Ep.2 เงือนไขของจอมมาร ในการแก้ข่าวฉาวโฉ่ของเธอ(2)
“อย่าปอดแหกน่ะเจ๊ เขาอาจเป็นคนใหญ่คนโตในวงการดารานางแบบก็ได้”
“แต่ว่าสถานที่เงียบเชียบวังเวงแบบนี้ มันไม่น่าไว้ใจเลยนะ”
“มาถึงแล้วก็ลงเถอะเจ๊ คนอย่างเรไรไม่เคยเกรงกลัวต่อสิ่งใด เรไม่เคยมีศัตรูที่ไหนมาก่อน จะมีก็คงแค่คนในวงการเดียวกันที่อิจฉาริษยากันเท่านั้นแหละ”
“แต่เจ๊ว่าเรากลับกันเถอะนะ” เจ๊กล้วยดูมีสีหน้าหวาดกลัวจริงๆ
“เจ๊ ถ้าเจ๊ไม่ลง เรลงคนเดียวก็ได้”
“ลงจ๊ะลง”
สักพัก พอสองสาวลงจากรถ ประตูรั้วก็เปิดออก
“เจ๊ ประตูเปิดแล้วขับเข้าไปข้างในกันเถอะ”
“เร แต่เจ๊กลัวตาย”
“โหยเจ๊ ไม่มีใครอยากติดคุกหรอก ลงมาเถอะน่า”
เรไรซึ่งเคยผ่านความเป็นความตายมาหลายครั้งแล้ว แต่เธอก็รอดมาได้ทุกครั้ง เพราะหมอดูเคยทำนายทายทักว่า เธอเป็นคนดวงแข็ง ก็ท่าจะจริง
แล้วนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เธอก็เลยเป็นคนที่ไม่กลัวอันตรายอะไรเลย นอกจากกลัวอดตาย เพราะเธอมาจากครอบครัวที่อดมื้อกินมื้อมาก่อน เคยจนมากๆมาก่อน
ดังนั้นหากอนาคตของเธอดับ ก็แสดงว่ารายได้ที่เป็นกอบเป็นกำของเธอ ก็คงจะไม่เหลือด้วย
และเธอไม่คิดจะกลับไปเป็นคนจนอย่างเก่าหรอก ไม่เด็ดขาด!!
ทันทีที่ประตูคฤหาสน์เปิดออก เรไรที่ปากบอกว่าเธอไม่กลัวอะไร ก็เริ่มขาสั่น ทว่าใจของเธอก็ยังเด็ดเดี่ยว สู้ไม่ถอย ถอยไม่ได้แล้ว
“เจ๊ ปะ...เข้าไปกัน”
“แต่ทำไมไม่มีใครออกมาต้อนรับเราเลยล่ะ”
จบคำของเจ๊กล้วย ชายชราคนหนึ่งก็เดินเข้ามาเชิญสองสาว เข้าไปนั่งรอในห้องรับแขก ที่เรไรกวาดมองปาดเดียว ก็พบว่าเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างดูหรูหราหมาเห่ามากๆ
“เชิญทั้งสองนั่งรอตรงนี้สักครูนะ เดี๋ยวลุงจะให้สาวใช้เอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ”
“ขอบคุณค่ะคุณลุง” เรไรยิ้มให้ชายชรา ที่คิดว่าเขาน่าจะเป็นพ่อบ้านของที่นี่ ดูเขาคุยเป็นกันเองดี เพราะอย่างน้อยเขาก็แทนตัวเองกับพวกเธอว่าลุง
ส่วนเจ๊กล้วยก็มองไปรอบๆตัวด้วยสีหน้าอาการหวาดหวั่นเช่นเดิม เธอรู้สึกว่า ตนเองราวกับกำลังก้าวเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ของพวกแวมไพร์อย่างงั้นแหละ
พอสาวใช้ยกเครื่องดื่มมาให้ ทั้งสองสาวก็กล่าวขอบคุณ แต่ก็ไม่มีใครกล้าแตะเครื่องดื่มหรือว่าน้ำสะอาดที่อยู่ตรงหน้าเลย
แล้วนาทีต่อมา ร่างสูงสง่าของใครบางคนก็ก้าวลงบันไดวนลงมาชั้นล่าง ด้วยท่าทางไม่รีบร้อน เขาดูมาดมั่น ท่าทางราวกับราชาผู้ไม่เคยเกรงกลัวต่อสิ่งใด ดูทระนงองอาจจนเรไรชักหวั่นใจเล็กๆ
ทั้งสองสาวหันไปมองชายหนุ่มแล้ว ก็ต้องตาค้างไปตามๆกัน เมื่อเจ้าของร่างสูงในชุดกางเกงสแลกและเสื้อเชิ้ตสีดำยาวพับแค่ศอก มีใบหน้าที่หล่อคมสะกดใจเอามากๆ
ต้องบอกว่า
‘หล่อแบบวัวตายควายล้มเลยล่ะ’
“สวัสดีครับ ผมคาร์วิน เป็นคนที่โทรคุยกับพวกคุณเมื่อช่วงเช้า คุณเรไร ตัวจริงของคุณ สวยกว่าในรูปที่ผมเห็นเสียอีกนะครับ”
“สวัสดีค่ะ เข้าเรื่องเลยดีกว่า คุณบอกว่า จะช่วยฉันแก้ข่าว คุณจะช่วยยังไงคะ”
“เรื่องนี้ ค่อนข้างส่วนตัวหน่อย เราควรจะไปคุยกันที่ห้องโน้น เป็นห้องกระจกทึบแสง คุณสามารถมองห็นคนของคุณได้ เพียงแต่สิ่งที่เราคุยกัน จะไม่มีใครได้ยิน และคนข้างนอกจะมองไม่เห็นเราเท่านั้นเอง คือผมไม่อยากจะเป็นข่าวภายหลังน่ะ”
“เร เจ๊ว่า...”
สาวใหญ่พูดยังไม่ทันจบประโยค เรไรก็ยกมือห้าม
เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอจะไม่กลัวอะไรทั้งนั้น และไม่คิดจะถอยด้วย เป็นไงเป็นกัน
“ก็ได้ค่ะ ฉันจะไปคุยกับคุณในห้องนั้น แต่ว่าแค่สิบห้านาทีก็คงจะพอแล้วนะคะ”
“ได้ครับ สิบห้านาที พอแน่นอน” เขาตอบด้วยนัยน์ตาเป็นประกายระยับดูเจ้าเล่ห์นิดๆ
เรไรเดินเข้าไปในห้องกระจกทึบนั้น ด้วยสีหน้าท่าทางที่มาดมั่นราวกับนางพญา แต่ทว่าในใจลึกๆของเธอนั้นกลัวมากๆ
แต่เธอไม่มีทางให้ฝ่ายตรงข้ามรู้หรอกว่า เธอกำลังกลัวเขาแบบสุดๆ เพราะเขาตัวโตสูงมาก ส่วนเธอหุ่นนางแบบที่ว่าสูงมากแล้ว ยังเตี้ยแค่ปลายคางของเขาเท่านั้นเอง
เมื่อเข้ามายืนในห้องที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ เรไรก็ถึงกับรู้สึกหนาวขึ้นมา
