บท
ตั้งค่า

บทที่ 1: ซื้อบ้านแถมเจ้าที่[1]

“บ้านแกมีผีว่ะ ไอ้กลิ่นหอม”

ทันทีที่ตื่นนอนในตอนเช้า มนตรีก็รีบผุดลุกและเดินมาหาเพื่อนสาวที่กำลังสาละวนกับการทำมื้อเช้าในครัว กลิ่นหอมวางมือจากห่อไส้กรอกสำเร็จรูป หันไปมองตามน้ำเสียงแหบห้าวด้วยความสงสัย

“อะไรคือบ้านฉันมีผียะ”

น้ำเสียงฟังดูเหมือนไม่ค่อยจะพอใจเท่าไร บ้านหลังนี้เธอซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรง จู่ๆ นังเพื่อนตัวดีมาหาว่ามีผีได้อย่างไร

“มันมีจริงๆ นะแก เมื่อคืนฉันเจอมา”

ทว่ามนตรีก็ยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สีหน้าจริงจังขึงขังจนกลิ่นหอมต้องวางมือจากห่อไส้กรอกแล้วถามเพื่อนกลับไป

“แล้วไปเจอยังไงล่ะ”

“ถูกอำ”

กลิ่นหอมกลอกตาเล็กน้อย จากนั้นก็แสร้งทำเป็นไม่สนใจ เอาไส้กรอกเข้าไมโครเวฟ ก่อนจะหันไปมองมนตรีเมื่ออีกฝ่ายย้ำมา

“จริงๆ นะแก ฉันถูกผีอำจริงๆ ขนลุกซู่เลยตอนถูกอำอะ” ว่าพลางลูบแขนทั้งสองข้างของตัวเองยกใหญ่ราวกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้

กลิ่นหอมมองท่าทางนั้นแล้วก็ยกมือขึ้นกอดอก

“ในเมื่อแกบอกว่าบ้านมีผี แกคิดว่าจะให้ฉันทำอะไรไม่ทราบ ย้ายออกว่างั้น?”

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ฝันไปเลย เธอเพิ่งได้เข้ามานอนบ้านใหม่วันแรก จู่ๆ จะให้ย้ายออก ไม่มีทางแน่นอน

และท่าทางนั้นก็ทำให้มนตรีต้องกอดอกขึ้นมาบ้าง

“ใครจะบ้าบอกให้แกย้ายออกกันยะ ฉันไม่ได้จะให้ย้ายออก แค่อยากให้แกไหว้เจ้าที่หน่อย เมื่อคืนนี้จะบอกก็มัวคุยกับพี่ดนัยอยู่นาน เข้าบ้านมา แกก็หลับซะละ”

คนฟังพยักหน้ารับ นึกขึ้นมาได้ในตอนนี้ว่าเมื่อวานไม่ได้ไหว้เจ้าที่เจ้าทาง อันที่จริงเธอไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะปกติแล้ว กลิ่นหอมไม่เชื่อเรื่องผีสางนางไม้ ถ้าจะให้พูด ก็อาจจะบอกได้ว่าเธอเป็นคนไร้ศาสนาก็ได้ วัดวาอารามถ้าได้เข้าไปเมื่อไรนั่นหมายถึงการไปเที่ยว หาใช่การไปทำบุญแต่อย่างใด

ทว่านั่นก็หาได้สำคัญเท่ากับการที่หญิงสาวจะฉุกใจคิดขึ้นมา

“แล้วแกล่ะ ได้ไหว้เจ้าที่ไหม”

มนตรีส่ายหน้าพรืด “อาบน้ำเสร็จก็เหนื่อยจะเดินไปจุดธูปไหว้แล้ว เห็นแกนอน ฉันก็นอนเลยเหมือนกัน”

“สงสัยเจ้าที่บ้านฉันไม่ชอบแก”

หญิงสาวว่าพลางยกยิ้มใส่ พลันก็ถูกมนตรีคว้าเอาช้อนที่อยู่บนเคาน์เตอร์ขึ้นมาเคาะกะโหลกเพื่อนสาวทีหนึ่ง

“ถ้าเจ้าที่บ้านแกไม่ชอบฉัน ฉันไม่มานอนเป็นเพื่อนก็ได้ คืนนี้ก็ลาก่อน บาย”

พูดแล้วก็ทำท่าจะไปจริงๆ เสียด้วย กลิ่นหอมจึงต้องรีบรั้งเอาไว้เพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะไปจริงๆ ดังปากพูด

“ใจคอจะทิ้งเพื่อนได้เหรอ คุณมนตรี”

“เรียกฉันว่ามนตรีอีกที พ่อจะยกไมโครเวฟทุ่มใส่ละนะ”

“เรียกคุณมนตี้ก็ได้” กลิ่นหอมกลั้วหัวเราะ เพราะรู้ดีว่า ‘คุณมนตี้’ เป็นชื่อในวงการบันเทิงของมนตรี เขาเป็นผู้จัดการดาราและเจ้าของโมเดลลิ่งแห่งหนึ่ง ขณะที่กลิ่นหอมเป็นเพียงนักเขียน ความจริงอาชีพนี้ก็เป็นอาชีพที่ไม่มั่นคงสักเท่าไรนัก แต่พอจับจุดในการขายงานเขียนได้ รายได้ก็เริ่มเข้ามาเป็นกอบเป็นกำ ทำให้เธอสามารถซื้อบ้านหลังแรกในชีวิตได้ ทว่านั่นก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไรเท่ากับการที่มนตรีทำท่าสะบัดสะบิ้ง

“แต่ฉันพูดจริงๆ นะไอ้หอม ที่ว่าค้างกับแกไม่ได้น่ะ คืนนี้ยังนอนได้อีกวัน แต่พรุ่งนี้แกจะอยู่คนเดียวแล้วนะ”

“อืม”

กลิ่นหอมขานรับ ยิ้มหน้าแป้น เธอรู้อยู่แล้วล่ะด้วยมนตรีได้บอกเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่มนตรีกลับไม่ไว้ใจเอาเสียเลยเมื่อเห็นสีหน้าของหญิงสาว

“แน่ใจนะว่าอยู่คนเดียวได้”

“อื้ม”

คราวนี้ส่งเสียงสูงหน่อย แต่มนตรีก็ยังลังเลใจอยู่ดี

“ไอ้หอม ถ้าแกอยู่ไม่ได้ก็ไปนอนค้างที่คอนโดฯ ฉันไหม ฉันเป็นห่วงแกจริงๆ ว่ะ”

“เป็นห่วงว่าฉันจะโดนผีอำน่ะเหรอ”

มนตรีพ่นลมหายใจพรืด “เออ นั่นก็อีกเรื่อง แต่เรื่องสำคัญกว่านั้นคือแกอยู่คนเดียวนะเว้ย เป็นผู้หญิงด้วย มันอันตราย”

ถ้ามองตามมุมมองของมนตรีก็อันตรายอย่างที่เขาว่า แต่มนตรีคงจะลืมไปล่ะมั้งว่าหมู่บ้านนี้มีระบบรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยม คนนอกไม่ได้เข้ามาง่ายๆ จะต้องมีการตรวจสอบและแลกบัตรถึงจะเข้ามาได้ ทำให้หญิงสาวอดเตือนความจำไม่ได้

“รปภ.เข้มงวดขนาดนั้น บ้านก็ประตูแน่นหนา ฉันไม่เป็นไรหรอก ฉันซื้อบ้านมา ก็อยากอยู่บ้านตัวเองนะคะคุณมนตี้ ไม่ใช่ไปอยู่คอนโดฯ แก แรกๆ อาจจะไม่ชินเพราะบ้านใหม่ แต่เดี๋ยวก็ชินไปเองแหละ”

เห็นเพื่อนดื้อแพ่งแล้ว มนตรีก็ไม่อยากจะเตือนอะไรอีก ก็จริงอย่างที่กลิ่นหอมว่า บ้านนี้เป็นบ้านของหญิงสาว ไม่อยู่ตอนนี้แล้วจะไปอยู่ตอนไหน ปล่อยให้หญิงสาวได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศของบ้านไปตามใจแล้วกัน

“แล้วสวนนี่ แกจะลงมือจัดเมื่อไร”

พลันก็เปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากคุยเรื่องนี้อีก ด้วยรู้ดีว่าคนอย่างกลิ่นหอมถ้าตัดสินใจอะไรแล้วก็จะเปลี่ยนใจยาก

กลิ่นหอมเอาไส้กรอกออกจากไมโครเวฟ ปากพลางพูดไปด้วย

“ก็กะจะเริ่มทำวันนี้แหละ แกถามทำไม”

“ฉันจะอยู่ช่วยได้แค่วันนี้นะ พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแล้ว”

“ฉันรู้แล้ว ย้ำอยู่นั่น”

“เออ จะย้ำจนกว่าแกจะไหว้เจ้าที่นี่แหละ บ้านแกเองนะเว้ย ไหว้เจ้าที่หน่อย”

“รู้แล้วน่า ไส้กรอกสุกแล้ว จะกินไหม”

มนตรีย้ำเรื่องไหว้เจ้าที่มาอีกแล้ว ต่อให้เขารู้ว่ากลิ่นหอมเป็นคนไม่เชื่อเรื่องลี้ลับ แต่ตัวเขาเชื่อ ดังนั้นจึงอดที่จะย้ำไม่ได้ ขณะที่กลิ่นหอมกลับตัดบทเอาเสียอย่างนั้น คงเพราะไม่อยากให้มนตรีพูดบ่นเรื่องนี้แล้ว มนตรีรู้นิสัยของเพื่อนดี เลยคล้อยตามไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel