ฮูหยินเรือนรอง

60.0K · จบแล้ว
หวังเสี่ยวชิง
27
บท
14.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“สุ่ยเซียน เจ้าหยุดร้องไห้เถิด อย่าได้เสียใจเพราะข้าเลย” สตรีอีกหนึ่งนางรีบขยับเข้ามาใกล้เตียงกว้างมากขึ้น เอื้อมมือไปจับมือเรียวงามมาวางบนศีรษะของตนเอง ดวงตาสองข้างแดงก่ำดุจสีเลือด เพราะผ่านการร้องไห้มาตลอดหลายวันมานี้ “คุณหนู บ่าวเสียใจ ที่บ่าวไม่สามารถช่วยอะไรคุณหนูได้เลย” “จะเสียใจไปไย ชีวิตของคนเราล้วนมีเกิดมีดับ สุ่ยเซียนเอย หากข้าหมดลมหายใจลง ซึ่งก็น่าจะใกล้ถึงเวลาแล้วล่ะ เจ้าจงกลับไปอยู่จวนสกุลจ้าว นำเถ้ากระดูกของข้าไปให้ท่านพ่อด้วย” เสียงแหบระโหยเอ่ยสั่งสาวใช้ ที่เฝ้าติดตามนางมาตั้งแต่เยาว์วัย หากนางหมดลมไปจริง ๆ สุ่ยเซียนจะต้องอยู่ที่จวนสกุลหานอย่างยากลำบากแน่ สตรีที่อายุน้อยกว่าส่ายหน้า ไม่อยากยอมรับในวาระสุดท้ายของผู้เป็นนาย หากเพียงคุณหนูได้รับการรักษา คุณหนูของนางจะต้องกลับมาเป็นปกติแน่ “คุณหนูรอบ่าวก่อนนะเจ้าคะ บ่าวจะไปที่เรือนหงเป่าอีกสักรอบ” ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยปากห้าม สาวใช้ข้างกายก็วิ่งพรวดออกไปพ้นจากห้องนอนแล้ว ‘จ้าวซีฮัน’ ไม่อยากให้คนของนางต้องไปพบกับความชอกช้ำใจ เพราะสักกี่รอบแล้ว ที่สุ่ยเซียนไปนั่งคุกเข่าอยู่หน้าเรือนหลัก แต่คนผู้นั้นก็ไม่เคยที่จะเห็นใจพวกนางเลย คงอยากจะให้นางตายไปเสียให้พ้น ๆ กระมัง เขากับนางอันเป็นที่รักจะได้ครองคู่กันเป็นผัวเดียวเมียเดียว “เจ้ากล้าดีอย่างไร ถึง...” หานห่าวซวนดวงตาวาวโรจน์ด้วยเพลิงโทสะ มองสตรีที่นั่งร้องไห้อยู่บนเตียงกว้าง อยากจะเข้าไปจับตัวนางเขย่า ๆ ให้แรง ๆ ที่นางกล้าเอาตัวเข้ามาพัวพันกับเขา “ท่านแม่ทัพ ฮึก ๆ ข้าไม่ได้ทำ” ใบหน้างามอาบไปด้วยหยดน้ำใสที่เอ่อล้นขึ้นมาไม่ขาดสาย เนื้อตัวก็ปวดระบมไปหมด โดยเฉพาะส่วนของร่างกายด้านล่าง จิตใจดวงน้อย ๆ ก็ยิ่งจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ยามคิดย้อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หมดไปแล้วความบริสุทธิ์ที่เฝ้ารักษามาตามคำสั่งเสียของมารดา ไหนจะบิดาอีกถ้าท่านรู้ความจริง จะผิดหวังในตัวนางมากเพียงไหนหนอ แล้วกุ้ยฟางเล่าจะมองนางว่าเป็นสหายรัก ที่ทรยศแย่งบุรุษที่นางชอบหรือเปล่า และที่สำคัญ สายตาของบุรุษที่กำลังแต่งกาย มองนางด้วยความโกรธเกลียด ไม่เหลือแววของความอบอุ่นเหมือนครั้งก่อน ๆ เลย “เจ้ารู้ไหม โทษของการวางยาข้า มีโทษถึงชีวิต เจ้าจะบอกเจ้าไม่ได้ทำ ถ้าอย่างนั้นคงเป็นพี่สาวของเจ้าทำ แล้วเจ้ามารับเคราะห์แทนอย่างนั้นหรือ” “ข้ากินไม่ลง หากแม่ทัพไม่ฟื้น ข้า...ข้าจะทำอย่างไรละสุ่ยเซียน” หยดน้ำตาไหลตามร่องแก้ม ก่อนจะหยดลงบนหลังมือหนา ที่มือเรียวงามกอบกุมเอาไว้ตลอดเวลา เพราะความกลัวว่าคนที่นอนเป็นผักปลาอยู่จะไม่ยอมฟื้นขึ้นมา หากเขาไม่ฟื้นจริง ๆ หัวใจทั้งดวงของนาง คงต้องแตกสลายกลายเป็นเศษผงเป็นแน่ แม้ที่ผ่านมาสิ่งที่ชายหนุ่มกระทำจะทำร้ายจิตใจนางมากเพียงไหน แต่ความรักที่นางมีให้เขามาตั้งแต่ในวัยเด็กยังไม่เสื่อมคลายลงไปเลยแม้แต่น้อย “ท่านแม่ทัพ รีบฟื้นขึ้นมาเถอะ ข้ารอฟังความจริงจากปากของท่านอยู่” ซีฮันยกมือใหญ่กว่าขึ้นมาทาบที่แก้มของตนเอง นัยน์ตาหงส์จ้องมองใบหน้าหล่อเหลา ภาวนาในใจขอร้องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้มอบโอกาสให้แม่ทัพหนุ่ม เหมือนที่ได้มอบโอกาสให้นาง

นิยายรักโรแมนติกนิยายจีนโบราณนิยายรักทหารแม่ทัพสัญญาทางรักโตมาด้วยจีนโบราณนิยายย้อนยุค

ตอนที่ 1 อารัมภบท

ตอนที่ 1

ภายในหอนอนที่สุดแสนวิจิตรตระการตา ตามฐานะของเจ้าของจวนเนื่องจากเป็นคนโปรดของฮ่องเต้แคว้นฉิน สตรีนางหนึ่งนอนแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่บนเตียงไม้ที่มีขนาดกว้างพอสมควร

ใบหน้าที่เคยงามผุดผาดสมกับคำร่ำลือว่าความงามของนางนั้นมิเป็นสองรองใคร แต่มาบัดนี้กลับซีดเซียว ปราศจากสีเลือด ริมฝีปากแห้งแตกออกเป็นริ้ว ๆ นัยน์ตาหงส์ที่เคยมองทุกอย่างในชีวิตบนโลกในทางที่ดีมาตลอด บัดนี้เหม่อมองไปในความว่างเปล่าใคร่ครวญถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ชะตากรรมเลวร้ายที่นางต้องพบเจอ ทั้ง ๆ ที่ทุกสิ่งทุกอย่างนางไม่ได้เป็นคนกระทำ แต่เป็นผู้ถูกกระทำต่างหาก

...ฮือ ๆ ...

เสียงคร่ำครวญของใครคนหนึ่ง ดังขึ้นอยู่ข้างเตียง เรียกสติของคนที่กำลังหมดเรี่ยวแรงลงไปเรื่อย ๆ ทุกนาที ให้ตื่นจากห้วงความคิดของตนเอง

“สุ่ยเซียน เจ้าหยุดร้องไห้เถิด อย่าได้เสียใจเพราะข้าเลย”

สตรีอีกหนึ่งนางรีบขยับเข้ามาใกล้เตียงกว้างมากขึ้น เอื้อมมือไปจับมือเรียวงามมาวางบนศีรษะของตนเอง ดวงตาสองข้างแดงก่ำดุจสีเลือด เพราะผ่านการร้องไห้มาตลอดหลายวันมานี้

“คุณหนู บ่าวเสียใจ ที่บ่าวไม่สามารถช่วยอะไรคุณหนูได้เลย”

“จะเสียใจไปไย ชีวิตของคนเราล้วนมีเกิดมีดับ สุ่ยเซียนเอย หากข้าหมดลมหายใจลง ซึ่งก็น่าจะใกล้ถึงเวลาแล้วล่ะ เจ้าจงกลับไปอยู่จวนสกุลจ้าว นำเถ้ากระดูกของข้าไปให้ท่านพ่อด้วย” เสียงแหบระโหยเอ่ยสั่งสาวใช้ ที่เฝ้าติดตามนางมาตั้งแต่เยาว์วัย หากนางหมดลมไปจริง ๆ สุ่ยเซียนจะต้องอยู่ที่จวนสกุลหานอย่างยากลำบากแน่

สตรีที่อายุน้อยกว่าส่ายหน้า ไม่อยากยอมรับในวาระสุดท้ายของผู้เป็นนาย หากเพียงคุณหนูได้รับการรักษา คุณหนูของนางจะต้องกลับมาเป็นปกติแน่

“คุณหนูรอบ่าวก่อนนะเจ้าคะ บ่าวจะไปที่เรือนหงเป่าอีกสักรอบ”

ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยปากห้าม สาวใช้ข้างกายก็วิ่งพรวดออกไปพ้นจากห้องนอนแล้ว ‘จ้าวซีฮัน’ ไม่อยากให้คนของนางต้องไปพบกับความชอกช้ำใจ เพราะสักกี่รอบแล้ว ที่สุ่ยเซียนไปนั่งคุกเข่าอยู่หน้าเรือนหลัก แต่คนผู้นั้นก็ไม่เคยที่จะเห็นใจพวกนางเลย คงอยากจะให้นางตายไปเสียให้พ้น ๆ กระมัง เขากับนางอันเป็นที่รักจะได้ครองคู่กันเป็นผัวเดียวเมียเดียว

ซีฮันเอย...เหตุไฉนชีวิตของเจ้าถึงต้องพานพบเรื่องแย่ ๆ อยู่เรื่อย หรือจะเป็นดังคำที่สุ่ยเซียนคอยตอกย้ำนางอยู่เสมอว่า เป็นคนดีเกินไป ใจอ่อนเกินไป จนปล่อยให้ผู้อื่นรังแกอย่างไรก็ได้ หากจะพูดง่าย ๆ คือนางนั้นช่างเป็นคนที่อ่อนแอนัก

มันก็สมแล้วล่ะ ที่จะต้องมาพบกับวาระสุดท้ายเช่นนี้...ซีฮันเอย หากได้เกิดมาชาติหน้าฉันใดก็อย่าอ่อนแอยอมคนอื่นง่าย ๆ ดังเช่นชาตินี้เลยหนา

นัยน์ตาหงส์ค่อย ๆ ปิดเปลือกตาลง หน้าอกที่เคยกระเพื่อมไหว บัดนี้กลับมาสงบนิ่งไปพร้อมกับลมหายใจสุดท้ายของชีวิต...

“ท่านแม่ทัพ ได้โปรดกรุณาตามท่านหมอมารักษาอาการของคุณหนูด้วยเจ้าคะ...ฮึก ๆ ...คุณหนูของบ่าวจะไม่ไหวแล้ว”

สุ่ยเซียนคุกเข่าอยู่หน้าเรือนหงเป่า ศีรษะโขกคำนับอยู่บนพื้น ไม่สนใจว่ายามนี้ตามร่างกายของนางขาวโพลนไปด้วยเกล็ดหิมะที่ตกมาไม่ขาดสาย หากความตายของนางจะแลกกับการที่มีท่านหมอมารักษาผู้เป็นนายนางยอม ยอมหมดทุกอย่าง

...แอ๊ด...

เสียงเปิดประตูออกมา สาวใช้รีบยัดกายลุกนั่งหลังตรง สีหน้าปรากฏรอยยิ้มออกมา เพราะคิดว่าท่านแม่ทัพหานยอมออกจากเรือนมาพบตนแล้ว

เพียงไม่นานรอยยิ้มก็หุบลง เมื่อคนที่ออกมา หาใช่บุรุษร่างสูงโปร่ง แต่เป็นอิสตรีร่างเล็ก ที่สวมใส่อาภรณ์ขนสัตว์ป้องกันอากาศที่หนาวเย็น นางย่างกรายออกมาหยุดยืนอยู่หน้าเรือน โดยมีสาวใช้ข้างกายช่วยประคองเอาไว้

“เหตุใดมาตะโกนโหวกเหวกเช่นนี้ เจ้าไม่รู้หรือท่านแม่ทัพต้องการพักผ่อน”

“ฮูหยินรองได้โปรดช่วยขอร้องท่านแม่ทัพ ให้อนุญาตพวกบ่าวได้ไปตามท่านหมอมาดูอาการคุณหนูของบ่าวด้วยเถิด”

สุ่ยเซียนจำใจโขกศีรษะคำนับสตรีที่ยืนอยู่ตรงหน้า สตรีที่ทำให้คุณหนูของนางต้องมาล้มป่วย หนำซ้ำยังถูกกักบริเวณไม่ให้ออกจากจวน จะไปตามท่านหมอก็ออกไปไม่ได้

“โถ...น่าสงสารนายของเจ้าเหลือเกิน ข้าเองก็เฝ้าขอร้องอ้อนวอนท่านแม่ทัพอยู่ทุกวัน แต่ว่า...อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ ความโกรธของท่านแม่ทัพที่มีต่อนายของเจ้ามากเพียงใด”

ฮูหยินรองของจวนหาน รับผ้าเช็ดหน้ามาจากสาวใช้ ก่อนจะยกขึ้นมาเช็ดดวงตาทั้งสองข้าง วาจาที่เอื้อนเอ่ยกับผู้อื่นนั่นหวานปานน้ำผึ้ง แต่ใครเล่าจะรู้ว่าเป็นน้ำผึ้งที่เคลือบยาพิษ เหมือนเช่นที่คุณหนูและตัวนางได้รับรู้แล้ว

“หากเช่นนั้น ให้บ่าวได้เข้าไปเจรจากับท่านแม่ทัพจะได้หรือไม่” สุ่ยเซียนตั้งท่าจะยันกายลุกขึ้นยืน แต่เสียงที่เคยหวานปานน้ำผึ้งของอีกฝ่ายเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้นมากกว่าเดิม

“บังอาจ เป็นแค่บ่าวไพร่จะเข้าไปโดยที่ท่านแม่ทัพไม่เห็นชอบได้อย่างไร เอาเยี่ยงนี้ เจ้ากลับไปก่อน หากท่านแม่ทัพพักผ่อนเพียงพอแล้ว ข้าจะช่วยพูดอีกครั้งหนึ่ง”

สุ่ยเซียนอิดออดไม่อยากจะกลับไปทั้งแบบนี้ เพราะว่ากี่ครั้งแล้วที่นางมาหา ก็ไม่ได้พบกับท่านแม่ทัพหานเลยสักครั้ง จะพบก็เพียงแต่ฮูหยินรองที่จะคอยขัดขวางไม่ให้นางได้เข้าพบกับนายท่านของจวนสกุลหาน

“เอ๊ะ...ข้าบอกให้กลับไปดี ๆ ยังจะมองหน้าหาเรื่องข้าอีก หรืออยากจะถูกโบย คราวนี้นายของเจ้าคงขาดคนดูแลแน่”

สาวใช้ของฮูหยินใหญ่ ย่อมไม่อยากทำตนเองให้บาดเจ็บ เพราะทั้งจวนหานนี้ มีเพียงนางเท่านั้นที่ดูแลคุณหนู จึงจำใจต้องยอมถอยกลับไป โดยที่ไม่มีหนทางที่จะออกจากจวนไปตามท่านหมอมารักษาผู้เป็นนายได้

สุ่ยเซียนปล่อยน้ำตาให้รินไหลออกมานองใบหน้า สองเท้าเร่งก้าวเดินกลับไปที่เรือนฉีเซิน ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของเรือนหลัก ปานนี้คุณหนูของนางจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้

“คุณหนู บ่าวกลับมาแล้วเจ้าคะ”

พอมาถึงเรือนฉีเซิน สุ่ยเซียนรีบสาวเท้าเข้าไปในห้องนอนทันที พร้อมกับรายงานคุณหนู แต่ว่าสตรีที่นอนหลับตานิ่งอยู่บนเตียงกว้าง กลับไม่ส่งเสียงตอบรับกลับมาเหมือนเช่นทุกครั้ง

..คุณหนูอาจจะหลับไป อย่าเพิ่งคิดไปในแง่ร้าย..

“คุณหนู”

สาวใช้ขยับไปทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นข้างเตียง พยายามทำใจดีสู้เสือไว้ก่อน ถึงกระนั้นใจของนางยามนี้ได้หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเรียบร้อยแล้ว เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา ลมหายใจของคุณหนูจะไม่แผ่วเบาเงียบสงัดเช่นนี้ อีกทั้งช่วงอกของคุณหนูก็ไม่ขยับขึ้นลงเหมือนเช่นทุกคราเลย

“คุณหนู ได้ยินเสียงบ่าวไหม ตื่นมาฟังที่บ่าวจะพูดก่อน”

“...”

ทุกสรรพสิ่งในห้องเงียบสงบ เงียบเสียจนสุ่ยเซียนใจคอไม่ดี นางเอื้อมมืออันสั่นเทาไปจับมือเรียวงามก็พบแต่ความเย็นชืด ลองยกปลายนิ้วไปจรดที่ปลายจมูกโด่งได้รูป พบแต่ความว่างเปล่า

...ไม่ มันไม่ใช่ความจริง...

“คุณหนู อย่าแกล้งบ่าวแบบนี้ บ่าวไม่สนุกนะเจ้าคะ”

หยาดน้ำใสที่พึ่งจะเหือดแห้งไป ไหลออกมาคลอเบ้าตาอีกครั้ง สองมือจับร่างบางที่นอนแน่นิ่งเขย่าไปมา หวังให้อีกฝ่ายยอมลืมตาเอ่ยปากพูดกับนาง

แต่ทว่าความจริงอันโหดร้ายก็ถาโถมเข้าสู่จิตใจดวงน้อย ๆ เป็นเรื่องที่นางไม่อยากจะยอมรับมันออกมา

“ฮือ ๆ คุณหนูของบ่าว ทำไมไม่รอบ่าวกลับมาก่อน ฮือ ๆ”

สุ่ยเซียนกอดร่างไร้ลมหายใจไว้ในอ้อมแขน หยดน้ำตาหยดแล้วหยดเล่า หยดลงบนกายเนื้อที่ไม่อาจรับรู้สิ่งใดได้อีกแล้ว

เสียงร้องไห้คร่ำครวญดังก้องไปทั่วเรือนปีกตะวันออก กระนั้นก็หาได้มีใครอื่นจะสนใจย่างกรายมายุ่งเกี่ยวกับเรือนนี้ไม่...