บท
ตั้งค่า

ตอนที่ : 2 เจ้าหนี้ 2

“เอ่อ คือ ตาของโทษนะบุญ ตายกเอ็งให้กำนันใช้หนี้พร้อมบ้านกับที่ดินผืนนี้ ต่อไปเอ็งก็เชื่อฟังกำนันเขานะ โอ๊ย!” หนนี้ฝ่ามือของยายศรีจันทร์ที่ฟาดลงบนหัวของสามีแทน

“เอ็งมันเลวตาเผือก ขายบ้านขายหลานกิน ไอ้คนจัญไร! ผัวะ! แล้วข้ากับบุญจะอยู่ยังไงเอ็งคิดบ้างไหม ข้าเตือนแล้วไม่เคยฟังไอ้ชิงหมามาเกิด ผัวะ!”

“พอแล้วยายศรีจันทร์ เดี๋ยวผัวเอ็งก็ตายก่อนได้ใช้หนี้ข้าหรอก” กำนันสมบูรณ์เข้ามาแยกทั้งคู่ออกจากกัน แล้วหันไปสั่งลูกน้องแทน

“ไอ้ชิตไปเอากระดาษกับปากกาในรถมาซิ”

“ครับกำนัน” พิชิตหนุ่มวัยสามสิบ สมุนมือดีทางบู๊รีบวิ่งเข้าไปในรถแล้วหยิบกระดาษกับปากกาออกมาให้อย่างรู้งาน

“นี่ครับกำนัน”

“ตาเผือกเอ็งเขียนลงไปในนั้นว่ายกบ้านพร้อมที่ดินกับหลานสาวใช้หนี้ห้าแสน ข้าจะได้มีหลักฐานในอนาคต” กำนันสมบูรณ์วางกระดาษพร้อมปากกาลงบนแคร่ไม้ไผ่

“ตาจะขายบุญให้กำนันจริงๆ เหรอตา” หญิงสาวมองผู้เป็นตาด้วยแววตาน่าสงสาร

“ก็ตาไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาใช้หนี้กำนันเขาว่ะบุญ อย่างน้อยกำนันเขาก็มีเงินทองเลี้ยงดูเอ็งได้” บุญสิตาพูดไม่ออกเพราะทั้งชีวิตเกิดมาก็อยู่แต่กับตายาย แม่แท้ๆ เอามาทิ้งไว้ตั้งแต่แบเบาะ ไม่เหลียวหลังกลับมาแลด้วยซ้ำไป

“ไอ้ชิตเอ็งบอกให้ตาเผือกมันเขียนตามด้วย ชื่อนามสกุลให้ถูกต้อง” กำนันสมบูรณ์กำชับลูกน้อง

“ครับกำนัน ตาเผือกเขียนตามที่ผมพูดนะ ข้าพเจ้านาย...” พิชิตทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารไปด้วย

ขณะที่บุญสิตามองดูมือเหี่ยวแห้งของผู้เป็นตาจรดปลายปากกาสั่นๆ ลงบนกระดาษอย่างเสียใจ เธอเพิ่งเรียนจบมัธยมปลาย ยังไม่ได้หางานทำเป็นหลักเป็นแหล่งเพราะเป็นห่วงสองตายายกลัวไม่มีคนดูแล แต่แล้วตากลับขายเธอให้กำนันสมบูรณ์เพื่อใช้หนี้

“เรียบร้อยแล้วครับกำนัน” พิชิตนำแผ่นกระดาษมามอบให้กำนันสมบูรณ์ได้อ่านคร่าวๆ

“เออดี เอาไปเก็บในรถ” สั่งลูกน้องแล้วหันมามองลูกหนี้ทั้งสามคน ซึ่งเหมือนทุกคนกำลังรอคอยคำตอบว่าต่อจากนี้ชีวิตของพวกตนจะเป็นอย่างไร

“ไม่ต้องมองข้าเหมือนคนใจดำหรอกตาเผือกยายศรีจันทร์ เอาเป็นว่าบ้านพร้อมที่ดินกับบุญเป็นสมบัติของข้าคนเดียว ตอนแรกว่าจะไม่เอาบ้านแล้ว แต่เอ็งคงไม่มีปัญญารื้อบ้านออกไปหรอก งั้นข้าก็รวบเอาหมดเลยแล้วกัน” กำนันสมบูรณ์หยุดพูดเพราะน้ำตาของบุญสิตาเริ่มจะปริ่มออกมาให้เห็น สะท้อนแววความเสียใจออกมาอย่างท่วมท้น

“หนูบุญ เอ็งไม่ต้องมาร้องไห้ จะโทษใครได้ก็ต้องโทษตาเอ็งนั่นแหละบ้าพนันบ้าไก่ชนไม่เข้าเรื่อง สุดท้ายก็ต้องบ้านแตกกันแบบนี้” ถึงจุดนี้น้ำตาของบุญสิตาก็ไหลอาบลงสองแก้ม

“หนูบุญ! เอ็งไม่ต้องมาบีบน้ำตา ข้าไม่ได้จะเอาเอ็งมาทำเมียหรอก ข้าจะเก็บเอาไว้ให้หลานชายข้าโน่น พวกเอ็งจำคำพูดของข้าเอาไว้ให้ดีๆ นะ หนี้ก้อนนี้ข้าจะยกให้หลานชายข้า ต่อจากนี้ทั้งบ้านทั้งที่ดินกับบุญเป็นของเจ้าศิลาดล มันจะมาเอาทั้งที่ทั้งคนเมื่อไหร่ก็เรื่องของมัน แล้วถ้ามันมาเอาจริงๆ พวกเอ็งห้ามเบี้ยวหนี้เด็ดขาด ไม่งั้นข้าไม่ปล่อยเอาไว้แน่ หลักฐานมีลายเซ็นมี อ้อ ไอ้ชิตข้าลืม ไปเอากระดาษมาใหม่ให้บุญเซ็นรับรู้ด้วยอีกคน”

พิชิตรีบกลับไปเอากระดาษใบเดิมมาวางตรงแคร่แล้วยื่นปากกาให้บุญสิตา คนรับปากกาไปถือไว้ในมือหัวใจเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ จะกำนันสมบูรณ์หรือหลานชายกำนันซึ่งหน้าตาเป็นยังไงก็ไม่เคยรู้ เพราะอยู่คนละหมู่บ้าน แล้วตัวเธอก็แทบไม่ออกจากบ้านไปไหนไกล

“เซ็นสิหนูบุญ ข้ารีบจะไปดูงานท่าทรายต่อ” กำนันสมบูรณ์เร่ง บุญสิตาหันไปมองหน้าตายายซึ่งทั้งคู่ก็ได้แต่กลืนก้อนสะอึกอยู่ในอก ความรู้สึกผิดผุดเต็มใบหน้า หญิงสาวกะพริบไล่หยาดน้ำตาออกจากแพขนตา แล้วจรดปลายปากกาเขียนชื่อตัวเองลงไปบนนั้นแล้วยื่นคืนให้พิชิต

“เรียบร้อยแล้วครับกำนัน”

“ดี ต่อจากนี้ไปพวกเอ็งก็อยู่กันที่นี่แหละ จนกว่าหลานชายข้าอยากได้ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกที ไปพวกเรากลับกันได้แล้วเสียเวลามากแล้วนี่” กำนันสมบูรณ์ยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นดูแล้วเดินกลับไปที่รถ และจากไปพร้อมกับทิ้งความผิดหวังความเสียใจไว้ให้คนบ้านนี้แทน

ผัวะ! ผัวะ! ยายศรีจันทร์อดที่จะทุบตีตัวต้นเหตุไม่ได้ ทั้งคับแค้นทั้งเจ็บใจ เฝ้าเตือนเท่าไหร่ก็ไม่เคยฟัง แอบเล่นแอบไปกู้เงินคนอื่นแบบเงียบๆ

“จนได้นะเอ็งไอ้เผือก ทำข้ากับบุญจนได้ แทนที่จะได้ตายอยู่ที่บ้าน ข้าจะต้องไปเร่ร่อนตายข้างถนนเหมือนหมาแน่ๆ” ยายศรีจันทร์ด่าไปน้ำตาก็นองหน้าไปด้วย คนเป็นหลานสาวต้องเข้ามาห้ามแล้วกอดยายเอาไว้

“พอแล้วยายพอแล้ว แค่นี้ตาก็ช้ำไปหมดทั้งตัวแล้วมั้งนั่น ถูกกำนันถีบแล้วมาถูกยายตี พอเถอะนะบุญขอ เราแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วนะยาย” หญิงสาวโผเข้ากอดผู้เป็นยายเอาไว้แล้วรั้งให้ห่างจากตา

“บุญเอ็งมันเกิดมามีกรรม มีแม่ก็ไม่เอา มีตาก็บ้าพนันจนต้องขายหลานกิน ยายไม่รู้จะช่วยเอ็งยังไงแล้วบุญเอ๊ย อยากเรียนหนังสือก็ไม่มีวาสนาจะได้เรียนกับเขา ยายขอโทษนะบุญ” ยายศรีจันทร์ลูบศีรษะหลานสาวไปมา นึกเสียใจที่ไม่เคยทำให้หลานสาวคนนี้ได้พานพบความสุขในชีวิต เรียนหนังสือก็ยังต้องรับจ้างทำงานไปด้วย เพราะเบี้ยผู้สูงอายุหกร้อยบาทก็แทบไม่พอจ่ายค่าน้ำค่าไฟในแต่ละเดือน ไม่หวังพึ่งสามีเพราะรู้ว่าหมดหนทางจะเรียกสติคืนกลับมาจากอบายมุขได้

“ถ้าแม่เอ็ง...“

“ไม่เอาสิยายไม่พูดถึงแม่ ปล่อยเขาไปเถอะ แม่คงไปมีชีวิตใหม่คงมีความสุขไปแล้วล่ะ” บุญสิตาคิดแบบนี้เสมอ ส่วนพ่อน่ะหรือไม่มีใครรู้หรอกว่าเขาคือใคร เพราะแม่ของเธอนั้นท้องไม่มีพ่อ เธอจึงไม่เคยรู้ว่าพ่อของตัวเองนั้นเป็นใคร

“เอ่อบุญ”

“เอ็งไม่ต้องมาพูดกับหลานข้า ไสหัวไปไกลๆ เลยตาเผือก” ยายศรีจันทร์ชี้นิ้วห้ามสามี

“เออๆ ไปก็ได้” ตาเผือกหันหลังเดินฉับๆ ออกจากบ้านไป คงไปไหนได้ไม่ไกลนอกจากจะไปร่วมวงเหล้าขาวกับบรรดาเพื่อนขี้เมาที่ร้านขาประจำกลางหมู่บ้าน

“เฮ้อ เขาเรียกว่ามีผัวผิดคิดจนตัวตาย แต่ตอนนี้ยายอยากให้ผัวมันตายๆ ไปเลยได้ก็ดี”

“ยายไม่เอาน่า อย่าไปแช่งตาสิ ไปขึ้นไปนอนพักเถอะ เดี๋ยวบุญเหยียบหลังให้” บุญสิตารีบพูดเอาอกเอาใจยาย ไม่อยากให้ท่านต้องเครียดหนักไปกว่านี้

“เออดีเหมือนกันยายปวดๆ หลังอยู่”

สองยายหลานพากันเดินขึ้นไปบนบ้าน ยายศรีจันทร์นอนคว่ำหน้าลงบนฟูก ส่วนบุญสิตาก็ยกเท้าขึ้นเหยียบหลังให้ ไล่ลงไปเรื่อยๆ จนถึงต้นขาปลีน่อง ทำด้วยความระมัดระวังเช่นนี้มาตั้งแต่จำความได้

“เหยียบให้มันแรงๆ ได้ไหมบุญ ยายไม่รู้สึกอะไรเลยนี่ ขึ้นมาทั้งสองขาเลยได้ไหม”

“ยายมันหนักนะ บุญไม่ใช่เด็กตัวเล็กๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ”

“ขึ้นมาเถอะ ถ้าหนักเดี๋ยวยายบอกเอง”

“เจ็บขึ้นมาไม่รู้ด้วยนะ”

“ขึ้นมาๆ” บุญสิตาส่ายหน้าไม่เห็นด้วยแต่ก็ต้องทำตามคำสั่งของผู้เป็นยาย และคนถูกเหยียบนวดก็ชมแล้วชมอีกว่าสบายเนื้อสบายตัวดี ใช้เวลานวดไม่นานก็ต้องลงมายืนบนพื้นกระดานบ้าน และใช้ฝ่ามือบีบนวดตรงหัวไหล่ให้แทน นวดไปนวดมาสักพักยายศรีจันทร์ก็ค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงและหลับสนิทไปในที่สุด

คนนวดวางมือแล้วเดินลงบันไดบ้านมา ไปนั่งชันเข่าอยู่บนแคร่ใต้ต้นมะตาด ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างสุดจะทนทานได้อีกต่อไป ทำไมชีวิตมันถึงได้เจอแต่เรื่องแย่ๆ แบบนี้ด้วย อยากเรียนก็ไม่ได้เรียน แล้วยังต้องมาขายตัวใช้หนี้ให้ตาอีก แม้แต่บ้านจะให้ยายอยู่ยังไม่มี อนาคตของเธอกับตายายขึ้นอยู่กับเขาคนนั้นคนเดียว ศิลาดล

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel