ตอนที่ 2
ฮวาเจินเดินเข้าห้องที่หญิงชราเลื่อนเปิดให้อย่างต้อนรับ หลังจากก้าวพ้นประตูก็ปิดลง ฮวาเจินคุกเข่าช้าๆ โน้มลงคำนับ ‘ฮิเมโกะ’ หญิงวัยกลางคนผู้งามสง่าที่สวมชุดกิโมโนอมยิ้มบางๆ จับพู่กันเขียนบางอย่างลงบนสาส์น
“ฮวาเจิน…” น้ำเสียงอบอุ่นเอ่ยขึ้น
“เจ้าค่ะ” คนฟังตอบรับพร้อมเงยหน้าวางมือลงบนหน้าขาอย่างสุภาพ
“สิ่งที่เราจะกล่าวต่อไปนี้ อยากให้เจ้าไตร่ตรอง เราไม่ต้องการการบังคับเพียงแต่อยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แด่เจ้า เจ้าเองเป็นดั่งหลานสาวที่เราอบรมเลี้ยงดูมาตั้งแต่เยาว์วัย นี่ไม่ใช่การตอบแทนบุญคุณแต่เป็นทางเลือกที่สำคัญสำหรับเจ้า”
“เจ้าค่ะ” ฮวาเจินมองหน้าฮิเมโกะด้วยความฉงน
“เราจะยกเจ้าให้ตบแต่งกับคาชิระบุตรชายของเรา ศักดิ์ของคาชิระคือองค์ชายไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าท่านโชกุนเท่าไหร่นัก อีกทั้งคาชิระยังหนุ่มแน่นไร้คู่ครอง ถึงเวลาแล้วที่ลูกเราต้องมีหญิงข้างกาย” ฮิเมโกะวางพู่กันลงม้วนสาส์นมองหน้าฮวาเจินที่มีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด “เรารู้ว่าเจ้าไม่ได้ต้องการสิ่งนี้ แต่นี่คือสิ่งเดียวที่จะปกป้องเจ้าได้ เจ้าจะหลุดพ้นจากยามะเป็นคนลั่วหยาง จงนำสิ่งที่เสนอไปไตร่ตรอง เราจะรอฟังคำตอบในยามสาย อีกไม่นานคาชิระจะมาถึง”
“ท่านหญิง…” ฮวาเจินได้แต่มองหน้าหญิงวัยกลางคนอย่างพูดอะไรไม่ออกภายในหนักอึ้งเหมือนเห็นแสงสว่างที่มาพร้อมหอกเสียบเข้ากลางอก
“เราเชื่อว่าเจ้าจะดูแลบุตรชายเราได้เช่นเดียวกับคาชิระที่จะปกป้องรักเจ้าเพียงผู้เดียว”
“เจ้าค่ะ” ฮวาเจินโน้มตัวลงคำนับก่อนหมุนตัวเดินออกจากห้อง เหลือบมองหญิงรับใช้มากมายที่นั่งคำนับอยู่หน้าห้อง ชิงหรงยืนพิงต้นไม้ด้านนอกเหลือบมองสบตาฮวาเจินที่ค่อยๆ ก้าวขาเดินลงอย่างช้าๆ
“คุณหนู” ชิงหรงเดินเข้ามาประคองแขนฮวาเจินที่ก้าวขาช้าลงคล้ายจะหมดแรง
“ไม่ว่าจะเลือกสิ่งใด ก็ต้องจากที่นี่อยู่ดี”
“ข้าน้อยจะเฝ้าติดตามคุณหนูตราบสิ้นแรงลมหายใจเจ้าค่ะ”
“ขอบใจนะ” สิ้นเสียงฮวาเจินก็หมดสติจิตดับวูบโดยมีชิงหรงแบกพากลับห้อง
ดวงจันทร์ลับตาอาทิตย์ลอยขึ้นสว่างแยงตาเสียงวิ่งวุ่นวายเข้าออกห้องห้องหนึ่ง ฮวาเจินมองสาวใช้นั่งออรอรับใช้ถืออ่างใส่น้ำคนละมือ ชะเง้อมองด้านในที่มีชายชุดดำเดินออกมาก่อนเดินจากไปอย่างไม่พูดจา
“ฮวาเจิน…” เสียงฮิเมโกะดังลอดออกมาเรียกฮวาเจินที่ยืนอยู่หน้าห้อง
“เจ้าค่ะ”
“เข้ามานี่สิ”
“เจ้าค่ะ” ฮวาเจินตอบรับก่อนเลื่อนประตูเข้าไปแล้วเลื่อนปิดช้าๆ หมุนตัวคุกเข่าคำนับฮิเมโกะพลางเหลือบมองร่างที่นอนแน่นิ่งเส้นผมสีขาวดุจหิมะทำฮวาเจินแปลกใจมองหน้าฮิเมโกะทันที
“นี่แหละคาชิระ บุตรชายของเรา หากสกัดพิษไม่ทันคงเข้าสู่ขั้วหัวใจ”
“เจ้าค่ะ” ฮวาเจินชำเลืองมองร่างชายหนุ่มผู้งามสง่าครองเส้นผมสีขาวดุจหิมะแม้แน่นิ่งก็ยังคงสง่าผ่าเผยก่อนหมุนตัวรีบเลื่อนประตูออกวิ่งลงไปที่ครัวทันที ฮิเมโกะมองตามก่อนจับแขนชายหนุ่มที่นอนสลบด้วยรอยยิ้ม ฮวาเจินควานหาสมุนไพรมาดมทีละอย่างก่อนเด็ดใส่หม้อต้ม สักพักจึงรีบตักยาต้มใส่ถ้วยเดินเข้ามาหาฮิเมโกะพร้อมยื่นถ้วยยาให้
“สมุนไพรแก้พิษเจ้าค่ะ”
“เราฝากลูกเราด้วยนะ” ฮิเมโกะฉีกยิ้มก่อนลุกขึ้นเดินผ่านฮวาเจินออกไปพร้อมเลื่อนประตูปิด ฮวาเจินมองตามอย่างประหม่าใจแล้วเหลือบมองชายหนุ่มผมขาวตรงหน้าที่นอนหมดสติ ฮวาเจินขยับเข้ามานั่งลงข้างร่างที่แน่นิ่งก่อนตัดสินใจเอื้อมมือประคองคอป้อนยาในถ้วยช้าๆ
อึก!
คาชิระหรือลี่ซื่อหมิงบุรุษสองเชื้อชาติผู้ครองเส้นผมสีขาวสำลักยาออกมา ฮวาเจินวางถ้วยยาค่อยๆ วางคอชายหนุ่มลงสู่หมอนแล้วเดินไปหยิบผ้าสะอาดในตู้ด้านหลังมานั่งลงเช็ดปากให้อย่างเบามือ
“เจ้า... อย่า...ไป…” เสียงละเมอของชายหนุ่มทำหญิงสาวถอยห่างหมุนตัวกลับ มือขวาของลี่ซื่อหมิงดึงแขนฮวาเจินไว้ทันทำให้นางเซตามแรงของชายหนุ่มล้มลงอยู่ในอ้อมแขน ลี่ซื่อหมิงพลิกตัวกระชับโอบกอดฮวาเจินให้หยุดนิ่ง
“ใจข้าเจ็บปวด...ยิ่งนัก” คำพูดของชายหนุ่มทำฮวาเจินขยับยื้อแขนดึงออกลุกขึ้นมองชายที่หลับตาสนิทเพราะพิษบาดแผลจึงรีบถือถ้วยเปล่าลุกขึ้นเดินออกมาด้านนอกแต่ต้องชะงักอีกครั้งเมื่อชุฟุยื่นชุดฮากามะสีดำให้
“ท่านหญิงบอกว่าให้คุณหนูดูแลคุณชายเจ้าค่ะ”
“แต่ว่า…”
“คุณหนูต้องตบแต่งกับคุณชาย ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ” ชุฟุคะยั้นคะยอยื่นชุดให้ฮวาเจินรับไว้อย่างจำใจก่อนเดินกลับเข้าไป ประตูเลื่อนปิดทันทีจากชุฟุ ทำฮวาเจินสะดุ้งเล็กน้อยมองร่างชายหนุ่มอย่างลำบากใจ แต่ก็ต้องจนใจทำก้าวขาเดินไปลงข้างชายหนุ่มอีกครั้งพร้อมวางชุดลงที่ด้านข้างค่อยๆ เอื้อมมือปลดสายคาดเอวชายหนุ่มออกทีละชิ้นสลับกับสวมเสื้อใหม่ให้แล้วจับร่างหนาประคองนั่งก่อนวางตัวลงช้าๆ ลมหายใจผ่อนยาวเมื่อเลื่อนสายตามองเบื้องล่าง ความกระอักกระอ่วนใจครอบงำฮวาเจินจนต้องหลับตาปลดผ้าช่วงล่างของชายหนุ่มออกก่อนควานหาผ้าใหม่สวมใส่แทนที่ ฮวาเจินผ่อนลมหายใจโล่งเมื่อถึงขั้นตอนสุดท้ายรัดสายคาดเอวเป็นอันเสร็จจึงรีบหันมาเก็บชุดที่ถูกถอดลุกขึ้นเดินออกไปทันที
ลี่ซื่อหมิงค่อยๆ ลืมตาฟื้นขึ้นมองทั่วห้องก่อนลุกนั่งคิดทบทวนขมวดคิ้วเอียงมองประตูเลื่อนออกฮิเมโกะเดินเข้ามานั่งลงข้างๆ เอื้อมมือแตะหน้าผากผู้ฟื้นเบาๆ
“การปรุงยาของฮวาเจินช่างดียิ่งนัก”
“ท่านแม่ ลูกมาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร แล้วแคว้นฉีเล่า”
“ชายารัชทายาทปราดเปรียว ฉลาด เก่งกาจ เจ้าควรพักผ่อนนะคาชิระ”
“ไม่ ท่านแม่”
“ขัดคำสั่งแม่รึ” ฮิเมโกะมองหน้าลี่ซื่อหมิงก่อนยกชายแขนเสื้อซับน้ำตาหันหน้าไปทางอื่น ลี่ซื่อหมิงมองผู้เป็นแม่อย่างหนักใจ
“ลูกไม่ไปก็ได้”
“คาชิระ…” ฮิเมโกะหันกลับมาจับมือลี่ซื่อหมิงอย่างหนักแน่น “แม่อยากให้เจ้าพบฮวาเจิน”
“ฮวาเจิน…” ลี่ซื่อหมิงขมวดคิ้วนิ่งมองหน้าผู้เป็นแม่อย่างไม่อยากจะเข้าใจ “ท่านแม่…”
“ลองพบกันสักครั้ง แม่เชื่อว่านางจะดูแลเจ้าได้ดี เป็นตัวแทนแม่ที่ลั่วหยาง”
“ท่านก็รู้ว่าหัวใจของลูกไม่อาจรักใครได้อีก”
“ยังไงซะฮวาเจินก็ต้องกลับไปเป็นฮูหยินของเจ้า”
“ลูกไม่ยอมรับ” ลี่ซื่อหมิงลุกพรวดเดินไปหน้าประตู
“คำสั่งยามะเจ้าไม่อาจปฏิเสธได้”
“ตามใจท่านแม่ แต่หัวใจลูกไม่มีทางยอมรับ” ลี่ซื่อหมิงยื่นคำขาดกระชากประตูเลื่อนออกมองหญิงรับใช้ในชุดกิโมโนแล้วเดินออกไปอย่างหัวเสีย
