บทที่ 13 สามีคนนั้นของเธอ
"โว้ย! น่าโมโห!" พูดจบ ชลิตาก็คว้าหมอนที่อยู่ข้างๆ โยนลงไปที่พื้นอย่างแรงราวกับเสียสติไปแล้ว
ชัชนันท์ขึ้นข้างบนไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งหน้าอ่อนๆ จากนั้นก็ขับรถสปอร์ตของตนเอง มาถึงด้านล่างอาคารของXเอนเตอร์เทนเมนท์
Xเอนเตอร์เทนเมนท์ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสินธุในเขตที่เจริญสุดๆ
รูปทรงภายนอกของอาคารดูมีชีวิตชีวา รู้สึกได้ถึงความทันสมัยและมีความเป็นศิลปะ
ผนังกำแพงแทบจะใช้กระจกกึ่งโปร่งแสงทำทั้งหมด
ตัวอาคารมีทั้งหมดสิบหกชั้น ด้านบนสิบสองชั้น ด้านล่างสี่ชั้น
การฝึกซ้อม การดำเนินชีวิต รวมไปถึงการทำเพลงของศิลปินและเด็กฝึกหัดของXเอนเตอร์เทนเมนท์จะอยู่ภายในอาคารนี้ทั้งหมด
ชัชนันท์ลงจากรถ เข้าไปในอาคารทันที
ชุดสูทสีฟ้าอ่อนที่ดูเป็นมืออาชีพ จับคู่กับเสื้อเชิ้ตสีขาว บวกด้วยรองเท้าส้นสูงสีขาว ท่ามกลางความสดใสอ่อนโยนปะปนไปด้วยประสบการณ์ที่มากมาย
ขึ้นลิฟต์ส่วนบุคคลของประธาน ชัชนันท์จึงขึ้นมาถึงห้องทำงานประธานชั้นบนสุดได้โดยตรง
เพิ่งจะนั่งลงไป นลินก็อุ้มเอกสารกองเบ้อเริ่ม เคาะประตูเดินเข้ามา
เธอวางเอกสารทั้งหมดลงไปบนโต๊ะ พูดขึ้น "สองวันนี้ เด็กฝึกหัดที่มาสัมภาษณ์ในบริษัทเรา ทั้งหมดสองร้อยคน ฉันจึงเลือกคนที่คุณสมบัติไม่เลวออกมาห้าสิบคนแล้ว เธอตรวจสอบดูหน่อย ถ้าไม่มีปัญหาจะได้เซ็นสัญญาเลย......"
"ดูจากแนวโน้มนะ ฉันคาดว่าถ้ารอเราปิดรับสมัครอีกหนึ่งเดือน บริษัทเราคงมีคนเยอะขึ้นอีกเป็นร้อยแน่ๆ......" นลินพูด
"อืม เดี๋ยวดู" ชัชนันท์พูด
"คุณนันท์ น้องสาวเธอน่ะ สงสัยวันนี้คงโดนคุณลุงเล่นงานจนยับเยินเลยสินะ?" นลินถามขึ้นอย่างสนอกสนใจ จากนั้นจึงยกเก้าอี้ตัวหนึ่งมาที่ด้านหน้าชัชนันท์ แล้วนั่งลงไป
"ใช่......" ชัชนันท์พูด "เหมือนที่ฉันคิดเอาไว้เป๊ะเลย"
"เธอนี่รู้จักนิสัยชลิตาอย่างทะลุปรุโปร่งจริงๆนะ ที่เธอบอกว่าหลังจากชลิตาได้ยินว่าฉันต้องการเซ็นสัญญาด้วยยัยนั่นต้องคุยโวโอ้อวดแน่ๆ แล้วก็เป็นอย่างที่เธอว่าจริงๆ"
"ตัวท็อปที่กำลังเป็นกระแสอย่างธันวา ข่าวประเภทนี้แค่มีคนรู้เพียงคนเดียว ทั้งยังพูดออกไปอีก ก็ต้องได้รับความสนใจอย่างมาก จนติดอันดับคำค้นหายอดฮิตอันดับหนึ่งอยู่แล้ว" บนใบหน้าของนลินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เรื่องทั้งหมดนี้น่าขำชะมัด
ชัชนันท์ยิ้มบางๆ พูดขึ้น "เพราะฉันกับเธอเข้ากันได้ดีไงล่ะ นลิน จริงๆฉันก็บอกเธอไปหลายรอบมากๆแล้วนะ ตอนที่อยู่กันส่วนตัว เรียกฉันว่านันท์ก็ได้"
เริ่มแรกเธอกับนลินเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยบริดจ์ห้องเดียวกัน เพราะคุยกันรู้เรื่อง จึงกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน
ปีก่อนเธอบอกว่าตนเองอยากก่อตั้งบริษัทXเอนเตอร์เทนเมนท์ภายในประเทศ นลินจึงไม่ลังเลสักนิดที่จะล่วงหน้ากลับมาก่อตั้งบริษัทก่อน
ทั้งยังยืนอยู่หน้าสุด เพื่อดำเนินการตามคำสั่งของเธอที่อยู่เบื้องหลัง
ตอนที่รอเธอกลับมา นลินได้มอบบริษัทเอนเตอร์เทนเมนท์ที่สุกงอม พร้อมจะเจริญก้าวหน้าแห่งหนึ่งให้แก่เธอ
สำหรับเธอแล้ว นลินเป็นเพื่อนสนิท และเป็นเพื่อนร่วมสนามรบที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่มาด้วยกัน
"เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาน่าเบื่อ ฉันเรียกคุณนันท์มาคุ้นแล้ว"นลินบอก
"ช่างเถอะ"
"คุณนันท์ เธอว่าสามีคนนั้นของเธอจะเป็นคนแบบไหนกันแน่?"
ชัชนันท์ส่ายหัว สำหรับทุกเรื่องของเขา เธอไม่รู้อะไรเลย
บนโลกใบนี้ น่าจะไม่มีคนที่สองอย่างเธอหรอก ขนาดจดทะเบียนสมรสยังไม่ต้องไปถึงสถานที่ด้วยตนเองเลย
เรื่องราวทั้งหมดของเธอกับสามีของเธอคนนั้น ถ้าพูดออกไปคาดว่าคงไม่มีใครเชื่อหรอก
ในค่ำคืนหนึ่งเมื่อสามปีก่อนที่เกือบจะตายอยู่แล้ว ตอนนั้นเธอได้รับการช่วยเหลือจากคีรีหมอประจำตัวของตระกูลรัตนากรกุล
คืนวันนั้น คีรีขับรถผ่านมา เห็นเธอที่โดนหิมะหนาๆปกคลุมอยู่พอดี จึงพาตัวเธอมาที่โรงพยาบาลทันที
หลังจากเธอฟื้น เขาบอกเธอว่า เขาเป็นศาสตราจารย์อยู่ที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์ประเทศY ได้ช่วยเธอตามหายอดฝีมือผู้มีประสบการณ์ ที่จะสามารถรักษาอาการป่วยของเธอจนเจอแล้ว
ทั้งยังบอกเธอว่า อีกฝ่ายเป็นแพทย์แผนจีนซึ่งเป็นคนจีนที่ไปตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เมืองสุวรรณของประเทศY คนในพื้นที่ต่างเรียกเขาว่าหมอเทวดา เพียงแต่ตอนนี้เขาไม่รักษาโรคให้ใครแล้ว
ดังนั้นเธอจึงขอที่อยู่ของหมอเทวดาจากคีรี แล้วรีบมุ่งหน้าไปที่เมืองสุวรรณประเทศYภายในคืนนั้นเลย
แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับปิดประตูไม่ยอมพบหน้า
เพื่อให้เขารักษาตนเอง เธอจึงคุกเข่าอยู่หน้าคฤหาสน์ของเขาสามวันสามคืนเต็มๆ
จนกระทั่งเกือบจะหมดสติ อีกฝ่ายถึงได้ออกมาพบเธอ ทั้งยังพาเธอเข้าไปตรวจชีพจร ตรวจเลือดในคฤหาสน์ของเขาด้วย
จากนั้น อีกฝ่ายถึงบอกว่าจะรักษาโรคของเธอ แต่เธอต้องทำตามเงื่อนไขหนึ่งของตนเอง
เงื่อนไขก็คือ: หลังจากเธอรักษาตัวจนหายดี ต้องแต่งงานกับหลานชายของเขา และภายในระยะเวลาสามปีห้ามหย่าขาดจากกัน ภายในช่วงเวลาที่ยังแต่งงานกันอยู่ห้ามนอกใจหักหลังกันเด็ดขาด
เพื่อให้ได้ใบหน้าเดิมกลับคืนมา เธอจึงตอบตกลงในทันที
เธออาศัยอยู่ในบ้านของเขา รักษาตัวไปด้วย เรียนหนังสือไปด้วย
หนึ่งปีให้หลังอาการป่วยของเธอดีขึ้น เขาจึงขอบัตรประชาชนของเธอ และคืนวันนั้นเขาได้ให้ทะเบียนสมรสที่ไม่มีรูปถ่ายแก่เธอ เอามาให้เธอดู
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้พวกเขาหย่า หลังจากเธอดูเสร็จ เขาจึงเก็บทะเบียนสมรสเดินออกไปเลย......
ตอนนี้เธอจำได้แค่ว่า สามีของเธอชื่อแทนไท
ส่วนรายละเอียดต่างๆที่เขาทำอะไร หน้าตาเป็นยังไง ตนเองไม่รู้สักนิด
หลังจากนั้นหมอเทวดาก็บอกว่าตนเองจะถ่ายทอดวิชาความรู้ตลอดทั้งชีวิตของเขาให้แก่เธอ
ดังนั้นเธอถึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์ เรียนรู้วิชาทางการแพทย์จากเขา
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้เธอกับสามีของเธอไม่มีปฏิสัมพันธ์ใดๆกันเลย
เธอแต่งงานเพียงแค่ในนาม แต่ความเป็นจริงเธอกลับไม่ได้แตกต่างจากสาวโสดสักนิด
สามีไม่มาเจอเธอ เธอกลับชอบที่ได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ ทุกวันอยากทำอะไรก็ทำ รอคอยให้เวลาผ่านไปอย่างสงบ แล้วค่อยหย่ากัน
"เธอว่าสามีคนนั้นของเธอ......ไม่ยอมมาเจอเธอ เป็นเพราะหน้าตาแย่สุดๆหรือเปล่า?"
"หรือว่า เขา้เป็นคนพิการ? หรืออาจจะเป็นเจ้าชายนิทรางั้นเหรอ?"
"หรือคนไข้ป่วยหนัก? ที่ตอนแรกเขาให้เธอแต่งงาน ก็เพื่อจัดงานมงคลขจัดความอัปมงคลในครอบครัวหรือเปล่า?" นลินพูดหยอกเย้า
"ไม่รู้น่ะสิ ถึงยังไงก็เหลืออีกปีเดียวฉันถึงจะหย่าได้ ถึงเวลานั้นพอหย่ากันก็จบแล้วแหละ" ชัชนันท์พูดอย่างไม่กังวล ท่าทีไม่ใส่ใจ
"อือ นั่นก็จริง อ้อใช่สิคืนนี้เธอทำตัวว่างๆไว้นะ" จู่ๆนลินก็ท่าทางจริงจังขึ้นมา
"มีอะไรเหรอ?" ชัชนันท์ถามขึ้นอย่างสนใจ
"ฉันเจอเด็กหนุ่มงานดีที่บาร์ไม่ลาน่ะ ว่าจะพาเธอไปเจอหน่อย"
"เจ้าหนุ่มนั่นหล่อดี เป็นพวกหล่อๆเถื่อนๆ มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์มากๆ ฉันสืบถามมาแล้ว ตอนนี้เขายังไม่ได้เซ็นสัญญากับบริษัทไหน" นลินพูดต่อ
"โอเค......"
......
ในบาร์ตอนดึกดื่น คนมากมายเบียดเสียดกัน เพลงแดนซ์ที่ดีเจเปิดเสียงดังสะเทือนหู จังหวะคึกคักราวกับกำลังเคาะอยู่บนหัวใจของผู้คน
กลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่คละคลุ้งอยู่ในอากาศ ชายหญิงที่กำลังสนุกสุดขีดอยู่บนฟลอร์เต้นรำ เอาแต่โยกร่างกายตามเสียงเพลงอย่างควบคุมไม่ได้
ชัชนันท์กับนลิน ทั้งสองคนเข้ามาแล้วก็ไปที่โซนที่นั่งหาตำแหน่งที่อยู่ใกล้กับเวทีแสดงให้มากที่สุด นั่งลงไป
เนื่องจากรีบร้อนออกมา ทั้งสองคนจึงไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อเป็นเช่นนี้เธอสองคนถึงได้โดดเด่นที่สุดในบาร์
เพราะแสงไฟนีออนที่เจิดจ้า สลับกันสาดไปที่ใบหน้าของเธอสองคน ยิ่งขับให้พวกเธอโดดเด่นกระแทกตาเป็นพิเศษ
คนที่อยู่ในโต๊ะข้างๆก็สนุกสนานกันอย่างเต็มที่ บรรดาชายหญิงพวกนั้น ส่งเสียงโหวกเหวกดังลั่น
ชัชนันท์จึงมองไปทางด้านข้างโดยสัญชาตญาณ
ในวินาทีนั้น หัวใจของเธอก็บีบตัวแน่นขึ้นมาทันที
เธอเห็นชายหนุ่มมาเฟียคนนั้น คนที่เคยนอนกับตนเอง นั่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มชายหญิงที่กำลังสนุกสุดเหวี่ยง
ตอนนี้เขากำลังดื่มค็อกเทลสีฟ้าอ่อนด้วยท่าทีผ่อนคลาย ใบหน้าที่ราวกับแกะสลักเอาไว้เต็มไปด้วยความนิ่งเฉย
โต๊ะของเขา ข้างๆผู้ชายทุกคนจะมีสาวสวยคนหนึ่งนั่งอยู่ด้วย ยกเว้นเขาที่นั่งอยู่คนเดียว
ดวงตาคู่นั้นของเขาก็กวาดสายตามาทางเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เธอตัวสั่นขึ้นมาทันที ความทรงจำที่น่าอับอาย กรอกเข้ามาในหัวอีกครั้ง
