บทที่ 4 ฉากนี้ทำให้สบายใจสุดๆ (1)
ในวินาทีที่ฝ่ามือฟาดลงมา ชัชนันท์กลับจับมือของเธอเอาไว้แน่น แววตาเย็นชา "ไม่รู้ว่าเธอกำลังเพ้อเจ้ออะไรอยู่"
ได้สบเข้ากับสายตานี้ ชลิตาจึงตัวสั่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
เธอรู้สึกว่าชัชนันท์เปลี่ยนไปแล้ว
แม้ภายนอกของชัชนันท์จะยังเหมือนเดิม แต่ข้างในลึกๆกลับมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ทั้งยังไร้ความเมตตามากขึ้นเช่นกัน
"ชัชนันท์เธออย่าปากแข็งเลย วันนี้ที่เธอแสร้งทำเป็นสบายใจน่ะ จริงๆแล้วเห็นฉันกับคนที่เธอรักที่สุดหมั้นกัน เธอคงเสียใจจนทนไม่ได้แล้วสินะ"
"เธออิจฉาที่ฉันกับพี่วินรักกันถึงได้ทำอย่างนี้กับพวกฉัน นี่เป็นความเกลียดชังเพราะรัก เมื่อเธอไม่ได้ครอบครองถึงได้ต้องการทำลายไงล่ะ"
ชัชนันท์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะออกมา
น่าขำชะมัด เธออิจฉางั้นเหรอ? ผู้ชายกากๆอย่างนั้นคู่ควรงั้นเหรอ?
"หัวเราะอะไร? โดนฉันจี้ใจดำ ถึงได้พูดไม่ออกเลยใช่ไหมล่ะ?" ชลิตาถามขึ้นอีกครั้ง
"ชลิตา ก็มีแค่เธอนี่แหละที่เอาถังขยะมาทำเป็นของล้ำค่า ยังมัวแต่คิดว่าคนทั้งโลกจะอิจฉาเธออีก" เธอรู้สึกว่าชลิตาน่าขำชะมัด
แค่มาวินออกมาจากประตูก็ได้ยินคำพูดเมื่อกี้ของชัชนันท์พอดี ถึงได้เจ็บปวดหัวใจขึ้นมาทันที
ถังขยะงั้นเหรอ?
เมื่อก่อนเธอเห็นเขาเป็นเทพบุตรไม่ใช่หรือไง? เอาแต่บอกว่าในอนาคตจะแต่งงานกับเขา มีลูกให้เขาเยอะๆอยู่ทุกวี่วัน
"เธอก็เสแสร้งไปเถอะ ไม่รู้ว่าเมื่อก่อนใครกันที่เอาแต่ฝันว่าจะแต่งงานกับพี่วิน"
"เธอก็พูดเองนี่นา นั่นมันเมื่อก่อน"
"เธอ......ถึงยังไงฉันก็มั่นใจว่าเรื่องนี้เธอเป็นคนทำ! ถ้าไม่ใช่เพราะอิจฉางั้นก็ต้องเป็นเพราะเกลียดแน่ๆ!"
"งั้นก็เอาหลักฐานออกมาสิ" ชัชนันท์พูดอย่างไม่ใส่ใจ
"ไม่ต้องหาหลักฐานหรอก ตอนนี้ฉันจะบีบคอผู้หญิงโหดเหี้ยมอย่างเธอให้ตาย" พูดๆแล้วก็ทำท่าจะบีบคอของชัชนันท์
แต่ทว่าชัชนันท์กลับหลบอย่างปราดเปรียว เธอจึงกระโจนเข้าไปหาที่ว่าง ข้อเท้าพลิก ทั้งตัวล้มลงไปที่พื้นอย่างแรง เจ็บไปทั้งตัว
"พอได้แล้ว!" มาวินออกปากห้าม รีบเดินมาที่ข้างกายของชลิตา ประคองเธอขึ้นมา แต่สายตากลับอยู่บนร่างของชัชนันท์
สายตานี้ทำให้ชลิตาทั้งอิจฉาทั้งโมโห "พี่วิน ชัชนันท์รังแกฉัน"
"ชัชนันท์ จะดีจะร้ายยังไงเราก็เคยรักกัน แค่กลับมาเธอถึงขั้นต้องจัดการฉันหนักอย่างนี้เลยหรือไง? เราคุยกันดีๆไม่ได้เลยเหรอ?" มาวินหน้าตาไม่พอใจ
"มาวิน นายเห็นหรือว่าได้ยินมาล่ะ? ถ้าไม่มีหลักฐานก็หุบปากไปเลย ฉันไม่ได้ทำหรอก ต่อให้ฉันเป็นคนทำจริงๆ นายมีสิทธิ์อะไรถึงมาถามฉันอยู่ที่นี่?" แค่เธอคิดว่าตัวเองเคยรักผู้ชายอย่างนี้ก็รู้สึกสะอิดสะเอียนแล้ว
พูดจบ ชัชนันท์จึงยกกระโปรงขึ้นแล้วเดินออกไป
มาวินโดนตอบกลับมาจนพูดไม่ออก แต่ละคำที่เธอพูดเมื่อกี้ ล้วนแต่ทำให้เขาหมดหนทางตอบโต้
"มัวเหม่ออะไรอยู่? เรียกคนไปจับหล่อนกลับมาจัดการสิ ต้องเป็นหล่อนแน่ๆ!" ชลิตาพูด
"พอสักที! เธอมีหลักฐานไหมล่ะ? มีสมองบ้างได้ไหม?" เดิมทีความหงุดหงิดในใจของมาวินก็ไม่มีที่ระบายอยู่แล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ ชลิตาจึงกลายเป็นที่ระบายอารณ์ของเขาไปโดยปริยาย
ชลิตาอยากจะตอบโต้ แต่เพียงแค่กระทืบเท้าอย่างแรง แล้วกลืนความโมโหลงไปในท้อง
ตอนที่ชัชนันท์เข้ามาในลิฟต์ นลินก็โทรเข้ามาพอดี
"คุณนันท์ เธออยากได้ร่วมมือกับธันวาตั้งนานแล้วใช่ไหม? เมื่อกี้ฉันเพิ่งได้ข่าวมา สัญญาของเขากับบริษัทเดิมครบกำหนดแล้วทั้งยังไม่ได้วางแผนจะต่อสัญญาด้วย ฉันก็เลยนัดเขาเอาไว้ คืนนี้สองทุ่มที่โรงแรมสวีทดรีม ห้องฝนพรำ"
"เข้าใจแล้ว"
เพิ่งวางสาย สายจากวันชัยก็โทรเข้ามา ในน้ำเสียงปะปนไปด้วยความเย็นยะเยือกเล็กน้อย "นันท์ อีกหนึ่งชั่วโมงกลับบ้าน พ่อมีเรื่องจะคุยกับแก"
......
ตอนที่ชัชนันท์เข้ามาในบ้าน บรรยากาศของตระกูลรัตนากรกุลเต็มไปด้วยความน่าอึดอัด
วันชัยนั่งอยู่ที่โซฟาด้วยใบหน้าดำคร่ำเครียด ส่วนชลิตาคุกเข่าร้องห่มร้องไห้อยู่ที่พื้น
หทัยนั่งที่อยู่ข้างเขา พูดขึ้นอย่างระมัดระวัง
"คุณเชื่อเถอะค่ะว่าที่ตาทำไปเพราะความรักทำให้เธอสติเลอะเลือนไปชั่วขณะ พวกเราค่อยมาซักไซ้เรื่องนี้ทีหลังเถอะนะคะ"
"สิ่งสำคัญในตอนนี้ ชัชนันท์ไม่ใช่คนที่น่าจะทำให้คุณโมโหที่สุดงั้นเหรอ?"
"ต่อให้ตาจะทำไม่ถูก แต่ชัชนันท์ก็ไม่ควรทำเรื่องอย่างนี้ ให้บ้านเราอับอายขายหน้านะคะ" หทัยพูดต่อ
ชัชนันท์มองหทัยอย่างเคยชินกับนิสัยของเธอแล้ว ค่อยๆเดินไปใกล้ๆหทัยแล้วพูดขึ้น "คุณป้าพูดเก่งจังนะคะ การล่อลวงคู่หมั้นของพี่สาว จะใช้ประโยคที่ว่า 'ความรักทำให้เธอสติเลอะเลือนไปชั่วขณะ' มาอธิบายง่ายๆได้เหรอคะ?"
หทัยพูดไม่ออกขึ้นมาทันที
"นันท์ ทั้งหมดนี้แกเป็นคนวางแผนเอาไว้ อย่างที่ชลิตาพูดจริงหรือเปล่า?"
"ถึงเรื่องพวกนั้นที่น้องแกทำจะสมควรได้รับการเหยียดหยามจากคนอื่นจริงๆ แต่ยังไงเรื่องน่าอับอายของครอบครัวก็ไม่ควรแพร่งพรายออกไปนอกบ้านนะ"
"นี่แกไม่เคยคิดเลยเหรอว่าการทำอย่างนี้จะทำให้ตระกูลรัตนากรกุลของพวกเราเสียหน้าน่ะ?" สีหน้าของวันชัยยังคงเคร่งขรึม
เพราะวันนี้เรื่องราวพวกนั้นระหว่างชลิตา ชัชนันท์ และมาวิน ทำให้ตระกูลรัตนากรกุลและตระกูลวงศ์ดีประสิทธิ์กลายเป็นตัวตลกของทั่วประเทศ เขาจะไม่โมโหได้ยังไงล่ะ?
"หนูไม่ได้ทำค่ะ" ชัชนันท์พูดต่อ "พ่อรู้ได้ยังไง ว่าไม่ใช่ศัตรูของวงศ์ดีประสิทธิ์ที่เป็นคนปล่อยออกมา? คนของวงศ์ดีประสิทธิ์นิสัยแย่ขนาดนั้น คงไม่ได้ผิดใจกับหนูแค่คนเดียวหรอกมั้งคะ?"
เห็นสายตาของชัชนันท์ วันชัยกลับรู้สึกว่าเธอไม่เหมือนคนที่กำลังโกหกอยู่
"เธอนั่นแหละ! มันบังเอิญเกินไป! พ่ออย่าไปเชื่อที่ชัชนันท์เพ้อเจ้อนะคะ" ชลิตาตะโกนออกมา
"คุณคะตอนนี้ทางตระกูลวงศ์ดีประสิทธิ์กำลังสืบหาอยู่ เชื่อว่าไม่นานคงรู้ตัวคนเลวที่แฉข้อมูลนี้ออกมา แล้วต้องโดนตระกูลวงศ์ดีประสิทธิ์จัดการอย่างสาสมแน่ๆ" หทัยพูดจบก็มองชัชนันท์ด้วยสายตาเย็นยะเยือก
ชัชนันท์รู้ว่าคำพูดนี้ของหทัยก็พูดให้ตนเองฟังนี่แหละ แต่ใครสนใจล่ะ?
สืบหาเหรอ? พวกเขาจะสืบหาเจอได้ยังไง?
อันที่จริง ข้อมูลพวกนี้ปล่อยออกมาผ่านทางคนในของทวิตเตอร์ พวกเขาจะไปหาจากตรงไหนเหรอ? บัญชีแรกสุดที่เปิดโปงข้อมูลนี้ออกมา ก็ใช้ไอพี แอดเดรสปลอมเช่นกัน
"ชลิตา เธอล่อลวงคู่หมั้นฉัน จงใจวิดีโอคอลมาให้ฉันดูถ่ายทอดสดฉากแนบชิดของพวกเธอ ฉันอุตส่าห์ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเธอแล้วนะ เธออยู่เงียบๆหน่อยไม่ได้หรือไง?" ชัชนันท์พูดต่อ
ได้ยินดังนี้ วันชัยจึงเดือดดาลขึ้นมาทันที "อะไรนะ?"
วันชัยรู้สึกว่าทัศนคติสามด้านของตนเองโดนทำลายลงแล้ว มิน่าล่ะชัชนันท์ถึงหายตัวไปถึงสามปี เห็นเรื่องพวกนี้ด้วยตาตัวเอง ใครจะรับไหว?
"ใช่ แต่ต่อให้เป็นอย่างนี้พี่ก็ไม่ควร......"
"แกหุบปากเดี๋ยวนี้ ถ้ายังพูดอีกประโยคเดียว ฉันจะลงโทษแกตามกฎของครอบครัว" วันชัยด่าออกมาเสียงดัง "ยั่วยวนผู้ชายของพี่สาว แกยังจะมีข้อโต้แย้งอยู่อีกงั้นเหรอ?"
"ไม่เพียงยั่วยวนผู้ชายของพี่สาวเท่านั้นนะคะ ตอนนั้นหลังจากที่หนูคุยวิดีโอคอลเสร็จ หนูก็บุกไปจับชู้ แต่เธอกับมาวินกลับร่วมกันเหยียบท้องของหนู เหยียบหน้าของหนู ปฏิบัติกับหนูอย่างโหดร้าย" ชัชนันท์พูดอย่างเย็นชา
วันชัยยิ่งตกตะลึง! ในใจเจ็บปวดจนแทบจะเสียสติ!
นันท์ของเขา ตอนนั้นเจ็บช้ำขนาดไหนกันนะ? !
เขาคิดไม่ถึงว่า ชลิตากับมาวิน จะโหดร้ายได้ถึงขั้นนี้!
"แน่นอนว่า ไม่เพียงเรื่องพวกนี้......"
พูดจบชัชนันท์ก็หยิบกระดาษหลายแผ่นออกมาจากในแอร์เมสสีดำของตนเอง ส่งไปให้วันชัย
