อกแทบหัก แอบรักท่านประธาน

70.0K · จบแล้ว
Yuriel
59
บท
18.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เลขาสาวผู้เชยเฉิ่มและใสซื่อ กลับเป็นคนเดียวกันกับสาวโพลแดนซ์ที่แอบปลื้ม ไปซะงั้น “จับแขนผมไว้แล้วกัน จะได้ไม่เกร็งมาก” ชายหนุ่มเหวี่ยงหญิงสาวลงที่เตียงนุ่มขนาดคิงไซส์ก่อนจะเริ่มถอดเสื้อสูทออกแล้วปลดกระดุม ใบหน้าหวานมองอีกฝ่ายด้วยแววตาหยาดเยิ้ม ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เพราะความมึนเมา นิราไม่รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังแสดงสีหน้าแบบไหนออกมาอยู่ ริมฝีปากเล็กกระจับเผยอขึ้นเล็กน้อย มันช่างดูยั่วยวนจนทำให้มาร์คอยากจะประกบจูบลงไปเหลือเกิน ชุดเดรสแสกข้างที่นิราใส่ตอนนี้มันเลิกขึ้นมาจนเห็นต้นขาขาวๆ แถมหญิงสาวยังชันขาขึ้นข้างหนึ่งอย่างไม่ระมัดระวังตัว ชายหนุ่มก็เริ่มมีอารมณ์ จึงจัดการตามลงมาคร่อมร่างบางของเธอเอาไว้ในทันที แต่ว่าแทนที่หญิงสาวจะปฏิเสธ อีกฝ่ายกลับโอบรอบคอของมาร์ตเอาไว้แล้วรั้งคอให้เขาโน้มใบหน้าลงมา ใบหน้าสวยๆยามนี้ชั่งยั่วเพศเหลือเดิน จนชายหนุ่มไม่อยากจะให้หญิงสาวไปทำสีหน้าแบบนี้ใส่ใครอีก เขาทนไม่ไหวแล้ว มาร์คจึงประกบริมฝีปากลงไปเพื่อสอดลิ้นเรียวเข้าไปสำรวจในโพรงปากเล็กของอีกฝ่าย หยาดน้ำหวานทุกหยาดหยดถูกมาร์คตักตวงเอาไว้อย่างกระหาย เสียงจูบอันดูดดื่มดังขึ้นเป็นระยะสลับกับเสียงครางเบาๆในลำคอของหญิงสาว สายเสื้อเส้นบางของชุดเดรสถูกชายหนุ่มรั้งออก มือหนาของเขาก็ทำหน้าที่นวดคลึงหน้าอกผ่านเนื้อผ้านุ่มลื่นราคาแพง ที่เขาเป็นคนซื้อให้เธอไปด้วย ชุดแสกข้างในตอนนี้เป็นประโยชน์มากในการที่มาร์คจะส่งฝ่ามือเข้าไปลูบไล้สัมผัสกับผิวขาวนุ่มลื่นของหญิงสาวที่กำลังนอนบิดเร่าอยู่ใต้ร่าง หน้าอกอวบอั๋นแอ่นรับในยามที่มาร์คนวดคลึงที่เนินอกอวบอิ่ม เธอกัดริมฝีปากล่างเล็กๆ สองมือก็ขยุ้มผ้าปูเบาๆชั่งเป็นภาพที่มาร์คไม่คิดเลยว่า ภายใต้กรอบแว่นหนาเตอะที่เขาเคยเห็น นิราจะเร้าใจเขาได้ขนาดนี้ นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของนักเขียน ภาษาและการใช้คำแต่งตามความคิดของผู้เขียน และอาจมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม มีฉากร่วมเพศ มีฉาก NC 18 ผู้อ่านควรใช้วิจารณญานในการอ่านค่ะ ฝากเอ็นดู พี่มาร์ค กับนิรา ด้วยนะคะ

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันประธานเลขารักหวานๆเศรษฐีผู้ชายอบอุ่นฟินๆ18+

บทที่ 1 คนในความทรงจำ

ย้อนไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว

ทุกคนมีคนที่เก็บเอาไว้ในความทรงจำ ไม่ว่าความทรงจำตรงนี้มันไปอยู่ตรงไหน แต่รู้นะ ว่าทุกส่วนที่อยู่ นั้นคุณสามารถแวะไปหาเขาได้เสมอๆ ไปหาเขาในความรู้สึก ไปหาเขาในใจ ไปหาเขาในความทรงจำที่เคยผ่านมา เป็นเรานี่แหล่ะไม่อยากลืมมัน

รักใครก็บอก ชอบใครก็บอก อย่างน้อยก็ได้พยายามเต็มที่ ที่สุดกับความรักและความทรงจำของตัวเอง

ย้อนไปตอน ม.6

ในคืนที่ฝนตก สายตาคู่คมพิจารณาจ้องมอง ร่างสวย มัดผมสวมใส่ชุมมัธยมปลาย ใบหน้าจิ้มลิ้ม ขาวใส แต่บ้านของปังปอด์นเพื่อนสนิทของเขา ประตูรั้วกับหน้าบ้านเขา อยู่ห่างกัน ซึ่งเขากังวัลว่า เธอจะเปียกอาจจะหนักกว่าเดิม ถ้าฝนที่กำลังโปรยปราย จะก่อตัวแรงขึ้น

"เฮ้ยปอนด์ นั่นน้องมึงป่าวนั้น"

"เออ ใช่ๆ ร่มอยู่หน้าบ้านมึงไปรับมันให้กูหน่อย กูติดทำงานอยู่"

"เออได้ๆ"

เมื่อเพื่อนๆของปังปอด์นได้นัดรวมตัวมาทำรายงานที่บ้านเพื่อทำรายงานส่งคุณครู หลังจากที่ หญิงสาวรูปร่างเพรียวบาง มองไปยังชายหนุ่ม ที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าราวกับภาพวาด หล่อคมคาย จมูกโด่งคิ้วเข้ม ทรงผมหน้าม้าปัดข้าง เสื้อมหาวิทลัยสีขาว กางเกงยีนต์ ถือร่มคันโตสีน้ำเงิน วิ่งออกมารับเธอที่หน้าบ้าน

ตึ่กตัก ! ตึกตัก ! ตอนนี้ทำให้หัวใจของหญิงสาว สั่นราวกับแผ่นดินไหว ได้แต่อึ้งตะลึงกับชายร่างสูงตรงหน้าโดยไม่ทันนึกว่าตัวเธอเองอยู่กลางสายฝนเพราะเธอกำลังที่จะเปิดประตูเหล็กบานใหญ่ เพื่อเข้ามาในบ้าน

มือสวยยังค้างอยู่ที่กลอนประตูรั้วแต่ทอดสายตาจดจ้องเหมือนอยู่ในภวังค์

"เชี่ย ! คนหรือพระเอกซีรีย์ หล่อไม่ไหว " เธอพึมพำในลำคอเบาๆ

เนื้อตัวเริ่ม เปียกปอน เพราะลงจากรถเมล์หญิงสาวก็รีบวิ่งฝ่าสายฝนที่กำลังลงเม็ดบางจนกระทั่งตอนนี้ถึงบ้านเม็ดหนาขึ้น ชายหนุ่ม กางร่มบังฝนพร้อมลำแขนแกร่งโอบมาที่ไหล่ ร่างสูงบังฝนแล้วนำร่างเล็กของเธอกลับเข้าไปในบ้าน ซึ่งนั่นคือความประทับใจแรก ที่เธอได้สัมผัส

"เฮ้ย ไอ้ปอด์น มึงดูมือไอ้มาร์ค กอดน้องมึงด้วย " เสียงทุ้มแทรกเข้ามาจากชายหนุ่มอีกคนดังขึ้นแซว นั่นคือ พี่แกป ตัวดีชอบพูดมากแซวคนนั้นคนนี้ตามนิสัย เมื่อชายหนุ่มได้ยินดังนั้นมือแกร่งจึง รีบผละมือออกทันที

"กอด เชี่ย ! ไร น้องไอ้ปอด์นจะเปียกฝนก็แค่กางร่มให้น้อง มึงนี่ นะคิดอกุศลตลอด "

ประโยคนี้ส่งผลให้ทั้ง 4 คน หัวเราะชอบใจกัน แต่ตัวหญิงสาวกลับเขินอายหน้าแดงเมื่อโดนพี่ ๆแซวขนาดหนัก

หญิงสาวถอดรองเท้าเก็บเข้าชั้น พร้อมเดินเข้าบ้านไป เก็บกระเป๋าเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเช่นทุกวัน ผ่านไปไม่นานเมื่อวิ่งลงมาชั้นล่าง ปังปอน พี่ชายของเธอสั่งให้ทำกับข้าวให้พี่ๆกิน เนื่องจากพ่อกับแม่ก็ไม่อยู่ ฝนก็ตก เธอจึงยอมทำให้แบบไม่ค่อยพอใจ

"ปัน ปัน ทำกับข้าวให้พี่ ๆ เขากินหน่อย นะ...นะ...น๊าา.." พี่ชายของเธอทำเสียงออดอ้อนเพื่อให้ผู้เป็นน้องทำตาม และเมนูประจำบ้าน ที่ง่ายที่สุดคือต้มมาม่า ใส่ไข่ และใส่ผัก

ขณะที่ร่างบางของหญิงสาวหันหลังต้มน้ำอยู่นั้น ปรากฎร่างสูงของใครบางคนยืนอยู่ข้างหลังจังหวะนั้น เธอเคลื่อนตัวหันกลับมาเพื่อหยิบ อะไรบางอย่าง กลับชนเข้ากับร่างสูงอย่างตรงหน้า เป็นเหตุให้หญิงสาวอยู่ในอ้อมกอดเขาศีรษะของเธอประกบเข้ากับสันจมูกโด่งพอดี

เขาคว้าตัวเธอเอาไว้ขณะหันมาด้วยอาการตกใจอาจจะทำให้เธอล้มใส่หม้อน้ำที่กำลังเดือดพล่าน อยู่ก็เป็นได้

" เป็นไรหรือเปล่า" เสียงทุ้มนุ่มของร่างสูงเอ่ยถาม

" ปะ เปล่า ค่ะ " หญิงสาวเอ่ยพร้อมผลักร่างตัวเองออกให้เป็นอิสระเพื่อรีบไปหยิบ มาม่า

" ต้มมาม่าเหรอ ให้พี่ช่วยอะไรมั้ย "

"'หั่นผักตรงนี้ให้ด่วนทีนะคะ ปันจะรีบเอาไข่มาใส่ก่อน"

พี่มาร์คเป็นคนเดียวที่ อาสามาช่วยทำกับข้าว พี่เขาทั้งหล่อแถมยังน่ารักอีก บรรยาการในครัวที่เมนู ง่ายๆ แต่อบอวลไปด้วยความประทับใจ และมีความสุข

หลังจากที่ ทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย เพื่อนๆของปังปอนด์ทำรายงานกันต่อ เมื่อช่วงบักเบรคทีไร พี่มาร์คมักจะชอบหยิบกีตาร์ขึ้นมาร้องเพลง

ทุกครั้งที่เคยได้ยืนเธอจะชอบแอบจ้องมองดูอยู่ห่างๆ ทุกครั้ง ด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะ ของชายหนุ่ม บางครั้ง ปัน ปัน ก็อดไม่ได้ที่จะมาเสนอตัวร่วมร้องเพลงไปด้วยกันรุ่นพี่

นับจากวันนั้นเป็นต้นมา พี่มาร์คและ เพื่อน ๆ กลุ่มนี้ก็มาเล่นบ้านกันอบู่บ่อย ๆ จนหญิงสาวเริ่มที่จะคุ้นเคย ทุกครั้งที่พี่มาร์คมามักจะมาขนมของฝากติดไม้ติดมือมาฝากตลอด

โปรดติดตามตอนต่อไป...