเลาะกัน แต่ดูแล้วเหมือนว่าไลลาริณจะสู้คน
“แย่งอะไรคะคุณพี่ ผัวคุณพี่เข้ามาวุ่นวายกับหนูเองพี่ก็เห็นอยู่ พี่ต้องล่ามโซ่เขาไว้นะคะขนาดใช้ตัวผูกมัดเขาไว้ยังไม่ได้เลย หัดใช้สมองบ้าง”
“นี่เธอ!!”
“ตบมาตบกลับนะคะบอกไว้ก่อนว่าหน้าหนูไม่ได้ทำมา” ไลลาริณตั้งท่าจะกำหมัดยกขึ้น อยากไปทำหน้าใหม่ก็ลองดูได้
“ฝากไว้ก่อนเถอะ!”
“พี่ว่าวันนี้เราพักกันแค่นี้ก่อนนะ”
“ไลลาอย่าไปคิดมากเลย”
“เขาเป็นใครเหรอคะ?” อยากรู้ว่ารุ่นพี่คนนี้ตามราวีผู้หญิงทุกคนที่ไต้ฝุ่นเข้าไปวุ่นวายด้วยหรือเปล่า ทำไมทำตัวเหมือนคนเป็นเมียไม่มีผิด
“พิมพ์พลอยเรียนห้องเดียวกับพี่ไต้ฝุ่นนั่นแหละ นางชอบพี่ไต้ฝุ่นตามหวงทุกคน แต่ผู้ชายเขาไม่เล่นด้วย”
“ตามตบทุกคนที่รุ่นพี่เขาไปจีบ” อินทิราเสริมขึ้นมา พวกเธอแค่ชอบตามคนหล่อแต่ถ้าให้เอามาเป็นคนรัก คงขอบาย
“พี่เขามาจีบก็อย่าไว้ใจเชียวนะ เจ็บมาเยอะแล้ว”
“ขอบคุณพี่ๆ มากนะคะหนูจะระวังตัวค่ะ”
ไลลาริณเก็บของเตรียมจะกลับหอพัก เช้านี้ไม่มีเรียนจึงจะกลับไปนอนต่อ แต่พอเดินออกมาก็เห็นไต้ฝุ่นนั่งรออยู่แล้ว เธอจึงทำเป็นเดินผ่านเขาไป
“มองไม่เห็นพี่เหรอครับ เมื่อคืนเพิ่งนอนด้วยกันมาตอนเช้าก็ลืมกันละ”
“พี่ไต้ฝุ่นอย่าพูดแบบนี้นะคะ”
“ไปไหนต่อไหมพี่พาไป” กูยอมตื่นเช้าขนาดนี้เห็นแก่ความพยายามของกูบ้างเถอะ ไอ้รถราคาแค่ไม่กี่ล้านทำไมต้องยอมลงทุนทำถึงขนาดนี้ด้วย
“กลับไปหาเมียพี่เถอะค่ะ”
“เดี๋ยว! ใครเมีย”
