สันดานที่แท้จริง
ตอนที่ 5
สันดานที่แท้จริง
“คุณแม่รับโทรศัพท์สิคะ”
ระหว่างทางที่ขับรถกลับบ้านนิรดาร้อนใจเป็นอย่างมากเพราะเส้นทางที่เธอกำลังขับผ่านมีการทำถนนทำให้ตอนนี้รถแทบจะไม่ขยับหญิงสาวโทรหาพ่อเลี้ยงก็ไม่มีคนรับสายเธอจึงตัดสินใจโทรเข้าเบอร์มารดาก็เป็นเหมือนกัน
“ขยับสักที”
หญิงสาววางโทรศัพท์ในมือด้วยความโล่งอกที่ตอนนี้รถด้านหน้าเริ่มขยับตัวจากที่ตอนแรกหญิงสาวคิดว่าเธอจะใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงในการเดินทางกลับไปหาแม่แต่กลายเป็นว่าตอนนี้ผ่านมาได้ครึ่งชั่วโมงแล้วเธอยังอยู่แค่เพียงครึ่งทาง
ความร้อนใจและก็ติดต่อใครไม่ได้เลยสักคนทำให้ นิรดาลืมคิดไปเลยว่าเธอส่งข้อความไปหาสามีทางไลน์ หญิงสาวคิดแต่เพียงว่าตอนนี้เขาคงยังไม่รู้ว่าเธอกำลังมีเรื่องทุกข์ใจอะไรสาเหตุที่เขาไม่รับโทรศัพท์คงเพราะไม่อยากคุยกับเธอแล้วก็ไม่ได้สนใจเรื่องราวอะไรที่จะ เกิดขึ้นกับเธอด้วย
สาวน้อยรีบจอดรถวิ่งเข้าไปในบ้านแต่เธอพบแค่เพียงความเงียบแม่บ้านที่เคยอยู่ดูแลต่างก็หายไปกันหมดมันยิ่งทำให้เธอรู้สึกใจหายเหมือนว่าอาการของแม่เธอจะแย่มากกว่าที่พ่อเลี้ยงกำลังบอก
“คุณลุงคะ อยู่ไหนกันหมด”
นิรดาตะโกนเรียกเพราะเธอลืมถามไปว่าตอนนี้แม่ของเธอพักอยู่ที่ไหน หญิงสาวไม่แน่ใจว่าจะอยู่บนห้องนอนหรือว่าตอนนี้พ่อเลี้ยงจะพาแม่มานอนที่ห้องด้านล่างเพื่อสะดวกแก่การดูแล
“ขึ้นมาข้างบนเลยลูกแม่เขากำลังรอหนูอยู่”
เสียงของชายสูงวัยดังออกมาจากห้องนอนที่อยู่ชั้น บน เป็นเสียงที่แสดงถึงความเร่งรีบยิ่งทำให้หัวใจของคนฟังรู้สึกเหมือนอาการของแม่เธอกำลังน่าเป็นห่วง
“ไหนล่ะคะคุณแม่ คุณลุงตกลงตอนนี้คุณแม่อยู่ ที่ไหนคะ”
นิรดาหันมาถามพ่อเลี้ยงที่ยืนอยู่ด้านหลัง เมื่อเธอมองไปที่เตียงนอนแล้วไม่พบว่ามารดาของเธออยู่ที่นั่น
ปัง !
เสียงประตูห้องนอนที่ปิดลงอย่างแรงพร้อมกับการกดล็อคประตูที่ตามมาทำให้นิรดาเริ่มรู้สึกว่าตัวเธอเริ่มกำลังจะไม่ปลอดภัย
“ปิดประตูทำไมคะ หนูถามว่าคุณแม่อยู่ไหน”
หญิงสาวพยายามหันหลังวิ่งออกจากห้องแต่ถูกสมศักดิ์ใช้มือทั้งสองข้างกระชากตัวเธอจนปลิวล้มลงไปนั่งอยู่บนเตียงนอน
“หนูฟังลุงก่อนได้ไหม แม่ของหนูนอนพักอยู่ที่ห้องข้างล่างแต่ที่ลุงให้หนูขึ้นมาที่นี่เพราะต้องการจะบอกว่าแม่ของเราป่วยเป็นโรคร้าย”
พ่อเลี้ยงที่ถึงแม้จะมีอายุมากแล้วแต่ร่างกายรูปร่างของเขาก็เรียกได้ว่ายังคงดูดีและแข็งแรงค่อยๆพาตัวเองลงมานั่งข้างๆหญิงสาวบนเตียงนุ่ม 2 มือปิดหน้าร้องไห้เล่นละครเหมือนว่าสิ่งที่เขากำลังจะพูดมันแสนเจ็บปวด
“นี่มันอะไรกันแน่คะ คุณลุงบอกหนูมาดีกว่า”
นิรดาจากคิดว่าเธอจะพยายามออกจากห้องนอนนี้ให้ได้กลายเป็นว่าตอนนี้หญิงสาวตั้งใจรอฟังว่าพ่อเลี้ยงกำลังจะบอกว่ามารดาเป็นอะไร
สมศักดิ์เงยหน้าขึ้นมองสบตาลูกลูกเลี้ยงที่เขาไม่เคยมองเธอว่าเป็นลูกแท้ๆแต่เขากลับอยากจะลิ้มลองรสชาติหอมหวานของสาวน้อยตรงหน้ามานานแสนนานเปลี่ยนจากแววตาเศร้าเป็นแววตากระหายหื่นของเสือร้ายที่กำลังจะตะครุบเหยื่อ
“อยากรู้ไหมว่าแม่ของแกเป็นโรคอะไร...ก็โรคโง่ไง”
พ่อเลี้ยงพูดจบก็จับมือทั้งสองข้างของกระต่ายน้อยตรงหน้าทาบลงกับเตียงนอนก่อนที่ตัวเขาจะขึ้นไปคร่อมร่างเล็กของเธอไว้
“คุณลุงจะทำอะไร หนูเป็นลูกของลุงนะคะ”
นิรดาตอนนี้ทั้งเสียใจและรู้สึกกลัวแต่เธออยากให้ ชายสูงวัยที่กำลังมองสบตาเธออยู่รู้ว่าเวลานี้สิ่งที่เขากำลังจะทำมันเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น
“สงสัยจะไม่ใช่แม่แกที่โง่แต่คนที่โง่ก็คงจะเป็นแกแหละนิรดา รู้ไหมฉันอยากกินแกมานานแค่ไหนแต่สุดท้ายก็ทำได้แค่เล่นบทพ่อเลี้ยงที่แสนดีก็แม่แกนั่นแหละที่ทำเสียแผนทุกอย่าง อยู่ดีๆก็ให้แกแต่งงานย้ายออกไปอยู่ที่อื่น ฉันเสียเงินเลี้ยงมาตั้งกี่บาทหมดเงินไปตั้งกี่ล้านเรื่องอะไรฉันจะไม่ได้อะไรตอบแทนอย่างน้อยวันนี้ถ้าแกกับฉันเป็นผัวเมียกันฉันก็จะถือว่าไม่สูญเปล่า”
นิรดาแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะได้ยินคำพูดที่ออกจากปากของผู้ชายที่เธอนับถือว่าเขาเป็นพ่ออีกหนึ่งคนถึงแม้มารดาจะคอยสอนตลอดว่าไม่ให้เธอไว้ใจผู้ชายง่ายๆแต่ ความดีของสมศักดิ์ทำให้เธอมองว่าเขาก็รักเธอดุจลูกสาวคนหนึ่ง ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาสาวน้อยระลึกเสมอว่าเขาคือผู้มีพระคุณคือพ่อคนที่สองที่ทำให้เธอมีชีวิตที่ดีแบบทุกวันนี้แต่วันนี้ในที่สุดเธอก็ได้รู้ความจริงทุกอย่าง ทุกสิ่งที่เขาทำเพียงแค่หวังจะได้เธอเป็นเมีย อีกคน
“คุณลุงเอาแม่ไปไว้ไหน ตอนนี้คุณแม่อยู่ที่ไหน”
หญิงสาวคิดขึ้นมาได้ว่าการที่เธอติดต่อมารดาไม่ได้แบบนี้น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของสมศักดิ์จึงทำให้หญิงสาวลืมห่วงตัวเองคิดห่วงมารดาขึ้นมาแทน
“เดี๋ยวไว้ให้ฉันได้แกเป็นเมียก่อนแล้วจะบอกให้ว่าแม่ของแกอยู่ที่ไหน”
สมศักดิ์ใช้พละกำลังของเขาที่มีทั้งหมดถาโถมเข้าหานิรดาโดยที่สาวน้อยภายใต้ร่าางก็พยายามดิ้นอย่างสุดแรง
“โอ๊ย ! ”
พ่อเลี้ยงคิดว่าอีกไม่นานตัวเองจะไม่สามารถต้านทานแรงขัดขืนของลูกสาวนอกไส้ได้จึงจัดการสาวหมัดลงไปที่ท้องของเธออย่างแรงจนตอนนี้นิรดาตัวงอหมดเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้ไม่มีแม้แต่เสียงหรือคำพูดใดๆออกมามีเพียงแค่น้ำตาเท่านั้นที่เธอหวังว่าจะทำให้เสือแก่กระหายหิวรู้สึกสงสารและคิดว่าแท้จริงเธอก็คือลูกสาวของเขาคนหนึ่ง
