ตอนที่ 5 หาเงิน
รถตู้คันใหญ่แล่นออกจากบ้านเธอมาร่วมหนึ่งชั่วโมง ไม่รู้ได้เลยว่ารถคันนี้พาเธอเลี้ยวไปทางไหนบ้าง จนถึงจุดหมายปลายทางพวกมันก็ดันให้เธอลงจากรถ ผ้าปิดตาถูกเปิดออกคงเหลือแค่กุญแจมือที่ยังใส่ไว้
จึงเห็นว่าข้างหน้าเป็นโกดังสินค้า แม้จะไร้ผู้คนแต่ก็ไม่ได้รกร้างน่ากลัวขนาดนั้น เธอถูกกระชากแขนอย่างแรงให้เดินตามไอ้คนถือปืนที่เดินนำเข้าไปก่อน
ด้านในเป็นออฟฟิศคล้ายบริษัทและก็มีกล่องไม้ใหญ่ๆ เรียงเป็นจำนวนมากในนั้น เธอถูกพาเข้าไปในออฟฟิศที่เห็นนั่นแหละ
"พ่อเธอมันนัดจะคืนเงินให้ฉันวันนี้ไม่ใช่หรือ"
ชายวัยกลางคนหน้าตาน่ากลัวนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่เอ่ยขึ้นทันทีที่เธอถูกดึงให้ไปยืนอยู่ตรงหน้ามัน
"ฉันให้เงินพ่อไปแล้ว แต่เขาไม่มาจ่ายฉันก็ไม่รู้"
"พ่อเธอมันคงอยากตายซินะ หรือมันอยากให้ลูกสาวมันถูกขายซ่องล่ะ"
"ฉันขอเวลาสักอาทิตย์หนึ่งได้ไหม ฉันจะหาเงินสามแสนนี้มาคืนเอง"
"ฉันต้องการวันนี้"
"คุณคงรู้ฉันเป็นดารา..."
"ดาราแย่งผัวเขาอ่ะนะ สวยขนาดนี้ไม่มีปัญญาหาผัวเองหรือไง" พราวฟ้าได้แต่กัดฟันแน่น พยายามเอ่ยต่ออย่างใจเย็น
"ฉันหมายถึงว่า ฉันเป็นดารา ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฉันสื่อต่างๆ คงหาข้อมูลกันสนุกสนานพวกนายคงไม่อยากเดือดร้อนใช่ไหม และพ่อฉันก็น่าจะรู้ว่าใครเป็นคนจับตัวฉันไป ฉันขอแค่หนึ่งอาทิตย์"
พราวฟ้าพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่แสดงความกลัวให้พวกมันเห็นทั้งที่หัวใจเต้นรัวราวกับกลองเพล ต้องขอบคุณครูสอนการแสดงที่เคี่ยวเข็ญเธอมาอย่างหนัก และพอได้เห็นสีหน้าลังเลใจของมันก็ค่อยทำให้เธอใจชื้นขึ้นบ้าง
"สามวัน ฉันให้แค่สามวัน ถ้าไม่ได้กูไม่สนเหี้ยอะไรทั้งนั้นแล้ว"
"โอเค สามวัน"
พราวฟ้าถูกนำตัวกลับมาส่งที่บ้านอีกครั้งพร้อมด้วยผ้าปิดตาเหมือนเดิม เพียงแต่ครั้งนี้เธอไม่ได้ถูกล่ามด้วยกุญแจมือแล้ว
กลับมาถึงก็เกือบสองทุ่มมองเห็นถ้วยบะหมี่ที่อืดจนน้ำแห้งแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจหนักๆ กินบะหมี่เส้นอืดอย่างนั้นอีกทั้งสมองก็ครุ่นคิดวิธีที่จะเงินสามแสนให้ได้ภายในสามวัน
หนึ่งวันที่ผ่านไปอย่างไร้ค่า ทำได้เพียงนั่งมองโทรศัพท์ในมือไถไปมาอย่างไร้จุดหมาย เบอร์โทรศัพท์ทุกเบอร์ที่ถูกบันทึกชื่อไว้ไล่ดูแล้วก็ไม่มีใครสักคนที่เธอจะกล้าโทรไปขอยืมเงิน หรือแม้แต่ข้อความแชตจากแอปพลิเคชันต่างๆ
มีเพียงเบอร์เดียวที่เธอโทรออกไปหานั่นก็คือพ่อ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ทั้งวัน
มองสมบัติในบ้านถ้าจะขายก็คงจะต้องใช้เวลา ยิ่งตัวบ้านคงไม่ต้องพูดถึง จนสายตาเหลือบไปเห็นรถคันหรูที่ผ่อนมาได้ยังไม่ถึงครึ่งทาง ถ้าขายดาวน์ก็ไม่รู้จะได้ถึงสามแสนหรือเปล่า
วันที่สองที่เธอตื่นขึ้นมาในช่วงสาย และตอนนี้ก็บ่ายสองโมงกว่าแล้ว ข้าวเช้าสักเม็ดก็ยังไม่ตกถึงท้อง มีเพียงกาแฟสำเร็จรูปที่ฉีกซองใส่น้ำร้อนแล้วกินได้เลยอยู่ในท้องเพียงแก้วเดียว
บ้านขนาดเนื้อที่กว่าร้อยตารางเมตร แต่วันนี้เธอเดินวนอยู่ในบ้านคงมีระยะทางไม่ต่ำกว่าหนึ่งกิโลเมตรแน่นอน เดินวนราวกับหนูติดจั่นที่คิดหาทางออกไม่ได้
จนเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้เธอรีบผวาไปที่โซฟา เห็นเป็นเบอร์แม่เมย์ก็รีบรับสายทันที
(ไอ้พราว เอ่อ...มีงานกินข้าวของคุณอธิป แกจะรับอีกไหม สงสัยเขาติดใจแกว่ะ)
"ราคาเดิมหรือแม่"
(อื้อ เหมือนเดิมทุกอย่าง ถ้าแกตกลงวันนี้ก็ไปที่บ้านเขาได้เลย) พราวฟ้าชั่งใจอยู่ครู่จนแม่เมย์ต้องเอ่ยถามซ้ำ
"ตกลงแม่"
เมื่อไม่มีหนทางเลือก ศักดิ์ศรีตอนนี้มันกินมันใช้หนี้ไม่ได้ เธอคงต้องวางมันลงก่อน กลั้นใจรับปาก เพียงแต่ครั้งนี้เธอจะไม่ยอมตกเป็นลูกไล่เขาอย่างครั้งก่อนแน่นอน
พราวฟ้ามาถึงบ้านหลังใหญ่ในเวลาเดิม ลงจากรถก็ไม่เดินหงออย่างครั้งที่แล้ว ชุดราตรีสีแดงสดกระโปรงยาวสยายละพื้นรับกับผมสั้นสีบอร์นทองและใบหน้าหวานที่ถูกแต่งแต้มไว้อย่างสวยงาม เธอจีบมือจับชายกระโปรงสะบัดเบาๆ ให้เข้าที่ ก่อนจะจิกปลายเท้าก้าวเดินราวกับนางแบบ
แม้กระโปรงจะยาวจนถึงพื้นแต่มันก็แอบแฝงความเซ็กซี่เอาไว้ด้วยรอยผ่ายาวตั้งแต่ชายกระโปรงจนถึงขอบบิกินี ทุกครั้งที่ก้าวขายาวๆ เรียวขาคู่งามก็ออกมาอวดความสวย อีกทั้งแผ่นหลังขาวเนียนด้านหลังที่มีเพียงเชือกสีแดงเส้นเล็กผูกไว้กลางหลังเท่านั้น
"สวยดีนี่"
ฟาริสที่ยืนพิงเคาน์เตอร์บาร์ในห้องเอ่ยทักเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาในห้อง ห้องเดิมเมื่อครั้งที่แล้วนั่นแหละ
"ขอบคุณค่ะ"
ไม่รอให้เจ้าของห้องเชื้อเชิญ พราวฟ้าก็ก้าวเท้าเดินไปที่เก้าอี้สตูลบาร์ข้างคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น ถือวิสาสะขึ้นไปนั่งไม่สนใจสายตาที่มองอย่างไม่สบอารมณ์ของคนข้างๆ ในตอนนี้ใบหน้าหวานจึงอยู่ระดับเดียวกับคนตัวสูง
เธอตวัดเรียวขาข้างที่กระโปรงตัวสวยผ่าสูงขึ้นนั่งไขว่ห้าง ทำให้เรียวขาเนียนข้างนั้นไร้ซึ่งกระโปรงตัวยาวปิดไว้และเธอก็ไม่สนใจชายกระโปรงที่ห้อยทิ้งตัวลงไม่คิดจะจับมันขึ้นมาปิดด้วยซ้ำ
"ไม่คิดว่าเธอจะกล้ามานะ"
"ฉันก็ไม่คิดว่าคุณจะติดใจ"
"ติดใจเธอ ฉันไม่ได้นอนกับเธอ จะติดใจได้ยังไง ถ้าจะติดใจก็คงติดใจไปตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อนนั้นแล้วมั้ง" น้ำเสียงแม้จะไม่ได้เย้ยหยันแต่ก็ฟังไม่ค่อยดูดีนัก ดูผ่อนคลายกว่าเมื่อครั้งที่แล้ว หรือเพราะตอนพูดเจ้าตัวกำลังรินไวน์ส่งให้เธอด้วย
"ถ้าไม่ติดใจแล้วเรียกฉันมาทำไมล่ะค่ะ หรือว่าฉันกระตุ้นอารมณ์คุณได้ดี เสร็จแล้วคุณค่อยเรียกคนอื่นมาต่อไรงี้หรอ"
กลายเป็นฟาริสที่หน้าตึงขึ้น และเหมือนเธอจะจับจุดเขาได้ถูกอย่างทีเดียว
"ฉันคงดีกว่าไวอาก้าซินะคะ" คนพูดหัวเราะเบาๆ อย่างน่าหมั่นไส้ พลางยื่นแก้วไวน์ในมือไปกระทบกับคนข้างๆ "ชนหน่อยค่ะ Cheers" คนพูดยังยักคิ้วให้ก่อนจะจิบไวน์เพียงนิด ส่วนคนที่โดนชนแก้วอย่างไม่ทันตั้งตัวก็ได้แต่ขมวดคิ้ว
"ว่าแต่วันนี้มีของเล่นอะไรสนุกๆ อีกไหมคะ"
"ฮึ" คราวนี้น้ำเสียงเขาเย้ยหยันขึ้นทันที "เธออยากสนุกแบบไหนล่ะ"
"แบบไหนก็ได้ค่ะ แต่ขอแบบที่สนุกกับคุณนะคะ คนเดียวมันไม่สนุกเลย" พราวฟ้าได้แต่จีบปากจีบคอพูด เหมือนนางร้ายในละครหลังข่าวไม่มีผิด
"เธอกำลังท้าทายฉันอยู่นะ"
"ทำไมคิดแบบนั้นละคะ หรือคุณไม่คิดอยากลองนอนกับฉันสักครั้ง ทั้งที่ยอมเสียเงินตั้งสามแสน ฉันอาจจะถึงใจคุณกว่าเมื่อห้าปีก่อนก็ได้นะ" ไม่พูดเปล่าเมื่อเธอยื่นมือไปลูบแผ่นอกกว้างขอคนข้างหน้า แม้จะมีเสื้อเชิ้ตสีดำกั้นอยู่ แต่ฝ่ามือเล็กก็สัมผัสได้ถึงแผงอกล่ำสัน เธอค่อยๆ ลากมือจนต่ำลงมาถึงหน้าท้องที่แข็งเป็นลอนแม้จะอยู่ภายใต้เสื้อก็ยังสัมผัสได้ถึงลูกคลื่นที่หน้าท้อง
"สมกับที่เป็นดาราดังเลยเนอะ แสดงได้ดี แต่ไว้เดี๋ยวค่อยแสดงบนเตียงดีกว่า หรือวันนี้เธออาจจะไม่ต้องเหนื่อยแสดงก็ได้"
"อย่างงั้นหรือคะ" ฟาริสเพียงไหวไหล่เบาๆ
"จะกินข้าวก่อนไหม"
ฟาริสที่เอ่ยถาม เธอยังไม่ทันให้คำตอบ แต่เมื่อได้ยินเสียงพูดถึงอาหารท้องเจ้ากรรมก็เกิดร้องประท้วงออกมาเสียงดัง จนคนข้างๆ ได้ยินชัดเจน จนเขาหัวเราะออกมาเบาๆ
"กินเยอะๆ แล้วกัน วันนี้เธออาจจะต้องใช้พลังงานเยอะ"
