CHAPTER 1 ท้องไม่รับ
เสียงสายฝนโปรยปรายกระทบกระจกหน้าต่าง เสียงหัวใจของเธอเต้นแรงไม่แพ้กัน มือบางกำที่ตรวจครรภ์แน่น ดวงตากลมมองตัวอักษรที่ปรากฏบนแถบทดสอบซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอท้อง
รอยยิ้มค่อยๆ แต่งแต้มบนใบหน้าแม้จะมีความตื่นเต้นปะปนกับความกังวล แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือความสุข เธอจินตนาการถึงใบหน้าของเขา ผู้ชายที่เธอรักและทุ่มเททุกอย่างให้
เขาจะต้องดีใจแน่ๆ
เธอมั่นใจว่าข่าวนี้จะทำให้เขามีความสุขเหมือนกันกับเธอ พวกเขาจะได้เป็นครอบครัวกันจริงๆ สักที
มือบางลูบหน้าท้องแผ่วเบาเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ที่คุ้นเคย หัวใจเต้นรัวรอคอยเสียงตอบรับจากปลายสาย
“มีอะไร” น้ำเสียงเขาดูเคร่งขรึม
“อัยมีเรื่องจะบอกพี่หมอค่ะ”
“อืม รอเย็นนี้” เขาตัดสายทิ้งทันทีเพราะกำลังยุ่งกับคนไข้ตรงหน้า
อัยย์ญาดามองหน้าจอมือถือ ถอนหายใจออกมาเสียงดัง เขาทำงานหนักตลอดเวลาหาเวลาว่างไม่เคยได้ ตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับเขาเธอไม่เคยออกไปไหนกับเขาตามลำพัง
อัยย์ญาดา คีรานนท์ อายุ 19 ปี นักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ เด็กที่เติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้า ตั้งแต่ยอมเป็นคนในความลับของเขาเมื่อ 6 เดือนชีวิตเธอเปลี่ยนไป
คีแรนภัทร หรือคุณหมอคฑาเดินเข้ามาในเพ้นท์เฮ้าส์สุดหรูของตัวเอง เขามองที่โต๊ะอาหารเพราะทุกครั้งจะเจอหญิงสาวคอยทำอาหารรอเขา
เหมือนภรรยารอสามีแต่เขากับอัยย์ญาดาไม่ใช่
“อัยมีเรื่องคุยกับพี่หมอค่ะ”
“มีเรื่องอะไรดูตื่นเต้นจัง” มือหนากำลังถอดเนกไทต้องชะงัก เมื่อได้ยินประโยคที่ออกจากปากของเด็กในความลับของเขา
“อัยท้องค่ะ” เธอเงียบและเขาก็เงียบเช่นกัน รอบตัวได้ยินแต่เสียงเครื่องปรับอากาศ
แต่คำตอบที่ได้รับกลับเป็นคำเหยียดหยาม
“เธอคิดว่าฉันจะเชื่อว่าเด็กเป็นลูกฉันเหรอ? ไปเอาออกซะ อย่ามาทำตัวไร้ยางอาย! ฉันบอกตลอดว่าห้ามท้องหรือเธอคิดจะเอาลูกคนอื่นมายัดเยียดให้ฉันอัยย์ญาดา”
เขาตะคอกใส่เธอจนสะดุ้งเพราะความตกใจ ส่ายหน้าปฏิเสธตลอดเวลาที่อยู่กับเขาเธอไม่เคยนอกลู่นอกทางเลยแม้แต่น้อย
“อัยท้องกับพี่หมอจริงๆ นะคะ ฮึก~” รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเพราะเขาไม่ยอมรับลูกที่กำลังเกิดมา
“เธอมันทำตัวต่ำเหมือนตอนที่ทอดกายให้ฉัน ลูกของฉันต้องไม่มีแม่ที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบเธอ ถ้าอยากเก็บเด็กไว้ก็ออกไปจากชีวิตของฉัน”
“เขาเป็นลูกของพี่หมออัยไม่เคยนอนกับใคร” เธอพยายามอ้อนวอน และยืนยันว่าเขาคือพ่อของลูกและคฑากลับไม่สนใจที่จะรับฟัง
“ฉันเกลียดเด็ก ออกไปจากชีวิตฉัน” น้ำเสียงแสนเย็นชาเอ่ยออกมาราวกับไม่ใช่คนรู้จัก
อัยย์ญาดาทรุดตัวลงที่พื้นเกาะขาเขาไว้ บนใบหน้ามีน้ำตาไหลอาบแก้ม ตอนนี้เธอไม่พร้อมที่จะมีลูกเช่นกัน แต่คำพูดของเขาทำให้เธอเสียใจ
“เธอเป็นเด็กที่พูดเข้าใจทุกอย่าง”
เธอได้แต่ร้องไห้ แล้วเข้าไปนอนในห้อง น้อยใจเขาขั้นสุด แล้วกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดี
คฑาเข้ามาในห้องเขาสงสารอัยย์ญาดาไม่น้อย แต่เขาไม่พร้อมเช่นกัน และสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่พร้อมก็ต้องเอาออก
“นามบัตรของเพื่อนฉันเธอไปเอาเด็กออกฉันจะให้เงินก้อนหนึ่งไปตั้งตัว” เขายื่นนามบัตรให้หญิงสาว ตอนนี้เขายอมรับว่าเขาเห็นแก่ตัว
เขาออกไปแล้ว อัยย์ญาดาร้องไห้ฟุบหน้ากับหมอนใบหน้าเปียกปอนไปด้วยน้ำตา เสียงร้องไห้ราวกับฟ้าดินกำลังพังทลาย
ชีวิตเด็กกำพร้าแบบเธอตัวคนเดียวตั้งแต่เกิด จะออกไปใช้ชีวิตข้างนอกก็กลัวจะลำบาก เพราะตอนนี้เธอมีลูก
ถึงแม้จะไม่พร้อมแต่ไม่ใจร้ายทำร้ายลูกได้ลงคอ ในเมื่อเขาไม่ยอมรับเธอจะไม่อ้อนวอนขอความเห็นใจจากเขาอีกต่อไป
ทำให้อัยย์ญาดาตัดสินใจหนีเขา เพราะว่าคฑาใจร้ายเกินไปที่คิดจะฆ่าลูก เธอทำไม่ได้
ต่อให้ไม่มีที่ไปเธอก็จะไป
คฑาออกไปทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ทำให้อัยย์ญาดาได้โอกาสเข้ามาในห้องนอนของเขา เขาให้เงินเธอใช้ทุกเดือนซึ่งพอมีเงินเก็บบ้าง แต่ไม่พอสำหรับการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้เติบโต
เธอนำข้าวของมีค่าของหมอคฑาติดตัวออกมา คิดอย่างเดียวการเลี้ยงลูกลำบาก เธอต้องมีทุนในการเลี้ยงลูกและคนที่จะช่วยเธอได้มีคนเดียว
หมออรรคมองนาฬิกาแบรนด์หรูที่วางอยู่ตรงหน้า ก่อนหน้านี้เขาพอรู้เรื่องมาบ้าง
“อัยจะขอให้คุณหมอช่วยซื้อหน่อยได้ไหมคะ อัยจะไปจากที่นี่ขอร้องนะคะคุณหมอ อัยไม่อยากทำแท้ง”
“มันยังไม่ยอมเปลี่ยนความคิดอีกเหรอ?” ไม่คิดว่าเพื่อนจะใจแข็งให้อัยย์ญาดาไปทำแท้ง เขาคิดว่าเพื่อนคงโกรธแต่ดูเหมือนเรื่องจะบานปลาย
“อย่าบอกเขานะคะว่าอัยไม่ยอม ฮึก~” เธอหัวใจแหลกสลายเจ็บปวดเกินกว่าจะใช้ชีวิตต่อไป แต่เธอต้องสู้เพื่อลูกที่กำลังจะเกิดมา
หมออรรคเห็นใจคนตรงหน้า เรื่องของคนสองคนหวังว่าในวันข้างหน้าเพื่อนของเขาจะรู้สึกผิด เขาจึงรับของมาและไม่ลืมให้เงินติดตัวอัยย์ญาดาไป
“อัยจะไปอยู่ไหน” เขารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กกำพร้าไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน
“...” เธอส่ายหน้าเพราะตอนนี้มืดแปดด้าน
“พี่มีบ้านอยู่หลังหนึ่งหากอัยต้องการ...”
“อัยไม่ต้องการค่ะ” เพราะว่าวันข้างหน้าจะได้เจอกับคฑาอีก เธอต้องการตัดขาดกับเขาทุกอย่าง ชาตินี้ไม่ต้องการเจอหน้าเขาอีก
หมออรรคถอนหายใจหญิงสาวดูเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวกว่าที่เขาคิด นี่แหละที่เขาว่าพอมีลูกต่อให้ไม่พร้อมมันก็จะพร้อมเอง
“ถ้าอัยต้องการนี่เบอร์คนที่ไว้ใจได้ถือว่าเป็นความหวังดีจากพี่ เรื่องของอัยในวันนี้จะไม่ถึงหูของไอ้คฑา ทางข้างหน้าอันตรายมากไม่ห่วงตัวเองก็ควรห่วงลูก”
เขาวางนามบัตรแล้วจากไปปล่อยให้อัยย์ญาดาตัดสินใจด้วยตัวเอง เขาไม่สามารถตัดสินชีวิตแทนใครได้ ส่วนเพื่อนเขาปล่อยมันไป
อัยย์ญาดากลับมาเก็บข้าวของวันที่เธอย้ายมามีแค่ชุดไม่กี่ชุด หลังจากนี้จะกลับไปลาออกจากมหาวิทยาลัย เอาไว้พร้อมค่อยกลับมาเรียนต่อ
เธอมองรูปคู่ที่ถ่ายกับคฑา
มือบางยื่นลงถังขยะข้างเตียงข้าวของที่เขาซื้อให้ เธอไม่ได้หยิบติดตัวมาเลยสักชิ้น เธอนั่งเขียนจดหมายไปพร้อมน้ำตา
‘ถึงพี่หมอคฑา ไม่ว่าพี่หมอจะใจร้ายแค่ไหนแต่แปลกที่อัยไม่เคยหมดรักเลย แต่วันนี้อัยไม่ได้อยากเลือกแต่เพราะพี่หมอบังคับให้อัยต้องเลือก อัยจะไปตามทางของอัยขอให้พี่หมอใช้ชีวิตต่อจากนี้ให้ดี หากในวันข้างหน้าเราเจอกันขอให้เราทำเป็นไม่รู้จักกันไปชั่วชีวิต
รักสุดหัวใจ อัยย์ญาดา’
เธอมองรอบๆ ห้องเป็นครั้งสุดท้ายครั้งหนึ่งเธอกับเขาได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ไม่เสียใจแต่ผิดหวังกับสิ่งที่เขาพูด
อัยย์ญาดาเดินลงมาโบกแท็กซี่ไม่รู้จะต้องไปเริ่มต้นชีวิตที่ไหน มันอ้างว้างไปหมดชีวิตตัวคนเดียวในเมืองหลวง จะกลับไปบ้านเด็กกำพร้าคงไม่ดีนัก
“ไปไหนนังหนู” คนขับแท็กซี่ถามเพราะเขาวนรถหลายรอบแล้ว
“ไป...” ชีวิตของเธอไม่มีที่ไป
“รบกวนไปส่งหนูที่นี่ค่ะ” เธอบอกทางจากนี้ไปจะใช้ชีวิตให้ดี ลูกที่เกิดมาจากความรักของเธอจะเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุด เท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำได้
