บทที่ 2 ขอดูดวง
“สวัสดีค่ะ ที่นัดอาจารย์เด่นไว้ใช่ไหมคะ”
“ใช่ค่ะ อาจารย์เด่นสะดวกหรือเปล่าคะ”
“สะดวกค่ะ เชิญข้างในบ้านเลยค่ะ”
อาจารย์เด่นนั่งรออยู่ที่โต๊ะทำงาน พอเห็นสาวสวยกับหนุ่มหล่อเดินเข้ามาพร้อมกับเมีย ก็วางมาดให้ดูน่าเลื่อมใสศรัทธา สวยแนะลูกค้าทันที
“อาจารย์คะ ลูกค้าที่นัดมาดูดวงค่ะ”
“สวัสดีค่ะ-ครับ อาจารย์เด่น”
สาวสวยหนุ่มหล่อยกมือไหว้ และกล่าวทักทาย
“สวัสดีครับ.. เอ่อ.. รู้สึกว่าอาจารย์จะคุ้นหน้าคุณนะ”
อาจารย์เด่นเคยเห็นหน้าสาวสวยคนนี้ตามสื่อต่างๆ รู้ว่าเธอเคยเป็นนางเอกหนังชื่อดัง แต่ตอนนี้เธอเงียบหายไป ไม่มีข่าวอะไรเกี่ยวกับตัวเธอเลย ไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า
“หนูคือแหม่ม ที่เล่นหนังมาแล้วหลายเรื่องไงคะ เป็นนางเอกด้วย อาจารย์จำได้หรือยังคะ”
“อ้อคุณแหม่ม จำได้แล้ว อาจารย์เคยดูหนังคุณแหม่มเล่นด้วย ตัวจริงสวยกว่าในหนังอีกนะ”
“อาจารย์ก็ชมเกินไป แหม่มก็หน้าตาเป็นอย่างนี้มาตลอดแหละค่ะ อ้อ ลืมแนะนำ นี่เอ็ดดี้ เป็นแฟนแหม่มเอง เราคบกันมาได้ 3 ปีกว่าแล้วค่ะ”
เอ็ดดี้ยกมือขึ้นสวัสดีอาจารย์เด่นอีกครั้งด้วยความนอบน้อม
“สวัสดีครับอาจารย์ ผมได้ยินชื่อเสียงอาจารย์มานาน วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เจอครับ”
“เป็นเกียรติเช่นกันครับคุณเอ็ดดี้ วันนี้มาหาอาจารย์ มีเรื่องอะไรให้อาจารย์ดูให้ บอกได้เลยครับ”
อาจารย์เด่นเข้าเรื่องทันที พร้อมทั้งพิจารณารูปร่างหน้าตาของทั้งคู่
ซุปเปอร์สตาร์ที่ชื่อแหม่ม อายุน่าจะประมาณ 31-32 ยังดูสวยเซ็กซี่เหมือนตอนเล่นหนัง แต่งตัวดี เสื้อสูทเทียมและกางเกงขายาวสีครีม ส่วนผู้ชายน่าจะเป็นพวกลูกผู้ดี อายุน่าจะน้อยกว่าแหม่ม เพราะดูอ่อนกว่า อายุประมาณ 28-29 เห็นจะได้ รูปร่างหน้าตาเข้าขั้นพระเอกหนังดีๆนี่เอง
แหม่มมีสีหน้าเคร่งเครียด เริ่มเล่าความเป็นมาในเรื่องต่างๆให้อาจารย์เด่นฟัง
“คือย่างนี้ค่ะอาจารย์ ตอนนี้แหม่มมีปัญหาที่อยากปรึกษา และให้อาจารย์ดูดวงให้หน่อย”
“ว่ามาได้เลยครับคุณแหม่ม เล่าให้ละเอียด ถ้าอยากให้อาจารย์ดูดวงให้แม่น อย่าปิดบังอาจารย์”
“ค่ะอาจารย์.. ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ที่แหม่มหายหน้าไปจากวงการบันเทิง เป็นเพราะแหม่มกำลังมีความรักกับเอ็ดดี้ พอมีความรักแหม่มก็ไม่อยากทำงาน ไม่อยากเล่นหนัง อยากจะอยู่กับเอ็ดดี้ตลอดเวลา เอ็ดดี้เองก็ไม่อยากให้แหม่มเล่นหนัง เพราะเค้าหึง กลัวผู้ชายมาจีบค่ะ”
แหม่มเล่าถึงสาเหตุ อาจารย์เด่นพยักหน้ารับรู้ แล้วถามต่อ
“ก็ดีแล้ว ได้อยู่กับคนที่ตัวเองรัก ทำให้มีความสุข แล้วมีปัญหาอะไรถึงได้มาหาอาจารย์”
“ตอนแรกก็ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ แหม่มกับเอ็ดดี้พากันเที่ยวอย่างเดียว ทั้งต่างประเทศและในประเทศ แต่แหม่มพยายามปิดบังตัวเองเวลาไปเที่ยว ทั้งใส่หมวก ใส่แว่น กลัวนักข่าวจำได้ แล้วมาขอสัมภาษณ์ แหม่มอยากเป็นส่วนตัว ไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายค่ะ”
อาจารย์เด่นขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“เท่าที่อาจารย์ฟังดูแล้ว ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนี่ครับ ได้เที่ยว ได้อยู่กับคนที่ตัวเองรัก ก็ถือว่ามีความความสุขที่สุดแล้ว”
“ใช่ค่ะอาจารย์ แต่พอเที่ยวไปได้ 2-3 ปี เงินที่เก็บไว้เริ่มร่อยหรอ ทั้งของแหม่มและของเอ็ดดี้ เราใช้เงินอย่างเดียว ไม่มีรายได้เข้ามาเลย แหม่มกับเอ็ดดี้จึงปรึกษากันว่าจะใช้เงินก้อนสุดท้ายเปิดร้านนวดแผนโบราณ เพราะเราชอบนวดกันมาก”
“อ้าว แล้วทำไมคุณแหม่มไม่กลับไปเล่นหนังล่ะ อาจารย์คิดว่าแฟนคลับยังคงต้อนรับอยู่นะ”
แหม่มหันหน้ามองเอ็ดดี้ ยิ้มให้เขา แล้วหันมาบอกอาจารย์เด่น
“ก็เอ็ดดี้สิคะ ไม่ยอมให้แหม่มกลับไปเล่นหนัง เค้ากลัวจะมีคนมาแย่งแหม่มจากเค้าไป อ้อ อีกอย่าง ถึงแหม่มจากกลับไปเล่นหนัง ก็คงไม่มีคนจ้างแล้วล่ะค่ะ เพราะแหม่มหายหน้าไปนาน คนจ้างคงไม่อยากเสี่ยง ไม่รู้ว่าจะยังมีคนต้อนรับแหม่มอยู่หรือเปล่า”
“อ้อ เป็นอย่างนี้เอง แล้วที่คุณแหม่มมาวันนี้ จะมาให้อาจารย์ช่วยอะไรหรือ”
อาจารย์เด่นถามพร้อมจ้องหน้าทั้งสองคน
