บทที่ 7 โดนคุณชายห้าบล็อก (1)
ชัชนันท์หันกลับไป สีหน้านิ่งเฉย "มีอะไร?"
เมื่อก่อนผู้ชายตรงหน้าคนนี้ ก็คือความเชื่อมั่นตลอดทั้งชีวิตของเธอ แค่เห็นเขาหัวใจก็เต้นแรง
แต่ในขณะนี้ที่ได้เห็นใบหน้านี้ นอกจากความสะอิดสะเอียนกับความเกลียดชัง เธอไม่มีความรู้สึกส่วนเกินอื่นๆตั้งนานแล้ว
มาวินรีบเดินเข้าไปใกล้ๆ พยายามจะจับมือของชัชนันท์
แต่ชัชนันท์กลับหลบอย่างรวดเร็ว แล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าว ขมวดคิ้วเล็กน้อย "มีเรื่องอะไรก็พูดมา ไม่ต้องมาแตะตัวฉัน"
"นันท์ ฉันคิดมาอย่างจริงจังแล้ว ไม่ว่าเรื่องทั้งหมดนั้นเธอจะเป็นคนทำหรือเปล่า ฉันก็จะไม่ถือสาหาความ ต่อให้เธอเป็นคนทำ แต่ฉันเคยทำร้ายเธอ จะโดนเธอเอาคืนบ้าง มันก็ไม่เป็นไรหรอก นันท์ เธอให้โอกาสฉันอีกครั้งได้ไหม?" แววตาของมาวินเต็มไปด้วยความร้อนรน
เฮอะ ไอ้คนสารเลวนี่ยังเลวได้อีกใช่ไหมเนี่ย?
"นายคู่ควรงั้นเหรอ?" ชัชนันท์สายตาเย็นชา พูดจบ ก็ดีดเล็บเบาๆเล็กน้อย
การปฏิเสธอย่างเย็นชา ท่าทีที่สูงส่ง ทำให้มาวินรู้สึกไม่คุ้นเคย
"นันท์......เมื่อก่อนเธอไม่ได้เป็นแบบนี้นี่นา" เมื่อก่อนไม่ว่าเธอจะโกรธขนาดไหน แต่เขาพูดเพียงไม่กี่ประโยค ชัชนันท์ก็จะหายโกรธแล้ว
เพียงแต่ตอนนี้ยิ่งชัชนันท์เป็นอย่างนี้ เขายิ่งรู้สึกชอบ ยิ่งอยากครอบครอง
เธอในตอนนี้มีเสน่ห์เหลือเกิน แตกต่างจากสภาพหมูอ้วนเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง!
คนเรามักจะเป็นเช่นนี้ ยิ่งไม่ได้ ก็ยิ่งต้องการ
ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังคุยกัน เสียงรถสปอร์ตก็ดังขึ้นอย่างอึกทึกครึกโครม
รถสปอร์ตสุดหรูรุ่นลิมิเต็ดสิบกว่าคันขับมาถึงด้านหน้าของชัชนันท์
ฉากตรงหน้า ทำให้ชัชนันท์ตะลึงงัน
นี่เกิดอะไรขึ้น?
มาวินก็ตกตะลึงเช่นกัน
ไม่นาน ก็มีชายหนุ่มที่สวมสูทใส่รองเท้าหนัง ประคองช่อดอกไม้เดินลงมาจากรถสปอร์ตของตนเองทีละคนๆ
แค่ลงมาจากรถ พวกเขาก็รีบรุมล้อมเข้ามาที่ข้างกายชัชนันท์ เบียดมาวินออกไปทันที
"คุณชัชนันท์ครับ นี่เป็นดอกไม้ที่คุณชายของบริษัท เจริญ ไวเนอรี่ จำกัดส่งมาให้คุณ เขายังให้ผมบอกคุณว่า เขาชื่นชมคุณมากๆเลยครับ"
"นี่เป็นดอกไม้ที่คุณชายของเฮย์เดย์จิวเวลรี่ส่งมาให้คุณครับ เขาบอกว่าเขาชอบคุณมาก"
"นี่เป็นดอกไม้ที่คุณชายของพาวเวอร์บิวตี้กรุ๊ปส่งมาให้คุณครับ เขาบอกว่าอยากเป็นเพื่อนกับคุณ"
ชายหนุ่มทั้งหลาย รีบร้อนรายงานชื่อและบอกว่าดอกไม้ส่งมาจากตระกูลไหนทีละคนๆ
แต่ละรายชื่อที่ได้ยิน เป็นคนดังในเมืองสินธุ คนบางคนยังชื่อดังทั่วประเทศZด้วย
ไม่รอให้เธอตอบโต้ พวกเขาก็รีบส่งดอกไม้ไปในอ้อมอกของเธอ
รับทั้งหมดไม่ไหว พวกเขาจึงวางไว้บนหินปูพื้นที่พื้นด้านหน้าเธอ
จากนั้นพวกเขาจึงวิ่งขึ้นรถอย่างรวดเร็ว กลัวว่าเธอจะไม่ยอมรับไว้
มาวินตะลึงงันไปเลย บรรดาทายาทคุณชายที่ส่งดอกไม้มาให้ ส่วนหนึ่งในนั้นยอดเยี่ยมกว่าเขาเสียอีก ถึงขั้นมีคนที่วงศ์ดีประสิทธิ์กรุ๊ปเข้าใกล้ไม่ได้ด้วยซ้ำ
ผู้หญิงที่เคยโดนเขาทอดทิ้งราวกับรองเท้าเก่าๆ ตอนนี้กลายเป็นดาวดวงหนึ่งที่เปล่งประกายที่สุดในท้องฟ้ายามค่ำคืนไปแล้ว ซึ่งคนธรรมดาทำได้เพียงแค่แหงนหน้ามอง
มองดอกไม้ในอ้อมอกรวมถึงที่วางอยู่บนพื้น ชัชนันท์จึงมองหน้ามาวิน "คุณมาวิน ตอนนี้จะจีบฉัน ก็ต้องต่อแถว อีกอย่างฉันไม่นำขยะกลับมาใช้ใหม่"
ชลิตาที่หลบอยู่หลังประตู เห็นแต่ละฉากอย่างชัดเจน
คำพูดที่มาวินพูดกับชัชนันท์ หรือฉากของเจ้าหน้าที่ส่งของแทนพวกนั้นมอบดอกไม้ให้ชัชนันท์ ล้วนทำให้เธอต้องกัดฟันด้วยความอิจฉาทั้งนั้น
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มาวินคุยกับชัชนันท์ต่อ เธอจึงรีบเดินมาถึงข้างกายมาวิน พยายามฝืนยิ้ม คล้องแขนของมาวิน "พี่วิน พี่คุยอะไรกับชัชนันท์อยู่เหรอ?"
"เธอไม่ต้องยุ่งหรอก" มาวินดึงแขนออกมา แล้วเดินเข้าไปในบ้านทันที
ท่าทีเย็นชา ยิ่งทำให้ชลิตาหงุดหงิด ถึงขั้นอยากจะถลกหนังของชัชนันท์ออกมาด้วยซ้ำ!
เธอกำหมัดแน่น หันไปมองชัชนันท์ "ฉันเตือนเธอไว้เลยนะ ออกไปห่างๆพี่วินของฉันหน่อย"
ชัชนันท์ขี้เกียจจะสนใจเธอ มองพวกคนทำสวนที่กำลังจัดการสวนดอกไม้อยู่ทางด้านข้าง พูดขึ้น "ดอกไม้พวกนี้เอากลับบ้านไปเถอะ......"
พูดจบ เธอก็ขับมาเซราติของตนเองออกไปอย่างไม่รีรอ
......
ชัชนันท์ขับมาเซราติสีแดงของตนเอง มาจนถึงโกลเด้นสแควร์ ดินแดนสวรรค์แห่งการชอปปิงของเมืองสินธุ
เธอเข้าไปในชอปชาแนลทันที
แค่เข้าไป ชัชนันท์ก็เห็นเสื้อคลุมขนสัตว์สีขาวที่แขวนอยู่บนราว
เธอยื่นมือไปลูบๆเล็กน้อย กำลังคิดจะเรียกพนักงานให้หยิบมาให้เธอลอง แต่จู่ๆมือข้างหนึ่งที่ทาเล็บสีแดงกลับคว้าเสื้อคลุมไว้แน่น
เธอจึงหันไปมองอีกฝ่าย
อีกฝ่ายจะเป็นใครได้ละ นอกจากน้องสาวของมาวิน เพื่อนซี้ของชลิตา
มารีญาลูกสาวคนที่สามของตระกูลวงศ์ดีประสิทธิ์ องค์หญิงน้อยหัวแข็งของตระกูลวงศ์ดีประสิทธิ์ที่ทำให้คนอื่นๆปวดหัวที่สุด
พูดให้น่าฟังหน่อยก็คือไม่กลัวอะไรทั้งนั้น แต่ถ้าพูดแบบแสลงหู ก็คือมีหน้าอกแต่ไม่มีสมองเลย
เพราะมารีญาสนิทกับชลิตามาตั้งแต่เด็กๆ
ดังนั้น เธอจึงไม่ถูกกับตนเองมาโดยตลอด แค่เห็นใบหน้านี้ชัชนันท์ก็เอือมระอา
เห็นชัชนันท์ ใบหน้าที่แต่งแต้มมาอย่างจัดจ้านของมารีญาก็ขรึมลงทันที มุมปากยิ้มเหยียดหยาม "ทำให้พี่ชายฉันกับตาเดือดร้อนขนาดนั้น ไม่นึกว่าเธอยังมีหน้าออกมาอีกนะ?"
"ฉันไม่ได้ทำเรื่องที่ต้องรู้สึกผิดสักหน่อย ทำไมฉันต้องไม่กล้าด้วยล่ะ?" ชัชนันท์ถามกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ
"ทำเรื่องเลวๆแล้วยังปากแข็งอีก วันนี้ฉันจะสั่งสอนเธอแทนพี่ชายฉันกับตาให้สาสมเอง!"
"ตอนแรกเธอขี้เหร่เหมือนหมูอย่างนั้น พี่ชายฉันทิ้งเธอแล้วมันทำไมล่ะ? พี่ชายฉันยอดเยี่ยมขนาดนั้น ชลิตาแย่งไปจะเป็นอะไรล่ะ?"
มารีญากัดฟันพูดออกมาทีละคำๆ สีหน้าดูไม่ได้สุดๆเลย
ชัชนันท์ขี้เกียจจะสนใจเธอ รักษาท่วงท่าที่ตนเองควรมีเอาไว้ ชี้ๆไปที่เสื้อคลุมตัวนั้น "น้อง ช่วยหยิบลงมาให้ฉันลองหน่อย"
ความรู้สึกที่โดนเมินทำให้มารีญาโมโหสุดขีด "นังบ้าไม่นึกว่าจะกล้าเมินฉัน แกมีสิทธิอะไรมาทำอย่างนี้?"
พูดจบ เธอก็ยกมือขึ้นฟาดไปทางใบหน้าของชัชนันท์
แต่ชัชนันท์กลับหลบอย่างคล่องแคล่ว สุดท้ายฝ่ามือยังไม่ทันฟาดลงมา
มารีญากระโจนเข้าไปในที่ว่าง เนื่องจากยืนได้ไม่มั่นคง จึงล้มลงไปที่ชั้นวางสินค้าด้านข้างทันที
ชั่วพริบตา ชั้นวางสินค้าก็ล้มลงมา เสื้อผ้าหล่นกระจายอยู่ที่พื้น ราวแขวนเสื้อผ้าจึงเงียบเหงาวังเวง
คนข้างนอกที่กำลังเดินเล่นกันอยู่ ได้ยินเสียง จึงทยอยๆรวมตัวกันเข้ามา
ตอนนี้พนักงานขายได้นำชุดที่ชัชนันท์ต้องการ ส่งไปบนมือของเธออย่างนอบน้อม
ชัชนันท์รับชุดมา ก็เดินไปที่หน้ากระจกลองทาบชุดดูราวกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น จากนั้นจึงส่งบัตรไปให้พนักงานขาย "รูดบัตรค่ะ"
ราวกับเธอไม่ได้ยิน ไม่ได้เห็น เหตุการณ์ด้านหลังอย่างนั้นเลย
เห็นคนมากมายจับจ้องตนเอง มารีญาจึงรู้สึกเสียหน้าขึ้นมาทันที
แต่เมื่อได้เห็นท่าทีไม่ใส่ใจของชัชนันท์อีกครั้ง ความเดือดดาลในใจของเธอจึงควบคุมไม่อยู่ ไม่สนใจว่าตนเองจะเสียภาพลักษณ์อีกแล้ว เธอลุกขึ้นพุ่งเข้าไปที่ด้านหลังของชัชนันท์อย่างรวดเร็ว "ชัชนันท์ แกบ้าไปแล้วเหรอ?"
ชัชนันท์แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน เดินตามพนักงานไปถึงเคาน์เตอร์คิดเงิน ใส่รหัส เซ็นชื่อ
"ชัชนันท์! แกหูหนวกหรือไง?" มารีญาด่าเสียงดังออกมาอีกครั้ง
เนื่องจากแทนไทกำลังพากลุ่มฝ่ายบริหารของห้างสรรพสินค้า เดินลงมาจากข้างบนอย่างยิ่งใหญ่ จึงเห็นฉากนี้เข้าพอดี ใบหน้าที่หล่อเหลาจึงยิ่งอึมครึม
เสื้อเชิ้ตสีขาวที่รีดจนเรียบกริบ พับแขนเสื้อขึ้นเล็กน้อยเผยให้เห็นข้อมือครึ่งหนึ่ง ปะปนไปด้วยท่าทีเอื่อยเฉื่อยตามอำเภอใจรวมถึงความสูงส่งที่อธิบายไม่ถูก
กางเกงสูทสีดำที่รีดจนไม่เห็นรอยยับแม้แต่นิดเดียว ขับให้เค้าโครงช่วงขาของชายหนุ่มเรียวยาวเป็นพิเศษ
เขาในตอนนี้เหมือนกับเจ้าชายที่เพิ่งเดินลงมาจากงานเลี้ยงที่อลังการของพระราชา ชายหญิงที่เดินผ่านเขา ทุกๆคนอดไม่ได้ที่จะมองเขาซ้ำๆ
เกริกผู้ช่วยที่อยู่ด้านข้างเห็นถึงฉากนี้ หน้าตาตกตะลึงขึ้นมาทันที "นี่ไม่ใช่......"
"ฉันไม่อยากเห็นผู้หญิงที่เหมือนผีคนนี้อีก" แทนไทมองมารีญาอย่างเย็นชา เอ่ยปากเรียบๆ
ทว่าเขากลับไม่ได้หยุดดูนาน แต่พาคนกลุ่มนั้นขึ้นลิฟต์ลงไปข้างล่างอย่างสบายๆ
เกริกจึงกวักมือเรียกรปภ.สองคนที่อยู่ด้านข้าง "ตามผมมา......"
