
บทย่อ
เมธัส หนุ่มใหญ่ผู้ใช้เงินซื้อความใคร่ เขาเปย์ไม่อั้นถ้าทำให้เขามีความสุข แต่เธอเป็นเพียงคนเดียวที่เขาไม่อาจใช้เงินเปย์ได้
ep1
คฤหาสน์หรู ย่านชานเมืองกรุงเทพฯ ถูกปิดเงียบอยู่หลายปี ก่อนที่ทายาทหนุ่มใหญ่จะเดินทางกลับจากต่างประเทศ คนรับใช้ที่เคยทำงานอยู่ในคฤหาสน์ เหลือเพียงครอบครัวเดียว คือครอบครัวของนายแจ้ง ซึ่งเพิ่งสูญเสียเมียรักและเหลือเพียงหลานสาววัยรุ่นที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัย
เมธัสหรือเมธ เจ้าของบ้านคนใหม่ได้แจ้งมากับนายแจ้งว่าเขาจะกลับมาอยู่เมืองไทย ขอให้นายแจ้งเตรียมบ้านไว้ให้พร้อมและทำเท่าที่นายแจ้งจะทำได้ เมธัสรู้ดีว่าลูกจ้างทั้งหมดย้ายออกไปนานแล้ว เพราะทนายที่ดูแลบ้านแทนเลิกจ้าง ส่วนนายแจ้งขออยู่บ้านนี้ โดยไม่รับค่าจ้างเนื่องจากไม่มีที่ไป เมธัสยินยอมโดยมีข้อแม้ว่าให้นายแจ้งและครอบครัวดูแลบ้านหลังนี้ด้วย
วันแรกที่เมธัสเดินทางมาถึงบ้านโดยรถแท็กซี่ เขายืนมองความทรุดโทรมของคฤหาสน์อย่างใจหาย หลายปีมานี้เขาคิดแล้วคิดอีกว่าจะขายมัน จึงให้ทนายยกเลิกการว่าจ้าง แต่จุดที่เขาตัดสินใจไม่ขาย ก็คือต้องรับผิดชอบครอบครัวหนึ่งที่รับใช้ครอบครัวเขามายาวนาน
“คุณเมธมาแล้วหรือครับ”
นายแจ้งกระหืดกระหอบออกมาต้อนรับ ในมือถือไม้กวาดอยู่ด้วย ด้านหลังเป็นเด็กสาวหน้าตาสดใส ผมรวบตึงที่ด้านหลัง ใบหน้าปราศจากเครื่องสำอาง ข้างขมับมีเหงื่อซึมอยู่ เธอเห็นเขาแล้วรีบยกมือไหว้
“สวัสดีค่ะ คุณเมธ”
“หลานสาวหรือลูกสาวน่ะลุงแจ้ง ผมจำไม่ได้”
“เจ้ากี้ หลานสาวผมไงครับ ตอนคุณเมธไปเมืองนอก มันยังเด็กอยู่ พ่อมันหายติดต่อไม่ได้ เลยต้องอยู่กับผมไม่ได้ไปไหน”
นายแจ้งบอกแล้วถอนใจ ที่ตนเองมีลูกก็เหมือนไม่มี ไปขออาศัยก็ไม่ได้ มิหนำซ้ำยังเอาหลานมาให้เลี้ยงแล้วหนีหายไป
“อยู่กันแค่สองคนนี้หรือ? ป้าสายไปไหน”
“แม่สายตายแล้วครับ เราเหลือกันแค่นี้”
เมธัสนิ่งงันไป....นึกออกมาป้าสายเป็นคนที่ชอบทำขนมมาให้เขากินบ่อยๆ ก็ใจหาย
“ผมเสียใจด้วย....”
“ขอบคุณครับ แม่สายคงดีใจที่คุณเมธกลับมาบ้าน”
เมธัสยิ้มเศร้า และระหว่างที่เขามองไปรอบๆ บ้าน กระเป๋าใบใหญ่สองสามใบถูกนายแจ้งกับหลานสาวพยายามลากขึ้นคฤหาสน์ จนเขาต้องรีบเข้าไปช่วยยก
“ผมช่วยยก....เดี๋ยวนี้เขามีบริษัทรับจ้างทำความสะอาดบ้านไม่ใช่หรือ? ทำไมไม่เรียก”
นายแจ้งชะงัก เมธัสคงลืมไปกระมังว่าเขาอยู่ที่นี่ ไม่มีค่าจ้าง เขามีรายได้จากการเก็บผลไม้ในสวนหลังคฤหาสน์ ปลูกผักหลังบ้าน และทำปลูกดอกไม้รอบๆ คฤหาสน์ แล้วตัดขาย รายได้นั้นพอเลี้ยงตัวได้ เพราะเขาใช้อย่างประหยัด ส่วนก้านตองหรือกี้ หลานสาวได้อาศัยเรียนมหาวิทยาลัยเปิด ที่ค่าเทอมยังพอสู้ไหว ภาระจึงไม่ตกมาที่เขามากนัก
“บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ ผมน่าจะรู้ว่าทำกันสองคนไม่ไหวหรอก ขอโทษที่ผมตัดสินใจกะทันหัน ดีที่บอกมาก่อนว่าให้ทำห้องนอนไว้ก่อน งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้โทร.เรียกบริษัททำความสะอาดมาทำ”
แต่ทันทีที่เหยียบย่างเข้าภายในบ้านของตัวเอง ข้าวของทุกชิ้นถูกคลุมด้วยผ้าขาว พื้นถูกปัดกวาดเรียบร้อยแล้ว ด้านในดูสะอาดและดูดีกว่าด้านนอก แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของนายแจ้งและหลานสาว
“ดีกว่าที่ผมคิดไว้ เอ่อ....ตอนเย็นๆ ผมจะมีเพื่อนมาหา ถ้าเขามาก็ให้ขึ้นไปหาผมบนห้องนอนก็เลยก็แล้วกัน เดี๋ยวผมขอพักผ่อนก่อน”
เมธัสหันมาบอกนายแจ้งง่ายๆ แล้วหยิบธนบัตรปึกหนึ่งยื่นให้นายแจ้ง
“ผมไม่ลืมหรอกว่าไม่ได้ให้ค่าจ้างนายแจ้งไว้ แต่ตอนนี้ผมกลับมาอยู่ที่นี่แล้ว คงต้องไหว้วานให้นายแจ้งช่วยหลายเรื่อง ผมจะตั้งเงินเดือนให้ แล้วก็...เอาเงินจำนวนนี้ไปจ้างคนมาทำความสะอาด ที่เหลือไม่ต้องคืนถือเป็นโบนัสที่ผมให้”
ว่าแล้วเมธัสก็เดินขึ้นบันไดเข้าห้องพักของเขาไป โดยทิ้งกระเป๋าใบโตไว้ที่บันไดนั่นเอง
******
ก้านตองเดินมากับนายแจ้งที่เธอเรียกพ่อ อดที่จะถามเรื่องราวเกี่ยวกับเมธัสไม่ได้ เพราะตอนที่เธอจำความได้นั้น เมธัสเป็นหนุ่มหล่อ สูงโปร่งที่ควงเด็กสาวมาบ้านไม่ซ้ำหน้า ก่อนที่เขาจะหนีไปเมืองนอกและใช้ชีวิตที่นั่นอยู่หลายปี จะกลับมาก็เมื่อครั้งที่คุณท่านเจ้าของบ้านเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ซึ่งครั้งนั้นก้านตองได้แต่มองเขาอยู่ไกลๆ และไม่ได้เจอเขาอีกเลย
“คุณเมธดูไม่เปลี่ยนไปเลยนะจ๊ะพ่อ เขาสูงใหญ่และหล่อเหมือนเมื่อตอนหนุ่มๆ เลย กี้นึกว่าเขาจะแก่กว่านี้ซะอีก”
“คุณเมธอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อเอ็ง อ่อนกว่าไม่กี่ปีหรอก แต่เขาไปอยู่เมืองนอกเมืองนามา อากาศที่นั่นคงดี ทำให้ดูไม่แก่เหมือนคนรุ่นเดียวกัน”
