อ๋องร้ายพ่ายรัก

67.0K · จบแล้ว
หลินซี
24
บท
19.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

นางคือสตรีตามคำทำนายที่ผู้คนมักหลีกเลี่ยงมิเข้าใกล้ อีกทั้งยังเสเพลเมาสุราแทบทุกวัน เขาอ๋องหนุ่มที่สตรีทั่วแคว้นหมายปอง เขาเย็นชาแต่ปากร้ายทุกครั้งยามที่อยู่ใกล้นาง "สตรีไร้ยางอายขี้เมาหยำเป"

นางเอกเก่งโรแมนติกรักหวานๆนิยายจีนโบราณจีนโบราณท่านอ๋อง18+เกิดใหม่

1. เกิดใหม่

“เอาเร็วเข้า แดดจะหมดแล้วมัวแต่ชักช้าอยู่นั่นแหละ” เสียงจากหัวหน้าคณะเดินทางมาถ่ายแบบในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในเมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่รุ่งเรืองมากเมื่อพันปีก่อน ตงลี่หนึ่งในนายแบบประจำบาร์โฮสต์ที่ดังสุดในเมือง กำลังเตรียมตัวโพสต์ท่ากับเพื่อนอีกสี่คน

“ตงลี่รอบนี้นายก็ได้ขึ้นปกอีกแล้วนะ ฉันล่ะอยากหล่อแบบแกจริงๆ สาวๆ ก็รุมล้อมมากมาย” เพื่อนร่วมงานหนึ่งในสี่พูดขึ้น ทำเอาใครบางคนที่ยืนอยู่ข้างกันคว่ำปากมองบนทันที ความอิจฉาที่กำลังก่อเกิดทำให้เขาติดทำเรื่องบางอย่างอยู่ในใจ

“พูดเวอร์น่า ฉันก็ทำงานตามปกติ นายก็หน้าตาดีใช่ย่อย ทุกคนต่างก็มีข้อดีของตัวเองทั้งนั้น”

“นั่นสิ ตงลี่หล่อเป็นที่น่าสนใจของทุกคน แต่! กินเหล้าเก่งนี่สิ ลูกค้าสาวๆ ยังสู้ไม่ไหว ถ้าจะเรียกไปนั่งด้วยอย่างน้อยต้องห้าสิบดื่มถึงจะยอมนั่ง หึ! อีกไม่นานลูกค้าก็คงหนีหมด” เสียงจากเพื่อนที่ไม่ชอบหน้ากันพูดขึ้น

ตงลี่หันหลังมามองอีกฝ่ายแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพราะตอนนี้ทุกคนต้องเตรียมตัวเพื่อถ่ายแบบ ที่หมู่บ้านเก่าแก่ซึ่งมีอายุนับพันปี และเป็นสถานที่ซึ่งชาวบ้านแถบนี้อนุรักษ์ไว้จึงกลายเป็นที่ท่องเที่ยวที่ยังงดงาม

“โอเคร ยืนเรียงแถวเลย ตงลี่อยู่ตรงกลางนะ” เสียงตากล้องร้องเรียก ก่อนจะเริ่มถ่ายฉากแรกในศาลากลางสระ การทำงานเป็นไปอย่างเรียบร้อย ก่อนที่จะย้ายไปยังจุดสุดท้าย ก่อนจะเลิกลาในวันนี้

“ยืนชิดกันหน่อยครับ ตงลี่นายยืนจับขอบบ่อแล้วก็มองเชิดขึ้นด้านบนเลยนะ คนอื่นยืนขนาบข้างเลย” เสียงสั่งงานดังขึ้นทุกคนก็มายืนล้อมขอบบ่อที่มีขอบสูงแค่เข่า แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ ร่างของนายแบบคนดังประจำบาร์โฮสต์เกิดพลัดตกลงไป

“เห้ย!ตงลี่!” เสียงร้องด้วยความตื่นตระหนกดังขึ้น ความวุ่นวายโกลาหลเกิดขึ้นทันที แต่ผ่านไปกว่าห้านาทีก็ยังไม่เห็นว่าตงลี่จะผุดขึ้นมาจากน้ำ ก่อนจะมีคนพยายามปีนลงไปเพื่อหาร่างของเขาเพื่อช่วยขึ้นมา

ไม่นานนักร่างของหนุ่มหล่อก็ถูกดึงขึ้นมาจากก้นบ่อ ตอนนี้ตงลี่ไม่หายใจแล้ว เพราะตอนที่ตกไปหัวกระแทกกับผนังจนหมดสติ พอจมน้ำเขาเลยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ประกอบกับการช่วยเหลือที่ช้าเกินไป จึงทำให้หนุ่มหล่อบาร์โฮสต์จากไปในที่สุด

เมืองหลวงแคว้นฉินยุคสมัยเมื่อพันกว่าปีก่อน

จวนราชครูจางยามนี้กำลังจัดงานเลี้ยงต้อนรับบุตรชายคนโตที่สอบจองหงวนได้ และกำลังจะได้รับตำแหน่งขุนนางในราชสำนักอีกสี่วันข้างหน้า ทำให้มีผู้คนมากมายมาร่วมยินดี เพราะว่าเจ้าของจวนเป็นที่รักของฮ่องเต้มาก

“นี่เจ้าเห็นคุณหนูลี่ถิงหรือไม่ อย่าให้ออกมาในงานเชียว เดี๋ยวจะทำเอาผู้คนแตกตื่นเข้าใจไหม” ฮูหยินรองผู้ที่ยามนี้กุมอำนาจทั้งหมดในจวนเอ่ยขึ้น เพราะมารดาของหลิวหมี่และลี่ถิงซึ่งเป็นฮูหยินใหญ่สิ้นใจไปแล้ว

“เจ้าค่ะ เห็นว่านั่งเล่นอยู่ท้ายเรือน” บ่าวรับใช้เอ่ยขึ้น ก่อนจะเดินออกไปทำหน้าที่ของตน ยิ้มร้ายผุดขึ้นจากใบหน้าสตรีสูงวัย ก่อนจะเดินไปยังจุดหมายที่ตนพึ่งได้ฟังมา และสิ่งที่เห็นก็คือร่างเล็กของเด็กน้อย ซึ่งกำลังนั่งพรวนดินปลูกต้นไม้อยู่

“เจ้าปลูกต้นไม้แต่มิรดน้ำมันจะเติบโตได้เช่นไร” น้ำเสียงคุ้นหูดังขึ้น ทำให้ลี่ถิงต้องรีบหันกลับมา

“แม่เล็ก” เสียงสั่นเอ่ยเรียกผู้ที่นางกลัว ก่อนจะตั้งท่าเดินหนีแต่ก็มิพ้น เพราะอีกฝ่ายจับแขนน้อยๆ นี่ไว้เสียก่อน

“จะไปไหน รดน้ำต้นไม้เสียก่อน มิเช่นนั้นมันจะตาย” ฮูหยินรองเอ่ยขึ้นพร้อมกับดันร่างเล็กให้เดินไปยังบ่อน้ำ

“ตักขึ้นมาแล้วนำไปรดต้นไม้ที่เจ้าปลูก” คำสั่งของอีกฝ่ายดังขึ้น เด็กน้อยวัยแปดขวบจึงต้องรีบทำตามทันที แต่เพราะวันนี้ถังน้ำถูกเปลี่ยนขนาดใหญ่ขึ้น จึงทำให้สู้แรงดึงมิไหว แม้จะหันมาขอความช่วยเหลือจากมารดา แต่นางก็ยังยืนมองอย่างไร้ปราณี ลี่ถิงจึงหันมาพยายามด้วยตนเอง แต่จู่ๆ ขาเล็กก็ลอยขึ้น ก่อนที่ร่างตนจะร่วงหล่นลงสู่ก้นบ่อ ทุกอย่างเลือนหายไปเช่นเดียวกับที่ตรงนี้ไร้เงาผู้คน

จวบจนรุ่งสางของอีกวันที่ร่างนี้ถูกช่วยขึ้นมา ลี่ถิงนอนมิได้สติจนกระทั่งข้ามพ้นวันไปแล้ว มีเพียงพี่สาวที่คอยเฝ้าดูแลอยู่มิห่างกาย หลิวหมี่นั่งมองพร้อมกับลูบแก้มเนียนของน้องสาวอย่างสงสาร

“ไยเจ้าเกิดมาอาภัพเพียงนี้ลี่ถิง” เสียงสั่นเครือดังขึ้น ก่อนที่นางจะสะดุ้งตื่นตกใจเมื่อน้องสาวดีดตัวลุกขึ้นมา

“เรายังไม่ตาย” เสียงใสของเด็กน้อยดังขึ้น พร้อมกับจับใบหน้าของตนลูบไปมา ใบหน้าจิ้มลิ้มหันมองรอบตัว ความเงียบเข้าปกคลุมเมื่อทุกอย่างที่มองเห็นมันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

“นี่เราเข้ามาอยู่ในร่างของเด็กคนนี้จริงๆ เหรอ ฉันต้องอยู่ในร่างเด็กแปดขวบยังไม่พอ ดันกลายมาเป็นผู้หญิงอีก บ้าไปแล้ว” ตงลี่บ่นให้กับเรื่องที่เกิดขึ้นภายในใจ แต่อย่างไรล่ะในเมื่อทุกอย่างมันก็เป็นไปตามที่ได้ตกลงกับเจ้าของร่าง ซึ่งพูดคุยกันก่อนนี้แล้ว หากเขาต้องการเกิดใหม่ก็ต้องอยู่ในร่างของนาง

การพูดคุยกันของวิญญาณสองดวงภายในบ่อน้ำที่ต่อเชื่อมยุคทั้งสอง ตงลี่จึงจำต้องยอมรับข้อเสนอในเมื่อเด็กน้อยมิต้องการกลับเข้าร่างของตน เพราะมิอยากทนใช้ชีวิตเช่นนี้อีก แต่ยังมิทันได้เอ่ยถามสิ่งใดเลย ร่างสูงของประมุขจวนก็เดินตรงเข้ามาเสียก่อน

“ส่งนางไปชายแดน อยู่ที่นี่ก็รังแต่จะก่อความวุ่นวาย ไยถึงมิตายไปเสีย” น้ำเสียงทรงอำนาจเด็ดขาดเอ่ยขึ้น ทำเอาทุกคนต่างก็ก้มหัวลงเพราะตื่นกลัว

ต่างจากเด็กน้อยที่ยังคงจ้องมองบุรุษที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของตน แต่ยามนี้เขาก็แค่คนอื่นไปแล้วเพราะในร่างนี้คือตงลี่ ลี่ถิงถูกส่งไปยังชายแดนอย่างที่ราชครูเอ่ย แม้หลิวหมี่จะร้องขอเพียงใดก็มิเป็นผล

เพราะก่อนนี้ราชครูจางได้ฟังคำยั่วยุของเหล่าขุนนางที่เห็นพ้องต้องกันว่าควรขับไล่หรือไม่ก็สังหารบุตรสาว เพื่อมิให้เกิดอาเพศตามคำทำนาย เพราะตั้งแต่เกิดมาก็ทำให้มารดาสิ้นใจ จากเหตุการณ์ที่นางตกบ่อก็ทำให้พี่ชายที่ลงไปช่วยเกือบเอาชีวิตมิรอดจนเกือบสูญสิ้นสกุลจาง

คราแรกราชครูหมายจะจองจำนางด้วยซ้ำ แต่เพราะจางจีหลงบุตรชายคนเดียวร้องขอเอาไว้ จึงตัดสินใจขับไล่ออกจากจวนและมิให้ใช้แซ่ของตนอีกต่อไป เด็กน้อยถูกพาออกจากจวนตรงไปยังชายแดนซึ่งอยู่ห่างออกไปนับพันลี้ตามคำสั่งของบิดา แต่กลับมีกลุ่มคนคิดจะเอาชีวิตในขณะเดินทาง แต่ก็มีลุงแท้ๆ ของนางเองที่มาช่วย

คราแรกเด็กน้อยก็กลัวมิกล้าตามไป แต่สุดท้ายเมื่อต้องหาที่พึ่งจึงจำต้องติดตามคนที่มีฐานะเป็นลุง ในที่สุดลี่ถิงก็ได้มาอยู่ท่ามกลางหุบเขา ซึ่งดูเหมือนที่นี่จะมีแต่ชาวบ้านอาศัยอยู่ เพราะมีพื้นที่เพาะปลูกพืชสมุนไพรมากมาย แต่ที่น่าแปลกคือทุกคนสามารถลอยขึ้นไปราวกับว่ามีบางสิ่งชักลอกเพื่อรั้งตัวให้ลอยได้

“เห้ย! อะไรวะนั่น เขาลอยได้” ตงลี่นึกในใจพร้อมกับทำตาโต เมื่อเห็นชายแก่ผมขาวกระโดดทีเดียวก็ขึ้นไปอยู่บนกังหันที่กำลังหยุดนิ่งอยู่ ทำให้นึกถึงซีรี่ย์ที่เคยดูมา

“อย่าบอกนะว่ายุคนี้เป็นช่วงที่ผู้คนมีวรยุทรวิชาตัวเบา แบบนี้ก็สวยสิ ได้ฝึกวิชาด้วยถือว่าคุ้มอยู่นะ” เขามองพร้อมกับกระหยิ่มใจว่าต้องได้รับการฝึกจนเก่งแบบนี้แน่ๆ แต่ความเป็นจริงมันกับไม่ได้เป็นอย่างที่หวังเลย เพราะลี่ถิงต้องคอยศึกษาสมุนไพร จนยามนี้สามารถรักษาคนป่วยได้บ้างแล้ว ด้วยวัยเพียงแค่สิบขวบ

แต่นิสัยของผู้ที่อาศัยอยู่ในร่างนี้ก็มิได้ใฝ่เรียนเพียงอย่างเดียว เพราะลี่ถิงมักแอบฝึกตามท่านผู้เฒ่าซึ่งอาศัยอยู่ที่นี่ ซึ่งอันที่จริงแล้วทั้งหมดเกือบยี่สิบชีวิตล้วนแต่เป็นผู้มีวรยุทรสูงซึ่งหนีมาหาความสงบสุขที่นี่ทั้งนั้น รวมถึงท่านลุงของลี่ถิงด้วย แม้จะมิได้สอนนางโดยตรง แต่ทุกคนก็มีวิธีบอกเคล็ดลับวิชาให้เพราะรู้ว่านางนั้นสนใจ

“มาแล้วหรือวันนี้แอบลงเขาอีกแล้วสินะ” จางเหยาเอ่ยถามหลานสาวเสียงเรียบ โดยมิได้มองใบหน้าจิ้มลิ้มของอีกฝ่ายที่เอาแต่อมยิ้ม เพราะยามนี้นางถือเอาไหสุรามาด้วยเพราะรู้ว่าท่านลุงนั้นชอบสิ่งใดเป็นที่สุด

“หากลี่ถิงมิลงไปก็มิได้สิ่งนี้มาสิเจ้าคะ เอ๋! หรือว่าท่านลุงจะมิต้องการ เช่นนั้นไปหาท่านอาสี่ดีกว่า” เสียงใสเอ่ยก่อนจะตั้งท่าหันหลังให้ เพียงเท่านั้นเมล็ดถั่วก็ลอยมาปะทะกับน่องเล็กจนลี่ถิงทรุดลงกับพื้น ทำให้ได้เห็นใบหน้างอง้ำของเด็กน้อยที่มองหันกลับมา

“ท่านลุงมิกลัวข้าปล่อยมือจากไหสุราเลยหรือ” นางเอ่ยถามก่อนจะลุกเดินตรงเข้ามา แล้ววางของในมือลงบนโต๊ะ ทำให้ได้ยินเสียงหัวเราะของลุงตนดังขึ้น

“ฮ่าฮ่า ข้ารู้ว่าเจ้ารักษาไหสุรายิ่งชีพ มิมีทางปล่อยให้ตกแตกเป็นแน่” จางเหยาเอ่ยกับหลานสาว

“ท่านลุงในเมืองมีงานเทศกาล ขอหลานไปเที่ยวกับพี่ม่านชิงได้หรือไม่” ลี่ถิงเอ่ยขอเพราะมันเป็นงานในยามค่ำคืน จึงเป็นการยากที่จะออกไปจากที่นี่ เพราะระยะทางนั้นไกลหลายลี้กว่าจะเข้าเมือง

“งานเทศกาลมีทุกปี เอาไว้ให้เจ้าโตมากกว่านี้ก่อนเถอะนะ เจ้าก็รู้ว่ามันอันตรายมากในยามค่ำคืนสำหรับสตรี” จางเหยาเอ่ยบอกเพราะเป็นห่วงหลานสาวที่มีชะตาเป็นภัยต่อบ้านเมือง หากก่อนนี้เมื่อสองปีก่อน เขามิตามไปช่วยเพราะการแจ้งข่าวของใครบางคน ลี่ถิงคงมิมีชีวิตรอดมาจนถึงยามนี้เป็นแน่

เพราะมีคนจากราชสำนักที่สั่งให้สังหารเด็กไร้เดียงสาผู้นี้อีก การที่นางหนีรอดมาได้เช่นนี้คงมีคนตามล่าตัวอยู่ เหตุนี้เขาจึงให้นางแต่งกายเช่นบุรุษ แต่อย่างไรก็ยังปิดมิมิดเพราะลี่ถิงมีใบหน้าจิ้มลิ้มงดงามเช่นมารดาที่จากไป มิต่างจากพี่สาวอีกคนที่ยังใช้ชีวิตสุขสบายในเมือง

“เจ้าค่ะท่านลุง” เสียงใสรับคำ ก่อนจะนั่งแกะถั่วใส่ปากตนเอง แม้อยากจะออกไปเที่ยวมากเพียงใด แต่นางก็เข้าใจเหตุจำเป็นนี้ดี เพราะรู้ที่มาที่ไปเกี่ยวกับชะตาชีวิตเจ้าของร่างดี จึงมิอยากสร้างความลำบากให้คนที่ช่วยตน จางเหยายกยิ้มมองหลานสาวอย่างเอ็นดู

“ว่านอนสอนง่ายเพียงนี้ ไยผู้คนถึงกล่าวหาว่าเจ้าเป็นภัยต่อบ้านเมือง สตรีตัวน้อยเช่นนี้จะเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองได้เช่นไร ความวุ่นวายทั่วแผ่นดินจะเกิดเพราะเจ้าจริงหรือ” จางเหยานึกในใจมองลี่ถิงที่ยังคงความไร้เดียงสา แต่มันก็แค่สิ่งที่นางแสดงให้เห็นเท่านั้น