1เห็นแก่ตัว
ตอนที่1
เห็นแก่ตัว
รินรดานั่งมองภาพถ่ายของเธอกับสามีในวันแต่งงานที่ติดอยู่บนผนังภายในคอนโดใจกลางเมือง ตอนนี้เลยเวลานัดมาเกือบ 3 ชั่วโมงแล้วแต่ทิวากรก็ยังไม่กลับมา เธอเข้าใจดี ศัลยแพทย์แบบเขาคงจะงานยุ่งมากจนแทบจะหาเวลาปลีกตัวมาไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็น้อยใจที่สามีไม่มีเวลาให้กับเธอเลยในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา
ความสัมพันธ์ของสามีภรรยาเริ่มห่างเหินขึ้นเรื่อยๆในความรู้สึกของเธอ แม้ว่าสามีจะยังคงเหมือนเดิมเสมอต้นเสมอปลายตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ แต่รินรดารู้สึกว่าสิ่งที่เธอต้องการมันยังไม่ถูก เติมเต็มเสียที
หญิงสาวรินรดาอยากมีลูก แต่ทุกวันนี้ทิวากรไม่มีเวลาที่จะทำเรื่องแบบนั้นด้วยซ้ำ เขาเป็นหมอ เป็นศัลยแพทย์ที่มีงานล้นมืออยู่ตลอดเวลา เธอจึงได้แต่เฝ้ารอ รอวันที่เขาจะมีเวลาให้กับเธอบ้าง
วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงาน แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่กลับมาทั้งที่นัดเธอเอาไว้แล้ว หญิงสาวยิ้มในตาเศร้า เขาก็เป็นแบบนี้ทุกปีแต่ทำไมเธอถึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกน้อยใจ
ใช่ว่ารินรดาไม่ยินดีที่ทิวากรเป็นหมอที่มี ความรับผิดชอบ ทุ่มเทกับงาน ขยันหาเงินเพื่อ ความมั่นคงของชีวิตคู่ แต่เธอก็อยากให้เขาแบ่งเวลามาให้เธอบ้าง เพราะชีวิตของเขาไม่ได้มีแต่งาน ยังมีเธอเป็นภรรยายืนอยู่ตรงนี้อีกคน
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แต่หญิงสาวไม่ได้รับสายในทันที การที่เขาโทรมาเธอก็พอจะรู้ว่าคืนนี้เขาคงจะไม่กลับมา
เป็นอย่างที่เธอคิดไว้ไม่ผิด ทิวากรติดเคสผ่าตัด เขาขอโทษเธอ ก่อนวางสายไป ทิ้งให้หญิงสาวนั่งมองเชิงเทียนและอาหารที่เธออุตส่าห์ตั้งใจทำด้วยความรู้สึกเศร้าใจ
รินรดาพยายามที่จะปรับความคิดของตัวเอง สามีของเธอเป็นหมอเขามีหน้าที่มีความรับผิดชอบ เธอควรจะรู้สึกยินดีกับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็อดเศร้าใจไม่ได้ แม้แต่วันสำคัญเขาก็ไม่มีเวลาให้เธอ
ชายหนุ่มกลับมาอีกครั้งช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้น เขารู้สึกเหนื่อยล้ามาก งีบที่โรงพยาบาลไปได้แค่ ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น เมื่อกลับมาถึงคอนโดเขาก็หลับยาวจนถึงเย็น
รินรดาออกไปทำงานตั้งแต่เช้า เธอเป็นหัวหน้าแผนกอยู่ที่บริษัทนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งหนึ่ง ในแต่ละวันงานก็รัดตัวไม่แพ้ทิวากรเลย เพียงแต่ว่างานของเธอมีเวลาเข้าและออก ไม่ได้ลากยาวเหมือนสามี
หญิงสาวเดินทางกลับมาที่คอนโด ซื้ออาหารติดไม้ติดมือมาด้วยเพราะคิดว่าชายหนุ่มน่าจะกลับมาถึงแล้ว ทิวากรนั่งอยู่ที่โซฟา เมื่อเห็นภรรยาเดินเข้ามาเขาก็สอดมือถือเก็บไว้ใต้เบาะ
คุณหมอตรงเข้ามาสวมกอดภรรยา เขารู้สึกว่าเธอยังขุ่นเคือง ดูจากใบหน้าที่ไม่เปื้อนยิ้มเหมือน ทุกๆวัน
“ผมขอโทษนะริน พอดีหมอนัดลูกป่วย ตรงนั้นก็ไม่มีใครเลยนอกจากผม อย่าโกรธเลยนะ วันนี้เรามาฉลองด้วยกันใหม่ดีไหม”
“ค่ะ”
หญิงสาวตอบแค่เพียงสั้นๆ ยื่นส่งถุงอาหารให้คนรักก่อนที่เขาจะนำไปจัดใส่จาน สองสามีภรรยานั่งเคียงข้างกัน รินรดานั่งกินอาหารเงียบๆไม่ได้พูดคุยกับชายหนุ่มมากนักเพราะยังรู้สึกน้อยใจอยู่ ส่วนทิวากรก็พยายามเอาอกเอาใจและง้อหญิงสาวอยู่ตลอดเวลา
“ผมมีเรื่องสำคัญบางอย่างอยากจะคุยกับคุณ”
ศัลยแพทย์แบบเขาทำงานหนักแถมยังไม่มีความก้าวหน้า ทำงานงกๆอดหลับอดนอนแต่เงินเดือนก็ยังเท่าเดิม ทิวากรอยากสร้างฐานะที่มั่นคงกว่านี้ เพื่อที่เขาจะได้ทำงานน้อยลง มีเวลาให้คนรักมากขึ้น
เขาจึงได้คิดจะทำบางสิ่งบางอย่าง เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง และเพื่อความสุขของรินรดา ขอเพียงแค่เธอเข้าใจและอนุญาต เขาสัญญาว่าจะดูแลเธอให้ดีที่สุด
“อะไรหรือคะ”
ชายหนุ่มจับมือหญิงสาว เขาไม่รู้ว่าเธอจะคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากสำหรับผู้หญิงคนนึง
“คุณเห็นใช่ไหมว่าผมทำงานหนักมาก และผมก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้ตลอดไป ผมอยากมีรายได้มากกว่านี้ โดยที่ตัวผมไม่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ”ชายหนุ่มเกริ่น
“ความจริงชีวิตของพวกเราในตอนนี้มันก็ไม่ได้ยากลำบากอะไร เงินเดือนคุณกับฉันรวมกันก็เยอะอยู่นะคะ อีกอย่างเราสองคนก็มีเงินเก็บพอสมควรแล้ว”
รินรดารู้ว่าสามีของเธอเป็นคนทะเยอทะยาน หญิงสาวคาดเดาไม่ได้เลยว่าเขาคิดจะทำอะไร แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นสายตาของเขาที่มองมา
“คืออย่างนี้นะ ผมรู้ว่าสิ่งที่เราเป็นอยู่ในตอนนี้มันดีมากแล้วหากเทียบกับคนอื่น แต่ผมอยากมีเวลาให้คุณมากกว่านี้ คุณรู้ใช่ไหมว่าที่ผมทำงานหนักทุกวันนี้ก็เพื่อเงิน แต่ผมคิดว่าผมน่าจะสามารถทำอย่างอื่นที่ได้เงินเยอะกว่านี้และมีเวลามากขึ้น”
“แล้วอะไรล่ะคะที่คุณอยากจะทำ”
“คุณใจเย็นๆแล้วฟังผมนะ มีคนๆนึงเสนอเงินทุนให้กับผม เพื่อเป็นทุนสร้างโรงพยาบาล แต่ว่าผมต้องหมั้นกับเขา”
คิ้วหญิงสาวขมวดเข้าหากัน เธอย้ำถามอีกครั้งเพราะคิดว่าตัวเองอาจจะหูฝาด
“อะไรนะคะ”
“ผมต้องหมั้นกับเขา เพราะผมอยากได้เงินทุนมาสร้างโรงพยาบาลของตัวเอง”
หญิงสาวแค่นหัวเราะ ดึงมือออกจากมือของเขา
“ผู้หญิงคนนั้นรู้หรือเปล่าคะว่าคุณแต่งงานแล้ว”
ชายหนุ่มส่ายหน้า รินรดารู้สึกผิดหวังในตัวเขามาก ไม่คิดว่าความทะเยอทะยานของทิวากร จะทำให้เขามีความคิดที่ผิดเพี้ยนแบบนี้
“คุณรู้ใช่ไหมว่าสิ่งที่คุณทำอยู่มันไม่ต่างอะไรจากการหลอกลวง”
“แต่ผมอยากมีฐานะที่มั่นคงกว่านี้ เราสองคนได้ประโยชน์ทั้งคู่ ไม่เห็นจะมีอะไรเสียหาย”
“คุณบ้าไปแล้วหรือคะ มันจะไม่เสียหายได้ยังไง สิ่งที่คุณทำมันคือการหลอกลวง ถ้าผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าคุณแต่งงานแล้วและไปหลอกหมั้นกับเขาเพื่อเอาเงิน คุณคิดว่าเขาจะยอมเหรอคะ”
หญิงสาวเตือนสติสามีแต่ดูจากแววตาของเขาแล้วคงกู่ไม่กลับ บางทีเรื่องนี้ทิวากรอาจวางแผนไว้นานแล้ว ดีไม่ดีแผนการของเขาอาจจะกำลังดำเนินอยู่ เพียงแต่ก่อนหน้านั้นเขาไม่ได้บอกให้เธอรู้
หญิงสาวไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ทิวากรกำลังทำ นอกจากจะทำร้ายจิตใจภรรยาอย่างเธอแล้ว เขายังหลอกลวงผู้หญิงอีกคน
รินรดายอมไม่ได้ เธอไม่ต้องการให้สามีเลือกเดินเส้นทางผิด
“คิดดูอีกทีเถอะนะคะเพราะฉันไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้”
