บท
ตั้งค่า

เสื้อผ้าไม่ได้ถอดนอนกอดเฉยๆ

23.40 นาที

ครืดดดดดด

“อื้อออ”

ฉันขยับตัวพร้อมกับใช้มือหยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียงมากดรับสาย

“ฮัลโหลค่ะ”

[พี่มิ้มหนูแปมนะคะ]

“อ๋อ มีอะไรหรือเปล่าแปม”

ฉันถามลูกศิษย์รุ่นน้องออกไปก่อนจะขยับตัวนั่งและเปิดโคมไฟหัวเตียง เพราะต้องมีอะไรแน่ๆ แล้วพอได้ยินเท่านั้นแหละ

[พี่มิ้มพอดีไอ้โยมันมีเรื่องแล้วอยู่สถานีตำรวจกันค่ะ พี่มิ้มจะมาไหมคะ]

“แล้วตอนนี้อยู่สถานีตำรวจที่ไหนกันเดี๋ยวพี่ขับรถไป”

[ตอนนี้หนูอยู่หน้าบ้านพี่มิ้มแล้วค่ะ เหมือนต้องประกันตัวหนูเลยรีบมาหา]

“โอเค รอพี่แป๊บหนึ่ง”

ฉันวางสายเสร็จก็ลุกขึ้นมาล้างหน้าแล้วก็ทาลิปสติกไปเบาๆก่อนจะหยิบเงินสดที่เบิกมาเอาใส่ในกระเป๋าไปเยอะพอสมควร เพราะไม่รู้ว่าเรื่องใหญ่แค่ไหนฉันเดินลงถึงหน้าบ้านแต่เดี๋ยวนะ

“อิมิ้ม มึงลืมเปลี่ยนชุด”

ฉันก้มหน้ามองตัวเองแต่มันก็เป็นชุดนอนเสื้อแล้วก็กางเกงไม่ใช่ชุดนอนเซ็กซี่อะไรช่างมันเถอะ ฉันรีบเดินออกมาแล้วก็ล็อกประตูบ้านพอออกมาก็เห็นแปมแล้วก็พริกยืนรออยู่

“ไปค่ะพี่มิ้ม พี่มิ้มนั่งหน้าเลยแล้วไม่ต้องห่วงหนูมีใบขับขี่เรียบร้อย”

“จ่ะ งั้นเราไปกัน”

แปมขับมาสักพักก็มาจอดที่หน้าโรงพักเรียบร้อยพอเดินเข้าไปก็เห็นนักเรียนห้องตัวเองเต็มสถานีตำรวจไปหมด

“อาจารย์มิ้มสวัสดีครับ”

“ค่ะ คนก่อเรื่องละคะ”

“อยู่ข้างในครับคุยกับร้อยเวร”

“อะเค แล้วตำรวจให้เรารอหรือเรารอเพื่อน”

“อ๋อ พวกผมรอไอ้โยครับให้”

“งั้นใครที่จะกลับก่อนก็กลับได้เลยนะ เดี๋ยวอาจารย์เข้าไปดูข้างในก่อน”

“ค่ะอาจารย์”

“แล้วพรุ่งนี้พวกเราต้องเข้าวิทยาลัยใช่ไหมคะ”

“ใช่ค่ะ”

ฉันพยักหน้าก่อนจะกำชับกับทุกคนที่ยืนรออยู่ด้วยกัน เห็นทีต้องทำความเข้าใจกันใหม่ มาวันแรกที่ปรึกษาก็มาอยู่โรงพักกันทั้งห้องแล้ว

“โอเค รีบกลับกันนะคะ ใครถึงแล้วรายงานตัวโดยถ่ายรูปตัวเองส่งมาในไลน์ให้อาจารย์ด้วยแล้วพรุ่งนี้เจอกันที่ห้องเดิมเราคงมีเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกัน หวังว่าจะมาครบทุกคนนะคะ ไม่อย่างนั้นเราจะประชุมทางออนไลน์กันทั้งห้อง”

“ค่ะพี่มิ้ม”

“พี่มิ้มที่ดูท่าทางใจดีแต่ตอนนี้น่ากลัวมาก”

“เออจริง”

“หึ ไอ้สัสโยเค้าเจอของจริงแล้วครับ”

ฉันบอกลูกศิษย์ตัวเองก่อนจะเดินเข้ามาในโรงพักพอเดินเข้ามาก็มีสามีภรรยาคู่หนึ่งมาแจ้งความแล้วก็เถียงกันพอมองโต๊ะถัดไปก็เห็นคนตัวสูงนั่งอยู่แล้วถัดไปอีกน่าจะเป็นคู่กรณีนั่นแหละเพราะสภาพดูก็รู้

“สวัสดีค่ะ”

ผมนั่งกอดอกอยู่ตรงโต๊ะก่อนจะได้ยินเสียงของยัยตัวแสบดังขึ้นมาเลยหันไปมองแล้วดูจากหน้าก็รู้ว่าไม่พอใจเป็นอย่างมากนั่นแหละ

“อ๋อ เมียมึงมาประกันตัว”

“หึ อืม รีบทำเรื่องเลย ดูหน้าด้วย”

ฉันถอนหายใจก่อนจะถามตำรวจที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเพราะรู้เรื่องมาจากแปมแล้วบ้างแต่ก็ถามอีกรอบ

“โทษนะคะ เรื่องเป็นมายังไงคะแล้วต้องทำอะไรบ้าง”

“ก็ไม่มีอะไรครับ ทะเลาะวิวาทกันเฉยๆก็เสียค่าปรับแล้วคู่กรณีเขาจะเรียกค่าเสียหาย ไอ้โยอธิบายไปสิมึงอะ”

ผมพนักหน้ากับพี่ร้อยเวรก่อนจะหันมามองยัยตัวแสบที่ยืนอยู่ข้างๆแล้วอธิบาย

“ก็เมียมันเดินมาชนแล้วพอผัวมันมาก็คิดว่าจะจีบเมียมันแล้วอินี่ก็ฟ้องผัวมันว่าฉันไปยุ่ง มันพูดจาไม่เข้าหูก็เลยจัดการมันไป”

ฉันยืนกอดอกก่อนจะค่อยๆคิดตามในสิ่งที่เขาพูดพอเขาอธิบายเสร็จก็พยักหน้าแล้วถามกลับไปอีกรอบ

“แล้วเขาจะเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่”

“สามหมื่น แต่ฉันไม่ให้ก็เลยนั่งกันอยู่นี่แหละรอเธอมา”

ผมบอกยัยตัวแสบข้างๆแล้วใครจะบ้าให้ เออ ถ้าไปหาเรื่องก่อนแบบนั้นก็ว่าไป แต่อันนี้เรื่องวิ่งมาหาปะวะ แล้วพอฟังยัยนี่ตอบไปเท่านั้นแหละ หึ มันต้องแบบนี้สิวะ

“ฟังจากเรื่องแล้วก็ตรงกันนะคะ ฝั่งฉันก็ไม่ได้เริ่มให้สูงสุดได้แค่ 5,000 บาทค่ะ ถ้าจะเอาเกินจากนี้ก็คงต้องยื่นเรื่องกันไปแล้วปกติจะไม่ให้เลยอันนี้ยังเห็นใจสภาพแผลบนหน้า จะเอายังไงกันคะตอนนี้มันก็ดึกแล้วจะได้แยกย้ายกันไป เพราะคนเห็นเหตุการณ์ก็น่าจะมีเยอะพอสมควร คุณสองคนตกลงกันเลยค่ะ ขอไม่เกิน 5 นาทีนะคะ ถ้าเกินจากนี้ก็ยื่นเรื่องกันต่อ”

ฉันมองฝ่ายตรงข้ามแล้วพูดออกไปตามความจริงเพราะฉันก็เคยเข้าผับมาเหมือนกันเรื่องแบบนี้ฟังขึ้นต้นก็อ๋อแล้วแหละ

“ก็ตามนั้นค่ะ”

สักพักก็ได้ยินเสียงผู้หญิงที่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจนิดหน่อยแต่ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาเยอะ เพราะตอนนี้หน้าฉันมันน่าจะดูน่ากลัวมากกว่าอะ ฉันก็เลยตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงโทนเดียวกัน

“ค่ะ แล้วต่อไปถ้าจะออกไปไหนควรตัวติดกันนะคะไม่ควรแยกกันอันนี้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมที่อยากบอก”

“หึ”

ผมมองยัยตัวแสบที่หยิบเงินในกระเป๋าแล้วส่งให้คู่กรณีหลังจากนั้นก็เคลียร์กันเรียบร้อยผมเลยลุกแล้วจับแขนเดินออกมาข้างนอก

“นี่นายปล่อย”

“ปล่อยทำไมพวกมันรู้กันหมดละ”

ฉันมองคนตัวสูงที่ดึงแขนฉันออกมาข้างนอกโดยที่เพื่อนเขายืนมองแล้วยิ้มให้สักพักก็ได้ยินเสียงนายนี่พูดกับเพื่อนเขา

“กูกลับละ วันศุกร์ไปบ้าน กูเลี้ยงโต๊ะใหญ่”

“เพื่อนโย เพื่อนที่แสนจะน่ารักของห้อง งั้นพวกกูกลับบ้านก่อนพรุ่งนี้อาจารย์มิ้มเรียกพบด้วย”

“หึ”

ผมยิ้มมุมปากก่อนจะพยักหน้าให้เพื่อนแล้วก็ดึงยัยตัวแสบมาที่รถแล้วก็เปิดประตูรถให้แต่ยัยนี่ไม่ขึ้นแล้วก็ยืนนิ่งๆ แม่งหลับในปะวะเพราะตอนนี้ข้างนอกมันก็เริ่มมีลมพัดเบาๆ

“อ้าว ไม่ขึ้นเหรอหรือหลับใน”

“นี่”

ฉันดันมือเขาออกจากแก้มตัวเองก่อนจะหันมาถามเขา

“ฉันมากับแปม”

“หึหึ ก็เป็นคนให้มันไปรับมา ไปขึ้นรถจะได้ไปนอน”

ผมบอกยัยตัวแสบก่อนจะดันให้เข้าไปนั่งในรถจากนั้นผมก็ขับออกจากสถานนีตำรวจมากก่อนจะหันมาถามผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ แล้วตอนนี้ก็ใส่ชุดนอนเรียบร้อยแล้วด้วยนะ

“นอนแล้ว”

“เออสิ ฉันจะใส่ชุดนอนไปวิ่งหรือไง”

ฉันบอกคนตัวสูงก่อนจะนั่งดูบรรยากาศรอบๆไปด้วยสักพักก็มาถึงหน้าบ้านก็ได้ยินเสียงเขาพูดขึ้นมาอีกรอบ

“เปิดประตูด้วยเอารถจอดบ้านเธอ”

“อ่าว แล้วทำไมนายไม่จอดบ้านนายล่ะ แล้วจะมานอนกับฉันทำไม”

ผมหันมามองยัยตัวแสบก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงปกติ

“ก็จะนอนกับเธอ แฟนกันก็อยู่ด้วยกันสิ”

“ฉันคบกับนายไม่ได้”

ฉันบอกคนตัวสูงออกไปก่อนเขาจะสวนกลับมาอย่างเร็ว

“ทำไม!”

“ก็ฉันเป็นอาจารย์แล้วสอนนายด้วย นายเข้าใจไหม ห้ามรักเกินอาจารย์และลูกศิษย์นายรับรู้ด้วย”

“ไม่ ฉันคบกับเธอนอกรั้ววิทยาลัย อีกอย่างเธอก็ไม่ได้สอนฉันอยู่ดีเทอมหน้าฉันก็จบละ เปิดประตูไม่งั้นก็นอนในรถกันทั้งคู่”

ผมพูดจบพร้อมกับกดล็อกรถ แล้วก็จริงปะละเทอมนี้ก็ไม่ได้เข้าวิทยาลัยอยู่ดีแล้วอีกอย่างก็ยังไม่ได้ขึ้นสถานะอะไรกันเพราะเข้าใจอยู่ถ้าจบแล้วค่อยขึ้น แล้วมันก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรขนาดนั้นสักหน่อย

“นี่!”

“เปิดประตู ไม่งั้นนอนบนรถ”

“เออ!! อยากเป็นนักเดี๋ยวนายจะรู้สึก!! ถ้าไม่อยากเสียน้ำตาก็คิดใหม่ซะ!!”

“ไม่คิด!! เปิดประตู”

ฉันเปิดประตูลงมาเดี๋ยวจะเอาให้ทนไม่ได้เลยเดี๋ยวก่อน ฮึ รู้จักอิมิ้มน้อยไปซะแล้ว พอเปิดประตูเสร็จคนตัวสูงก็ขับรถเข้ามาจอดเพราะมันจอดได้สองคันต่อบ้านหนึ่งหลัง

“ไปเอาของด้วยกันเดี๋ยวเธอปิดประตู”

ผมลงมาจากรถก็เดินมาจับมือยัยตัวแสบให้มาที่บ้านผมเพราะเดี๋ยวยัยนี่ปิดประตูอีกผมเปิดบ้านก่อนจะพายัยตัวแสบขึ้นมาที่ชั้นสองแล้วก็เข้ามาในห้องนอน ผมเลยเริ่มเอาเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแล้วก็ของใช้ส่วนตัวต่างๆไป

“นี่ นายจะไปอยู่บ้านฉันถาวรเลยเหรอ”

ฉันถามคนตัวสูงที่ตอนนี้เก็บจริงเก็บจังทั้งเสื้อผ้าแล้วก็ของใช้ส่วนตัวต่างๆ

“ใช่ ถ้าเธอจะย้ายมาอยู่นี่เธอก็เก็บของมาแค่นั้นสิ”

ผมบอกยัยตัวแสบเพราะบ้านมันอยู่กันแค่นี้เพอนไม่ถึงสิบก้าวก็ถึงกันละพอเก็บของเสร็จก็ยกกระเป๋าลงมาแล้วก็จัดการล็อกประตู หลังจากนั้นก็เดินมาที่บ้านของยัยตัวแสบ

“นำไปเลย ง่วง”

“หึ้ย”

ฉันปิดประตูรั้วก่อนจะเดินเข้ามาในบ้านก่อนจะขึ้นมาที่ชั้นสองโดยที่มีคนตัวสูงเดินตามขึ้นมาติดๆเลยชี้ไปทางด้านขวา

“นู่นห้องว่างเลือกเอา เจอกันบาย”

“หึ”

ผมเดินมาทางห้องด้านซ้ายมือเพราะมันมีห้องเดียวที่ใหญ่ที่สุดนั่นแหละ

“นี่นาย! อันนี้มันห้องฉันนะออกไป”

“ไม่! นอนด้วยกัน! แยกกันนอนฉันจะเก็บของมาเพื่อ แล้วนอนเฉยๆไม่ทำอะไรเพราะมันดึกละ หนังอินเดียอย่าเพิ่งเข้าตอนนี้ไม่มีแรงวิ่ง”

ฉันมองคนตัวสูงที่พูดจบก็ล็อกประตูแล้วก็เอาของไปเก็บ

“เดินชิวจนกูเหมือนผู้อยู่อาศัย แม่ง สภาพ สรุปใครเป็นเจ้าของบ้าน”

ฉันถอนหายใจแล้วก็เดินมาที่ห้องแต่งตัวแล้วก็เช็ดหน้าอะไรเรียบร้อยก่อนจะรอเขาออกมาจากห้องน้ำ

“อุ้ย แล้วเธอไม่ไปนอน”

ผมอาบน้ำออกมาเห็นยัยตัวแสบยืนรอเงียบๆอยู่หน้าห้องน้ำแล้วพอถามเท่านั้นแหละมาเป็นชุด

“อาบนานจนจะลืมโลกนี้เลยหรือไง ถอยจะล้างหน้า ไปแต่งตัวให้มันดีๆด้วย ผีในห้องตกใจหมดแล้วมั้ง”

ฉันบอกคนตัวสูงที่ตอนนี้ใส่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเดินออกจากห้องน้ำมาฉันเลยใช้มือดันเขาออกแล้วก็เดินเข้ามาล้างหน้า แล้วถามว่าเขินไหมบอกเลยไม่เพราะเห็นมาเยอะเพื่อนผู้ชายในห้องบางทีทำโปรเจ็คส่งอาจารย์ชินแล้ว

“เออ กูไปไม่ถูกเลยทีนี้”

ผมเท้าเอวก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ เพราะปกติถ้าเห็นในสภาพนี้ผู้หญิงต้องหันหน้าหนีหรือไม่ก็เดินหนียัยนี่อะไรผลักผัวแล้วหนึ่ง ผมเดินมาแต่งตัวแล้วก็ใส่ชุดนอนก่อนจะมานอนที่เตียงแล้วก็ได้กลิ่นหอมๆเป็นกลิ่นเดียวกับกลิ่นตัวยัยนั่นอะแหละ

“ห้ามทำอะไรฉันเตือนไว้ก่อน”

ฉันล้างหน้าทาครีมบำรุงที่หน้าอีกรอบแล้วก็เดินมาที่เตียงก่อนจะบอกคนตัวสูงที่นอนอยู่บนเตียงแล้วเรียบร้อย

“หึหึ ไม่ทำอะไรเพราะเธอมีสอนอีกหลายวัน มานอน”

ผมหัวเราะออกมาก่อนจะใช้มือตบไปบนที่นอนพอยัยนี่ล้มตัวลงนอนผมเลยคว้าเอวบางๆแล้วออกแรงรั้งให้เข้ามาใกล้ๆและใช้ขาพาดไปที่ขาของยัยตัวแสบ

“นี่ ฉันบอกว่าห้ามทำอะไรไง”

“หึหึ แล้วทำอะไรเสื้อผ้าไม่ได้ถอดแค่นอนกอดเฉยๆ”

ฉันใช้มือดันแขนเขาออกจากเอวของตัวเองแต่เขากอดแน่นขึ้นจนจะหายใจไม่ออกเลยหันมามองคนตัวสูงที่นอนอยู่ใกล้

“นี่นายนอนดีๆ ฉันหายใจไม่ออก”

“หึ”

“นายปล่อย อือ”

ผมมองยัยตัวแสบที่หน้าอยู่ใกล้กันก่อนก่อนจะขยับเข้ามาหาและใช้ลิ้นปาดป่ายที่ริมฝีปากของยัยตัวแสบไปมาเบาๆพอเห็นว่ายัยนี่อ้าปากเลยรีบดันลิ้นเข้าไปในโพรงปากพร้อมกับกวาดลิ้นไปทั่วโพรงปากหวานๆอยู่สักพัก

จุ๊บ จ๊วบ จุ๊บ

“งื้ออ อ๋อย อื้ออ”

ฉันใช้มือทั้งสองข้างดันหน้าของคนตัวสูงออกแต่เขายิ่งประกบริมฝีปากมาแน่นมากกว่าเดิมจนจมูกเขาโดนกับแก้มของฉันอะ

จุ๊บ จ๊วบ จ๊วบ

“อืออ อ๋อยย”

ผมใช้ลิ้นตวัดไปที่ลิ้นของยัยตัวแสบก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างจับมือยัยตัวแสบและวางลงบนที่นอนผมใช้ลิ้นตวัดอยู่กับลิ้นของยัยตัวแสบสักพักก็ใช้ปลายลิ้นเลียที่ริมฝีปากบางๆอีกสามสี่รอบและจูบที่ริมฝีปากเบาๆ

“หึหึ ฝันดีครับคุณเมีย”

“ไอ้บ้า ปล่อยต่างคนต่างนอน”

“ไม่”

คนตัวสูงพูดจบก็ใช้มือกอดเอวของฉันไว้แน่นๆ ฉันดันแขนเขาไปสักพักก็นอนเฉยๆเพราะเหนื่อยเองนั่นแหละ พอนอนไปสักพักเลยถามเขาขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ถ้าเป็นแฟนกันแล้วคนอื่นจะว่ายังไงล่ะ”

“หึ ก็บอกไปสิว่าเป็นแฟนกันก่อนจะมาเป็นอาจารย์ถ้าเป็นมาก่อนเขาก็ไม่มีปัญหาหรอก เดี๋ยวให้เพื่อนช่วยปล่อยข่าว แล้วถ้าเขาให้ออกเธอก็ออกสิฉันมีเงินดูแลเธอได้เธอก็มาขายชุดนอนเธอแค่นั้นก็พอละ”

ผมพูดพร้อมกับดึงยัยตัวแสบให้ตะแคงมาหาแล้วใช้มือกดที่ศีรษะให้มาซบที่คอของผมแล้วก็ได้ยินเสียงของยัยนี่ตอบกลับมา

“หึ ถ้าฉันเป็นอะไรขึ้นมานายได้รับผิดชอบฉันแน่ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่เกิดอะไรขึ้นแล้วโทษแต่ตัวเองนะถ้ามีคนอื่นรับรู้ความผิดนั้นด้วยอะ ฉันบอกให้นายรู้ไว้ซะ ถ้าฉันโดนไล่ออกจริงๆนายเตรียมเงินเอาไว้เถอะ แล้วหาให้ทันฉันใช้ด้วย”

ฉันบอกคนตัวสูงออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจังเพราะถ้ามันเกิดอะไรขึ้นมาจะให้ฉันมารับผิดชอบอยู่ฝ่ายเดียวได้ไงไม่ได้ไปทุบหัวนายนี่มาสักหน่อย อยากได้ฉันก็ต้องรับผิดชอบฉันนี่แหละ

“หึหึ แล้วฉันบอกตอนไหนว่าจะไม่รับผิดชอบเธอแล้วจะไม่ให้เงินเธอใช้ ตอนนี้โครงการนี้ก็ใกล้จะขายหมดทุกหลังอีกไม่กี่วันเงินก็เข้าละผัวเธอหาเลี้ยงเธอได้อยู่แล้วแหละไม่ต้องเครียดหรอก”

ผมบอกยัยตัวแสบพร้อมกับใช้มือลูบที่หลังของยัยนี่เบาๆก่อนจะได้ยินเสียงยัยตัวแสบถามกลับมาอีกรอบด้วยน้ำเสียงตกใจหน่อยๆ

“หื้อ โครงการบ้านนี้เป็นของนายเหรอ”

“หึหึ ใช่ มีที่อื่นด้วยแล้วก็ทำอีกหลายอย่าง”

“เวรกรรม”

“หึหึ”

ฉันพึมพำและคนตัวสูงก็หัวเราะกลับมา จากนั้นนอนไปสักพักภาพก็ตัดไปเลย เพราะมันง่วงจัดแล้วฉันถ้าไม่เที่ยวก็นอนไวอยู่แล้วอะตอนนี้จะเหลืออะไร

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel