5
“ค่ะคุณเมสซี่ หนูชื่อจริงว่า...ม่านรดา ชื่อเล่น ม่าน ค่ะ ” เธอเอ่ยแนะนำตัวกลับอย่างเขินๆ
“ม่านรดา...แด่พรหมลิขิต” มักซิมิเลียนบอกก่อนจะส่งแก้วทรง ทิวลิปไปให้สาวตรงหน้า
“เอ่อ...ค่ะ” คนที่กำลังจะปฏิเสธ แต่พอได้กลิ่นหอมๆ ของผลไม้ต่างๆ ที่ลอยฟุ้งไปทั่ว ก็ทำให้เธอหน้าด้านยื่นมือไปรับแก้วนั้นมาถือเอาไว้ แล้วจิบลิ้มลองรสชาติเชมเปญของแบรนด์ดังอย่างเอียงอาย
“เป็นไงบ้าง” มักซิมิเลียนถามด้วยสายตาเป็นประกาย
“หอมมากๆ เลยค่ะ” ม่านรดาบอกพลางคลี่ยิ้มออกมาบางๆ อย่างถูกใจในรสชาติที่ค่อนข้างจะดื่มง่ายและละมุนละไมกว่าที่คิดเอาไว้
“แบบนี้เธอดื่มได้ใช่ไหม?” เขาถามด้วยรอยยิ้ม
“ค่ะ เอ่อ...คุณเมสซี่แต่งงานหรือยังคะ” ม่านรดากลั้นใจถามออกไปตรงๆ เพราะกลัวว่าการอยู่ใกล้ชิดกันแบบนี้ หากอีกฝ่ายมีพันธะอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และถึงอีกฝ่ายจะไม่มี มันก็ไม่เหมาะเช่นกัน ซึ่งเธอคิดว่าจะดื่มและคุยต่อกับเขาอีกครู่หนึ่ง ก็จะขอตัวกลับห้องพักของตัวเอง
“ฉันโสด ไม่ได้คบหาใคร เธอสบายใจได้” มักซิมิเลียนบอกพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ กับสีหน้าเป็นกังวลของหญิงสาวตรงหน้า
“งั้นถ้าทานเสร็จแล้วหนูขอตัวกลับเลยนะคะ พรุ่งนี้คุณเมสซี่จะไปรับที่หน้าหอพัก หรือจะให้หนูมาหาที่นี่ดีคะ?” เธอถามความเห็นด้วยสีหน้าเป็นการเป็นงาน
“ค่อยว่ากัน ยังไงก็ได้ ว่าแต่เธอไม่ได้คิดจะหนีความรับผิดชอบใช่ไหม?” มักซิมิเลียนรีบดักทาง
“ไม่ค่ะ หนูชอบชากับกาแฟอยู่แล้ว” เธอยักไหล่ทั้งสองข้างขึ้นนิดๆ พร้อมกับส่งยิ้มไปให้อีกฝ่าย
“งั้นก็เยี่ยม” มักซิมิเลียนบอกก่อนจะยกแก้วเชมเปญขึ้นจิบเบาๆ จากนั้นก็ชวนคุยเรื่องงานที่หญิงสาวตรงหน้าจะต้องทำนับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปให้ฟังคร่าวๆ
เช้าวันต่อมา...ม่านรดาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองไปรอบๆ ห้อง ก่อนจะเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ก็พบว่าตัวเองไม่ได้กลับห้องพัก แถมยังนอนค้างกับหนุ่มหล่อ ซึ่งกำลังจะมาเป็นเจ้านายของเธอนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
“คะ...คุณเมสซี่คะ” เธอสะกิดเรียกเบาๆ อย่างตื่นตกใจ เมื่อรู้ว่าอ้อมแขนของเขากำลังกอดรัดเอวของเธอแน่น
“มีอะไรเหรอ?” คนที่กำลังหลับสบายๆ ส่งเสียงครางท้วงอย่างขัดใจนิดๆ
“รบกวนปล่อยมือด้วยค่ะ” เธอบอกพร้อมกับพยายามแกะมือหนาของเขาออกจากเอวด้วยหัวใจสั่นๆ
“โทษที ผมติดหมอนข้างน่ะ” คนเจ้าเล่ห์ตีมึนตอบอย่างเนียนๆ ก่อนจะเอ่ยสั่งการ “คุณไปอาบน้ำแต่งตัวก่อน เดี๋ยวผมจะใช้ห้องน้ำที่ห้องพักข้างนอก”
“ค่ะ” ม่านรดาขานรับเบาๆ ก่อนจะขยับลุกจากเตียง
“ผมไม่ได้ทำอะไรคุณนะ แค่กอดเท่านั้น” มักซิมิเลียนบอกด้วย สีหน้าจริงจัง เพราะกลัวว่าสาวเจ้าจะกลัวตนและไม่ไปทำงานด้วย
“ค่ะ” ม่านรดาหันกลับไปพยักหน้ารับอย่างอายๆ ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องน้ำขนาดใหญ่ ด้วยหัวใจสั่นๆ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอนอนค้างกับผู้ชายแปลกหน้า
“คุณจะทานอะไรไหม ผมจะสั่งให้” มักซิมิเลียนตะโกนถามตามหลัง พร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมาเตรียมจะกดสั่งอาหารเช้า
ม่านรดาหยุดเดินแล้วหันไปตอบ “อะไรก็ได้ค่ะ”
“โอเค! ไปอาบน้ำเถอะ”
“ค่ะ” ม่านรดายิ้มก่อนจะเดินเข้าไปในห้องอย่างปลื้มใจที่ อีกฝ่ายไม่ได้ทำอะไรเธอนอกเหนือไปจากการนอนกอดเท่านั้น ซึ่งเธอคิดว่าเขาน่าจะติดหมอนข้างตามที่บอกจริงๆ
หลังจากอาบน้ำและทานอาหารเช้าในโรงแรมเสร็จ มักซิมิเลียนก็ขับรถพาสาวเจ้าไปส่งที่หน้าหอพัก เพื่อให้อีกฝ่ายเก็บเสื้อผ้าและของใช้เพิ่มเติม
จากนั้นก็ขับรถออกเดินทางไปยังไร่ชาของตนที่อยู่ห่างไปประมาณสามสิบกิโลเมตร
“เอ่อ...หนูต้องทำอะไรบ้างคะ” ม่านรดาถามขึ้นหลังจากที่ อีกฝ่ายขับรถออกมาได้สักพัก
“หยิบมือถือของผมขึ้นมา แล้วกดต่อสายหาอีธาน” มักซิมิเลียนหันไปสั่งงานเลขาสาวด้วยสีหน้านิ่งๆ
“ค่ะ” ม่านรดาขานรับก่อนจะทำตามที่เจ้านายอย่างเป็นทางการบอก
ตู๊ด...ตู๊ด... เสียงรอสายดังขึ้นอยู่สองครั้ง ปลายสายก็กดรับ
[สวัสดีครับบอส] อีธานทักทายผู้เป็นนายด้วยน้ำเสียงสดใส
[ช่วยส่งไฟล์เอกสารการตรวจงานในไร่ชากับไร่กาแฟมาให้หน่อย] มักซิมิเลียนสั่งการคนสนิทอย่างไม่รอช้า
[บอสจะเอาไปทำอะไรครับ?] อีธานถามอย่างสงสัย
[จะเอาให้เลขาส่วนตัวคนใหม่] มักซิมิเลียนตอบพลางหันไปมองใบหน้างดงามของสาวข้างๆ
[บอสได้เลขาเมื่อไหร่ครับ]
[เมื่อวาน ช่วยบอกคุณนิดาด้วยว่ายกเลิกการรับสมัครให้หน่อย]
[ครับ เดี๋ยวผมจะส่งไฟล์ตัวอย่างของเอกสารให้ทางอีเมล]
[โอเค นายคุมงานที่บริษัทต่อไปยาวๆ แล้วกัน ช่วงนี้ฉันจะเข้าไปคุมงานในไร่]
[ครับบอส]
[แค่นี้แหละ] มักซิมิเลียนพยักหน้าให้เลขาป้ายแดงกดวางสาย
“เรียบร้อยค่ะ” ม่านรดากดวางสายเสร็จก็เงยหน้าขึ้นบอกเจ้านายอย่างรู้สึกตื่นเต้นนิดๆ
“เดี๋ยวรอเช็กอีเมลในมือถือของผม หากอีธานส่งมาก็ส่งต่อไปยังอีเมลของคุณได้เลย” มักซิมิเลียนบอกพลางจ้องมองท้องถนนเบื้องหน้า
“ค่ะบอส” เธอขานรับและทำตามทันที
“เรียกคุณเมสซี่ดีกว่า” มักซิมิเลียนเอ่ยแก้อย่างรู้สึกขัดใจนิดๆ
“ค่ะคุณเมสซี่” ม่านรดาเอ่ยเรียกเจ้านายใหม่อีกครั้งอย่างรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า
“ว่าแต่...แฟนของคุณไม่ว่าอะไรเหรอที่จะไปทำงานกับผม”
“หนูยังไม่มีแฟนค่ะ” เธอกลั้นใจตอบไปตามตรง
“จริงดิ สวยๆ แบบนี้ไม่มีใครมาจีบบ้างเลยเหรอ?” เขาถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ค่ะ” เธอพยักหน้ารับเบาๆ แม้ว่าจริงๆ แล้วจะมีอยู่คนหนึ่งที่เธอแอบคิดว่าเขาชอบเธอ แต่นั่นก็เป็นเพียงความคิดของเธอเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น เพราะเขาเป็นเสหมือนของที่อยู่สูง และเธอไม่มีทางจะ เอื้อมถึง
“เหลือเชื่อชะมัด” มักซิมิเลียนส่ายหน้าพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆอย่างชอบใจในคำตอบ
“เชื่อเถอะค่ะ หนูไม่ได้สวยขนาดที่จะทำให้ใครตกหลุมรักได้หรอก” เธอบอกเสียงอ่อน
“รู้อะไรไหม? ตอนแรกผมคิดว่าคุณเป็นเด็กสาวที่โลกสวย” เขาบอกพลางหันไปมองใบหน้างามครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมองที่ถนน
“หนูโลกสวยจริงค่ะ เฉพาะบางเรื่อง เช่น สายลม แสงแดด ท้องฟ้า ทุ่งกว้าง แต่สำหรับผู้คน ทุกอย่างจะเดินอยู่บนหลักของเหตุและผลเสมอ” ม่านรดาเอ่ยแก้
“เช่น...?”
“มีเพื่อนสาวคนหนึ่งเข้ามาตีสนิทกับหนู เขาขอความช่วยเหลือมากมายในการทำรายงาน แล้วเขาก็ทำดีกับหนูมาก มากยิ่งกว่าพี่น้องร่วมสายเลือด และหนูก็คิดว่าเขาเป็นอย่างที่เขาแสดงออกจริงๆ แต่พอวันหนึ่ง...หนูบังเอิญไปได้ยินเขาพูดถึงหนูให้คนอื่นฟัง มันเหมือนเขาไม่ใช่คนที่หนูเคยรู้จัก มันฟังดูแย่มาก แย่จนรู้สึกได้ว่าจริงๆ เขาเกลียดหนู แต่ที่ทำดีด้วยเพราะผลประโยชน์เรื่องเรียน”
