ตอนที่ 5
กัณรญาหันมาหาเนริกาตามแรงกระชาก แต่แวบแรกหล่อนไม่สนใจอะไร ก็หันกลับไปหาร่างของเนริกาอีก คราวนี้เตรียมดึงเครื่องช่วยหายใจออกให้จงได้ แต่เนริกาก็ใช้สองมือหมุนไหล่ของกัณรญาให้หันมาเธอเต็มตัว
กัณรญามองตรงไปเบื้องหน้า เห็นใบหน้าของเนริกาชัดเจน ซึ่งเธอกำลังจ้องมองหล่อนอยู่ กัณรญาขยับปากก่อนจะค่อย ๆ หันไปมองยังเตียงสีขาว ก็มองเห็นร่างของเนริกายังนอนนิ่งอยู่ แล้วหันกลับไปมองตรงหน้าอีกครั้ง
“เน เน เน!”
กัณรญายกมือชี้หน้าเธอ นัยน์ตาเบิกกว้าง
“ใช่ ฉันเอง เนริกา เนริกาตัวเป็น ๆ”
กัณรญาส่ายหน้าไปมา
“ไม่เป็นหรอก เธอนอนอยู่นั่นแล้วมายืนอยู่ตรงนี้ได้ยังไง..”
กัณรญาทักท้วงด้วยน้ำเสียงที่สั่นพร่า ใบหน้าซีดเผือด
“ใช่ ฉันเป็นดวงวิญญาณ”
“หา! ดวงวิญญาณ หมายความว่า เธอ เธอ..”
กัณรญายกมือชี้หน้าของเนริกา ก่อนจะหยิกเนื้อตัวของตนเองให้รู้สึกว่าเจ็บหรือไม่เจ็บ เมื่อรู้สึกเจ็บแสดงว่าไม่ได้ฝัน
“ไม่ได้ฝัน ไม่ได้ฝัน”
หล่อนบอกตัวเองก่อนจะมองตรงมาหาเนริกาแล้วหันหลังเตรียมวิ่งหนีไปที่หน้าต่างห้อง พยายามจะปีนหน้าต่างหมายจะโดดลงไป
“จะฆ่าตัวตายตามฉันหรือกัณ”
คำถามนั้นปลุกให้หล่อนหันกลับมามองหน้าเนริกาที่ก้าวเข้าไปหา
“อย่าเข้ามานะ อย่า”
หล่อนร้องห้าม
“ฉันจะไปหาเธอเอง ไปได้ ฉันไปได้”
กัณรญาก้าวมาหาเนริกา ยกมือจับแขนของเธอ หล่อนไม่สามารถจับต้องได้ เมื่อผลเป็นอย่างนั้นก็ยิ่งหวาดกลัว
“ไปเถอะ เน ไปที่ชอบที่ชอบนะ ไปเถอะ ที่ไหนที่เธอชอบก็รีบไปนะเน รีบไป”
“ฉันไปไม่ได้”
เนริกาแย้ง
“เธอต้องไปกับฉันยัยกัณ”
“ไม่ ไม่ฉันไม่อยากไปกับเธอ ฉันไม่ชอบที่เธอชอบหรอก”
กัณรญาแย้ง
“เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันชอบที่ไหน”
กัณรญาทรุดกายลงนั่งด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา
“ทำไมฉันแตะต้องเธอไม่ได้ แล้วทำไมเธอแตะต้องฉันได้ล่ะเน”
“เพราะเธอมันเป็นคนเลวไง เธอฆ่าฉันยัยกัณ”
กัณรญาส่ายหน้า
“อย่าปฏิเสธ ทางเดียวที่จะไถ่บาปที่เธอกับฉันได้”
กัณรญามองหน้าเธอพร้อมกับลุกขึ้น
“ดูและพ่อกับแม่ให้ดีนะกัณ”
เนริกามองหน้าหล่อนนิ่ง
“อย่าทำร้ายท่านนะ ท่านเลี้ยงเธอมาด้วยความรัก เธอเป็นลูกสาวคนโตของท่าน และต่อจากนี้ เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของท่านแล้ว”
กัณรญาพยักหน้า
“อย่าห่วงเลยเน ไปที่ชอบเถอะนะ”
“ฉันบอกว่าฉันไปไม่ได้ไงล่ะ”
เนริกาตะโกนสวนกลับทำให้กัณรญารีบก้าวถอยห่างออกไป
“แต่ว่าฉันอยากจะให้เธอช่วย เพราะว่าฉันคงเหลือเวลาอีกไม่มาก หากว่ายมบาลทั้งสองตามวิญญาณของฉันพบ เขาต้องเอาดวงวิญญาณของฉันไปแน่”
เนริการวบมือของกัณรญาไว้แน่น แต่กัณรญาพยายามจะดึงออกมาแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะจับต้องเธอไม่ได้ อีกทั้งยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมเนริกาถึงมีเรี่ยวแรงมากขนาดนี้
“เธอต้องช่วยฉัน เธอต้องช่วยฉัน”
เนริกาเขย่าแขนของกัณรญาจนแทบหลุด แม้เธอจะบอกตัวเองว่าเขย่าเบา ๆ เท่านั้น
“ตกลงไหม พูดสิ ว่าเธอจะช่วยฉันยัยกัณ”
“ได้ ฉันจะช่วยเธอเนริกา”
เพียงแค่กัณรญารับปาก เนริกาก็ปล่อยมือออกจากแขนของหล่อนแล้วยกมือผลักอกกัณรญาเบา ๆ แต่ทว่ากลับทำให้ร่างของกัณรญาถลาล้มลงอย่างแรง
“ที่นั่น ยมบาลจะต้องตามไปไม่ได้ด้วย ฉันจะมีโอกาสได้ท่องเที่ยวอีกสักพัก”
เนริกาคิดในใจก่อนจะมองตรงมาหากัณรญา
“ไป”
เนริกาคว้ามือของกัณรญาแล้วกึ่งลากกึ่งจูงให้เดินแกมวิ่งตามร่างออกมาพอดีกับพ่อและแม่ที่ไปถึงโรงพยาบาล
อิงตะวันตื่นขึ้นในตอนสาย หล่อนก้าวลงจากเตียงที่กว้างใหญ่นุ่มสบายและหรูหรา เดินตรงไปที่กระจก มองสำรวจตรวจตราดูตนเอง ก่อนจะยื่นปลายนิ้วเรียวสวยกดกริ่งเรียกสาวใช้เหมือนเช่นทุกวัน
ดวงดาวหญิงวัยสามสิบ เปิดประตูเข้าไปอย่างสำรวม แล้วนั่งพับเพียบลงยังด้านข้างของอิงตะวันซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้นวมหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
“มองหน้าฉันสิดวงดาว”
อิงตะวันหันไปหาดวงดาว ที่ค่อย ๆ ช้อนสายตามองหน้าหล่อน
“หน้าฉันมันไม่ผ่องเลย เธอเห็นมั้ย ทำไมเธอไม่สังเกต เธอทำตัวไม่ดีนะรู้มั้ย”
“ขอโทษค่ะ เพราะเห็นทีไรคุณอิงก็สวยสง่าทุกครั้ง”
ดวงดาวแย้ง เชิงพูดชม หมายจะให้อิงตะวันอารมณ์ดีขึ้น
“ฉันหมายถึงผิวหน้า เวลาที่ฉันป่วย หรือไม่ได้รับการดูแลอย่างดี เมื่อฉันกลับมา อย่างแรกเธอต้องรีบหาครีมบำรุงมา เธอลืมแล้วหรือ วันนี้เธอควรเข้ามาเตรียมของและเตรียมน้ำนมมาเพื่อให้ฉันแช่ตัว ขัดผิว แต่นี่เธอทำอะไรอยู่”
“ขอโทษค่ะ”
ดวงดาวก้มหน้านิ่ง
“อย่ามัวมาขอโทษ เพราะมันไม่ใช่หนทางแก้ปัญหา ไปทำตามที่ฉันบอก ฉันให้เวลาเธอครึ่งชั่วโมง เอาน้ำนมมาให้ฉันแช่ตัว และเตรียมขัดผิวให้ฉัน ฉันต้องการหมักผมและอบไอน้ำเตรียมเครื่องมาด้วย ตอนบ่ายฉันจะออกไปข้างนอก”
“ค่ะ”
ดวงดาวเตรียมลุกไปทำอย่างที่หล่อนต้องการ
“อ้อ อาหารเช้า ขอที่ไม่มีไขมันนะ แต่ว่าฉันจะต้องทานได้อิ่มและที่สำคัญต้องอร่อย สะอาด เข้าใจมั้ย”
“ค่ะ”
อิงตะวันพูดจบก็เชิดหน้าหันกลับมามองดูหน้าตาของตนเองท่ามกลางสายตาของดวงดาวที่ช้อนสายตามองหล่อนก่อนจะรีบออกไป
เมื่อดวงดาวออกมาจากห้องนอนของอิงตะวันก็รีบลงไปบอกพวกในครัวให้จัดเตรียมอาหารเช้าขึ้นไปก่อน
“หน้าบูดเป็นตูดมาเลยหรือพี่”
พราวนภาหญิงวัยยี่สิบ กำลังอยากสวยอยากงามและอยากรู้เอ่ยถามดวงดาวทันที
“อาหารขอที่ไร้ไขมัน สะอาด อร่อยแล้วต้องทานได้อิ่ม ด่วน”
ดวงดาวร้องบอกพราวนภาแล้วมองเลยไปหาแม่บ้านเตือนจิต
“คุณแม่บ้านจะให้ใครนำอาหารขึ้นไปเสิร์ฟ ก็เลือกให้ดีนะคะ ท่าทางวันนี้เธอจะอารมณ์ไม่ดี”
ดวงดาวพูดจบก็รีบไปจัดหาสิ่งที่อิงตะวันต้องการ
“ใครก็พอทนได้ แต่สำหรับคุณอิงตะวันนี่ฉันก็ไม่อยากจะทน หากไม่ติดว่าคุณผู้หญิงท่านเมตตาและให้เงินดี ฉันคงลาออกไปนานแล้ว
เดือนเต็มเอ่ยขึ้นเบา ๆ เมื่อหันไปกระซิบกับพราวนภา
“ผิดกับคนอื่นจริง ๆ เรื่องมาก แม้จะดูดีเรียบร้อย อ่อนโยนก็เถอะ เวลาด่าก็ด่าแบบเรียบ ๆ แต่เจ็บลึกเลย ฉันไม่ชอบเธอจริง ๆ ฉันไม่ขึ้นไปหรอกนะ หลีกได้ก็ขอหลีกดีกว่า”
สมพรเอ่ยขึ้นบ้างเมื่อชะโงกหน้าเข้ามาได้ยิน
“นี่พวกหล่อน มัวนินทาอะไรอยู่งานเสร็จแล้วหรือ”
แม่บ้านเตือนจิตร้องเตือน ทำให้ทุกคนรีบแยกย้ายกันทำหน้าที่
ร่างบางอรชรอ้อนแอ้นที่ดูสวยงามกลมกลึงเหมาะเจาะ ก้าวลงในอ่างน้ำนม เอนร่างนอนเหยียดยาวอย่างสง่างาม ก่อนจะวางศีรษะทาบไปด้านหลังเมื่อดวงดาวรีบประคองด้วยสองมือ
“ขัดเบา ๆ นะ เดี๋ยวผิวช้ำ”
“ค่ะ”
อิงตะวันกำชับดวงดาวที่เริ่มขัดหน้าให้หล่อนด้วยสองมือที่เบาและคล่องแคล่ว ในขณะที่ดวงดาวก็อดที่จะชื่นชมหล่อนเสียมิได้ว่าหล่อนช่างเกิดมามีวาสนาดีเหลือเกิน ผิวพรรณของหล่อนนุ่มเนียนมือ ไร้ร่องรอยตำหนิ รูปร่างก็สวยโสภา
