Chapter.1 ลงมือเอง
"น้องอยู่ไหนครับ "
"ข้างบนลูก แม่ให้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ข้าวต้มเสร็จพอดีเลยเอาไปให้น้องกินรองท้องก่อนกินยานะลูก " แม่เพลงน่ารักเสมอ รางวัลสำหรับความน่ารักคือการสวมกอด แล้วหอมแก้มทั้งสองข้างฟอดใหญ่ ป๊าไม่อยู่คงเหงา ลูกๆ ก็ไม่ค่อยว่าง ยังดีที่มีพู่ไหมเคยแวะเวียนมาหาบ่อยๆ
"ขอบคุณครับที่ดูแลพู่ไหมให้ ขอโทษนะครับที่ต้องลำบากแม่เพลงอีกแล้ว "
"อย่าเนี้ยบนักสิคุณหมอ น้องสำนึกผิดแล้ว มีอะไรก็ค่อยๆ คุยกัน กลับมาทำงานหนักอีกแล้วใช่ไหม" แม่ก็คือแม่ แม่เพลงเป็นแม่ที่น่ารักที่สุดในโลกเอาใจใส่ผมตั้งแต่เล็กจนโต หอบปัญหามาให้แม่อีกจนได้ แม่เพลงเอ็นดูและรักพู่ไหมไม่ต่างจากยัยแพรเลย ส่วนป๊าก็เชียร์ให้ผมขอพู่ไหมแต่งงานสักที เพราะอยากอุ้มหลานยังทำตามความฝันป๊าไม่ได้เพราะพู่ไหมยังเรียนไม่จบ
"ไม่ได้เนี้ยบครับ แค่อยากให้น้องรู้สึกอะไรบางอย่าง ใจดีมากเกินไปก็ไม่ดีนะครับแม่ "
"ขึ้นไปหาน้องเถอะลูก น้องคงอยากเจอหมอ "
"ขนมล่ะครับ " ได้ยินแม่บอกว่าพู่ไหมมีถุงขนมมาด้วย ต้องเป็นถุงขนมที่ซื้อไปให้ผมที่โรงพยาบาลแน่ๆ เลย
"น้องถือขึ้นไปด้วย กินบนที่นอนมดจะขึ้นนะลูก "
"ไม่กินบนที่นอนหรอกครับ " แซวตลอดเลย ผมรับถาดข้าวต้มหอมๆ กับน้ำเปล่ามาถือไว้ หวังว่าเด็กแสบคงยังไม่หลับ
"แม่ไปนอนก่อนนะ "
"ฝันดีครับแม่ อย่าลืมห่มผ้าด้วยนะครับ "
"ครับลูก "
-----------------------
พอเปิดประตูเข้ามาสิ่งแรกที่เห็นคือถุงขนมวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงที่มีเด็กดื้อนอนหลับปุ๋ยบนนั้น ผมเดินเข้าไปใกล้ แล้ววางถาดข้าวต้มลง สภาพถุงดูไม่ดีนักข้างนอกเปียกชุ่ม หยิบขึ้นมาดูพบว่ามันกลายเป็นขนมรวมมิตรไปแล้ว รสชาติคงจะดีไม่น้อย
"เข้าใจง้อ " ผมยิ้มให้ถุงขนมแล้ววางมันลง ได้ยินแม่เพลงบอกว่าพู่ไหมบ่นปวดท้อง กินข้าวไม่ตรงเวลาชัวร์ จากวันนั้นจนวันนี้สายตาของผมยังมองว่าพู่ไหมเด็กเสมอ เด็กไม่ทันโลก เล่ห์เหลี่ยมมนุษย์ยากเกินบรรยาย เขียนเป็นหนังสือชาตินี้ก็ไม่มีวันจบ ผลัดเปลี่ยนพัฒนาขึ้นมาเป็นความเลวร้าย กลัวจริงๆกลัวว่าวันหนึ่งจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น
....พู่ไหม เป็นเมียที่หมอรัก รักมากกว่าชีวิตของหมอเอง ไม่ผิดที่หมอจะใจร้ายดัดนิสัยเด็กดื้อที่หวงและห่วงที่สุด
"ไหน ให้หมอดูหน่อยอาการเป็นยังไง " ปวดท้องมากไม่ดีเพราะเธอเคยมีก้อนเนื้อที่ช่องท้องน้อย ถ้าไม่ใส่ใจเรื่องสุขภาพโอกาสกลับมาเป็นมีสูง ผมใช้มือคลำและกดเบาๆ ลงบนหน้าท้องของเธอ ดูเหมือนกำลังปวดอยู่แต่ไม่ยอมลืมตา
"พู่ไหม ได้ยินพี่ไหม พู่ไหม ลุกขึ้นมากินข้าวก่อนเร็วๆ จะได้กินยา" ทำมึนไม่สนใจ หลับตาไม่เนียน แถมยังนอนตัวเกร็งเพราะอาการปวดเพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จะเป็นหมอแล้วอีกไม่กี่ปียังไม่รู้จักวิธีเอาตัวรอดให้ตัวเองเลย กำลังทำให้คนอื่นเป็นห่วงจนแทบบ้า "ถ้ายังไม่ลุก พี่จะกลับเดี๋ยวนี้ "
"ลุกแล้วค่ะ โอ๊ย " ตอนลุกรีบเกร็งหน้าท้อง หน้านิ่วคิ้วขมวดเลยเป็นไง ผมรีบเข้ามาประคองจับเธอนอนพิงหัวเตียง ตัวไม่ร้อน วิตามินที่เทคให้ใช้ได้ผลกับร่างกายเธอ
"ปวดตรงไหน "
"ตรงนี้ค่ะ ปวดมากๆ เลย "
"ปวดกระเพาะเพราะไม่กินข้าว รู้ว่าต้องปวดแล้วทำไมไม่กิน "
"ไม่ดุได้ไหมคะ หนูกลัว " แบบนี้เหรอดุ ยังไม่รู้สึกเลยว่าดุ เอาอะไรมาตัดสิน
"ตอบไม่ตรงคำถาม "
"ไม่อยากกินค่ะ "
"ทำไมไม่ห่วงตัวเอง ทำให้คนอื่นเป็นห่วงรู้ตัวบ้างไหม " ไม่ชอบเวลาพู่ไหมก้มหน้าแล้วน้ำตาไหลเลย กับคนอื่นเข้มแข็ง กับผมทำไมถึงอ่อนแอแบบนี้ แล้วผมก็เป็นพวกแพ้ความอ่อนแอเมียตัวเอง อยากเข้าไปกอดแล้วปลอบด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ น่าฟังว่า พี่รักหนูนะคะ ไม่ร้องนะ ...เฮ้อ
"พี่หมอด้วยหรือเปล่า พู่ไหมขอโทษนะคะ แค่ไม่อยากกลับบ้าน "
"ไม่กลับบ้านแล้วจะไปไหน "
"ที่ไหนก็ได้ค่ะ ที่ทำให้พี่หมอสบายใจ พี่หมอไม่อยากเห็นหน้าหนูแล้ว "
---------------------------------
"กินข้าวนะ จะได้กินยา "ยังใจแข็งและมีเส้นบางๆ กันเอาไว้ เดี๋ยวเถอะคอยดูจะอ้อนให้ใจอ่อนยวบยิ่งกว่าใยบวบต้มเลยคอยดู สำนวนอะไรไม่รู้คิดเอาเอง
"พี่หมอป้อนได้ไหม มือไม่มีแรง " อาการปวดกำลังเล่นงานฉัน พี่หมอรู้ดีเพราะเก่ง จับๆ คลำๆ นิดหน่อยก็รู้ยันลำไส้ใหญ่แล้ว ฉะนั้นพี่หมอจะต้องป้อนไม่อย่างนั้นไม่เป็นอันกินแน่ ช้อนอาจจะหลุดมือเหมือนนางเอกในละครที่กำลังป่วยเอาได้ โรคกระเพาะไม่ใช่โรคเลือดจางฉันคิดอะไรอยู่
"พร้อมจะกินแล้วใช่ไหม"
"ค่ะ พร้อมแล้ว " ในที่สุดก็มีคนป้อน ข้าวต้มฝีมือแม่เพลงอร่อยมากฝืนกินจนหมดถ้วยเพราะคนตรงหน้าไม่ยอมหยุดป้อน พอหยุดกินก็พูดว่า..กินเยอะๆ จะได้หายเร็วๆ แค่นี้หัวใจของฉันก็พองโตมากแล้ว หายโกรธสักทีเถอะ อยากกอดแย่แล้ว
------------
"อื้อ หนาว " วันนี้ได้นอนข้างคุณหมอ ไม่เหมือนทุกวันกลับมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตื่นมาก็ไม่เจอหน้าใจร้ายทำกันได้ลงคอไม่คิดถึงกันบ้างหรือไง ขอเวลากอบโกยบ้าง ทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวไม่เข้าใกล้ กลัวอดใจไม่ไหวล่ะสิ
"ห่มผ้าสิ ถีบผ้าออกทำไม " ฉันหรี่ตามองหน้าใสๆ ของคุณหมอแล้วปิดเปลือกตาลงนอนต่อ ...นึกว่าจะกอด ห่มผ้าให้ซะมิดเลย
"พี่หมอ "
"มีอะไร " คุณหมอแว่นหันหน้ามาหาแล้วลดหนังสือในมือลง น้ำเสียงเฉียบเนี้ยบได้อีก
"พู่ไหมอยากให้พี่หมอกอด "
"พี่อ่านหนังสืออยู่ "
"ทำอะไร " ตกใจใช่ไหม ฉันก็ตกใจที่อยู่ๆ ก็ลุกพรวดออกจากผ้าห่มแล้วขึ้นไปนั่งคร่อมบนตัวพี่หมอ จะไม่ทนอีกต่อไป ยังไงวันนี้ก็ต้องสำเร็จ
"กอดหนูเดี๋ยวนี้เลย ถ้าไม่กอดหนูจะปล้ำ" ครั้งแรกกับการยอมลงทุนปล้ำผู้ชาย แล้วผู้ชายก็ไม่ใช่ใครที่ไหน สามีของฉันเอง
"เอาจริง " พี่หมอถอดแว่นออกแล้ววางหนังสือไว้โต๊ะข้างเตียง จากนั้นก็ใช้มือทั้งสองจับเอวและดึงเข้าหาตัวทำให้ตอนนี้ร่างของฉันเข้าไปใกล้พี่หมอมากกว่าเดิม
"จะ จริงค่ะ"
"ตะกุกตะกักแบบนี้ กำลังกลัว "
"ไม่ได้กลัว "
"ไม่ต้องปล้ำพี่ก็ยอม ขอทดสอบวิชาก่อนได้ไหมว่าทำเป็นจริงๆ "
"ยังไงคะ"
"จูบให้พี่เคลิ้ม ทำได้ไหม " อย่างน้อยๆ วิธีนี้ก็ทำให้เห็นรอยยิ้มพี่หมอ และรู้ความต้องการของฝั่งตรงข้ามอีกด้วย ทำให้เห็นว่าพี่หมอยังต้องการฉันอยู่
"จูบแลกรักนะคะ "
"แลกน้ำได้ไหม "
">O