7
“พรุ่งนี้เช้า ค่าจ้างจะจ่ายก่อนห้าหมื่น หลังจบทริปจะจ่ายส่วนที่เหลือ”
“ค่ะ”
“โอเค! งั้นก็กลับไปบอกเจ้าตัวที่โต๊ะว่ารับงาน อ้อ! แล้วไม่ต้องบอกคนในร้านนะว่าจะไปเป็นไกด์ให้เจคอป บอกแค่ว่าผมไหว้วานให้มาทำธุระที่เชียงใหม่ ส่วนเรื่องลางาน เดี๋ยวผมจะคุยกับผู้จัดการเอง”
“ค่ะบอส”
“โชคดีนะรีอา ขอให้พระคุ้มครอง”ปลายสายเอ่ยจบก็กดวางทันที
มารีอาวางหูโทรศัพท์ลงที่เครื่องด้วยหัวใจสั่นๆ ไม่นึกไม่ฝันว่าอยู่ๆ โชคใหญ่จะมาหล่นทับแบบนี้
หญิงสาวเดินไปยกแก้วเบียร์สดที่บาร์เทรนเดอร์ และวางไว้ตรงเคาน์เตอร์บาร์ ใส่ลงในถาด จากนั้นก็เดินตรงไปยังโต๊ะที่ดูแลอย่างรู้สึกตื่นเต้น
“พ่อเลี้ยงบอกคุณแล้วใช่ไหม” เจคอปถามด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“ค่ะ” มารีอาพยักหน้ารับอย่างรู้สึกเขินนิดๆ
“แล้วคุณ...” คนที่รอลุ้นคำตอบเอ่ยค้างไว้ อย่างขอคำยืนยัน
“รับค่ะ” มารีอาตอบอย่างอายๆ
“งั้นพรุ่งนี้เก้าโมงเช้า คุณมารอผมที่ข้างโรงแรมมะลิฉัตรนะ” เจคอปฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจที่สาวเจ้าตกปากรับคำไปเที่ยวกับตน
“ได้ค่ะ” มารีอาส่งยิ้มตอบเก้งหนุ่มอีกครั้ง
“ผมจะเป็นคนขับรถ ส่วนคุณก็ดูแผนที่คอยบอกทาง อ้อ! คุณไม่ต้องเอาเสื้อผ้าไปนะ เพราะคนของผมจะเตรียมให้”
“ค่ะ” มารีอาขานรับเบาๆ
“งั้นก็เช็คบิลได้เลยครับ” เจคอปบอกก่อนจะยกแก้วเบียร์ขึ้นจิบ
“โอเคค่ะ รอสักครู่นะคะ” มารีอาบอกก่อนจะเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์
“รีอา! พ่อเทพบุตรสุดหล่อจะกลับแล้วเหรอ” สายสุณีถามหลังจากที่เห็นเพื่อนสาวส่งบิลให้กับแคชเชียร์
“ใช่!” มารีอายิ้มรับ ก่อนจะหยิบบิลที่พนักงานแคชเชียร์ส่งมาให้ใส่ลงในโฟลเดอร์ แล้วเดินกลับไปยังโต๊ะที่มีหนุ่มหล่อนั่งรออยู่
“เท่าไหร่ครับ?” เจคอปถามโดยไม่ยอมเปิดดูบิลค่าอาหารกับเครื่องดื่ม
“สองพันสามร้อยบาทถ้วนค่ะ” มารีอาเปิดออกดูแล้วรายงานตัวเลข
“นี่ครับ ที่เหลือทิปให้คุณ” เจคอปหยิบเงินสดจำนวนห้าพันบาทออกจากกระเป๋า แล้วส่งให้กับสาวเจ้าโดยไม่ใส่ในโฟลเดอร์ เพราะเข้าใจกฎของร้านอาหาร ว่าหากใส่เงินลงในโฟลเดอร์ เงินทอนที่เหลือจะเป็นทิปรวมของพนักงานในร้าน แต่หากใส่ลงในมือของพนักงาน นั่นแปลว่า...เงินทอนที่เหลือทั้งหมดจะเป็นของพนักงานคนนั้น
“ขะ...ขอบคุณค่ะ” มารีอาอมยิ้มบางๆ อย่างดีใจ ใช่! นอกเหนือจากการหวาดระแวงว่าหนุ่มตรงหน้าจะเป็นฆ่าตกรต่อเนื่องแล้ว ข้อดีอีกอย่างของเขาคือ...ทิปหนักนั่นเอง เสียดายที่นานๆ ครั้งอีกฝ่ายถึงจะแวะมาทานที่ร้าน
“คุณยังไม่ให้เบอร์มือถือผมเลย” เจคอปรีบทวง
“นี่ค่ะ” มารีอาส่งเบอร์โทร. ให้กับหนุ่มสุดหล่อทันใด
“คืนนี้คุณจะไปเที่ยวต่อไหม?” เจอคอปถามอย่างเป็นห่วง เพราะแอบได้ยินการสนทนาของสาวเจ้ากับเพื่อนสาวเมื่อก่อนหน้า
“คงไม่ไปแล้วค่ะ” มารีอาตอบอย่างมึนๆ ให้ตายสิ! นี่เขาแอบฟังเธอคุยกับสายสุณีงั้นเหรอ?
“เยี่ยม! งั้นผมกลับก่อนนะครับ” เจคอปบอกก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วลุกเดินออกไป
“ขอบคุณมากๆ ค่ะ” มารีอาบอกและมองตามหลังของอีกฝ่าย ‘แม่เจ้า! คนอะไรตัวสูงชะมัด แถมยังหุ่นเพอร์เฟกต์อย่างกับนายแบบท็อประดับโลก’
“ครับ” เจคอปหันมาตอบก่อนจะเดินตรงไปยังโรงแรมหรูของมารดาไปด้วยสีหน้าแช่มชื่น
“วันนี้มาแปลกนะ ปกติจะอยู่ยันร้านปิด” สายสุณีเข้ามาช่วยเพื่อนสาวเก็บโต๊ะและมองตามหนุ่มรูปงาม ที่ดูยังไง! ก็มีใจให้เพื่อนสาวของเธอแน่ๆ
“ณี! ตกใจหมดเลย” มารีอาสะดุ้งนิดๆ ที่อยู่ๆ เพื่อนรักก็โผล่มายืนคุยอยู่ข้างๆ
“เป็นอะไรฮะ! ขวัญอ่อนจริง” สายสุณีขมวดคิ้วถาม ‘อย่าบอกนะ! ว่าเริ่มจะมีใจให้ฝรั่งคนนั้น’
“เอ่อ...คืนนี้เราคงไปเที่ยวด้วยไม่ได้แล้ว เพราะพรุ่งนี้เช้าจะต้องเอาเอกสารสำคัญไปส่งมอบให้กับบอสที่เชียงใหม่” มารีอาบอกเพื่อนรักด้วยสีหน้าเจื่อนๆ
“อ้าว! ปกติผู้จัดการเป็นคนเอาไปให้นี่น่า” สายสุณีถามอย่างเต็มไปด้วยความสงสัย
สิงหา ผู้จัดการหนุ่มที่เพิ่งจะคุยสายกับเจ้านายเสร็จ รีบเดินออกมาเตรียมจะบอกให้มารีอากลับบ้าน แต่พอได้ยินคำถามของสายสุณีก็อดตอบแทนไม่ได้
“ใช่! แต่ครั้งนี้ภรรยาของบอสเป็นคนขอยืมตัวรีอาไปช่วยงาน น่าจะประมาณสองอาทิตย์”
“ทะ...ทำไมต้องเป็นรีอาด้วยคะผู้จัดการ” สายสุณีหันถามคนที่ยืนอยู่ด้านหลังอย่างรู้สึกตกใจที่อีกฝ่ายโผล่มาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง
“แหม...งานใหญ่เขาก็คัดเอาแต่คนสวยๆ ไปเป็นหน้าเป็นตาน่ะสิถามได้ อ้อ! รีอาคุณกลับบ้านไปเตรียมตัวได้เลย พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้านี่” สิงหาบอกพร้อมกับปรายตามองพนักงานสาวอีกคนที่หุ่นอวบนิดๆ อย่างประชด ก่อนจะหันกลับมาเอ่ยเรื่องสำคัญกับนางฟ้าคนสวยประจำร้าน
“ค่ะ” มารีอาขานรับก่อนจะมองตามร่างสูงของผู้จัดการร้านที่เป็นดั่งไม้เบื่อไม้เมากับเพื่อนรักของเธอ เดินจากไป
“หน็อย! พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงเนี่ย” สาวอวบมองตามด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“จุ๊ๆ อย่าเสียงดังสิณี” มารีอารีบปรามเพื่อนสาวที่กำลังเดือด เพราะว่ากลัวผู้จัดการหนุ่มจะได้ยินประโยคเมื่อครู่เข้า
“เจ็บใจนัก! โดนหลอกด่าว่าไม่สวยอีกแล้ว” สายสุณีพยายามข่มใจให้เย็น รู้สึกเกลียดขี้หน้าเพื่อนรักของพี่ชายเป็นที่สุด
“เอางี้! เดี๋ยวเราจะซื้อของมาฝากนะ” มารีอารีบบอก เพราะกลัวว่าเพื่อนรักจะนอยด์
“แกไปตั้งสองอาทิตย์ ฉันเหงาแน่ๆ” สายสุณีบอกก่อนจะถอนหายใจอย่างเซ็งๆ
“ฉันก็เหมือนกัน” มารีอาบอกด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ เธอรู้จักกับ สายสุณีมาตั้งแต่เข้าเรียนปีหนึ่ง ในความห้าวและความโผงผางนั้นมีคำว่า...จริงใจซ่อนอยู่ ทำให้เธอรักและรักอีกฝ่ายเป็นที่สุด
“แกจะเหงาอะไร? ได้เจอพี่ซาเนียร์นี่” สายสุณีรีบท้วง
“จริงด้วย! ตั้งแต่ที่พี่ซาเนียร์ย้ายไปทำงานที่เชียงใหม่ ฉันยังไม่เคยได้เจอกับพี่ซาเนียร์เลย” คนที่มัวแต่ยุ่งเรื่องเรียนและงานจนแทบจะไม่มีเวลาว่างบอกอย่างเพิ่งนึกขึ้นได้ ‘เฮ้อ...ถ้ากลับจากการเป็นไกด์ เราค่อยไปหาพี่ซาเนียร์แล้วกัน’
“แล้วแกจะมาทันวันสอบเข้าทำงานที่โรมแรมมะลิฉัตรไหม?” สายสุณีถามอย่างเป็นกังวล
“ทันสิ! แต่ถ้าหากเราพลาดจากโรงแรมมะลิฉัตร ก็ยังมีโรงแรมเอื้องลานนาที่รอรับเข้าทำงานอยู่นะ”
“อืม! แต่โรงแรมเอื้องลานนามีแค่เชียงใหม่กับเชียงราย”
“ก็ย้ายไปอยู่เหนือสิ อากาศดีออก” มารีอาบอกพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
“จ้า! งั้นก็เดินทางปลอดภัย” สายสุณีรีบบอกหลังเห็นลูกค้าในโซนที่ตัวเองดูแลยกมือเรียก
“รับทราบค่ะคุณสายสุณี” มารีอายิ้มก่อนจะเดินเข้าไปในห้องสโตร์ เพื่อตอกบัตรออกและเอากระเป๋าในล็อกเกอร์
“อ้าว! จะไปไหนเหรอรีอา” สาทรที่เดินผ่านห้องสโตร์ หยุดถามอย่างสงสัย เมื่อเห็นนางในฝันถอดผ้ากันเปื้อนออกและหยิบกระเป๋า
“จะกลับห้องพักค่ะ พรุ่งนี้ต้องเดินทางไปเชียงใหม่แต่เช้า” มารีอาบอกยิ้มๆ
“เฮ้อ...โดนยืมตัวไปช่วยงานอีกแล้วสินะ” สาทรกลอกตาอย่างไม่เข้าใจว่าเหตุใดสวรรค์ถึงไม่เคยเปิดทางให้กับตนได้สานสัมพันธ์กับสาวตรงหน้าเลยสักครั้ง
“ใช่! ทำไมฉันไม่ได้ไปบ้างนะ” สายสุณีที่เดินผ่านมาเอ่ยพลางหยักไหล่ทั้งสองข้างขึ้นนิดๆ
“ก็แกไม่สวยนี่” สาทรหันไปต่อว่าน้องสาว
“ไม่สวยบ้าอะไร มีฝรั่งหล่อๆ มาจีบฉันตั้งหลายคน” สายสุณีตอกกลับพี่ชายจอมปากเสีย
“หึ! ก็แค่พวกที่ชื่นชอบของแปลก” สาทรบอกพลางจ้องมองน้องสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ไอ้พี่บ้า!” สายสุณีฟาดเข้าที่แขนของพี่ชายอย่างเหลืออดหนึ่งที
“เอาอาหารออกไปเสิร์ฟ เดี๋ยวลูกค้ารอนาน” สาทรถลึงตาใส่น้องสาว ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องครัวด้วยสีหน้าเซ็งๆ
“รู้แล้วน่า” สายสุณีถอนหายใจ แล้ววิ่งเข้าไปกอดและบอกลาเพื่อนสาว จากนั้นก็เดินไปทำงานต่อ
มารีอาเดินกลับหอพักที่อยู่ใกล้ๆ ด้วยความรู้สึกตื่นเต้น พลางคิดไปว่าหากได้เงินหนึ่งแสนบาท เธอจะกลับไปทำบุญให้พ่อกับแม่ที่จากไป ส่วนที่เหลือจะเก็บไว้เป็นเงินที่จะใช้ในวันรับปริญญาของตัวเองที่จะเกิดมีขึ้นในปีหน้า
สิบห้านาทีต่อมา...
“บอสครับ คุณมีอาเดินขึ้นหอพักไปนานแล้วนะครับ บอสจะกลับหรือยัง?” ลีออง บอดี้การ์ดที่ถูกสั่งตามสอดส่องความเคลื่อนไหวของมารีอา เอ่ยขึ้นจากที่เห็นไฟในห้องพักของหญิงสาวสว่างขึ้นมาร่วมห้านาที
“อืม” เจคอปขานรับก่อนจะเดินเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็กๆ ที่เป็นทางลัดไปยังโรงแรมมะลิฉัตรแกรนด์ทางอย่างคุ้นเคย ใช่! นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเดินตามมาส่งมารีอาถึงหอพัก แต่มันเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ รู้แค่ว่าเขาโคตรจะมีความสุขที่ได้ทำแบบนี้ แม้ว่าเธอจะไม่เคยรู้เลยก็ตาม
