อ้อนรักเมียนอกกรอบ

103.0K · จบแล้ว
บุษบาบัณ/นศามณี
70
บท
46.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

อุบัติเหตุทางกายในคืนหนึ่งระหว่าง ‘ไรอัน คาเตอร์’ เจ้าพ่อแห่งสายการบิน ‘ลักซูรีแอร์ไลน์’ ผู้ได้รับฉายาว่านักธุรกิจสมองเพชร และ‘กุลนิดา พาโชค’ หญิงสาวชาวไทยที่เขาสนใจตั้งแต่แรกเห็น แต่เข้าใจผิดว่าเธอกำลังจะแต่งงานเลยไม่พาตัวไปขวางเส้นทางความรักของใคร การถูกเฉี่ยวชนทางร่างกายในคืนนั้นโดยที่กุลนิดาไม่คิดแจ้งเคลมประกันก่อให้เกิดสายเลือดคาเตอร์คนใหม่ ‘น้ำอิง’ เมื่อรู้ว่ากุลนิดามีลูกสาวของเขาติดท้องไป ไรอันทำทุกวิถีทางเพื่อจะจับสองแม่ลูกเอามาลงโทษด้วยการกอด แล้วปลอบใจด้วยการเปลูกและเมียอย่างไม่อั้น เมื่อเขาตามเจอ เธอจะปฏิเสธว่าน้ำอิงไม่ใช่ลูกเขาก็ไม่ได้ ในเมื่อพ่อกับลูกหน้าตาเหมือนกันเสียขนาดนั้น กุลนิดายังคิดว่าฟังผิด “คุณพูดว่ายังไงนะคะ!” “ผมว่าผมพูดชัดแล้วนะ ผมจะมาช่วยคุณเลี้ยงลูกที่บ้านหลังนี้” กุลนิดาเบิกตากว้างอย่างคาดไม่ถึง “คุณไรอัน คุณจะมาอยู่กับเราได้ยังไง บ้านนี้หลังเล็กนิดเดียว” “เตียงนอนที่นี่ความยาวถึงสองเมตรไหมครับ” “ถึงสิคะ ก็เป็นขนาดความยาวของเตียงทั่วไป” เขายืดกายแล้วส่งรอยยิ้มอบอุ่นปนเจ้าเล่ห์ “ถ้างั้นไม่มีปัญหาครับ ผมนอนได้สบาย ผมสูงร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร” กุลนิดาจ้องหน้าคนหล่อเขม็ง แต่คนหล่อกลับส่งยิ้มระรื่นมาให้ “บ้านนี้มีเตียงใหญ่แค่เตียงเดียวค่ะ” “ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ถือ งั้นผมนอนเตียงเดียวกับคุณก็ได้” ดวงหน้าสวยซีดเผือดสลับแดงคล้ำ เหมือนถูกเขาไล่ต้อนมัดมือชกยังไงไม่รู้ “แต่ฉันถือ” หญิงสาวรีบแย้งเสียงดัง “ฉันไม่ได้หมายความว่ากลัวคุณจะลำบาก ขอพูดตรงๆ เลยนะคะ คุณจะมาอยู่ในบ้านฉันในฐานะอะไร?” ไรอันตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความ “ในฐานะพ่อของลูกไงครับ ส่วนสถานะอื่นผมรอได้จนกว่าคุณจะยกระดับผมขึ้นเป็นสามีเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น” “อะไรนะ พ่อของลูก? สามี?” กุลนิดาบอกตัวเองว่าเธอสับสนไปหมดแล้ว นี่เขากำลังก่อกวนเธออยู่ใช่ไหม

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักประธานผู้ชายอบอุ่นรักแรกพบมาเฟียพระเอกเก่งพาลูกกหนีฟินๆเศรษฐี

ตอนที่ 1-1สามีผีผลัก

สหรัฐอเมริกา

ร่างสูงภูมิฐานอยู่ในชุดสูทสีเทาราคาแพงระยับ เหยียดกายขึ้นจากพนักพิงเก้าอี้ ในแวดวงธุรกิจไม่มีใครไม่รู้จักนักธุรกิจสมองเพชร ‘ไรอัน คาเตอร์’ ดวงตาสีฟ้า ในวัยยี่สิบเก้าปี มองไปที่เช็คตรงหน้าแล้วพ่นลมหายใจยาวพรืดก่อนตัดสินใจจรดปากการะดับไฮเอนด์ ซึ่งส่วนหัวของปากกาปรากฏรูปดาวลอยอยู่ อันเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ

เสียงตื่นเต้นดีใจของหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานสวมเดรสสั้นคัตติ้งเนี้ยบ ความยาวเหนือเข่าสีน้ำเงิน อวดเรียวขาขาว เธอสอดส่ายสายตาลงมาจดจ้องตัวเลขหน้าเช็คด้วยดวงตาเป็นประกาย เสียงเธอออดอ้อนหวานฉ่ำ

“คุณน่ารักเสมอเลย ขอบคุณมากค่ะที่รัก”

“ผมไม่ใช่ที่รักของคุณ ผมให้คุณได้เท่านี้ ให้เพราะคุณมาเสนอขายในสิ่งที่ผมกำลังอยากรู้ และกำลังตามหา ไม่ได้ให้เพราะผมสนใจในตัวคุณ”

“ดูพูดเช้าสิ ใจร้าย แอนนี่ยังอยากให้บริการที่ยอดเยี่ยมกับคุณเสมอนะคะไรอัน”

ชายหนุ่มเห็นความยั่วยวนในแววตาเธอ แต่มันใช้ไม่ได้ผลกับเขา “หากคุณชอบงานบริการ ผมมีลูกค้าที่น่าสนใจจะแนะนำให้ บางทีเขาอาจกำลังมองหาพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินอยู่ก็ได้”

ไรอันยื่นนามบัตรทำจากกระดาษหอมชั้นเลิศของใครคนหนึ่งที่เขาเพิ่งจะขายของเล่นชิ้นใหญ่ไปให้ไม่นานนี้ “เขาเป็นรัฐมนตรีที่ทรงอิทธิพลมากคนหนึ่ง”

อินทิรารับนามบัตรมาดูพรางชำเลืองสายตาเคลือบแคลงมองไรอัน“คุณไม่ต้องการฉันแล้ว ก็ไม่เห็นต้องแนะนำฉันให้คนอื่นนี่คะ”

มือหนายกขึ้นแตะปลายขมับ ก่อนจะทำท่าเหมือนจะฉีกเช็คที่หยิบขึ้นมาเตรียมจะส่งให้อินทิรา “ผมคงมองคุณผิดไปมั้งแอนนี่ คุณคงไม่ต้องการเช็คใบนี้แล้วสินะ”

น้ำเสียงอ่อนหวานเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “อย่านะคะ ฉันต้องการเช็คใบนี้ค่ะ เอาล่ะฉันจะไม่มารบกวนคุณอีก และขอบคุณที่แนะนำงานใหม่ให้” ไรอันยื่นเช็คให้เธอแล้วโบกมือไล่ให้เธอเอาหน้าไปให้พ้นจากห้องทำงานเขาได้แล้ว

“แอนนี่คุณออกไปจากห้องทำงานผมได้แล้ว ผมต้องรีบเคลียร์งาน” เพราะสัปดาห์หน้าเขามีแพลนจะต้องเดินทางไปประเทศไทยเพื่อทำเรื่องที่สำคัญ

ไรอันไม่ได้เก่งแค่เรื่องบนเตียง เรื่องบนโต๊ะทำงานเขาเองก็ไม่เป็นสองรองใคร ‘ลักซูรีแอร์ไลน์’ ขึ้นแท่นสายการบินที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในอเมริกาโดยมีสัดส่วนในการครองตลาดมาเป็นอันดับหนึ่งหลายปีติดต่อกันและสายการบินแห่งนี้ยังขึ้นว่าเป็นสายการบินที่มีบริการยอดเยี่ยม มีเครื่องบินที่ทันสมัยและมีจุดหมายปลายทางกว่าสองร้อยแห่ง

หลายวันต่อมาเครื่องบินเช่าเหมาลำขนาดใหญ่กำลังทะยานลอยลำออกจากทวีปอเมริกามุ่งสู่อเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ปลายทางคือประเทศไทย และครั้งนี้เขาจะต้องจับให้มั่นทั้งแม่ทั้งลูกจะไม่ยอมกลับมือเปล่าเด็ดขาด

กรุงเทพฯ ประเทศไทย

มันก็เป็นแบบนี้แหละชีวิตคนมีลูก หลังจากได้รับเงินเดือนมาเท่าไหร่ รายจ่ายของลูกต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง เกือบทั้งหมดในเดือนนี้ต้องแบ่งเป็นค่าเทอมที่ต้องเก็บไว้ล่วงหน้า ค่าใช้จ่ายจิปาถะ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าประกันภัยของลูก เงินเดือนที่ออกมาก็เกือบหมดส่วนที่เหลือเป็นธนบัตรสีเทาบางเบาไม่กี่ฉบับถึงจะเป็นเงินเดือนที่เหลือให้คนเป็นแม่เฉลี่ยใช้ให้ชนเดือน

กุลนิดา พาโชค หรือ กุล อายุยี่สิบหกปี มีลูกสาวหนึ่งคน หากเทียบกับวุฒิการศึกษาปริญญาตรีที่เธอเรียนจบออกมา นั่นหมายความว่าเธอมีลูกทันทีหลังเรียนจบ

ในบางครั้งหากอยู่เงียบๆ กุลนิดาก็อดคิดถึงอดีตที่ผ่านมาไม่ได้

เธอผ่านเหตุการณ์เลวร้ายนั้นมาได้อย่างไร

หลังจากกุลนิดาเลือกเก็บเลือดเนื้อเชื้อไขของผู้ชายที่เธอไม่มีวันจะลืมไปจากความทรงจำได้เธอก็ตั้งใจเลี้ยงดูลูกน้อยอย่างดี ทว่าในบางครั้งใบหน้าหล่อเหลาคมคาย และค่ำคืนอันเร่าร้อนปนความลึกลับในคืนที่ยังหาข้อสรุปให้กับตัวเองไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้เธอต้องกลับไปคิดถึงมันอยู่เสมอ

คืนนั้นสิ่งที่เจอมันคืออะไร?

อย่างไรก็ตามเธอไม่ปรารถนาจะพบหน้ามหาเศรษฐีพันล้าน หมื่นล้าน อะไรนั่นที่ชื่อ‘มิสเตอร์ ไรอัน คาเตอร์’ อีกเลย

เลี้ยงลูกคนเดียวก็ได้ ผู้ชาย หล่อ รวย แต่นิสัยแย่ ใครจะแคร์ ใครจะสน ชิ

5 ปีก่อน

เจ้าของใบหน้าสวยหวาน โครงหน้ารูปไข่ ดวงตาคู่สวยหยาดเยิ้มสะกดสายตาผู้คนให้เหลียวมอง ริมฝีปากอิ่มเต็มตึงเวลาผลิยิ้มสวยงามดั่งดอกไม้เบ่งบาน ทั้งหมดรับกันกับผมยาวสลวยที่รวบไว้เป็นหางม้า

ความสวยของกุลนิดาเรียกได้ว่าสามารถรับงานพริตตี้ เอ็มซีได้สบาย แต่หญิงสาวกลับไม่เลือกเพราะไม่ชอบสวมใส่เสื้อผ้าโชว์เนื้อโชว์ตัวท่ามกลางสายตาผู้คนมากมาย โดยเฉพาะสายตาลามกของพวกผู้ชายสายหื่นที่พยายามจ้องลึกเข้าไปภายใต้กระโปรงสั้นของเหล่าพริตตี้ ดวงตาของคนพวกนั้นราวกับว่ามันจะกรีดกระโปรงตัวกระจ้อยของเหล่าพริตตี้แสนสวยให้เป็นริ้วเป็นรอยเพื่อที่จะได้เห็นถึงสิ่งที่อยู่ภายใน

วิถีคนขยัน หนักเอาเบาสู้ ความรู้จะทำให้เธอหลุดจากความจน กุลนิดาเลือกที่จะหางานทำเอง เธอหางานพิเศษทำระหว่างเรียน และเน้นไปที่งานหนักเสียเหงื่อแต่สบายใจ ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายจากการเสียตัว

กุลนิดารู้ว่าบิดามารดาต้องลำบากแค่ไหนกับการพยายามส่งค่าใช้จ่าย ค่าเช่าหอ และค่าเทอม ดังนั้นหลังเรียนจบและอยู่ระหว่างรอสัมภาษณ์งาน หญิงสาวจึงอดไม่ได้ที่จะหาเงินด้วยการรับจ้างทำงานพิเศษทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่งานรับจ้างทำความสะอาด

กุลนิดารับทำความสะอาดห้อง ภายในคอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่งให้กับอดีตรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยเธอชื่อ‘อินทิรา’ เป็นอดีตดาวคณะที่เรียนจบออกไปแล้ว เธอไม่ได้สนิทกับอินทิราผู้ว่าจ้างมากนัก เคยเห็นบ้างเป็นครั้งคราวรวมแล้วไม่ถึงสิบครั้งเพราะอินทิราเรียนจบออกไปก่อน