บทที่ 4
“นี่กะจะไม่เอาอะไรไปเลยเหรอ!” คริสเปิดประตูห้องนอนส่วนตัวน้องสาว และเอ่ยถามขึ้นทันทีที่เห็นกองเสื้อผ้าแค่น้อยนิดของเธอ
“แล้วต้องเอาอะไรไป?” เธอที่เก็บของลงกระเป๋าเดินทางขนาดกลาง หันมองพี่ชายคนโตที่เดินเข้ามาโดยไม่เคาะประตู
“ก็พวกเสื้อผ้า...”
“พี่จะให้ฉันใส่ขนมิงค์เดินกลางแดดร้อน ๆ เมืองไทยหรือไง! ไร้สาระ! ออกไปได้แล้ว!” เสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือส่วนตัวเธอดังขึ้น ทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิด ที่พี่ชายเธอไม่ยอมออกไปสักที
“เออ! ไปแล้ว!” เธอมองให้แน่ใจว่าเขาไปแล้ว ก่อนจะพุ่งตัวไปล็อกประตูห้องและกดรับสาย
‘มีนาาาา!!’ เธอส่งยิ้มหวานให้โทรศัพท์และทิ้งตัวลงนอนหงายกับเตียง
“อะไร...” เธอชูมือถือให้ห่างจากใบหน้าเพื่อให้คนในกล้องมองเห็นหน้าเธอชัด ๆ
‘ทำไมรับช้าล่ะ!’ เสียงกระเง้ากระงอดดังออกมา
“ก็กำลังเก็บเสื้อผ้าอยู่ไง...” เสียงหัวเราะคิกคักดังออกมา
‘ขอดูนมหน่อยสิ!’ เธอดึงเสื้อและเอาโทรศัพท์ไปจ่อไว้
ตั้งแต่เธออัปไซซ์หน้าอกมา ทุกครั้งที่ ‘กอหญ้า’ เพื่อนสาวคนสนิทที่เมืองไทยโทรมา เธอมักจะขอดูหน้าอกปลอม ๆ ของเธอเสมอ
‘เหมือนจริงจัง! ถ้าเจอแล้วขอจับได้ไหม! เราอยากบีบ!’ เสียงหัวเราะคิกคักที่ดังลั่นอยู่ในห้องนอนขนาดใหญ่ของเธอ ไม่ได้ทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้ยินเพราะเป็นห้องเก็บเสียง
สองสาวคุยกันและนัดแนะ บอกไฟลต์บินว่าจะถึงไทยประมาณกี่โมง เพื่อที่เพื่อนสาวเธอจะมารับ…
“เจอกันวันงานนะ...พ่อรักมีนา” เธอกอดตอบผู้เป็นพ่อด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
“สวัสดีครับคุณมีนา...” หญิงสาวตวัดสายตามองเขานิดหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ายืนหลังตรง รอบอดีการ์ดคนสนิทเปิดประตูรถให้
อเล็กซ์มองผู้หญิงตรงหน้าที่แต่งตัวสบาย ๆ และยกยิ้มมุมปาก ร่างกายผอมบาง แต่ยืนอย่างมั่นคง สายตาถือดีของเธอ...เจ้านายเขาจะต้องเจอศึกหนักอย่างแน่นอน!
เธอใส่เสื้อโอเวอร์ไซซ์ลายพรางสีดำธรรมดานุ่งทับใน กางเกงยีนขากระบอกสีซีด รองเท้าผ้าใบ Adidas YEEZY Boost 350 V2 "Blue Tint" สวมทับด้วยเสื้อกันหนาวขนมิงค์สีเทา สวมแว่นตาสีดำกันแดด ผมปล่อยยาวสลวย...
10 กว่าปี ที่ไม่เคยก้าวออกจากปีกของ ‘ดาเรล’ วันนี้เธอได้ออกมาแล้ว...ไม่มีแม้แต่เงาคนของพ่อเธอ
รถลีมูซีนสุดหรูเคลื่อนออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ในกรุงลอนดอน มีเพียง ‘ริค’ ที่นั่งอยู่เบาะข้างหน้า สองมือที่กุมกันไว้บนตักสั่นเทาอย่างปกปิดไม่มิด
“..........” อเล็กซ์เหลือบมองผู้หญิงของนาย...เธอมีโรคประจำตัวอย่างนั้นเหรอ
“ริค...” เสียงหวานเอ่ยเรียกคนที่นั่งอยู่เบาะหน้า ขวดน้ำแร่ที่ถูกเปิดแล้ว ส่งกลับมาให้เธอ...รู้ใจกันถึงเพียงนี้!
“ถึงไทยแล้ว...เข้าไปพบนายกับผมนะครับ” เขาเอ่ยพร้อมกับยื่นพาสปอร์ตให้
“นายคุณไม่มีขาหรือไง...”
“แต่...”
“อยากเจอก็มาหาสิ...จะรอ” ร่างบางเดินผ่านเขาไปและเข้าไปนั่งรอในเกต เธอไม่รับอะไรที่เขาให้คนเอาไปให้เลย...เธอจะรับของที่มาจากริคเท่านั้น
“ครับนาย...กำลังจะขึ้นเครื่องครับ”
“คุณมีนาครับ...นายจะคุยด้วย” เธอตวัดสายตามามอง ก่อนจะหันหน้ากลับไปเหมือนไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูด มือแกร่งยื่นโทรศัพท์ค้างกลางอากาศ ก่อนริคจะค้อมหัวให้เขาและรับโทรศัพท์แทนเธอ
“ผมริคครับ...บอดีการ์ดคุณมีนา” เธอหยิบคุกกี้อามอนด์เข้าปากและกวาดสายตามองไปรอบ โดยไม่ได้สนใจว่าคนในโทรศัพท์คุยกันเช่นไร…ผ่านไปสักพักริควางสายและนั่งลงข้างเธอ ๆ หันไปมองและยื่นถุงคุกกี้ให้
“คุณควรเข้าพบคุณวาเลน...เพราะธุรกิจเราจะผ่านไปด้วยดีได้หรือไม่ มันขึ้นอยู่กับคุณครับ” ดวงตาคมสีฟ้า ที่มองสบดวงตาดำแวววาวของเธอ...บ่งบอกได้ว่าเธอคงเล่นอะไรสนุก ๆ ไม่ได้แล้ว
“ก็ไม่ได้บอกว่าจะไม่ไป...ฉันพูดเหรอ ‘ว่าไม่ไป’ ฮะ!” เธอเอ่ยเสียงกระแทกและหันไปมองหน้าอเล็กซ์ที่ยืนอยู่ไกล ๆ อย่างเอาเรื่อง
“เธอตกลงว่าจะเข้าไปพบคุณวาเลนครับ” หลังจากสู้รบกับความร้ายกาจของเธอสักพัก...ริคก็เดินมาบอกอเล็กซ์ว่า เธอเปลี่ยนใจจะเข้าไปหานายเขาแล้ว
“โอเค...ผมอเล็กซ์นะ ผมว่าเราน่าจะอายุเท่า ๆ กัน ก็มาอยู่กันดี ๆ เถอะนะ”
