ตอนที่1(เวียงพิงค์) - 2
“อ้อ หนูนี้เอง พรุ่งนี้เอาเหมือนเดิมอีกนะจ๊ะ คุณหญิงและท่านเจ้าสัวชอบมากเลย^_^” พี่ที่ทำงานเป็นแม่บ้านหลังนี้ออกมาเอาตะกร้าขนมตาลจากฉันทุกวันและเธอก็เป็นคนสั่งฉันให้เอามาส่งทุกวันที่นี้ทุกวันด้วย สงสัยคุณหญิงและท่านเจ้าสัวคงจะชอบขนมตาลของฉันจริงๆ คนสูงอายุสองคนอยู่บ้านหลังใหญ่เป็นสามีภรรยากันและนั่งกินขนมตาลของฉันคงจะมีความสุขหน้าดูนะ
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ^_^” ฉันยกมือไหว้เธอที่ส่งเงินแบงค์สีเทาน้ำตาลแบงค์พันมาให้ฉัน
“เอ๊ะ พี่คะ คือหนูไม่ได้นำเงินมาทอน ขอโทษนะคะพอจะมีเศษเงินที่พอดีกับค่าขนมไหมคะ”
“ไม่เป็นไรจ๊ะ คุณหญิงท่านให้^_^”
“แต่ งั้นหนูจะทำขนมตาลมาให้ครบกับจำนวนเงินนี้นะคะ”
“จ๊ะ^-^”
“งั้นหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ^_^” ฉันยกมือไหว้เธอ เธอก็ยกมือรับไหว้ฉันและฉันก็รีบวิ่งกลับมาหาพี่พลที่นั่งคร่อมจักรยานรอฉันด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มฉันเอาเงินแบงค์พันใส่กระเป๋าตังค์เก็บทันที คุณหญิงบ้านนี้ใจดีจังเลย ฉันเคยเห็นท่านครั้งหนึ่งท่านอายุประมาณห้าหกสิบปลายๆได้แล้ว ส่วนท่านเจ้าสัวสามีของท่านฉันยังไม่เคยเห็นเลยน่าจะใจดีเหมือนคุณหญิงนั่นแหละ
“เก่งจังอายุแค่เนี่ยทำขนมขายเองได้ด้วย^_^”
“ก็ต้องเก่งสิคะ อยากเรียนหมอนี่น่า” ฉันพูดบอกพี่พลพลางนั่งคร่อมจักรยานพี่พล พี่พลก็ค่อยๆปั่นจักรยานไปตามทางเรื่อยๆ ซอยนี้มีแต่บ้านของคนรวยๆบ้านหลังใหญ่ๆโตๆสวยๆทั้งนั้นเลยซึ่งผิดกับซอยหมู่บ้านของฉันที่บางบ้านก็ทำจากป้ายขนาดใหญ่ที่ติดโฆษณาตามทางมาทำเป็นกำแพงบ้างหลังคาบ้านบ้างเพื่อนป้องกันฝน คนจนๆแบบฉันมีที่ให้ซุกหัวนอนในแต่ละคืนก็พอแล้ว
“บ้านพี่พลอยู่ซอยไหนเหรอคะ?” ฉันเอ่ยถามพี่พลไปด้วยความอยากรู้
“ซอยเดียวกับเรานั่นแหละ อยู่หลังสุดท้าย ท้ายหมู่บ้านโน่นไง” พี่พลชี้สะเปะสะปะไปทั่วเขาบอกฉันแบบนี้ประจำแหละ ฉันจึงย่นจมูกใส่เขาและชะเง้อคอมองไปทางบ่อนคาสิโนขนาดใหญ่ที่ถูกตั้งอยู่ท้ายสุดของซอยเศรษฐีนี้
“ผิงรอพี่อยู่ตรงนี้แหละเดี๋ยวพี่ไปตามคุณลุงนัยมาให้” พี่พลจอดจักรยานไว้ข้างป่ารกเหมือนเดิมและเอ่ยบอกฉันเหมือนเดิม
“ค่ะ รบกวนพี่พลอีกแล้ว” ฉันเอ่ยบอกเขาไปและจับแฮนด์จักรยานที่เขายื่นมาให้ฉันจับ และเขาก็ยิ้มให้ฉันและรีบวิ่งเข้าไปในบ่อนนั้น พี่พลเข้าออกได้อย่างสบายชายชุดดำสองคนหน้าบ่อนนั้นก็ก้มหัวให้เขาอย่างนอบน้อมฉันยืนรอพี่พลอยู่สักพักสายตาก็มองไปเรื่อยๆจนไปสบเข้ากับรถสปอร์ตคันสีดำหลายคันที่กำลังขับผ่านหน้าฉันเข้าไปในบ่อนนั้น ฉันก็ก้มตัวลงหลบหลังจักรยานและแอบมองพวกชายชุดดำที่พากันลงมาจากรถอย่างไวมีอยู่คนหนึ่งลงไปเปิดประตูรถให้ใครสักคนเดินออกมาจากเบาะนั่งด้านหลังคนขับ
“ว้าวววว หล่อจัง^_^” ฉันพูดขึ้นเหมือนตัวเองตกอยู่ในภวังค์ออร่าของผู้ชายในชุดสูทสีดำที่สวมแว่นกันแดดสีดำที่เพิ่งจะเดินลงมาจากรถนั้น หล่อสูงขาวหุ่นดี พูดได้คำเดียวว่าหล่อมากและเพอร์เฟคมากๆๆเช่นกัน
“อุ๊ย!” ฉันร้องขึ้นด้วยความตกใจที่แวบหนึ่งเหมือนผู้ชายคนนั้นเขาจะหันมองมาทางนี้ฉันรีบก้มตัวลงตำ่ลงหลบเขากลัวว่าเขาจะเห็นฉันและสั่งคนมาเก็บฉัน เพราะเขาน่าจะเป็นหัวหน้าของกลุ่มชายชุดดำพวกนั้นนะ เพราะเขาเดินนำหน้าชายชุดดำเข้าไปในบ่อนนั้นและชายชุดดำก็เดินตามหลังเขาไป
“เห้อออ โล่งอกไปที นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว” ฉันลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและตบหน้าอกตัวเองเบาๆ ที่มันตื่นเต้นหรือลุ้นกันแน่ก็ไม่รู้
“ทำไมพี่พลไปนานจัง มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า” ฉันที่ชะเง้อคอมองหาร่างของพี่พลที่หายไปนานก็เอ่ยพึมพำขึ้นมาอย่างสงสัย
“เวียงพิงค์!” เสียงพี่พลวิ่งกระหืดกระหอบออกมาจากบ่อนและรีบตรงเข้ามาหาฉัน
“รีบหนีเร็ว!” ใบหน้าแตกตื่นของพี่พลทำให้ฉันตกใจ
“มีอะไรคะ แล้วไหนคุณพ่อของผิงล่ะ?” ฉันที่มองหาคุณพ่อที่นึกว่าจะเดินออกมาพร้อมกับพี่พลแต่ก็ไม่มีวี่แววของท่านเลย
“พ่อของผิงขายผิงให้เจ้าของบ่อนนี้เพื่อใช้หนี้น่ะสิ!!” พี่พลรีบพูดบอกฉันพลางรีบยกจักรยานไปกลับหัวอย่างไว
“ไม่มีทาง ผิงไม่เชื่อ” ฉันที่ตกใจกับคำพูดของพี่พลเอ่ยเถียงเขาไปอย่างไม่เชื่อ ว่าพ่อฉันจะทำแบบนี้กับฉันได้ลงแน่นอน
“จริงผิงเร็วๆ ไปอยู่บ้านพี่ก่อน!” พี่พลรีบฉุดแขนฉันให้ขึ้นรถจักรยานของเขาเมื่อฉันขึ้นรถจักรยานพี่พลก็รีบปั่นออกมาอย่างไวจนไม่ได้ดูทางจนชนเข้ากับรถยนต์คันหนึ่งเข้าเต็มๆ ทำให้ฉันกับพี่พลล้มจักรยานและร่างของฉันกลิ้งหลายตลบไปบนพื้นถนนศีรษะของฉันไปกระแทกเข้ากับโขดหินทับที่แผลเดิม
โครม
“ว๊าย พี่พล!!!”
“เวียงพิงค์!!!”
“จับผู้หญิง แม่มันขายให้เราเเล้ว!!” เสียงสุดท้ายก่อนที่สติของฉันจะดับลงดังขึ้นเสียงฝีเท้าหลายคู่ต่างพากันเดินเข้ามาหาฉัน
“อย่าจับเธอไป!!!” เสียงของพี่พลและเงาของพี่พลกำลังจะเข้ามาช่วยฉันแต่ก็โดนชายพวกนั้นรุมกระทืบเขา
“ช่วย พี่พล ด้วย” ฉันพูดขึ้นและหลับตาลงเพราะสติของฉันได้ดับวูบลงแล้ว พี่พลฉันเป็นห่วงเขา เขาต้องมาเจ็บตัวเพราะฉัน
