
บทย่อ
“แค่คิดว่าจะมีใครสักคนเห็นเขมแก้ผ้า แอ่นก้นให้เฮีย เฮียก็เสียวแทบแตกแล้วเขม” เขมมิกาไม่รังเกียจที่ดนัยณุมีความวิปริตแบบนี้ แรกๆ เธอก็กังวล อาย อยากจะเอาปี๊บคลุมหัว ทว่าความวิปริตของดนัยณุกลับทำให้เธอซ่านกระสันจนถึงที่สุดของอารมณ์ เธอไม่รู้ว่าใครจะเห็นฉากรักโจ๋งครึ่มหรือเปล่า แค่คิดว่าจะมีคนเห็น น้ำหวานก็เอ่อนองจนฉ่ำแฉะ เธออดคิดไม่ได้ว่าที่แท้ตัวเองก็มีความวิปริตไม่แพ้ดนัยณุเหมือนกัน************“ใช่ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณสี่” ลัดจันทร์มองเวฆินทร์เต็มตา โอยยยย เขาหล่อจัง ใบหน้าหล่อเหลาขาวสะอาด ดวงตาคมยาวรีอยู่ใต้แว่นสายตาเลนส์บาง แพขนตาดกหนาเหยียดยาว จมูกโด่งสูง ริมฝีปากได้รูปสีสด มีเครานิดๆ ตรงปลายคาง สาเหตุที่เธอไม่อยากสบตาเขาก็เพราะแบบนี้ เธอเคยเห็นเขาครั้งหนึ่งจากรูปถ่ายในหน้าหนังสือพิมพ์ที่แม่เคยให้ดู ในหนังสือพิมพ์ยังไม่หล่อเท่าตัวจริง เขาทั้งหล่อ ทั้งสูง ตัวไม่หนาเตอะ แต่ก็คงจะแน่นเต็มกล้ามเนื้อ แก้มเธอร้อนซู่ยามที่สบตาเขา “อย่ามองฉันแบบนั้นลัดจันทร์ ถ้าเธอไม่อยากเสียใจทีหลัง”************** “สาเป็นดีไซเนอร์ค่ะ” “ออกจากงานนั่นซะ ส่วนโทร.หาครอบครัวก็ยังโทร.ได้เหมือนเดิม” “หมายความว่าไงคะ” งานดีไซเนอร์เป็นงานที่เธอรัก ถ้าต้องเลิกทำเอามีดมากรีดใจเธอเลยดีกว่า “เธอต้องอยู่กับฉันจนกว่าฉันจะพอใจ” อิทธิพลรูดซิปกางเกงเรียบร้อยแล้วนั่งไขว่ห้างกอดอกเฉย “แต่สาต้องทำงานนะคะ” “เธอได้เงินเท่าไหร่ ฉันจ่ายให้เท่านั้น แต่งานใหม่ของเธอคือการนอนกับฉัน ห้ามไปไหน” เขาจะขังลืมเธอหรือไง ศลิสาจะทนได้ไหมล่ะ
ร่านกลิ่นรัก /1
เขมมิกา กัลป์ยาศิลป์ หยุดปลายเท้าชะงักอยู่ที่หน้าประตูห้อง 1505 เพื่อตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้ายหลังใช้ความคิดและความรู้สึกควบคู่กันไปในระหว่างที่ลิฟต์จะขึ้นมาถึงชั้นที่ 15 ของคอนโดหรูบนถนนสายธุรกิจซึ่งมีราคาที่ดินแพงระยับ เธอยกมือขึ้นกดออดที่ติดอยู่ด้านขวาแล้วหยุดรอด้วยใจเต้นระทึก การตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญเหมือนดังเช่นทุกครั้งที่เธอต้องเจอเขา
ดนัยณุ ภักดีอุรารมย์ เขาคือผู้ชายที่เธอสูญเสียกำลังใจทุกครั้งยามเจอหน้า หัวใจมักจะสั่นคลอนราวกับแผ่นดินไหว 7.8 ริกเตอร์ ดวงตาคมของคนอวดดีที่มีดีให้อวดเป็นเหมือนเครื่องพันธนาการหัวใจของเธอให้อยู่หมัด ริมฝีปากค่อนข้างหนาหยักลึกร้อนระอุดุจไฟเผา เป็นเครื่องรางชั้นดีที่เธอร่ำหาทุกครั้งยามสิ้นหวัง รสจูบของเขาแฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่มีรสชาติอันโอชะ และอวัยวะที่ซ่อนอยู่ในนั้นช่างเต็มไปด้วยพิษสงยิ่งกว่างูเห่า ไม่ใช่แค่กัดและตาย แต่ยังดิ้นเร่าด้วยความทรมานที่ทำให้เลือดเดือดพล่าน
เธอกลั้นใจเมื่อประตูเปิด ร่างสูงตระหง่านในสภาพเพิ่งจะตื่น หัวหูยุ่งเหยิง สีหน้าไม่สบอารมณ์ แต่แววตาแจ่มจรัสทันทีที่เห็นเธอ ดนัยณุยิ้มออก ไม่คิดว่าเขมมิกาจะอยู่ตรงหน้าประตูแต่เช้า นี่สวรรค์ปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมามีความสุขรับอรุณสินะ ถึงส่งเขมมิกามายืนอยู่ตรงหน้าตั้งแต่ไก่โห่
“อรุณสวัสดิ์เขม ถ้ารู้ว่าเขมจะมาแต่เช้า เฮียจะรีบตื่นให้เร็วกว่านี้”
“10 โมงแล้ว ยังใช้คำว่าอรุณสวัสดิ์ได้อีกหรือคะเฮียเก้าถ้าเขมรู้ว่าวันนี้เฮียจะตื่นสาย เขมจะไม่มารบกวนแต่เช้าแบบนี้หรอกค่ะ”
ดนัยณุเปิดประตูออกกว้างแล้วเบี่ยงตัวเปิดทางให้เขมมิกาเข้าไปข้างใน เขมมิกาเหลือบตามองกางเกงบ็อกเซอร์ผ้ายืดลายทางขาวดำนิดหน่อย เธอเมินตาหลบแต่แอบลอบยิ้มแล้วยิ้มกว้างขึ้นเมื่อทิ้งสะโพกลงนั่งบนโซฟาเดี่ยว
“รบกงรบกวนอะไรกันเขม ระหว่างเราไม่น่าจะใช้คำนั้นแล้วนะ”
ดนัยณุเปิดตู้เย็นหยิบเบียร์กระป๋องออกมาแล้วเปิดดื่ม ก่อนจะยื่นอีกกระป๋องให้หญิงสาว แล้วเดินไปยืนริมหน้าต่างกระจกบานยาว
“ยังไงเฮียเก้าก็มีพระคุณกับเขม ถ้าไม่ใช้คำนั้นแล้วจะให้เขมใช้คำว่าอะไรล่ะคะ”
เขมมิกาดื่มเบียร์กระป๋องอึกยาวๆ เธอตวัดขาขึ้นมาไขว่ห้าง กระโปรงนักศึกษาร่นขึ้นสูงอวดเรียวขาขาวผุดผาด ดนัยณุตวัดตามองชุดนักศึกษารัดรูปแล้วเกิดอาการคอแห้งผาก เขาไม่เคยพิศวาสนักศึกษาทุกสถาบันด้วยความเคารพสถาบันการศึกษาอันทรงคุณค่า แต่กับเขมมิกาเขาไม่เคยห้ามใจตัวเองได้เลย
สายตาโลมเลียจาบจ้วงตั้งแต่หัวจรดเท้าปั้นรอยยิ้มหวานๆ ของเขมมิกาได้ฉับพลัน เธอมาที่นี่เพื่อการนี้ มาเพื่อยั่ว มาเพื่อปลุกปั่น มาเพื่อสนองตัณหา และมาเพื่อ...สนองความคิดถึง
“ต้องการอะไรรึเขม”
เขมมิกายิ้มหวานกระดกเบียร์พรวดเดียวหมดกระป๋อง เธอดื่มเบียร์ไม่บ่อยมากนัก ดื่มเป็นกระสัยแค่กระป๋องสองกระป๋องแค่นั้น พอเลือดสูบฉีดหน้าตาร้อนผะผ่าวแดงระเรื่อขึ้นแล้ว กระป๋องเบียร์เปล่าก็ถูกวางบนโต๊ะ
ดนัยณุโลมเลียเรือนร่างอวบอิ่มด้วยวัยสาวอย่างไม่คิดจะครองความเป็นสุภาพบุรุษ เขากับเธอจบกันด้วยเรื่องบนเตียงมาหลายต่อหลายครั้งตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เขาหิวกระหายในตัวเธอ ทรวงอกคู่นั้นแทบจะผลิดันเสื้อนักศึกษาให้กระดุมขาดผึง เขารู้ดีว่าในนั้นซุกซ่อนอะไรเอาไว้มากมาย พันธุ์เนื้อนมไข่คงจะเหมาะกับคำจำกัดความเป็นเธอมากที่สุด
“พ่อกับแม่ของเขมเหนื่อยมาจนแก่แล้ว เขมไม่อยากเห็นพ่อกับแม่ต้องเหนื่อยอีก ถ้าพ่อกับแม่เลิกทำนาได้ก็ดี”
“เขมอยากได้อะไรบอกเฮียมาตรงๆ ดีกว่า”
เขมมิกาเดินไปเกาะกระจกมองลงไปเบื้องล่าง เธอคิดดีแล้วที่มาหาเขา ดนัยณุเป็นคนเดียวที่จะช่วยเธอได้เหมือนที่เขาช่วยเหลือเกื้อกูลเธอมาตลอด 2 ปี แม้จะแลกด้วยร่างกาย การเมคเลิฟที่ร้อนแรงแผดเผา เมื่อจบสิ้นอะไรที่เธอต้องการเธอจะได้มันกลับไป
ที่ผ่านมาเขมมิกาไม่เคยขออะไรมากมายนอกจากเงินค่าเทอม ค่ากิจกรรม ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ซึ่งอย่างหลังสุดเธอก็ได้เป็นรายเดือน เดือนละ 20,000 บาท ซึ่งก็นับว่าไม่น้อยเลย แต่จนบัดนี้เธอกำลังจะเรียนจบ อีกไม่กี่วันก็สอบเทอมสุดท้าย เธอเคยคิดว่าเมื่อเรียนจบเธอจะไปจากเขา ในเมื่อความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นไม่มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง การจากลาก็ไม่ได้ยากเกินจะทำ
มันก็แค่...เจ็บจี๊ดๆ ลึกตรงขั้วหัวใจ!
แต่เรื่องไม่ได้จบง่ายๆ เมื่อได้คุยกับพ่อวันก่อนแล้วรู้ว่าแม่เป็นลมระหว่างดำนาข้าวที่เช่าที่คนอื่นทำ เขมมิกาก็ถึงกับนอนไม่หลับอยู่หลายคืน จนตัดสินใจจะมาขอความช่วยเหลือจากดนัยณุในวันนี้
“เขมอยากให้พ่อกับแม่เลิกทำนา เขมอยากให้เฮียเก้าช่วย”
“แล้วเขมอยากให้พ่อกับแม่ทำอะไรล่ะ ถ้าไม่ทำนาแล้วมีความคิดว่าจะทำอะไรต่อไป หรืออยากให้อยู่เฉยๆ”
“ไม่ค่ะ พ่อกับแม่เขมไม่ใช่คนชอบอยู่เฉยๆ เขมอยากมีร้านมินิมาร์ท อยากให้พ่อกับแม่ค้าขาย มันไม่น่าจะเหนื่อยเท่าทำนา”
