บทที่2 เจ้าแมวน้อยตามมาด้วยหรือ
ชูเม่ยยกข้าวต้มมาให้บุตรสาว พอหยางชินเห็นก็มองถ้วยข้าวต้มตาปริบๆ เพราะในถ้วยมันมีแต่น้ำส่วนเม็ดข้าวหาไม่เจอ หยางชินรู้ว่าที่บ้านลำบาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะลำบากถึงขนาดนี้ นางเลยจำใจต้องยกถ้วยมากินเพราะเห็นมารดามองด้วยความเป็นห่วง พอกินน้ำข้าวต้มหมดแล้วก็ยังมีถ้วยที่มีน้ำสีดำยกมาวางไว้ตรงหน้า.
"กินข้าวต้มแล้วก็กินยาสมุนไพรสะหน่อยนะลูกได้ดีขึ้น" พอหญิงสาวรู้ว่านี่คือยาสมุนไพรที่มารดาหามาต้มให้บุตรสาว แต่จะไม่กินก็ไม่ได้อีก พอดีมารดาเรียกไป๋หมิงออกไปเพื่อไปกินข้าวต้มนางเลยได้โอกาสเอายาดำไปเททิ้งนอกหน้าต่าง นางทำใจดื่มยาดำนี้ไม่ได้จริงๆ.
นางเคยอ่านพวกนิยายจำพวกข้ามมิติหรือกลับชาติไปเกิดใหม่อะไรพวกนั้น แต่ไม่คิดว่ามันจะมีอยู่จริง ว่าแต่ทำไมมันถึงได้ข้ามมิติมาอยู่ในครอบครัวจนขนาดนี้กัน แล้วนางซึ้งทำอะไรไม่เป็น ล่าสัตว์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แล้วจะเอาชีวิตรอดได้ยังไงกัน สกิลอะไรก็ไม่มี ลองพยายามนึกถึงมิติก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย เห้ออ
นอนไปอีกสักพักก็รู้สึกเบื่อ ตอนนี้นางเหมือนอาการจะดีขึ้นมากเลยกะจะลองเดินออกจากห้องไปหามารดาและน้องๆ สภาพบ้านไม่ถึงกับโทรมมาก เพราะยังแข็งแรงแต่ก็ถือว่าเก่าแหละ มารดาและน้องๆ ใส่เสื้อผ้าที่ค่อนข้างเก่า นางเลยก้มมองสภาพตัวเอง.
มือผอมและเล็กมาก ส่วนเสื้อผ้าก็มีสภาพไม่ต่างจากคนอื่น ทำไมมันถึงได้อัตคัดขนาดนี้
"ชินเอ๋อออกมาทำไมกันลูก?" ชูเม่ยเห็นบุตรสาวเดินออกมาจากห้องก็ถามด้วยความตกใจ?
ข้ารู้สึกดีขึ้นมากแล้วเจ้าค่ะ เลยออกมา"
"งั้นลูกก็อยู่เฝ้าน้องนะแม่จะไปดูพ่อเจ้าหน่อย"
พอมารดาเดินหายเข้าไปในห้องที่บิดานอน
"พี่ใหญ่ ท่านปวดหัวเหรอเจ้าคะ" หลินหลานเอ่ยถามพี่สาว
"ทำไมเหรอ" นางไม่ได้รู้สึกปวดหัวสะหน่อย
"ก็ข้าเห็นพี่นั่งขมวดคิ้วอยู่ตลอดเวลา เลยคิดว่าพี่ใหญ่ยังปวดหัวนี้เจ้าค่ะ" น้องสาวคนกลางเอ่ยด้วยความเป็นห่วงพี่สาว
"พี่แค่ยังมึนๆ นะ แต่ไม่เป็นอะไรมาก นั่งอยู่เป็นเพื่อนพวกเจ้าได้" พูดแล้วก็ยิ้มให้น้องๆ อย่างผูกมิตร
"ท่านแม่ พี่ใหญ่มึนหัวเจ้าค่ะ"
พอชูเม่ยออกมาบุตรสาวทั้งสองก็รีบรายงานว่าพี่สาวยังไม่หาย
"อ้าว....งั้นเข้าไปนอนพักก่อนลูก นั่งนานเดี๋ยวไข้กลับมาจะแย่เอา"
หยางชินเลยต้องจำใจโดนน้องๆ จูงเข้าไปนอนในห้อง ตอนแรกพวกนางก็นั่งเฝ้าผู้เป็นพี่สาว แต่พักใหญ่ก็ล้มตัวนอนข้างๆ พี่สาวหลับกลางวันด้วยความเคยชิน หยางชินมองน้องๆ ด้วยความขำขัน ไหนตอนแรกบอกว่าจะนั่งเฝ้านางไง ผ่านไปแค่หนึ่งจิบชา(10นาที)ก็หลับสะแหละ
"เหมี่ยววว" ในขณะที่หยางชินนอนคิดอะไรเพลินๆ ก็ได้ยินเสียงแมวร้อง นางเลยหันมองหาต้นเสียง แมวสีเปรอะโดดขึ้นมานั่งข้างๆ มองหญิงสาว
นี่มันแมวที่อยู่หน้าร้านไม่ใช่เหรอ นางจำได้ตอนที่ถูกยิงนางอุ้มเจ้าแมวตัวนี้ไว้และมันก็ได้ตายพร้อมกับนาง ตัวเดียวกันเหรอ หญิงสาวมองมันแล้วคิดอย่างสงสัย มันจะตามมาด้วยได้ไง แปลกเกินไปแล้ว
"เป็นเจ้าหรือเปล่า เจ้าเหมียว" ถามไปงั้นแหละ แมวมันจะรู้เรื่องได้ไง หญิงสาวตบหน้าผากตัวเองแล้วหัวเราะ
แต่อยู่ๆ เจ้าแมวก็เอาขาหน้ามาสะกิดมือหญิงสาว นางเลยก้มมอง มันก็ยังใช้เท้าหน้าสะกิดมือเหมือนให้นางยื่นมือให้มัน หญิงสาวเลยยื่นมือให้ มันก็เอาเท้าหน้ามาวางตรงฝ่ามือ อยู่ๆ หญิงสาวก็รู้สึกเจ็บตรงฝ่ามือ
"เจ็บนะ..'เจ้าทำอะไรนะ?' พอเอาฝ่ามือมาดูก็เห็นเป็นรอยแดงเป็นรูปเท้าแมวตรงกลางฝ่ามือ
เจ้าแมวก็ปีนขึ้นมาที่ตักแล้วเอาเท้ามาถูตรงรอยแดง แล้วร้านค้าในภพที่แล้วก็ปรากฏให้เห็น
'นี้มันอะไรกัน?' "เหมี่ยววว" เจ้าแมวร้องแล้วก็เอาตัวถูหญิงสาว
"เจ้าข้ามมาด้วยจริงสินะ? ข้ามีเพื่อนร่วมชะตาแล้ว" ไหนลองนึกถึงของที่อยู่ในร้านสิ 'นมเปรี้ยว'
แล้วในมือนางก็มีขวดนมเปรี้ยวปรากฏให้เห็น
'ดีเลย แบบนี้นางกับครอบครัวก็ไม่อดตายแล้ว' เพราะในร้านค้ามีของกินเยอะเลย
ไหนลองนึกถึงร้านค้าสิ พอนางนึกถึงอยู่ๆ ตัวเองก็เข้าไปยืนในร้านค้า นางเลยปล่อยเจ้าแมวแล้วเดินดูรอบๆ แล้วเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง ทุกอย่างเหมือนตอนภพที่แล้วหมด แล้วน้ำวิเศษละ? ไหนลองเดินออกไปนอกบ้านสิ
หญิงสาวเลยลองเปิดประตูกระจกหน้าร้านแล้วเดินออกไปดู ไม่เห็นมีอะไรเลย แล้วอยู่ๆ เจ้าแมวก็เอาเล็บมาข่วนที่นิ้วจนนางเลือดออก "เจ้าทำอะไรนะ" พูดจบพร้อมกับเลือดที่หยดลงพื้น แล้วอยู่ๆ นางก็เห็นพื้นที่โล่งมีที่เพาะปลูก แต่น้อยมาก ความกว้างแค่ไม่ถึงร้อยตารางวาด้วยซ้ำ มั้ง แต่ยังดีมีบ่อน้ำเล็กๆ อยู่ตรงกลาง
"น้ำนี้เป็นน้ำวิเศษมั้ยเจ้าเหมียว?" เจ้าแมวน้อยพยักหน้าตอบรับ
"จริงเหรอ?"แบบนี้ก็รักษาท่านพ่อของร่างนี้ให้หายได้สินะ" แมวน้อยพยักหน้าตอบอีกครั้ง
หยางชินเลยเดินไปที่บ่อน้ำแล้วตักน้ำขึ้นมาดื่มกิน ดื่มแล้วก็รู้สึกได้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลง จากที่ตอนแรกยังมึนๆ เหมือนไม่มีแรง ตอนนี้รู้สึกโล่งเบาสบายตัว เจ้าแมวก็ทำท่าเหมือนอยากดื่มด้วย หยางชินเลยใช้มือตักน้ำให้มันดื่ม พอมันดื่มแล้วก็เห็นชัดเลยว่าขนมันดูเป็นเงาสวยงามอย่างเห็นได้ชัด
พอเดินดูรอบๆ แล้วทั้งคนและแมวก็กลับออกมาจากมิติ น้องสาวของร่างนี้ยังพากันหลับ หญิงสาวกำลังนั่งคิดว่าจะเอาของในร้านค้าออกมาได้ยังไงโดยที่มารดาไม่สงสัย
และในขณะที่หยางชินกำลังคิดอะไรเพลินๆ ก็พลันได้ยินเสียงเรียกจากนอกบ้าน
"ใครอยู่ในบ้านบ้าง?"
หยางชินเลยเดินออกไปดูว่าใครเรียก แล้วก็ได้เห็นคนอุ้มมารดาเดินมาอย่างรีบร้อน
"เกิดอะไรขึ้นเจ้าค่ะ!?"
"มารดาเจ้าล้มแล้วกลิ้งลงเขานะ ข้าเลยพานางมาส่ง" จูเหมิงที่เป็นพรานป่าเหมือนกันได้ตอบ
"นางปวดท้องมาก อาจจะกำลังจะคลอดก็ได้"
"งั้นรบกวนพี่เหมิงพามารดาข้าเข้าไปวางในบ้านได้มั้ยเจ้าค่ะ"
"ได้สิ"
ว่าแล้วก็อุ้มคนท้องเข้าไปนอนในห้องที่หมิงฟงนอนอยู่
"ขอบคุณท่านพี่เหมิงเจ้าค่ะ"
"ไม่เป็นไร คนกันเองทั้งนั้น มีอะไรก็วิ่งไปบอกข้ากับมารดาได้นะ" เขารู้ว่าครอบครัวนี้กำลังลำบาก แต่ก็จนใจไม่รู้จะช่วยอย่างไร
"ขอบคุณมากเจ้าคะ" พอมารดานอนลงก็เอามือกุมท้องตลอด
จูเหมิงเห็นว่าไม่สมควรเลยถอยกลับออกไปปล่อยให้เป็นหน้าที่สตรี
"ท่านแม่เป็นเช่นไรบ้างเจ้าค่ะ"
"ชินเอ๋อ... ..ไปต้มน้ำร้อนเตรียมไว้ให้ลูก..แม่อาจคลอ..ดน้อง" ชูเม่ยบอกบุตรสาว "ตอนนี้นางนอนข้างๆ สามีที่ขยับตัวไม่ได้ แต่ยังมีความรู้สึก เขาได้แต่มองภรรยาคู่ทุกข์ แต่ไม่อาจช่วยอะไรได้เลย
"เจ้าปวดมากมั้ย" เสียงแหบของสามีถามขึ้น
"ข้าทนได้เจ้าค่ะ คลอดลูกมาตั้ง 3 คนแล้ว คนนี้ไม่เท่าไร" นางบอกให้สามีคลายความกังวล เพราะนางหกล้มก้นกระแทกอย่างจัง ทำให้เจ็บท้องอย่างมาก ทั้งๆ ที่กำหนดคลอดยังเหลืออีกเกือบเดือน
หยางชินเดินถือถ้วยน้ำมา "ท่านแม่ ดื่มน้ำก่อนนะเจ้าค่ะ" นางเอาน้ำจากบ่อในมิติมาให้มารดาดื่มเพื่อช่วยให้นางหายปวดท้อง
ชูเม่ยพอดื่มน้ำที่บุตรสาวนำมาให้ก็รู้สึกสบายตัว แต่ก็ยังปวดท้องเหมือนเดิม
หลิงหลานเดินถืออ่างน้ำอุ่นมาให้
ไป๋หมิงได้แต่นั่งร้องไห้จนหยางชินต้องไปกอดน้องสาวไว้
"หมิงเอ๋อ ไม่ร้องนะเด็กดี" แล้วหญิงสาวก็หยิบอมยิ้มมาให้น้องสาวอมเพื่อหยุดร้องไห้
แล้วชูเม่ยก็ปวดท้องอยู่เช่นนั้นนานถึง 2 ชั่วยาม (4ชั่วโมง)หยางชินก็หมั่นคอยป้อนน้ำในมิติให้ดื่มตลอด
"อึ๊บบบบบบ" นางรู้จังหวะ พอรู้สึกหน่วงๆ ก็เบ่งคลอด พอสักพักก็คลอดบุตรชายตัวจ้อยออกมา
"แง๊..."เสียงเด็กน้อยร้องออกมา
หยางชินทำอะไรไม่ถูก เพราะนางไม่เคยเห็นการคลอดมาก่อนไม่ว่าจะคนหรือสัตว์
"ชินเอ๋อพาน้องล้างตัวได้มั้ยลูก?"เสียงชูเม่ยที่เบาและแหบบอกบุตรสาวคนโต
หยางชินตาโต นางไม่เคยอุ้มเด็กมาก่อนแถมตัวยังจิ๊ดเดียว ถ้าเกิดทำตกละ แต่ถ้านางไม่ทำใครจะทำละ เลยต้องยกอ่างมาวางข้างๆมารดาได้ไม่ต้องยกไกล นางล้างตัวให้น้องชายไปมือก็สั่นไปเพราะกลัวทำน้องตก พอล้างตัวเสร็จก็เอาผ้าห่อตัวน้องแล้ววางข้างๆมารดาอย่างโล่งอกว่าไม่ทำน้องตกพื้น
แล้วหยางชินก็ต้องอุ้มน้องชายหลบเพราะมารดาบอกจะคลอดรก หญิงสาวไม่เข้าใจว่าอะไรคือรกแต่มารดาให้อุ้มน้องหลบนางก็ทำตามจนมารดาคลอดรกออกมาเรียบร้อยแล้วจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แล้วทำความสะอาดเตียงก่อนจะให้บุตรสาวนำน้องมาให้เพราะนางจะได้ป้อนนม
"ทังแม่หายเจ็บยังเจ้ากะ"ไป๋หมิงที่นั่งอยู่กับหลิงหลานมีอมยิ้มกันคนละอันอมเอ่ยปากถามมารดาที่ตอนนี้กำลังให้นมน้องชาย
"แม่หายเจ็บแล้วลูกหมิงเอ๋อเด็กดี ส่วนชินเอ๋อเก่งมากเลยลูก"เอ่ยปากชมบุตรสาวคนโต ถ้าไม่ได้บุตรสาวชวยนางก็ลำบากเหมือนกันถึงบุตรสาวจะทำท่าตกใจตอนอุ้มน้องล้างตัว
หยางชินนึกอะไรขึ้นมาได้เลยตัดสินใจบอกบิดามารดา
"ท่านพ่อท่านแม่ ตอนที่ลูกไม่สบายลูกฝันเจ้าคะ ในฝันมีท่านเทพมาช่วยลูกให้หายป่วย แถมยังมีของวิเศษให้ลูกด้วยนะเจ้าคะ"
"จริงเหรอลูก! แล้วท่านให้ของอะไรกับลูกละ?"ชูเม่ยถามไปงั้นเองเพราะคิดว่าบุตรสาวเพียงฝันไป
"มีมิติเจ้าค่ะ แถมในนั้นยังมีของกินของใช้มากมายด้วย ยังมีบ่อน้ำวิเศษที่จะช่วยรักษาท่านพ่อให้หายได้ด้วยเจ้าค่ะ" ไม่พูดเปล่านางยังหยิบแพมเพิสเด็กแรกเกิดออกมาให้มารดาดู
ชูเม่ยที่ตอนแรกไม่คิดอะไรแต่พอเห็นบุตรสาวคนโตหยิบของมาจากอากาศก็ตกใจ
"ชินเอ๋อ..ลูกทำได้เช่นไรกัน?" หมิงฟงหันมองตกใจเช่นกัน
"ข้าบอกแล้วอย่างไร เจ้าค่ะ ว่ามีท่านเทพช่วยไว้ ต่อไปนี้เราจะไม่ลำบากแล้ว เจ้าค่ะ" พูดจบก็หยิบน้ำดื่มจากมิติให้บิดาดื่ม
"ท่านพ่อดื่มให้หมดถ้วยนะ เจ้าค่ะ มันจะช่วยท่านได้" หมิงฟงทำตามที่บุตรสาวบอก เขาดื่มน้ำที่บุตรสาวยื่นให้ พอน้ำผ่านลำคอก็รู้สึกได้ว่าตัวเบา แต่จะเจ็บตรงบาดแผลที่ขาและที่หลังอยู่มาก แต่พอทนได้?
