บทที่ 9
เมื่อวางสายจากแอนนา มากิก็ตัดสินใจว่าจะไปพบกษิดิศ ดีด้วยความคิดถึงที่มีต่อชายหนุ่มนั้นมากเหลือเกิน เธอรักเขา แม้ตลอดเวลาที่คบหากันนั้นกษิดิศไม่เคยบอกรักเธอเลยก็ตาม ถึงตอนนี้ความกลัว ความน้อยใจก็พ่ายแพ้ต่อความคิดถึง และโหยหา ระยะเวลาที่ห่างกัน ทำให้มากิคิดได้ว่า ไม่มีใครทำให้เธอมีความสุขได้เท่ากษิดิศอีกแล้ว ถึงเขาจะเย็นชาแต่เรื่องบนเตียงนั้นกลับร้อนแรง ทำให้หญิงสาวรวบรวมความกล้าทั้งหมด โทรศัพท์ไปหาชายหนุ่มหวังว่าจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่กลับติดต่อเขาไม่ได้
“มากิไม่ยอมให้เป็นแบบนี้นะเรย์ ไม่ยอม” สีหน้าของมากิแสดงออกถึงความกังวลคิดไปต่างๆ นานาว่าชายหนุ่มคงเกลียดเธอแล้วจริงๆ แต่เธอจะง้อขอคืนดีให้จงได้ แม้จะไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อนก็ตามที เธอจะง้อเขาให้กลับมาหลงใหลเธออีกครั้ง แต่เมื่อติดต่อกษิดิศไม่ได้ มากิก็คว้ากระเป๋าแล้วตัดสินใจจะไปหาชายหนุ่มที่บ้าน เป็นไงเป็นกัน
แต่มากิก็สวนทางกับชายหนุ่ม เมื่อป้าอ้วนบอกว่ากษิดิศเข้าบริษัท หญิงสาวจึงตามไปแต่ก็สวนกันอีกเป็นครั้งที่สอง เนื่องจากเขาออกไปดูงานที่คอนโดมิเนียม ถึงจะพบตัวยากแต่นางแบบสาวก็ไม่ละความพยายาม วันนี้เธอตั้งใจว่าต้องเจอหน้ากษิดิศให้จงได้ ไม่ว่าจะมีอุปสรรคมากมายแค่ไหนก็จะไม่ถอย หญิงสาวขับรถไปยังโครงการคอนโดมิเนียมของชายหนุ่ม เมื่อมาถึงก็มองหาเขาผ่านแว่นกันแดดยี่ห้อดัง พอมองเห็นหลังของกษิดิศ อยู่ไกลๆ มากิก็ฉีกยิ้มออกแล้วเดินตรงเข้าไปหา แม้เขาจะไม่ได้อยู่ตามลำพังก็ตามที
“เจอตัวจนได้” ขณะพูดก็คล้องแขนชายหนุ่มแน่น คล้ายกลัวว่าเขาจะหายตัวไป พร้อมทั้งส่งยิ้มให้เหมือนกับก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“มากิ มาที่นี่ได้ยังไงครับ” กษิดิศค่อนข้างแปลกใจที่วันนี้ได้พบมากิ แถมยังเป็นที่ไซต์งานของเขาเสียด้วย
“คิดถึงนะสิค่ะ ถึงได้มาหา” น้ำเสียงหวานๆ เอ่ยบอก พร้อมทั้งรอยยิ้มที่ส่งมาให้ เมื่อเห็นกษิดิศยิ้มตอบใจของมากิก็ชื้นขึ้นมาก ถ้ารู้ว่ากษิดิศยังคงเป็นกษิดิศคนเดิมแบบนี้ เธอจะไม่หลบหน้าเขาเลย มากิเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น หญิงสาวเป็นนางแบบมืออาชีพที่หลายคนคุ้นหน้า
กษิดิศพยักหน้าให้ลูกน้องกลับไปทำงานต่อได้ ซึ่งทุกคนก็รู้หน้าที่ พากันปลีกตัวหลบฉากออกไปทันที ก่อนที่ชายหนุ่มจะหันมาสนใจผู้หญิงที่เกาะแขนเขาแน่นในตอนนี้
“ไม่ได้พบกันหลายเดือน มากิสบายดีไหม” น้ำเสียงที่เอ่ยถามยังคงเป็นปรกติ เพราะยังไงกษิดิศก็คิดว่ามากิคือเพื่อนคนหนึ่ง จะว่าไปเมื่อก่อนเขาควงกับหญิงสาวออกหน้าตา แต่ไม่ได้บอกถึงความสัมพันธ์ที่แน่ชัด ซึ่งมากิเองก็ไม่ได้ถามว่าเขากับเธอเป็นอะไรกันแน่ เป็นแค่เพื่อนที่ขึ้นเตียงได้หรือเป็นคนรักที่รู้ใจกัน คำว่ารักไม่เคยหลุดออกจากปากเขา แต่ความสัมพันธ์ครึ่งๆ กลางๆ ก็จบลง เพราะมากิเอ่ยปากขอเลิกกับเขาเอง
“พักร้อนค่ะ ทำงานแบบนี้ไม่ไหวจริงๆ สงสัยต้องเลิกเป็นนางแบบซะที” ขณะพูดก็ยักไหล่ให้คล้ายไม่ใยดี แต่จริงๆ แล้วมากินั้นรักอาชีพนี้มาก รักเพราะงานนี้เป็นงานสบาย มีแต่คนเอาอกเอาใจ
“งานนางแบบนี่ มีพักร้อนได้ด้วยเหรอ” กษิดิศส่ายหน้าให้ ก่อนจะเดินไปยังห้องตัวอย่าง ซึ่งสร้างไว้ให้ลูกค้าได้ชม ในนั้นยังมีห้องทำงานส่วนตัวของชายหนุ่มอยู่ด้วย โดยที่มากิก็ยังเกี่ยวแขนเขาตามไปไม่ปล่อย
“มีสิค่ะ”
เมื่อมาถึงห้องส่วนตัวของเขา แทนที่มากิจะนั่งบนเก้าอี้ เธอกลับเลือกที่จะนั่งบนตักของกษิดิศแทน แม่บ้านที่ตระเตรียมน้ำเย็นๆ มาให้คนทั้งคู่เห็นภาพนั้นเข้าก็ก้มหน้างุด แทบจะทำถาดในมือหล่นพื้น ก่อนจะรีบวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะแล้วกลับออกไปโดยอาการก้มหน้าก้มตา แต่พอพ้นประตูห้องข่าวเรื่องนี้ก็แพร่สู่หูคนอื่นอย่างกับนักข่าวซีเอ็นเอ็น
“ว่าแต่เรย์ไม่สงสารมากิเหรอที่กำลังจะตกงาน แบบนี้แล้วจะมีคนใจดีมาเลี้ยงดูมากิบ้างหรือเปล่านะ” หญิงสาวเอ่ยแฝงความนัย มองมายังกษิดิศตรงๆ เพราะเธออยากพูดว่า ต้องการมาเป็นคุณผู้หญิงบ้านมาร์โคมากกว่า แต่ก็ไม่กล้าจะเอ่ยแบบนั้นออกไป ได้แต่แสดงออกให้ชายหนุ่มเห็น
“หิวหรือยัง ผมจะได้พาไปทานข้าว”ชายหนุ่มถามตามประสาเพื่อนที่ดีต่อกันเขาขยับตัวลุกขึ้น รั้งให้หญิงสาวลุกตาม แต่มากิกลับยื้อตัวไว้แล้วโน้มตัวเข้าใกล้ชายหนุ่มมากขึ้น จนอกอวบภายใต้ชุดรัดรูปเสียดสีกับแผงอกของกษิดิศ วิธีนี้เธอเคยใช้ได้ผลเพราะเพียงไม่กี่นาทีชายหนุ่มจะรั้งเธอเข้าไปทำตามใจที่เขาต้องการ
“หิว…แต่...” มือบางของมากิลูบไล้ผิวหน้าสากๆ เพราะไรหนวดที่ดูดีมีเสน่ห์ของชายหนุ่ม ก่อนที่เธอจะโน้มตัวลงไป หวังจูบเขาให้สมกับความคิดถึง ใกล้เพียงสัมผัสลมหายใจ แต่กษิดิศกลับเบี่ยงหน้าหลบ ท่าทางที่ชายหนุ่มแสดงออกมา ทำให้มากิออกอาการเหวอ เพราะไม่คิดว่าจะถูกปฏิเสธ
“ทำไมคะเรย์ คุณไม่คิดถึงมากิเลยเหรอ หรือยังโกรธที่มากิพูดแบบนั้นกับคุณตอนอยู่โรงพยาบาล มากิบอกเลิกก็เพราะน้อยใจและกลัวว่าคุณจะโกรธ เพราะมากิเป็นคนพาคุณไปที่นั่น” พูดจบน้ำตาก็พรั่งพรูออกมาประหนึ่งสั่งได้ กษิดิศลอบถอนหายใจออกมาหนักๆ “มากิคิดถึงคุณใจจะขาด เรย์รู้ไหมว่าเรื่องวันนั้นทำให้มากิรู้สึกผิดมาตลอด จนไม่กล้ามาสู้หน้า คุณเลย แต่สุดท้ายมากิก็ทนคิดถึงคุณเพราะรัก” พูดไปก็สะอึกสะอื้นไป
“มากิ!”
