ตอนที่ 4
“ผมกลัวจะแย่แล้วครับคุณผู้หญิง” ว่าแล้วก็ลุกจากเก้าอี้แล้วก้าวพรวดเข้าไปยังที่หญิงสาวนั่ง ชายหนุ่มโน้มตัวลงไปโดยค้ำมือทั้งสองไว้กับพนักเก้าอี้ ลมหายใจร้อนจากเขาเป่ารดลงบนใบหน้าของหญิงสาว รีริสสั่นไปหมดทั้งตัว กลัวก็กลัวแต่ที่ทำให้เธอตื่นเต้นคือเรือนร่างกำยำของโจรสลัดหนุ่มที่ความหล่อเหลาไม่เบานั้นกำลังสั่นไหวหัวใจของเธอ
“ว่าแต่...ถ้าเธอเรียกตำรวจที่เป็นพวกเดียวกับเธอตอนนี้เกรงว่าพวกเขาจะมาไม่ทันนะสิ สาวน้อย”
เมซุตพูดก่อนยกนาฬิกาบนข้อมือขึ้นมาดู
“ฉันจะให้เวลาเธอถึงเที่ยงคืนของคืนวันนี้ บอกมาซะดี ๆ ว่าเธอมาที่นี่เพื่อต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับฉันไปส่งให้ไอ้พวกตำรวจพวกนั้นใช่หรือไม่ เธอกำลังจะสืบว่าฉันอยู่ที่ไหน มีชีวิตอยู่ยังไง พอเที่ยงคืนฉันจะกลับมา หวังว่าเธอคงฉลาดพอที่จะไม่เก็บความลับเอาไว้เพื่อรักษาชีวิตของตัวเธอเอง”
พูดจบก็เดินลงส้นออกไปจากห้องนั้น ปิดประตูไม้ลงดังปังใส่หน้าหญิงสาวที่นั่งอึ้งทำอะไรไม่ถูก
“ไอ้โจรบ้า! ฉันจะเอาอะไรที่ไหนมาให้แก โอ๊ย! นี่มันเวรกรรมอะไรกันนี่ มาเที่ยวอยู่ดี ๆ ก็โดนไอ้โจรสลัดบ้าจับตัวมาไว้ในเรือกลางทะเล บ้าที่สุดเลย!”
รีริสรำพึงกับตัวเองด้วยความโมโห เรื่องการเป็นนางนกต่อเพื่อหาข้อมูลบ้าบออะไรนั่นเธอไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน หรือว่ามันจะแอบอ้างเพื่อเรียกค่าไถ่ คิดแล้วยิ่งเจ็บใจที่เมซุตว่าเธอดีแต่แต่งตัวยั่วผู้ชาย ก็เธอแต่งตัวเปรี้ยวสุดชีวิตแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร เสื้อต้องเว้าตรงนั้นผ่าตรงนี้ กระโปรงหรือกางเกงต้องสั้นเท่านั้นถึงจะมาอยู่บนตัวเธอได้
ไอ้โจรสลัดห้าร้อย...หญิงสาวชาวไทยนึกถึงใบหน้าหล่อเหลาของโจรสลัดหนุ่มชาวต่างชาติก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง...ยั่วผู้ชายอย่างนั้นหรือ จริงซีนะ เธอก็มีอะไรดี ๆ อยู่กับตัวนี่นา น่าจะใช้ให้เป็นประโยชน์ ถึงจะไม่เคยใช้มันกับผู้ชายคนไหนแบบถึงเนื้อถึงตัวมาเลยก็ตาม
เวลาที่ผ่านไปนานนั้นไม่ได้ทำให้รีริสหลับตาลงได้แม้แต่น้อย หญิงสาวอยู่ในอาการรอคอยอย่างกระวนกระวาย เธอได้ยินแต่เสียงคลื่นที่อยู่เบื้องนอก ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยก็ให้นึกแปลกใจ
บนเรือลำนี้มีแต่เมซุต หรือว่ายังมีผู้ชายอีกหลายสิบคน เขาคงเป็นหัวหน้าโจรสลัด แล้วถ้าเขาเกิดบ้าเลือดให้เธอเป็นที่ระบายความใคร่ของไอ้พวกหื่นกามที่อยู่ข้างนอก แล้วเธอจะทำยังไงดี
“ว่ายังไง...มีคำตอบให้ฉันรึยัง!”
เสียงของเมซุตที่ดังขึ้นพร้อมบานประตูไม้ที่ถูกผลักออกทำให้รีริสต้องสะดุ้งอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอคุมสติไว้ได้มากกว่าครั้งแรก การพบกันครั้งที่สองกลับมีความหมายต่อหญิงสาวที่พยายามสกัดความกลัวออกจากหัวใจ รีริสเชิดใบหน้าสวยที่ยังมีเมคอัพสีจัดจ้านขึ้น
“เมซุต ฉันยังไม่รู้เลยนะว่านายเป็นใครกันแน่ ถ้าให้เดานายคงเป็นหัวหน้าโจรสลัดบนเรือลำนี้ใช้มั้ย?”
รีริสรวบรวมความกล้ายืดเวลาด้วยคำถามต่อเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ก้าวมาหยุดตรงหน้า
“เมซุตน่ะเป็นชื่อจริงของฉัน ไม่ใช่ชื่อที่ฉันอุปโลกเพื่อไม่ให้ใครรู้จัก”
ว่าพลางก็โน้มตัวลงไปหาหญิงสาว ค้ำมือไว้กับพนักเก้าอี้ เขาอยู่ในท่าที่ทำให้รีริสหวั่นไหวเป็นที่สุด รีริสแสร้งยิ้มสู้
“ดูท่าทางนายไม่ใช่คนโพลีนีเซียนี่นา”
