บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 จะหย่า

ไม่ว่าจะยุคไหน สุดท้ายทุกคนก็ต้องยืนหยัดด้วยตนเอง ต้องเป็นคนมีความสามารถเท่านั้นถึงจะอยู่รอดได้ ก่อนหน้าเพราะมีพระมารดา มีพระเชษฐา ที่คอยคุ้มครองปกป้อง พอเกิดเรื่องเช่นนี้แม้ว่าอย่างไรฐานะนางไม่เปลี่ยนแปลงแต่จะให้เป็นเช่นเคยคงเป็นไปไม่ได้

นางเป็นคนในราชวงศ์ เชื้อสายของผู้นำดินแดนย่อมไม่ใช่คนธรรมดาทั้งรูปโฉมและสายพลัง ตั้งแต่เกิดนางได้รับความรักมากมาย ทำให้กลายเป็นคนขี้โมโห อารมณ์ร้าย เอาแต่ใจเย่อหยิงไร้ความเมตตา

ทำให้ทรัพย์ในกายล้วนไร้ค่า

“แม่นมมู่ ตอนนี้พวกเรามีคนอยู่จำนวนเท่าไร”

นางเป็นองค์หญิงอย่างน้อยก็ควรมีองค์รักษ์ส่วนตัวสิ

“องค์รักษ์เงาจำนวนหนึ่งเจ้าค่ะ ส่วนบ่าวไพร่ที่ติดตามมาจากในวังก็ 20 คน”

แม่นมเอ่ยพลางแปรงผมให้เจินไป๋เจียอย่างเบามือ และมองดูผมยาวสลวยเป็นเงางามนุ่มลื่นดั่งผ้าไหมล้ำค่าอย่างภาคภูมิใจ องค์หญิงของนางล้วนงดงามไร้ที่ติ ในขณะที่เจินไป๋เจียคิดถึงแต่เรื่องเงินทอง นางไม่เคยส่องกระจกเหลืองที่ไม่ชัดเจนอันนั้น

จึงไม่รู้ถึงความงามของตนเอง

มากมายจริง ๆ ผู้หญิงคนหนึ่งกลับมีคนต้องดูแลมากมายเพียงนี้

หากฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ แล้วไม่ให้เงินนางมาอีก จะทำอย่างไร

นางไตร่ตรองทุกอย่างเงียบ ๆ ที่ผ่านมานางเองก็ไม่ควรสนใจพลังจิตของตนเองว่าอยู่สายไหน

นึกว่าท่านยมฑูตพูด นึกว่าไร้สาระเสียอีก พลังลมปราณอะไร

เจ้ามีพลังลมปราณ 2 สาย วนเวียนคือ ธาตุดินและธาตุน้ำ

ข้าได้ทิ้งตำราโอสถไว้ให้

จากนั้นสูตรยาและสมุนไพรมากมายก็วิ่งเข้ามาในหัว พออยากนึกถึงก็นึกออกได้ทันที

แสดงว่า ต่อไปนี้ให้นางเป็นเภสัชกรสินะ

ไม่สิ…ที่นี่เรียก โอสถ อาจารย์โอสถ ปรมาจารย์โอสถ และเซียนโอสถ

แต่ละขั้นก็ยังมีขั้นเริ่มต้น ขั้นกลาง และขั้นสูง สรุปว่ามี 12 ขั้น

ดินแดนแห่งนี้ก็ไม่ต่างจากดินแดนที่นางจากมา มีหลากหลายอาชีพ ทว่าในระดับขั้นปรมาจารย์ล้วนต้องมีพื้นฐานพลังลมปราณ และนอกจากผู้นำสี่ตระกูลใหญ่และผู้สืบเชื้อสายแล้ว คนมีสายลมปราณก็แทบจะนับจำนวนได้

นางเก่งกาจขนาดนี้จะทนอยู่ในสถานที่แบบนี้ได้อย่างไร

“แม่นมมู่ เตรียมกระดาษและฝนหมึกให้ข้า”

นางจะเขียนหนังสือหย่าเอง

แม่นมมู่ชำเลืองมองสิ่งที่ เจินไป๋เจียเขียน มือก็สั่นระริก ทว่าแต่ไหนแต่ไรหากองค์หญิงตัดสินใจล้วนไม่สามารถเอ่ยขัดได้ นางก็เพียงมองด้วยใบหน้าสลดใจ น้ำตาเริ่มคลอ

“ชิงอี เจ้าเอาไปส่งให้ท่านแม่ทัพ”

ในจดหมายนางได้ลงลายมือไว้เรียบร้อย เหลือเพียงท่านแม่ทัพหวงซีซวนลงนามเท่านั้น

และหน้าซองนางยังเขียนเพื่อประกาศให้คนรู้ว่า

หนังสือหย่า

แม่ทัพหวงมองดูซองจดหมายที่ เจินไป๋เจียส่งมาให้ ลายมือที่ไม่อยากจดจำแต่เขาก็ยังจำได้ ลายมือเดิมทว่ากลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันกว่าเดิมคือมัน

มั่นคง หนักแน่น

ไม่น่าเชื่อว่าหญิงสาวที่ใจแปรปรวนเช่นนั้นจะเขียนลายมือเช่นนี้ออกมาได้

จวนแม่ทัพของเขาไม่ใช่โรงเตี้ยม

นึกอยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไป

หวงซีซวนไม่เปิดอ่านข้อความในจดหมายแม้กระทั่งหยิบขึ้นมาดูก็ไม่ทำ

เขาชำเลืองมองดูซองด้วยสายตาเหี้ยมเกรียม มีเปลวไฟลุกขึ้นในนัยน์ตาผุดขึ้นมาแวบเดียว ฉับพลันจดหมายก็โดนไหม้ด้วยเปลวเพลิง พลิบตาเดียวก็กลายเป็นขี้เถ้าของกระดาษปลิวไปมา

บ่าวไพร่รีบวิ่งเข้ามาเก็บกวาดอย่างรวดเร็วและรีบปลีกตัวออกมา เพราะพวกเขาต่างรับรู้ว่าท่านแม่ทัพโมโหแล้ว

“เหินอี” เขาเอ่ยเรียกองค์รักษ์เงาออกมาสั่งการ

“ขอรับ”

“จับตาดูองค์หญิงไป๋เจีย”

จากนั้นก็ได้เรียกพ่อบ้านเข้ามาสอบถาม

“ฮูหยินหลังหายจากอาการป่วยก็อยู่เพียงในเรือนไผ่หยกขอรับ ไม่ติดต่อใคร ไม่โวยวาย ทว่าสิ่งแรกที่ฮูหยินทำ…เอ่อ คือส่งหนังสือหย่าให้นายท่านขอรับ”

พ่อบ้านพูดด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น เป็นใครย่อมโมโหถูกสตรีขอหย่าเหมือนโดนดูแคลนเสียศักดิ์ศรี ดีที่เขารีบสกัดไม่ให้ข่าวออกนอกจวน ไม่อย่างนั้น เขาเองก็คงโดนเผาไม่ต่างจากจดหมายฉบับนั้น

หวงซีซวนไล่พ่อบ้านออกไป รีบสลัดเรื่องของหญิงผู้นั้นออกจากหัว

คงเป็นวิธีเรียกร้องความสนใจแบบใหม่

ยิ่งคิด แม่ทัพหวงซีซวนยิ่งรู้สึกปวดหัวหนึบหนับ

จะอย่างไรตอนนี้ก็ปล่อยนางออกไปไม่ได้

ราชสำนักกำลังวุ่นวายอย่างหนักเขาเองก็ต้องควบคุมไม่เคยเกินเรื่องไม่ดี ทั้งที่ควรอยู่เงียบ ๆ อย่างกุลสตรีพึงกระทำ ในเวลาเช่นนี้นางยังไม่วายสร้างปัญหาอีก ชีวิตเขาไม่รู้ว่าก่อกรรมอันใดถึงได้มาเจอสตรีเช่นนี้

ข่าวที่แม่ทัพหวงซีซวนเผ่าหนังสือขอหย่าจากฮูหยินดังไปทั่วจวน เพราะชิงอีตั้งใจเปิดเผยหลายคนต่างเข้าใจไปต่าง ๆ นา ๆ ทว่าสิ่งที่ทุกคนกังวลใจ

“หรือว่า นายท่านจะแอบมีใจให้นางแล้ว”

ฮูหยินรองพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแฝงกังวล

“ไม่หรอกเจ้าค่ะ ขนาดวันนั้นนางกำลังจะตายท่านแม่ทัพก็ยังไม่เหลียวแล” อนุลู่อี้เอ่ยพูดขึ้นพร้อมยกผ้าเช็ดหน้าปิดปากหัวเราะ

ใครบ้างไม่รู้ว่าคืนนั้นท่านแม่ทัพอยู่กับใครและทำอะไร

ฮูหยินรองก้มหน้าเอียงอาย และยิ้มที่มุมปากพอใจ

“เจ้าอย่าพูดไป ข้าเองก็รู้สึกผิดแต่ว่าก็ไม่กล้าขัดนายท่าน”

ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งยกยอตัวเอง หลายคนเองก็นึกดูแคลนอีกฝ่ายทว่าใบหน้ายังเต็มไปด้วยไมตรียิ้มแย้ม ยกยอกัน

ส่วนเจินไป๋เจีย ก็นั่งอย่างหมดพลังเสียอารมณ์

ด้วยรูปโฉมอันงดงาม ท่าทีเหนื่อยเบื่อหน่าย ยิ่งทำให้นางกลายเป็นดูสูงส่ง ไร้ความสนใจในสรรพสิ่ง

หวงซีซวนไม่ไว้ใจก่อนออกจากจวน เขาได้แอบมาดูหญิงสาว

ภายในใจล้วนเต็มไปด้วยอคติ

ป่วยหนักแทบสิ้นชีพ กลับสามารถมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้เพียงนี้

ไม่หน้ำซ้ำยังดูงดงามขึ้น

อย่าที่เขาว่า “คนชั่วย่อมตายยาก”

เป็นอย่างนี้เอง ฉับพลันก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองหลงกลแผนการของนางแล้ว

เขาเองถึงกลับมาแอบดูและยังสั่งให้คนจับตาดู

หวงซีซวนยิ้มดูแคลนความโง่เขลาของตัวเองรีบเร้นกายออกไปทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel